ตราด - กลุ่มทุนใหญ่แห่ซื้อที่ดินบนเกาะกูดรับนโยบายพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของรัฐบาล เผยบิ๊กไทยรักไทยทั้ง "สุวัจน์ - สุดารัตน์ - ปิ๊ก" ทยอยเข้าติดต่อซื้อที่ดินริมหาดรายละไม่ต่ำกว่า 200-400 ล้านบาท ขณะที่ "ป๋าเหนาะ" ผ่องถ่ายที่แปลงสวยบนอ่าวสลักอวนให้กลุ่มทุนใหญ่จากเกาะมัลดีฟส์
นายวิชิต ไทรทอง กำนัน ต.เกาะกูด จ.ตราด เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาวะการซื้อขายที่ดินบนเกาะกูด แหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ของจังหวัดตราด รวมทั้งรัฐบาลโดยองค์การบริหารพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท. )และสำนักงานพื้นที่พิเศษเกาะช้าง และพื้นที่เชื่อมโยง 1( สพพ.1) ก็มีนโยบายที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศนั้น กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาที่ดินมีราคาสูงขึ้นเป็นลำดับ โดยมีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันเกือบทุกวัน
โดยที่ดินที่มี นส.3 และติดทะเล จะมีราคา 2-4 ล้านบาท/ไร่ แล้วแต่ทำเลจะดีหรือไม่ ส่วนที่มี ส.ค.1 และมีแนวโน้มว่าจะได้รับ นส.3 หรือโฉนด จะมีราคาอยู่ 1-2 ล้านบาท (หากไม่มีหาดทราย แต่ถ้ามีหาดทราย จะมีราคา ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท/ไร่) ส่วนพื้นที่ติดเขาที่มี ภบท.5 ปี 2509 จะมีราคา 1-2 แสนบาท
นักลงทุนจากกรุงเทพฯที่มีช่องทางได้มาซึ่งเอกสารสิทธิ มักจะเข้ามากว้านซื้อไว้ก่อนที่จะหาทางออกเอกสารสิทธิอีกทอดหนึ่ง เพื่อขายต่อหรือลงทุนทำธุรกิจต่อ เพราะที่ดินบนเกาะกูด ยังถือว่ามีราคาถูกเมื่อเทียบกับเกาะช้างที่มีราคาสูงกว่า 10-13 ล้านบาท/ไร่
เขาบอกว่า ในการซื้อขายที่ดินบนเกาะกูดระยะที่ผ่านมานั้น กลุ่มทุนใหญ่ ๆ ที่เข้ามาติดต่อกว้านซื้อที่ดินบนเกาะกูดขณะนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นนักการเมืองจากพรรคไทยรักไทยแทบทั้งสิ้น เช่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานายสุวัจน์ ลิมปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้ซื้อที่ดินบริเวณอ่าวพร้าว บนเกาะกูดจำนวนหลายสิบไร่ต่อจากนายนวรัตน์ พัฒโนดม ในราคาสูงถึง 250 - 300 ล้านบาท
เช่นเดียวกับนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ติดต่อซื้อที่ดินจากนักลงทุนท้องถิ่น 2-3 ราย รวมเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ในราคาประมาณ 300-400 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้ตกลงกันอย่างเป็นทางการ ขณะที่นางปวีณา หงสกุล สส.พรรคไทยรักไทย ก็เข้ามากว้านซื้อที่ดินบนเกาะเมื่อ 6-7 เดือนก่อนหน้านี้แล้ว เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มทุนจากเกาะมัลดีฟส์ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจอเมซอน ได้ซื้อที่ดินบริเวณอ่าวสลักอวน ต่อจากบริษัทสยามอัลไพน์ ของนายเสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคไทยรักไทย จำนวน 2 แปลง รวมมูลค่าประมาณ 200-300 ล้านบาท
เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจโซนุด อินเตอร์เนชั่นแนล ที่เข้ามากว้านซื้อที่ดินบนเกาะมูลค่าไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท แต่ไม่เป็นที่เปิดเผยว่าซื้อต่อจากกลุ่มทุนในท้องถิ่นรายใด
เขายังบอกอีกว่า นอกจากกลุ่มนักการเมืองที่เริ่มเข้ามากว้านซื้อที่ดินบนเกาะกูดดังกล่าวแล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีกลุ่มทุนจากส่วนกลางเข้ามาซื้อที่ดินบนเกาะอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายสมชาย ศุภรังษี หรือเสี่ยปิง เจ้าของน่าซ่าสเปรซี่โดรม ที่เข้ามาซื้อที่ดินบริเวณอ่าวสลัด ร่วม 100 ไร่ และนายพีระพล ไตรวัฒนา อดีตผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ก็ได้เช่าที่ดินกรมธนารักษ์จำนวน 600 ไร่ เพื่อลงทุนทำธุรกิจของตนเอง
สำหรับนักลงทุนท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่บนเกาะกูดหลายรายเช่น นายจุมพล เทเวศ มีที่ดินกว่า 3,800 ไร่ , นายเทเวศ วัฒนา อดีตกำนัน ต.เกาะกูด มีที่ดินอยู่ทั้งบนเกาะกูด และเกาะไม้ซี้ มากกว่า 100 ไร่ และปัจจุบันได้ทำรีสอร์ตอยู่บริเวณหาดคลองหินดำ
นายอมฤทธิ์ พูลสวัสดิ์ อดีตประธานหอการค้า จ.ตราด ก็ลงทุนก่อสร้างรีสอร์ตชื่ออ่าวน้อยรีสอร์ต บนเนื้อที่ประมาณ 5-10 ไร่ และนายกนก ใจรักษ์ สมาชิก อบต.หมู่ 1 ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด ก็ลงทุนร่วมกับพรรคพวกทำรีสอร์ทบนที่ดินของครอบครัวบริเวณหาดบางเบ้า เนื้อที่ประมาณ 60-70 ไร่
ปัจจุบันเกาะกูด ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมากขึ้น มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้าไปวันละไม่ต่ำกว่า 100 คน ขณะที่จำนวนห้องพักที่มีอยู่ 5-600 ห้องซึ่งมีทั้งรีสอร์ตหรูราคาค่าห้องพัก 5-8,000 บาท/คืน , รีสอร์ตระดับกลาง ราคา 1,500 - 3,000 บาท/คืน และเกสต์เฮาส์ราคา 200 - 500 บาท/คืน เริ่มไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยว
อนึ่ง เกาะกูดเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย หรือเป็นอันดับ 2 รองจากเกาะช้างในจังหวัดตราด มีเนื้อที่ 127 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 65,625 ไร่ โดยมีขนาดความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตร และขนาดความกว้าง 12 กิโลเมตร เป็นหนึ่งใน 52 เกาะของอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะช้าง อยู่ห่างจากฝั่งจังหวัดตราดประมาณ 35 กิโลเมตร ประชากรของเกาะกูด มีประมาณ 1,500 คนซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำประมงและปลูกยางพารา