ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รับหน้าเสื่อเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยปัญหาความขัดแย้งโครงการเหมืองเวียงแหง ด้วยการจัดเวทีเสวนา 11 มี.ค.48 พร้อมแนะควรเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่เป็นคนตัดสินใจ ขณะที่ กฟผ.และรองปลัดกระทรวงพลังงาน ปฏิเสธข่าวนายกรัฐมนตรีสั่งยุติโครงการ ยืนยันยังไม่เคยมีการสั่งการใดๆ
จากการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) มีโครงการพัฒนาเหมือถ่านหินเวียงแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ว่าจ้างให้คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสังคม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จะนำไปสู่กระบวนการตัดสินใจ ของคณะกรรมการผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ต่อการดำเนินโครงการนี้
อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาของการดำเนินโครงการนี้ ในช่วงที่ผ่านมาได้สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในระดับพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง จากการที่กลุ่มชาวบ้านมีความคิดเห็นแตกแยกเป็น 2 กลุ่ม อย่างเห็นได้ชัด ทั้งกลุ่มที่สนับสนุนโครงการ และกลุ่มที่คัดค้านโครงการ
วันนี้(25 ก.พ.48) ที่ห้องประชุมบ้านธารแก้ว มหาวิทยาลัยพายัพ ถนนห้วยแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายวสันต์ พานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เป็นประธานในการประชุมหารือระหว่างตัวแทนชาวบ้าน ในพื้นที่อำเภอเวียงแหงที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการกับตัวแทนของ กฟผ.ที่นำโดยนายพายัพ พงศ์พิโรดม ผู้ช่วยผู้ว่าการเชื้อเพลิงแข็ง โดยที่มีนายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงานร่วมสังเกตการณ์
นายวสันต์ เปิดเผยว่า จากการประชุมได้ข้อสรุปว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ตกลงที่จะเป็นคนกลางในการจัดเวทีเสวนา และรับฟังความคิดเห็นต่อโครงการพัฒนาเหมืองเวียงแหง จากประชาชนทุกฝ่ายในพื้นที่อำเภอเวียงแหง โดยที่ กฟผ.จะเข้าร่วมด้วย
เวทีดังกล่าวนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 11 มี.ค.48 ที่อำเภอเวียงแหง ทั้งนี้คาดหวังว่าจะทำให้ปัญหาความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่ และความขัดแย้งที่มีกับ กฟผ.ลดระดับความรุนแรงลงไปได้มาก เพื่อทำให้ทิศทางการดำเนินการต่างๆ เป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง
สำหรับการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และผลกระทบด้านสังคม โครงการพัฒนาเหมืองเวียงแหง นายวสันต์ แสดงความเห็นว่า ควรจะต้องคำนึงและให้ความสำคัญต่อผลกระทบทางด้านสังคมและวัฒนธรรมให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นประเด็นที่มักจะถูกละเลยอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่โครงการโดยตรง
ขณะเดียวกันเห็นว่าถึงแม้ว่า กระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบโครงการจะเสร็จสิ้น และผ่านความเห็นชอบเพื่อดำเนินโครงการแล้ว อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุด ควรจะต้องมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้ามาสู่กระบวนการตัดสินใจของชาวบ้านในพื้นที่ด้วย ว่าจะต้องการให้มีการดำเนินโครงการหรือไม่
ด้านผู้ช่วยผู้ว่าการเชื้อเพลิงแข็ง กฟผ. กล่าวว่า การที่ประชาชนในพื้นที่จำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับโครงการเนื่องจากมีความเป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะตามมานั้น ขอยืนยันว่า กฟผ.ไม่ได้ละเลยในการให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตามการที่ยังไม่สามารถตอบประเด็นปัญหาที่เป็นความสงสัยของชาวบ้านในเรื่องผลกระทบได้นั้น เป็นเพราะว่าการศึกษาผลกระทบโครงการยังไม่แล้วเสร็จ โดยที่ไม่มีเจตนาจะปกปิดข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ย้ำว่าหากผลการศึกษาระบุว่าโครงการไม่ขาดความเหมาะสมเนื่องจากไม่สามารถควบคุมผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้และไม่คุ้มค่าในการลงทุน กฟผ.พร้อมที่จะยุติโครงการทั้งหมดทันที โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรี จะสั่งการให้ยุติโครงการนี้ ตามที่ได้เคยพูดไว้ในช่วงของการขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง นายพายัพ กล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน แต่จนถึงเวลานี้ยังไม่มีการสั่งการใดๆ อย่างเป็นทางการ โดยที่ดำเนินการต่างๆ ของโครงการยังคงเป็นไปตามปกติ
ขณะที่รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าว่า การดำเนินโครงการพัฒนาเหมืองเวียงแหงของ กฟผ. เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี การที่จะยุติโครงการได้จะต้องมีการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบเช่นกัน ซึ่งจนถึงเวลานี้ยังไม่มีการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้น
