xs
xsm
sm
md
lg

คนไทยแห่จองตั๋วเที่ยวสงกรานต์เชียงตุง – เชียงรุ้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – คนไทยแห่จองตั๋วเที่ยวสงกรานต์เชียงตุง / เมืองลา ของพม่า ต่อเนื่องถึงสิบสองปันนา จีน แม้จีนสั่งปิดด่านห้ามคนเข้าใช้บริการกาสิโนเมืองลา ตั้งแต่ปลายปี 47 - พม่าห้ามรถไทยเข้าก็ตาม เผยมีทั้งซื้อแพกเกจทัวร์ – ขับรถเข้าท่องเที่ยวเอง โดยเสียค่าผ่านทางไม่เกิน 3,000-4,000 บาท ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการนำเที่ยวขายกันที่ 4,000 – 10,000 กว่าบาทขึ้น

นายสุรนาถ ทวีทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีบี ทราเวล เอเยนซี่ จำกัด จ.เชียงราย (P.B. TRAVEL AGENCY) ผู้ประกอบการนำเที่ยวท้องถิ่นของเชียงราย ที่บริการนำเที่ยวย่านสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (พม่า ลาว จีน) ซึ่งได้จัดแพกเกจนำเที่ยวสงกรานต์เชียงตุง / เมืองลา ประเทศพม่า และสงกรานต์สิบสองปันนา หรือเชียงรุ้ง ประเทศจีนด้วย เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวไทยให้ความสนใจแพกเกจทัวร์ ที่จัดขึ้นค่อนข้างมาก เฉพาะแพกเกจของบริษัทที่ขายในราคาประมาณ 10,000 กว่าบาท/หัว เที่ยวสงกรานต์ตั้งแต่เชียงตุง – เมืองลา – สิบสองปันนา มีลูกค้าจองเข้ามาแล้วทั้งสิ้นกว่า 500 คน

ขณะที่ แพกเกจนำเที่ยวของผู้ประกอบการทัวร์ท้องถิ่นของเชียงราย เพื่อบริการนำเที่ยวสงกรานต์พม่า – จีน ช่วงเดือนเมษายน 2548 นี้ ไม่ได้มีเฉพาะบริษัท พีบี ทราเวลฯ เท่านั้น แต่ยังมีบริษัทนำเที่ยวในท้องถิ่นเชียงราย – กลุ่มทัวร์ท้องถิ่นท่าขี้เหล็ก ที่เปิดให้บริการทั้งแพกเกจที่เที่ยวเฉพาะในเขตประเทศพม่าคือ สงกรานต์เชียงตุง – เมืองลา (ชายแดนพม่า – จีน) ที่ขายกันในราคา 3-4,000 บาท/คน คนไทยใช้เพียงบัตรประชาชนในการทำบัตรผ่านแดนเท่านั้น และสงกรานต์พม่า-จีนด้วย ที่ขายกันในราคาประมาณ 10,000 กว่าบาท/คน โดยใช้พาสปอร์ต-วีซ่าเป็นเอกสารการเดินทาง

เช่น บริษัทแม่สลองทัวร์ จำกัด ของกลุ่มนายสัตวแพทย์ถนอมศักดิ์ เสรีวิชยสวัสดิ์ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย , บริษัทสี่เลนทัวร์ จำกัด ของกลุ่มนายชูศักดิ์ ไตรศรีศิลป์ , กลุ่มบริษัทพีดีทัวร์ ที่เป็นผู้ประกอบการรถเช่ารายใหญ่ที่สุดของเชียงราย เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการนำเที่ยวในท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่าอีกหลายราย เช่น กลุ่มอินเตอร์ช็อป และบริษัททัวร์สัญชาติพม่า (ว้า) อีกไม่น้อยกว่า 4-5 ราย ด้วยกันอาทิ บริษัทกำหลง จำกัด ของกลุ่มทุนว้าจากเมืองลาเฉียวพม่า และกลุ่มโรงแรมแม่โขงริเวอร์ โรงแรมหรูกลางเมืองท่าขี้เหล็ก ที่เพิ่งจะเปิดบริการเมื่อกันยายน 46 ที่ผ่านมานี้เอง เป็นกิจการในเครือของกลุ่มว้าแดงด้วยเช่นกัน และบริษัทฉ่วยลินสตาร์ จำกัด กิจการในเครือข่ายของเขตปกครองพิเศษที่ 4 นอกจากนี้ยังมีกลุ่มทุนในท้องถิ่นที่เปิดรับนำเที่ยวในเส้นทางสายนี้ขึ้นอีกประมาณ 1-2 รายด้วยกัน

แหล่งข่าวผู้ประกอบการนำเที่ยวชาวพม่าในท่าขี้เหล็ก กล่าวว่า นอกจากการซื้อแพกเกจทัวร์แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถขับรถเข้าไปท่องเที่ยวร่วมเล่นสงกรานต์เองได้ด้วย โดยเฉพาะการเที่ยวสงกรานต์เชียงตุง – เมืองลา ประเทศพม่า ที่นักท่องเที่ยวไทยสามารถเดินทางเข้าไปเอง โดยเสียค่าใช้จ่ายต่อคนไม่กี่พันบาท ประกอบด้วย ค่าผ่านแดน 10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 40 บาท/คน , ค่านำรถเข้าประเทศ 50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,000 บาท/คัน (รถเก๋ง กระบะ รถตู้เล็ก)

