xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯจับตาผลประโยชน์”วัตถุมงคล”ปมสังหาร”หลานพ่อคูณ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ผู้ว่าฯโคราช จับตาขบวนการหาผลประโยชน์วัตถุมงคล “หลวงพ่อคูณ” ในวัดบ้านไร่ สั่งนายอำเภอด่านขุนทดเข้าดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นกรณีพิเศษ ด้านผู้การฯ นครราชสีมาเผยสเก็ตซ์ภาพคนร้ายสังหารโหด “ผู้ใหญ่แดง”หลานหลวงพ่อคูณได้แล้ว แต่เปิดเผยไม่ได้ เชื่อปมความแค้นส่วนตัวเป็นชนวนลั่นไก

วันนี้(30 พ.ค. )นายพงศ์โพยม วาศภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ให้สัมภาษณ์กับ ผู้สื่อข่าวภายหลังเป็นประธานประชุมประจำเดือนหัวหน้าส่วนราชการ จ.นครราชสีมา ที่หอประชุมเปรม ติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ถึงการเข้าไปจัดระเบียบภายในวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังจากนายบุญเรียบ จันทร์เพ็ง หรือ “ผู้ใหญ่แดง” หลานชาย พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งประเด็นการสอบสวนสาเหตุการสังหารส่วนหนึ่ง ว่า น่าจะมาจากการขัดแย้งผลประโยชน์ภายในวัดบ้านไร่ ว่า

เรื่องนี้ตนได้พูดคุยกับนายอำเภอด่านขุนทด มาโดยตลอด เพราะการจัดระเบียบวัดบ้านไร่ ต้องระมัดระวังไม่เข้าไปก้าวก่ายจนเกินงาม เพราะในพระราชบัญญัติสงฆ์ ก็มีเรื่องของมรรคทายกและกรรมการวัดกำกับดูแลอยู่แล้ว ซึ่งจัดหวัดนครราชสีมา ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกรรมการวัดชุดใหม่ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย เมื่อไม่นานที่ผ่านมา การจะเข้าไปดูแลทรัพย์สินของวัดคงต้องอาศัยเจ้าอาวาสกับคณะกรรมการวัดเป็นหลัก

ในส่วนของจังหวัด จะกำกับดูแลในสิ่งที่เห็นว่าผิดกฎหมาย เมื่อพบจึงจะเข้าไปจัดการได้ ถ้าไม่ผิดกฎหมายแต่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ภายในวัด ซึ่งนำมาสู่ความขัดแย้งถึงขั้นฆ่ากัน บางทีก็เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ได้ว่า สาเหตุการฆ่ากันนั้นจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์จริงหรือไม่

ในส่วนของวัดบ้านไร่นี้ ตนได้มอบหมายให้นายอำเภอด่านขุนทด เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นกรณีพิเศษอยู่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพพ่อคูณ ที่คณะแพทย์เข้าไปดูอย่างใกล้ชิดเช่นกัน เพราะหลวงพ่ออายุมากและสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง

อย่างไรก็ตาม การที่บรรดาลูกศิษย์ จะผลักดันให้หลวงพ่อเคลื่อนไหวไปทางหนึ่งทางใด ที่ไม่เป็นคุณประโยชน์กับตัวท่านแล้วเราสามารถเข้าไปห้ามปรามได้ ส่วนการดำเนินกิจการของวัด ในเรื่องการจัดทำวัตถุมงคลและเรื่องของผลประโยชน์ต่าง ๆ จังหวัดก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปข้องเกี่ยวใกล้ชิดนัก เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอาจเกิดข้อขัดแย้งว่า ทางบ้านเมืองเข้าไปก้าวก่ายวัดมากจนเกินไป

ทางด้านพล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีสังหาร “ผู้ใหญ่แดง” ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่มีอะไรคืบหน้าชัดเจนเท่าที่ควร ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้สเก็ตซ์ภาพคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ส่วนมีข่าวเรื่องการพบเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ตายถึง 10 -20 ล้านบาท นั้นไม่น่าเป็นความจริงเพราะจากการรับรายงานของชุดสอบสวนคดีทราบว่ามีอยู่ประมาณ 5 แสนบาท เท่านั้น ซึ่งเป็นเงินค่าจองวัตถุมงคล

สำหรับประเด็นการสังหาร ตนเชื่อว่าเป็นความขัดแย้งส่วนตัวของผู้ตายที่ชอบสร้างปัญหา เพราะเป็นผู้ที่สร้างความเดือดร้อนทำให้มีคนเกลียดชังอยู่มาก โดยเฉพาะอุปนิสัยการเป็นนักเลง ใจร้อน และมีคดีเก่าอยู่หลายเรื่อง ซึ่งผู้ตายจัดว่าเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในอำเภอด่านขุนทด ส่วนประเด็นการขัดผลประโยชน์ด้านอื่น ๆ ตำรวจก็ยังไม่ตัดทิ้งยังคงเดินหน้าสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายและผู้บงการต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น