ศูนย์ข่าวศรีราชา -“เสรีพิศุทธ์”นำกำลังนับร้อยบุกรื้อรีสอร์ตของนายทุนบนเกาะล้านที่บุกรุกที่สาธารณะพร้อมเปิดเผยรายชื่อ 12 นายทุนบุกรุกที่ดินชายหาดแสมบนเกาะล้าน พร้อมมอบหมายให้ ผบช.ภาค 2-ผบช.ภาค 4 รับผิดชอบต่อ
วันนี้ (24 พ.ค.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมนายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยา นำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และกำลังตำรวจกว่า 100 นาย เข้าดำเนินการรื้อถอนอาคารที่พัก “บีชคลับ รีสอรต์” ของนายนิโรจน์ เชื้อแก้ว บริเวณเขาด้านหลังชายหาดตาแหวน ชุมชนบ้านเกาะล้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นอาคาร คสล.ขนาด 4 คูณ 4 เมตรจำนวน 8 หลัง
ภายหลังจากที่ศาลจังหวัดพัทยาได้มีคำพิพากษาคดีอาญาในคดีหมายเลขแดงที่ 1514/2547 ลงวันที่ 16 เมษายน 2547 ให้มีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ฐานก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ แต่นายนิโรจน์ เจ้าของอาคารกลับเพิกเฉย ไม่ได้ทำการรื้อถนอาคารสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวแต่อย่างใด จึงได้มีการนำกำลังเข้าตรวจค้นพร้อมทำการรื้อถอนอาคารดังกล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้นำหนังสือแจ้งนายนิโรจน์ เพื่อให้ลงมาดำเนินการรื้อถอนอาคารผู้บุกรุกดังกล่าว แต่ก็ยังไม่ดำเนินการ วันนี้จึงได้เดินทางกำกับดูแลการรื้อถอนอาคารที่บุกรุกตามศาลตัดสินด้วยตนอง พร้อมทั้งได้กำชับให้เมืองพัทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสืบสวนสอบสวนกรณีของปัญหาบุกรุกที่สาธารณะในพื้นที่อื่นๆ อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเบื้องต้นพบว่ายังมีอีกจำนวนถึง 27 ราย
พร้อมกันนี้ยังได้กำชับกับนายกเมืองพัทยาว่า ให้เคลียร์ปัญหาทุกอย่างเรื่องให้เรียบร้อย โดยเฉพาะเรื่องของความเด็ดขาด เนื่องจากเมื่อมีอำนาจก็ต้องรู้จักบังคับใช้กฎหมาย เพราะหากไม่ทำบ้านเมืองก็ไม่เรียบร้อยเกิดปัญหา โดยไม่ต้องสนใจว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นใคร เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยินดีที่จะลงมาช่วยแก้ไข พร้อมได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.ภาค 4 และ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผบช.ภาค 2 ลงมากำกับดูแลเรื่องนี้และเป็นตัวกลางในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อการดำเนินการจะได้มีความรวดเร็วมากขึ้น
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยว่า สำหรับรายชื่อนายทุนบุกรุกที่ดินชายหาดแสมบนเกาะล้าน ในขณะนี้มี 12 ราย คือ นายชม ตั้งธรรมะ-สถิตย์ บุกรุกที่ดิน 42 ไร่ 5 งาน 225 ตารางวา ก่อสร้างบังกะโลและร้านอาหาร นายเลี่ยม วิเศษนคร บุกรุก 26 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา โดย ขุดกรวดทรายไปขายและก่อสร้างร้านค้า นายวีรวัฒน์ ขวัญเมือง บุกรุก 17 ไร่ 95 ตารางวา นำกรวดทรายไปขาย นายจำลอง เชื้อแก้ว บุกรุก 1 ไร่ 3 งาน เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว นายจำลอง ทองดี อดีตรองปลัดเมืองพัทยา บุกรุก 3 ไร่ สร้างร้านอาหารและบังกะโล นายสุทธิพร แพทย์กละโทก บุกรุก 3 ไร่สร้างร้านอาหาร นางหลง สันเมือง บุกรุก 7 ไร่ สร้างร้านอาหารและปลูกต้นยูคาลิปตัส
นายวิเชียร ชำเรือง บุกรุกที่ดินหาดเทียนและขายให้บริษัทเอกชนก่อสร้างร้านอาหารและที่พักรุกล้ำชายหาดแสม นางชูศรี ฝงคร้าม ออกโฉนดทับที่ดินที่ราชการ 12 ไร่ นายทองเจือ จันทราสุข ออกโฉนดที่ดินทับที่ราชการ ดร.วีระชัย เดชะวิจิตร ก่อสร้างอาคารบริเวณหาดตาแหวน และครอบครองพื้นที่ภูเขาระหว่างหาดตาแหวนกับหาดทองหลาง 30 ไร่ และนายนิโรจน์ เชื้อแก้ว บุกรุกที่ดินภายใต้การดูแลของเมืองพัทยาก่อสร้างบังกะโล
ด้านนายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยากล่าวว่า อาคารดังกล่าวปลูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต เมืองพัทยาจึงออกคำสั่งระงับการก่อสร้างแบบ ค.7 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และมีคำสั่งให้รื้อถอนในเวลาต่อมา แต่ปรากฏว่าเจ้าของอาคารกลับเพิกเฉย ถือว่าเป็นการขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามกฎหมาย จึงนำเรื่องร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนส่งฟ้องศาล เพื่อตัดสินชี้ขาดซึ่งก็ได้พิพากษาไปแล้ว จึงได้นำกำลังเข้ามาดำเนินการรื้อถอนตามขั้นตอน โดยขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยควบคุมและดูแลความสงบเรียบร้อย จากนั้นได้ดำเนินการพร้อมเรียกเก็บค่ารื้อถอนในอัตรา 1.4 แสนบาทจากเจ้าของอาคารต่อไป
ขณะเดียวกันยังได้ดำเนินคดีกับเจาของอาคารเกี่ยวกับการก่อสร้าง และบุกรุกยึดครองที่ดินของรัฐโดยพลการด้วย ซึ่งกรณีนี้พบว่าทางเจ้าของที่ดินก็พยายามชี้แจงสิทธิ ซึ่งคงต้องเป็นเรื่องที่ต้องสืบพยานและรอศาลตัดสินชี้ขาดต่อไป
ด้านนายนิโรจน์กล่าวชี้แจงว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารในที่ดินส่วนตัวซึ่งรับตกทอดกันมา โดยไม่ทราบว่าจะต้องมีการขออนุญาตจากเมืองพัทยาก่อน จนกระทั่งการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จและเตรียมเปิดบริการ จึงมีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างและรื้อถอน ในขณะที่ตนได้ลงทุนไปเป็นจำนวนมากกว่า 4 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงต้องยอมรับสภาพ และให้ทำการรื้อถอนไปก่อน ส่วนการบุกรุกที่สาธารณะนั้นคงจะไม่ยินยอมเนื่องจากที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่อยู่อาศัยมานาน และก็เคยขอให้เจ้าพนักงานที่ดินมาขอรังวัดและออกโฉนดมาแล้ว ก็คงจะต้องไปต่อสู้กันต่อในชั้นศาล ส่วนปัจจุบันนี้เพียงแต่ขอความเป็นธรรมจากเมืองพัทยาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ว่าให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เนื่องจากปัจจุบันมีผู้บุกรุกที่สาธารณะและก่อสร้างโดยไม่ขออนุญาตบนพื้นที่เกาะล้านอีกเป็นจำนวนมาก