xs
xsm
sm
md
lg

นักอนุรักษ์ชี้ล้ม”กระเช้าดอยหลวง”เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – นักอนุรักษ์ชี้ ล้มเลิกโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาว เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง สำหรับการรักษาพื้นที่ที่มีคุณค่าทางระบบนิเวศสูง แต่เห็นว่า หน่วยงานรับผิดชอบ ควรจะมีการชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจนต่อสาธารณะเหมือนตอนเริ่มโครงการด้วย ยอมรับยังหวั่นเกรงว่าอาจจะมีการรื้อฟื้นโครงการขึ้นใหม่ ด้านนักวิจัยระบุรูปแบบท่องเที่ยวดอยหลวงเชียงดาวที่เหมาะสม ต้องไม่ทำลายสภาพแวดล้อม

ตามที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญ ในการผลักดันโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาว เพื่อสร้างเป็นจุดขายใหม่ทางการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวผ่านสื่อมวลชนว่าจะล้มเลิกโครงการดังกล่าวแล้ว เนื่องจากรู้สึกเบื่อหน่ายที่ถูกต่อต้านจากหลายฝ่าย

ขณะเดียวกันกับ ที่มีกระแสข่าวว่าเหตุที่จะต้องมีการล้มเลิกโครงการ เนื่องมาจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่อนุมัติงบประมาณจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อศึกษาความเหมาะสมโครงการ ตามที่ได้มีการนำเสนอ

นายนิคม พุทธา ผู้ประสานงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ (ภาคเหนือ) กล่าวว่า หากข้อมูลเกี่ยวกับการล้มเลิกโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ในเวลานี้เป็นความจริง จะต้องขอบคุณรัฐบาล ที่ยังมองเห็นคุณค่าความสำคัญของดอยหลวงเชียงดาว ว่าเป็นระบบนิเวศที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำปิง และเป็นแหล่งพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์หายากมากมายหลายชนิด ซึ่งควรค่าแก่การอนุรักษ์หวงแหนไว้ ให้คงสภาพเดิมมากที่สุด เพื่อเป็นสมบัติทางธรรมชาติสืบทอดต่อไปอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าผู้ที่รับผิดชอบผลักดัน โครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาว สมควรจะต้องมีการชี้แจงเหตุผลถึงการล้มเลิกโครงการต่อสาธารณะอย่างชัดเจนด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงของการเริ่มต้นผลักดันโครงการ ได้มีการหยิบยกเหตุผลความเหมาะสมต่างๆ นานาขึ้นมาสนับสนุน ดังนั้นเมื่อจะมีการล้มเลิกโครงการ ก็สมควรที่จะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน

แม้ว่าเวลานี้จะเป็นที่ค่อนข้างแน่ชัดว่า โครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาว จะล้มเลิกลงไปแล้ว นายนิคม กล่ายอมรับว่า ยังไม่สามารถที่จะไว้วางใจได้ว่าพื้นที่ดอยหลวงเชียงดาว จะปราศจากการถูกคุกคามโดยโครงการพัฒนาอื่นๆ ของรัฐเพื่อตอบสนองการท่องเที่ยว รวมทั้งโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาวด้วย ซึ่งอาจจะมีการรื้อฟื้นโครงการขึ้นมาดำเนินการอีกเมื่อใดก็ได้ ตามนโยบายของผู้บริหารประเทศ

ทั้งนี้ ตนยังคงยืนยันว่า การจัดการท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับดอยหลวงเชียงดาว ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการสร้างกระเช้าไฟฟ้า แต่สามารถดำเนินการได้ โดยเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้กำหนดรูปแบบที่เหมาะสมที่สุด โดยไม่ทำลายสภาพของพื้นที่และชุมชนท้องถิ่นได้รับประโยชน์สูงสุด

ขณะที่นายวารินทร์ วรินทรเวช หัวหน้าโครงการวิจัยศึกษา และพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยว ที่เหมาะสมบนดอยหลวงเชียงดาว โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนบริเวณรอบดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าการวิจัยตามโครงการฯ ว่า จากการศึกษา รวบรวมความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนได้เสียโดยตรง ในพื้นที่รอบดอยหลวงเชียงดาว ได้ข้อสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่เหมาะสมกับพื้นที่ดอยหลวงเชียงดาว ว่าควรจะต้องเป็นการท่องเที่ยวที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม รักษาลักษณะของแหล่งท่องเที่ยวให้คงเดิม

โดยที่ควรจะต้องเป็นการท่องเที่ยวแบบศึกษาเรียนรู้ธรรมชาติ และมีความยั่งยืนกล่าวคือผู้ที่มาแล้วรู้สึกอยากกลับมาอีก รวมทั้งจะต้องเป็นการท่องเที่ยวที่สร้างให้เกิดความตระหนัก รักและหวงแหนธรรมชาติของดอยหลวงเชียงดาว

ทั้งนี้ผลการศึกษาวิจัยตามโครงการฯ จะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 4 เดือน จึงจะได้ข้อสรุป สำหรับการส่งต่อให้กับองค์กรท้องถิ่นและชุมชนนำไปผลักดันกำหนดเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่เหมาะสม

นอกจากนี้นายวารินทร์ กล่าวถึงผลกระทบที่เกิดจากการท่องเที่ยว ที่เกิดขึ้นกับดอยหลวงเชียงดาวว่า ปัญหาขยะที่นักท่องเที่ยวนำไปทิ้งไว้บนดอยหลวงเชียงดาว ขณะขึ้นไปพักแรม ถือเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด ซึ่งทำลายสภาพพื้นที่ของดอยหลวงเชียงดาว

อย่างไรก็ตามในขณะนี้ต้องยอมรับว่า สถานการณ์เริ่มมีการปรับตัวดีขึ้นบ้างแล้ว จากการรณรงค์ทำความเข้าใจและขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวให้นำขยะติดตัวกลับลงมาทิ้งด้วยทุกครั้ง ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26-27 มี.ค.48 ทางกลุ่มประชาชนในพื้นที่ได้รวมตัวกันได้ 98 คน แล้วขึ้นไปเก็บขยะบนดอยหลวงเชียงดาว ปรากฏว่าสามารถเก็บขยะได้น้ำหนักรวมถึง 513 กิโลกรัม โดยที่ขยะเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น