ค่าผ่านด่านของบริษัทหงษ์ปังคอนสตรัคชั่น จำกัด ตามเส้นทางท่าขี้เหล็ก – เชียงตุง 4 ด่าน โดยรถเก๋ง – กระบะ จัดเก็บในอัตรา 1,000 จั๊ต/คัน รถตู้ 1,500 จั๊ต/คัน และเสียค่าเดินทางเข้าท่องเที่ยวในเมืองลา เขตปกครองพิเศษที่ 4 ประเทศพม่า คนละ 35 หยวน หรือประมาณ 180 บาท (1 หยวน/ 5 บาทเศษ) ค่านำรถเข้าพื้นที่เมืองลา 70 หยวน/คัน หรือ 350-360 บาท/คัน

หากนักท่องเที่ยวต้องการพักค้างคืนที่เมืองลา จะเสียค่าบริการห้องพักประมาณ 65 หยวน/ห้อง/คืน หรือประมาณ 300-350 บาท แต่ถ้าต้องการพักค้างคืนที่เชียงตุง จะเสียค่าที่พักประมาณ 250-300 บาท/คน/คืนโดยประมาณ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกำลังมีความพยายามที่จะเคลียร์ปัญหาการนำรถจากประเทศไทย ผ่านเข้าไปพม่าด้านท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง-เมืองลา จนถึงจีน อย่างเต็มที่ หลังจาก รมต.กระทรวงท่องเที่ยวของพม่า มีคำสั่งห้ามนำรถไทยเข้าพม่าเกินเขตตัวเมืองท่าขี้เหล็ก พร้อมกับตั้งเงื่อนไขให้ทัวร์ไทยใช้รถยนต์พม่าแทน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2548 ที่ผ่านมา ทางการพม่าได้ผ่อนปรนเงื่อนไขให้นักท่องเที่ยวจากประเทศไทยสามารถนำรถยนต์เข้าไปเที่ยวสงกรานต์ระหว่าง 13-17 เมษายน 2548 ได้แล้ว แต่หลังจากนั้นหากจะนำรถยนต์จากไทยเข้าพม่าจะต้องพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง

เขาบอกว่า สงกรานต์เชียงตุง และเมืองลาเมื่อปี 47 มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้ามามากเช่นกัน โดยเฉพาะการเข้าร่วมประเพณีสงกรานต์ที่เชียงตุง เพื่อร่วมขบวนแห่ กลองสงกรานต์ปีใหม่ นครเชียงตุง โดยมีประวัติว่า เมื่อ พ.ศ.1771 นครเชียงตุงเกิดไฟไหม้ป่าขึ้น ที่ป่าห้วยปูนเป็นเวลาหลายวัน ไฟก็ไม่ดับ ปีนั้นเกิดโกลาหล ฝนก็ไม่ตก บ้านเมืองก็แห้งแล้งและเดือดร้อน ประชาชนล้มตาย เพราะอดข้าวอดน้ำ อาหารการกินขาดแคลน

พญาแก้วมธุ เจ้าปกครองเมืองเชียงตุงในสมัยนั้น ก็ไปเรียกหมอดูดวงชะตา ชื่อ อุตตมะ มาดูดวงเมือง ก็รู้ว่าเชียงตุงนี้เป็นนามจันทร์ ต้องทำพิธีปั้นรูปกบหนึ่งตัว ในปากกบนั้นปั้นรูปพระจันทร์หนึ่งดวง ถ้าถึงวันสงกรานต์ ก่อเจดีย์ทรายที่ฝั่งแม่น้ำเขิน ด้านเหนือของเมืองเชียงตุง ขุนสงกรานต์ขี่ม้าและเดินแห่กลองออกจากเจ้าหลวงกาดบ้านเชียงจันทร์ แห่ไปตามถนนทาย่อ ออกมาที่หน้าสนามตำรวจ แล้วออกไปตามถนนเมืองยาง

ถ้าไปถึงแม่น้ำเขิน ที่ปั้นรูปกบและก่อเจดีย์ทรายไว้ ขุนสงกรานต์ก็จะเอารูปปั้นกบปล่อยไหลไปตามแม่น้ำเขิน หลังจากประกอบพิธีกรรมนี้ ฝนก็เทลงมาอย่างอัศจรรย์ ไร่นาชุ่มชื่น กลับมาอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น เมื่อถึงวันสงกรานต์ ชาวเมืองเชียงตุงก็ประกอบพิธีตามประเพณีนี้เรื่อยมาจนทุกวันนี้

ส่วนที่เมืองลานั้น แหล่งข่าวคนเดิมบอกว่า ปีนี้เขาไม่แน่ใจว่า จะครึกครื้นเหมือนปีกลายหรือไม่ เนื่องจากมีปัญหาประเทศจีนสั่งปิดพรมแดน ห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเล่นการพนันที่บ่อนกาสิโนในเมืองลา ประเทศพม่า มาตั้งแต่ 29 ธันวาคม 2547 หลังจากเกิดปัญหาคนจีนเข้ามาเสียพนันในบ่อนกาสิโนเมืองลาหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมาบ่อนกาสิโนทั้งใหญ่ – เล็กในเมืองลา ต้องปิดให้บริการไป นอกจากนี้ทางการเมืองลา ยังสั่งปิดไฟฟ้าทั้งเมืองตั้งแต่ 3-4 ทุ่มของทุกคืน
กำลังโหลดความคิดเห็น