นครปฐม-วันนี้ (24 ก.พ.) ร.ต.ต.สมศักดิ์ เกิดแสง พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในอาคารพาณิชย์สร้างใหม่เลขที่ 25/12 ตรอกหลังสถานีรถไฟ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง เจ้าหน้าที่พบนางมาลี สุสัณฐิตานนท์ อายุ 41 ปี เจ้าของบ้านซึ่งเป็นน้องสาวของนายไพศาล สุสัณฐิตานนท์ สมาชิกสภาเทศบาลนครนครปฐม ได้แจ้งว่ามีคนร้ายงัดบ้านเข้าไปพังตู้เซฟกวาดทรัพย์สินมีค่าไปเป็นมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท
จึงได้เข้าไปตรวจสอบตั้งแต่บริเวณชั้นล่าง ซึ่งพบว่ามีอะไหล่รถจักรยานยนต์ใหม่ จำนวนหลายรายการกองอยู่ ภายในห้องน้ำมีรอยเท้าเปล่าซึ่งคาดว่าจะเป็นของคนร้าย จึงได้เก็บร่องรอยไว้เป็นหลักฐาน ก่อนขึ้นไปตรวจสอบที่บริเวณชั้นที่ 2 ซึ่งสภาพที่เห็นข้าวของมีการรื้อค้นกระจุยกระจายทั่วห้องแต่ไม่มีของมีค่าหายไป
ส่วนบริเวณชั้น 3 ภายในห้องนอนพบว่าที่บริเวณหน้าต่างกระจกบานเลื่อนมีร่องรอยการงัดแงะ ส่วนสภาพภายในห้องนอนมีการรื้อค้นทรัพย์สินกระจายเต็มห้องเช่นกัน โดยบานประตูตู้เสื้อผ้าได้ถูกรื้อออกมาวางไว้บนที่นอน ภายในตู้ถูกค้นจนหมด และบนพื้นห้องพบว่าตู้เซฟได้ถูกงัดประตูออก ทรัพย์สินที่อยู่ภายในเซฟหายไปจนหมดซึ่งประกอบ ด้วยพระหลวงพ่อเปิ่นเนื้อทองคำหนัก 8 บาทเลี่ยมกรอบทองคำ นาฬิกาโรเล็กซ์ฝังเพชร 1 เรือน สร้อยคอทองคำและเลสข้อมือทองคำ รวมน้ำหนักกว่า 40 บาทเครื่องเพชรอีกจำนวนหลายรายการ รวมเป็นมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า 4 ล้านบาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นไปตรวจสอบบริเวณชั้นดาดฟ้า พบว่ามีร่องรอยการตัดตะแกรงเหล็กที่ทำไว้กั้น จนเป็นรูโหว่ คาดว่าคนร้ายน่าจะปีนออกไป แล้วเข้าไปงัดบ้านเลขที่ 25/11 ซึ่งอยู่คิดกัน เป็นบ้านของนางอุไรวรรณ ซัลตัน อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่วิเทศน์สัมพันธ์ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเข้าไปตรวจแล้วพบว่ามีร่องรอยการรื้อค้นแต่ไม่พบว่ามีทรัพย์สินใดๆหายไป
นางมาลี สุสัณฐิตานนท์ เจ้าของบ้านเล่าว่า ปกติตนกับสามีจะพักอยู่ที่กรุงเทพฯ และเพิ่งมาซื้ออาคารพาณิชย์ใหม่หลังนี้ได้ไม่นาน เพื่อเปิดทำกิจการขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ ซึ่งตนกับสามีได้ช่วยกันทยอยของเข้ามาไว้ในบ้าน ซึ่งรวมถึงการขนตู้เซฟมาเก็บไว้ที่นี่ด้วยในวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมาและล่าสุดเมื่อวันที่21 ประมาณ 16.00 น.ตนกับสามีได้เดินทางกลับไปที่บ้านกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมข้าวของขนย้ายมาอยู่ที่นี่
จนมาถึงวันที่ 24 ก.พ.เวลา 01.00 น.ตนและสามีได้กลับมาถึงที่บ้านหลังใหม่พร้อมด้วยของใช้ต่างที่ขนมาไว้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ทราบว่าบ้านถูกงัด กระทั่งสามีเดินขึ้นไปบนบ้านจึงได้เห็นความผิดปกติ แต่พอมาตรวจสอบจึงทราบว่า คนร้ายได้เข้ามากวาดทรัพย์สินไปจากห้องนอนจนหมดจึงได้เข้าแจ้งความดังกล่าว