แม้ว่าจะมีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรี จะสั่งการให้ยุติโครงการนี้ก็ตาม แต่ก็ยังไม่เคยมีการข้อสั่งการใดๆ เลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นการดำเนินการโครงการพัฒนาเหมืองเวียงแหง จึงยังคงจะต้องดำเนินการต่อไป
จากการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) มีโครงการพัฒนาเหมือถ่านหินเวียงแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ว่าจ้างให้คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสังคม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จะนำไปสู่กระบวนการตัดสินใจ ของคณะกรรมการผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ต่อการดำเนินโครงการนี้
อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาของการดำเนินโครงการนี้ ในช่วงที่ผ่านมาได้สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในระดับพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง จากการที่กลุ่มชาวบ้านมีความคิดเห็นแตกแยกเป็น 2 กลุ่ม อย่างเห็นได้ชัด ทั้งกลุ่มที่สนับสนุนโครงการ และกลุ่มที่คัดค้านโครงการ
วันนี้(25 ก.พ.48) ที่ห้องประชุมบ้านธารแก้ว มหาวิทยาลัยพายัพ ถนนห้วยแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายวสันต์ พานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เป็นประธานในการประชุมหารือระหว่างตัวแทนชาวบ้าน ในพื้นที่อำเภอเวียงแหงที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการกับตัวแทนของ กฟผ.ที่นำโดยนายพายัพ พงศ์พิโรดม ผู้ช่วยผู้ว่าการเชื้อเพลิงแข็ง โดยที่มีนายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงานร่วมสังเกตการณ์
นายวสันต์ เปิดเผยว่า จากการประชุมได้ข้อสรุปว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ตกลงที่จะเป็นคนกลางในการจัดเวทีเสวนา และรับฟังความคิดเห็นต่อโครงการพัฒนาเหมืองเวียงแหง จากประชาชนทุกฝ่ายในพื้นที่อำเภอเวียงแหง โดยที่ กฟผ.จะเข้าร่วมด้วย
เวทีดังกล่าวนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 11 มี.ค.48 ที่อำเภอเวียงแหง ทั้งนี้คาดหวังว่าจะทำให้ปัญหาความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่ และความขัดแย้งที่มีกับ กฟผ.ลดระดับความรุนแรงลงไปได้มาก เพื่อทำให้ทิศทางการดำเนินการต่างๆ เป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง
สำหรับการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และผลกระทบด้านสังคม โครงการพัฒนาเหมืองเวียงแหง นายวสันต์ แสดงความเห็นว่า ควรจะต้องคำนึงและให้ความสำคัญต่อผลกระทบทางด้านสังคมและวัฒนธรรมให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นประเด็นที่มักจะถูกละเลยอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่โครงการโดยตรง
ขณะเดียวกันเห็นว่าถึงแม้ว่า กระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบโครงการจะเสร็จสิ้น และผ่านความเห็นชอบเพื่อดำเนินโครงการแล้ว อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุด ควรจะต้องมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้ามาสู่กระบวนการตัดสินใจของชาวบ้านในพื้นที่ด้วย ว่าจะต้องการให้มีการดำเนินโครงการหรือไม่
ด้านผู้ช่วยผู้ว่าการเชื้อเพลิงแข็ง กฟผ. กล่าวว่า การที่ประชาชนในพื้นที่จำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับโครงการเนื่องจากมีความเป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะตามมานั้น ขอยืนยันว่า กฟผ.ไม่ได้ละเลยในการให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตามการที่ยังไม่สามารถตอบประเด็นปัญหาที่เป็นความสงสัยของชาวบ้านในเรื่องผลกระทบได้นั้น เป็นเพราะว่าการศึกษาผลกระทบโครงการยังไม่แล้วเสร็จ โดยที่ไม่มีเจตนาจะปกปิดข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ย้ำว่าหากผลการศึกษาระบุว่าโครงการไม่ขาดความเหมาะสมเนื่องจากไม่สามารถควบคุมผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้และไม่คุ้มค่าในการลงทุน กฟผ.พร้อมที่จะยุติโครงการทั้งหมดทันที โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรี จะสั่งการให้ยุติโครงการนี้ ตามที่ได้เคยพูดไว้ในช่วงของการขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง นายพายัพ กล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน แต่จนถึงเวลานี้ยังไม่มีการสั่งการใดๆ อย่างเป็นทางการ โดยที่ดำเนินการต่างๆ ของโครงการยังคงเป็นไปตามปกติ
ขณะที่รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าว่า การดำเนินโครงการพัฒนาเหมืองเวียงแหงของ กฟผ. เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี การที่จะยุติโครงการได้จะต้องมีการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบเช่นกัน ซึ่งจนถึงเวลานี้ยังไม่มีการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้น
แม้ว่าจะมีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรี จะสั่งการให้ยุติโครงการนี้ก็ตาม แต่ก็ยังไม่เคยมีการข้อสั่งการใดๆ เลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นการดำเนินการโครงการพัฒนาเหมืองเวียงแหง จึงยังคงจะต้องดำเนินการต่อไป