ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- "อิตาเลียนไทยฯ" คว้าโครงการก่อสร้างสนามกีฬาเมืองหลัก นครราชสีมา 2,100 ล้าน เผยลงนามสัญญาจ้างในสัปดาห์นี้-วางศิลาฤกษ์ 27 มี.ค.และเดินเครื่องก่อสร้างทันทีในเดือนเม.ย. ด้าน "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ"ขีดเส้นเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จกลางปี 2550 ทันรองรับการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยลัยโลก-ซีเกมส์ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ พร้อมดันโคราชเป็นเจ้าภาพกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 36 ปี 2550 เพื่อฉลองเปิดใช้สนามอย่างยิ่งใหญ่
นายบัญชา พิมพ์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการก่อสร้างสนามกีฬาเมืองหลักภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ สนามกีฬาเมืองหลักเฉลิมฉลอง 333 ปี จังหวัดนครราชสีมา ที่บริเวณ อ่างเถกิงพล ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่า ล่าสุดการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ดำเนินการประกวดราคาหาผู้รับจ้างก่อสร้าง และได้บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการแล้ว คือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) ในวงเงิน 2,100 ล้านบาท จากราคากลาง 2,254,697,165.50 บาท
จากที่มีผู้สนใจเข้าซื้อแบบทั้งหมดจำนวน 9 ราย เช่น บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และ บริษัท เบ็ญจมาศ จำกัด เป็นต้น แต่ได้ยื่นซองประกวดราคาจริงเพียง 3 รายเท่านั้น คือ บริษัท อิตาเลียนไทยฯ บริษัท ชิโน-ไทยฯ และ บริษัท เบ็ญจมาศ จำกัด ซึ่งล้วนเสนอราคาสูงกว่าราคากลางทั้งสิ้น โดยมีบริษัทอิตาเลียนไทยฯ เสนอราคาต่ำที่สุด
กกท.จึงได้เรียกผู้เสนอราคาต่ำเป็นอันดับ 1 เข้าเจรจาต่อรองราคาจนสามารถลดวงเงินก่อสร้างลงมาต่ำกว่าราคากลางได้ 7% หรือประมาณกว่า 150 ล้านบาท และขณะนี้ดำเนินการขั้นตอนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงสรุปเรื่องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อรับทราบ และลงนามสัญญาว่าจ้างระหว่างกกท.กับ บริษัท อิตาเลียนไทยฯ เท่านั้น
"คาดว่าจะลงนามสัญญาว่าจ้างได้ภายในสัปดาห์นี้ เป็นอย่างช้า และเริ่มลงมือก่อสร้างได้ทันทีในเดือนเมษายนนี้ โดยจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 3 ปี ระหว่างปีงบประมาณ 2548-2550 นั่นคือต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จเรียบร้อยทั้งหมด ก่อนเดือนตุลาคม 2550" นายบัญชา กล่าว
สำหรับการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการฯ ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการรอลงนามสัญญาว่าจ้างเช่นกัน ซึ่งวงเงินค่าจ้างควบคุมงานนี้อยู่ที่ประมาณ 39 ล้านบาท
"ล่าสุดกกท. ได้กำหนดวันทำพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างสนามกีฬากลางเมืองหลักภาคอีสานแห่งนี้ในวันที่ 27 มีนาคม โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานพิธีวางศิลาฤกษ์" นายบัญชา กล่าว
ดันโคราชเป็นเจ้าภาพกีฬาแห่งชาติ ฉลองเปิดใช้สนามยิ่งใหญ่ในปี2550
ด้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้ผลักดันงบประมาณก่อสร้างหลังโครงการฯต้องล่าช้ามาเกือบ 15 ปี กล่าวว่า การก่อสร้างสนามกีฬาเมืองหลักของภาคอีสาน แห่งนี้ ต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ในกลางปี 2550 ก่อนที่จะมีการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ในเดือน สิงหาคม และการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 เดือนธันวาคม ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันทั้ง 2 รายการในปีเดียวกันนี้ เพื่อจะได้กระจายรายการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ มายังสนามกีฬาที่สร้างขึ้นใหม่นี้ด้วย
นอกจากนี้ จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังทำเรื่องเสนอต่อกกท. เพื่อขอรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 36 ในปี 2550 ด้วย และหากนครราชสีมาได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพในปี 2550 ก็จะเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดใช้สนามกีฬาเมืองหลักฯแห่งนี้เป็นทางการอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งมีความเป็นได้สูงกว่าทุกจังหวัด เพราะเป็นจังหวัดใหญ่ที่มีศักยภาพพร้อมในทุกด้านอยู่แล้ว
ขณะนี้ จังหวัดได้มีการแต่งตั้ง "คณะทำงานจัดเตรียมข้อมูล เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 36" ขึ้นมาผลักดันอย่างเต็มที่แล้ว โดยมีนายวิทูร ชาติปฏิมาพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และ นายกสมาคมส่งเสริมกีฬาจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานคณะทำงาน
"ที่สำคัญในปี 2550 จะเป็นปีมหามงคล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 ชันษา จึงจะมีการเสนอเปลี่ยนชื่อสนามกีฬาเมืองหลักภาคอีสานแห่งนี้ เป็น สนามกีฬา 80 ชันษามหาราชันย์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ยิ่งใหญ่ดังกล่าวด้วย" นายสุวัจน์ กล่าว
เปิดโฉมกีฬาเมืองหลักอีสาน2พันล้าน
อนึ่ง โครงการก่อสร้างกีฬาเมืองหลักเฉลิมฉลอง 333 ปี จังหวัดนครราชสีมา เป็น 1 ในโครงการก่อสร้างสนามกีฬาเมืองหลักใน 4 ภาคของประเทศ ที่รัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรี มีมติครม.อนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ 10 กรกฎาคม 2533 ซึ่งภาคอื่นๆได้ก่อสร้างเสร็จทั้งหมดแล้วเหลือเพียงภาคอีสานที่ยืดเยื้อมาเกือบ 15 ปี
จนกระทั่งรัฐบาลของของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จากผลักดันของนานสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ภายหลังยุบพรรคชาติพัฒนา(ชพน.) รวมกับพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ที่ประชุมครม.วันที่ 12 ตุลาคม 2547 ได้มีมติอนุมัติงบก่อสร้างเป็นงบกลางประจำปี 2548 และผูกพันงบประมาณประจำปี 2549-2550 รวมวงเงิน 2,294,180,000 บาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 2,254,697,165.50 บาท และค่าควบคุมงาน 39,482,200.40 บาท
ทั้งนี้ สนามกีฬาขนาดใหญ่ แห่งนี้จะเป็นคอมเพล็กซ์หรือศูนย์กีฬาที่สมบูรณ์แบบ บนพื้นที่ขนาด 589 ไร่ บริเวณ อ่างเก็บน้ำเถกิงพล ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประกอบไปด้วย อาคารสนามกีฬากลาง(Main Stadium) ขนาดความจุ 2 หมื่นคน(เต็มรูปแบบ 4 หมื่น) สนามฝึกซ้อม (สนามฟุตบอล,ลู่-ลานกรีฑา) อาคารโรงพลศึกษา (Indoor Stadium) ขนาดความจุ 5,000 คน และขนาดความจุ 2,000 คน
อาคารสระว่ายน้ำ 50 เมตร-สระกระโดดน้ำ จุผู้ชม 3,000 คน อาคารสนามเทนนิสเซ็นเตอร์คอร์ท จุผู้ชม 1,000 คน อาคารสนามยิงปืน 42 ช่องยิงอาคารสนามจักรยาน จุผู้ชม 2,000 คน อาคารที่พักนักกีฬา 200 เตียง อาคารสำนักงาน สวนสาธารณะ อาคารที่พักเจ้าหน้าที่,ลานจอดรถ,ลานจอดรถบัส พร้อมด้วยอุปกรณ์การกีฬาและระบบสาธารณูปโภครองรับทุกด้านอย่างครบครัน
