ศูนย์ข่าวศรีราชา –“พัทยามาราธอน”ปี 48 นักวิ่งต่างชาติให้ความสนใจ แห่เข้าร่วมการแข่งขันเกินเป้าหมาย โดยยอดจองที่พักพัทยาพุ่งกว่า 30%แล้ว
นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยา เผยว่า วันที่ 17 กรกฎาคม นี้ เมืองพัทยาร่วมกับสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ จัดการแข่งขันพัทยามาราธอนปี 2548 ซึ่งการจัดงานดังกล่าวจัดขึ้นทุกปี เพื่อเป็นการส่งเสริมการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ อันจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวในภาพรวม
พ.ต.อ.สิโรจน์ เพียรสกุล นายกสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ เผยว่า สำหรับการแข่งขันพัทยามาราธอนในปีนี้ กำหนดประเภทของการแข่งขัน ทั้งสิ้น 3 ประเภท ได้แก่ การแข่งขันมาราธอน ระยะทาง 42.195 กม. การแข่งขันฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.100 กม. และการแข่งขันควอเตอร์มาราธอน ระยะทาง 10.550 กม.
อย่างไรก็ตาม สำหรับการแข่งขันปีนี้จะปรับเปลี่ยนเส้นทางการวิ่งขึ้นใหม่ เพื่อให้สอดคล้องการบรรยากาศและความสวยงามทางธรรมชาติของเมืองพัทยา เพื่อเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยว โดยจะเริ่มสตาร์ต ที่จุดท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้
พ.ต.อ.สิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแข่งขันปีนี้ ถือว่าเป็นปีที่มีความคึกคักเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้รับความสนใจจากนักกีฬาต่างชาติมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้จากยอดกรุ๊ปของการจองบัตรนักกีฬา เพื่อเข้าร่วมแข่งขันซึ่งมีอัตราเติบโตกว่า 30 % อาทิ กลุ่มนักวิ่งจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีการจัดโปรแกรมเดินทาง เข้ามาร่วมแข่งขันจำนวนกว่า 50 คน ซึ่งกรณีดังกล่าว คาดว่าจะมีผลพวงมาจากการจัดงานที่ต่อเนื่อง และความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับธรรมชาติและการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาที่ดีขึ้นด้วย
นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยา เผยว่า วันที่ 17 กรกฎาคม นี้ เมืองพัทยาร่วมกับสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ จัดการแข่งขันพัทยามาราธอนปี 2548 ซึ่งการจัดงานดังกล่าวจัดขึ้นทุกปี เพื่อเป็นการส่งเสริมการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ อันจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวในภาพรวม
พ.ต.อ.สิโรจน์ เพียรสกุล นายกสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ เผยว่า สำหรับการแข่งขันพัทยามาราธอนในปีนี้ กำหนดประเภทของการแข่งขัน ทั้งสิ้น 3 ประเภท ได้แก่ การแข่งขันมาราธอน ระยะทาง 42.195 กม. การแข่งขันฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.100 กม. และการแข่งขันควอเตอร์มาราธอน ระยะทาง 10.550 กม.
อย่างไรก็ตาม สำหรับการแข่งขันปีนี้จะปรับเปลี่ยนเส้นทางการวิ่งขึ้นใหม่ เพื่อให้สอดคล้องการบรรยากาศและความสวยงามทางธรรมชาติของเมืองพัทยา เพื่อเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยว โดยจะเริ่มสตาร์ต ที่จุดท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้
พ.ต.อ.สิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแข่งขันปีนี้ ถือว่าเป็นปีที่มีความคึกคักเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้รับความสนใจจากนักกีฬาต่างชาติมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้จากยอดกรุ๊ปของการจองบัตรนักกีฬา เพื่อเข้าร่วมแข่งขันซึ่งมีอัตราเติบโตกว่า 30 % อาทิ กลุ่มนักวิ่งจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีการจัดโปรแกรมเดินทาง เข้ามาร่วมแข่งขันจำนวนกว่า 50 คน ซึ่งกรณีดังกล่าว คาดว่าจะมีผลพวงมาจากการจัดงานที่ต่อเนื่อง และความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับธรรมชาติและการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาที่ดีขึ้นด้วย