พ.ต.ท.ไชยศ มุกดาหาญ สว.สส.สภ.อ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2-3 คน โดยเข้าไปงัดประตูจากอาคารพาณิชย์ห้องถัดไปประมาณ 3 ห้องแล้วขึ้นไปชั้นดาดฟ้า ก่อนใช้เครื่องมือตัดตะแกรงเหล็กที่กั้นห้องดาดฟ้าเข้ามางัดเอาของมีค่าในบ้านไป ซึ่งตนจะได้ตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่นและคนงานก่อสร้างว่ามีผู้ใดน่าสงสัยหรือไม่ เพื่อตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
จึงได้เข้าไปตรวจสอบตั้งแต่บริเวณชั้นล่าง ซึ่งพบว่ามีอะไหล่รถจักรยานยนต์ใหม่ จำนวนหลายรายการกองอยู่ ภายในห้องน้ำมีรอยเท้าเปล่าซึ่งคาดว่าจะเป็นของคนร้าย จึงได้เก็บร่องรอยไว้เป็นหลักฐาน ก่อนขึ้นไปตรวจสอบที่บริเวณชั้นที่ 2 ซึ่งสภาพที่เห็นข้าวของมีการรื้อค้นกระจุยกระจายทั่วห้องแต่ไม่มีของมีค่าหายไป
ส่วนบริเวณชั้น 3 ภายในห้องนอนพบว่าที่บริเวณหน้าต่างกระจกบานเลื่อนมีร่องรอยการงัดแงะ ส่วนสภาพภายในห้องนอนมีการรื้อค้นทรัพย์สินกระจายเต็มห้องเช่นกัน โดยบานประตูตู้เสื้อผ้าได้ถูกรื้อออกมาวางไว้บนที่นอน ภายในตู้ถูกค้นจนหมด และบนพื้นห้องพบว่าตู้เซฟได้ถูกงัดประตูออก ทรัพย์สินที่อยู่ภายในเซฟหายไปจนหมดซึ่งประกอบ ด้วยพระหลวงพ่อเปิ่นเนื้อทองคำหนัก 8 บาทเลี่ยมกรอบทองคำ นาฬิกาโรเล็กซ์ฝังเพชร 1 เรือน สร้อยคอทองคำและเลสข้อมือทองคำ รวมน้ำหนักกว่า 40 บาทเครื่องเพชรอีกจำนวนหลายรายการ รวมเป็นมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า 4 ล้านบาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นไปตรวจสอบบริเวณชั้นดาดฟ้า พบว่ามีร่องรอยการตัดตะแกรงเหล็กที่ทำไว้กั้น จนเป็นรูโหว่ คาดว่าคนร้ายน่าจะปีนออกไป แล้วเข้าไปงัดบ้านเลขที่ 25/11 ซึ่งอยู่คิดกัน เป็นบ้านของนางอุไรวรรณ ซัลตัน อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่วิเทศน์สัมพันธ์ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเข้าไปตรวจแล้วพบว่ามีร่องรอยการรื้อค้นแต่ไม่พบว่ามีทรัพย์สินใดๆหายไป
นางมาลี สุสัณฐิตานนท์ เจ้าของบ้านเล่าว่า ปกติตนกับสามีจะพักอยู่ที่กรุงเทพฯ และเพิ่งมาซื้ออาคารพาณิชย์ใหม่หลังนี้ได้ไม่นาน เพื่อเปิดทำกิจการขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ ซึ่งตนกับสามีได้ช่วยกันทยอยของเข้ามาไว้ในบ้าน ซึ่งรวมถึงการขนตู้เซฟมาเก็บไว้ที่นี่ด้วยในวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมาและล่าสุดเมื่อวันที่21 ประมาณ 16.00 น.ตนกับสามีได้เดินทางกลับไปที่บ้านกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมข้าวของขนย้ายมาอยู่ที่นี่
จนมาถึงวันที่ 24 ก.พ.เวลา 01.00 น.ตนและสามีได้กลับมาถึงที่บ้านหลังใหม่พร้อมด้วยของใช้ต่างที่ขนมาไว้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ทราบว่าบ้านถูกงัด กระทั่งสามีเดินขึ้นไปบนบ้านจึงได้เห็นความผิดปกติ แต่พอมาตรวจสอบจึงทราบว่า คนร้ายได้เข้ามากวาดทรัพย์สินไปจากห้องนอนจนหมดจึงได้เข้าแจ้งความดังกล่าว
พ.ต.ท.ไชยศ มุกดาหาญ สว.สส.สภ.อ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2-3 คน โดยเข้าไปงัดประตูจากอาคารพาณิชย์ห้องถัดไปประมาณ 3 ห้องแล้วขึ้นไปชั้นดาดฟ้า ก่อนใช้เครื่องมือตัดตะแกรงเหล็กที่กั้นห้องดาดฟ้าเข้ามางัดเอาของมีค่าในบ้านไป ซึ่งตนจะได้ตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่นและคนงานก่อสร้างว่ามีผู้ใดน่าสงสัยหรือไม่ เพื่อตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป