ระยอง -ชาวบ้านฉางค้านการเปลี่ยนสีผังเมือง จากสีเขียวเป็นสีม่วง(จากเขตที่อยู่อาศัยเป็นเขตอุตสาหกรรม) ในพื้นที่บางส่วนของ อบต.บ้านฉาง หลังจากกรมโยธาธิกา และผังเมือง ประกาศให้ประชาชนที่ไม่เห็นด้วย ยื่นคำร้องคัดค้านได้ภายในวันที่ 8 เมษายน
นายสุรินทร์ เปาอินทร์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.) ระยอง และสมาชิกชมรมเครือข่ายชุมชนตะวันออก พิทักษ์สิ่งแวดล้อม อำเภอบ้านฉาง เผยว่า ขณะนี้กรมโยธาธิการและผังเมืองประกาศให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ในเขตผังเมืองรวม บริเวณอุตสาหกรรมหลักและชุมชน ไปตรวจดูข้อกำหนดของผังเมืองรวมที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ถึง วันที่ 8 เมษายน 2548
ทั้งนี้ ผู้ที่มีส่วนได้เสียใน เขตพื้นที่ ดังกล่าวมีสิทธิร้องขอให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกข้อกำหนด ที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมได้ โดยยื่นคำร้องที่ศาลากลาง จังหวัดระยอง ภายในระยะเวลา 90 วันที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ชาวบ้านได้ไปตรวจสอบดูแล้ว พบว่า ผังเมืองไม่ได้ดำเนินการตามที่ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน เนื่องจากที่ผ่านมา ผังเมืองได้มีการประกาศที่จะมีการวางผังเมืองใหม่ ในพื้นที่ ม.2 ตำบลบ้านฉาง โดยมีการกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ที่ดินประเภท อุตสาหกรรม และคลังสินค้า หรือพื้นที่สีม่วง
ขณะนั้น พวกชาวบ้านไม่เห็นด้วย ที่จะให้พื้นที่ดังกล่าวเปลี่ยนสีจากสีเขียวมาเป็นสีม่วง แต่ขณะนั้นพื้นที่ดังกล่าว มีการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมเอเชียแล้ว จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงเป็นเงื่อนไขในการกำหนดพื้นที่ โดยที่ชาวบ้านยอมให้มีการนิคมอุตสาหกรรมเอเชียได้ แต่ห้ามไม่ให้มีการก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม ที่เกี่ยวกับปิโตรเคมี ซึ่งข้อความดังกล่าวก็ได้ปรากฏในผังเมืองแล้ว
แต่ปรากฏว่า ขณะนี้ผังเมืองได้มีการแก้ไข้กฎกระทรวงและตัดข้อความ ดังกล่าวออก คือ ในส่วนของข้อห้าม การประกอบกิจการอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่ใช้วัตถุดิบ ซึ่งได้จากการ กลั่นน้ำมัน ปิโตรเลียมหรือการแยกก๊าซธรรมชาติ" ออกจากกฎกระทรวง ชาวบ้านจึงคัดค้านและทำหนังสือถึง นายเสนอ จันทรา ผู้ว่าราชการ จังหวัดระยอง
ทั้งนี้ เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่า พื้นที่ดังกล่าวในรัศมี 3 กิโลเมตร จากโรงงาน มีชุมชนหนาแน่น วัด และโรงเรียนอีก 5 แห่ง รวมทั้งหมู่บ้านจัดสรรอีกหลายโครงการ จึงไม่ควรที่จะให้มีการประกอบกิจการที่เกี่ยวกับปิโตรเคมี และโรงกลั่นน้ำมัน โดยให้คงเงื่อนไข้ข้อห้ามดังกล่าวไว้เหมือนเดิม พร้อมทั้งขอให้มีการ ศึกษาข้อมูลทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบจาก อุตสาหกรรมปิโตรเคมี กับสิ่งแวดล้อมด้วย
ด้านนายธวัชชัย สุภาผล เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ผังเมือง 7 จังหวัดระยอง เปิดเผยว่าในขณะนี้คณะกรรมการผังเมือง ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ ในการแก้ไขเพิ่มเติมกฏกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม บริเวณอุตสาหกรรมหลักและชุมชน จังหวัดระยอง พ.ศ.2546เกี่ยวกับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภท อุตสาหกรรมและคลังสินค้า(สีม่วง) บริเวณ พื้นที่หมู่ 2 ตำบลบ้านฉาง ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง
โดยตัดข้อความในข้อ 10 วรรคสาม ของกฎกระทรวงเฉพาะ ในส่วน ของข้อห้าม การประกอบกิจการอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ใช้วัตถุดิบ ซึ่งได้จากการกลั่นน้ำมัน ปิโตรเลียมหรือการแยกก๊าซธรรมชาติ ออกจากกฎกระทรวง ซึ่งคณะกรรมการผังเมืองได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว
กรมโยธาธิการและผังเมือง ขอให้ผู้ที่มีส่วนได้เสียในเขตผังเมืองรวม บริเวณอุตสาหกรรมหลักและชุมชนไปตรวจดูข้อกำหนดของผังเมืองรวมที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ที่ ศาลากลางจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด และหน่วยราชการอื่นๆ ที่อยู่ในเขตผังเมืองรวม ได้ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ถึง วันที่ 8 เมษายน ซึ่งผู้มีส่วนได้เสียในเขตพื้นที่ ดังกล่าวมีสิทธิร้องขอ ให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกข้อกำหนดที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมได้ โดยยื่นคำร้องที่ศาลากลางจังหวัด ระยองภายในระยะเวลา 90 วันที่กำหนด
นายธวัชชัย กล่าวว่าต่อไปว่า หลังครบกำหนด คณะกรรมการระดับจังหวัด ผู้เชี่ยวชาญ จากหลายด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาอุตสาหกรรม หอการค้า จังหวัดระยอง จะเป็นผู้ให้คำชี้แจงถึงผลดีและผลเสีย หลังจากนั้นคณะกรรมการ จะนำข้อมูลเสนอให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาอีกครั้ง
นายสุรินทร์ เปาอินทร์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.) ระยอง และสมาชิกชมรมเครือข่ายชุมชนตะวันออก พิทักษ์สิ่งแวดล้อม อำเภอบ้านฉาง เผยว่า ขณะนี้กรมโยธาธิการและผังเมืองประกาศให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ในเขตผังเมืองรวม บริเวณอุตสาหกรรมหลักและชุมชน ไปตรวจดูข้อกำหนดของผังเมืองรวมที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ถึง วันที่ 8 เมษายน 2548
ทั้งนี้ ผู้ที่มีส่วนได้เสียใน เขตพื้นที่ ดังกล่าวมีสิทธิร้องขอให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกข้อกำหนด ที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมได้ โดยยื่นคำร้องที่ศาลากลาง จังหวัดระยอง ภายในระยะเวลา 90 วันที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ชาวบ้านได้ไปตรวจสอบดูแล้ว พบว่า ผังเมืองไม่ได้ดำเนินการตามที่ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน เนื่องจากที่ผ่านมา ผังเมืองได้มีการประกาศที่จะมีการวางผังเมืองใหม่ ในพื้นที่ ม.2 ตำบลบ้านฉาง โดยมีการกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ที่ดินประเภท อุตสาหกรรม และคลังสินค้า หรือพื้นที่สีม่วง
ขณะนั้น พวกชาวบ้านไม่เห็นด้วย ที่จะให้พื้นที่ดังกล่าวเปลี่ยนสีจากสีเขียวมาเป็นสีม่วง แต่ขณะนั้นพื้นที่ดังกล่าว มีการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมเอเชียแล้ว จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงเป็นเงื่อนไขในการกำหนดพื้นที่ โดยที่ชาวบ้านยอมให้มีการนิคมอุตสาหกรรมเอเชียได้ แต่ห้ามไม่ให้มีการก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม ที่เกี่ยวกับปิโตรเคมี ซึ่งข้อความดังกล่าวก็ได้ปรากฏในผังเมืองแล้ว
แต่ปรากฏว่า ขณะนี้ผังเมืองได้มีการแก้ไข้กฎกระทรวงและตัดข้อความ ดังกล่าวออก คือ ในส่วนของข้อห้าม การประกอบกิจการอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่ใช้วัตถุดิบ ซึ่งได้จากการ กลั่นน้ำมัน ปิโตรเลียมหรือการแยกก๊าซธรรมชาติ" ออกจากกฎกระทรวง ชาวบ้านจึงคัดค้านและทำหนังสือถึง นายเสนอ จันทรา ผู้ว่าราชการ จังหวัดระยอง
ทั้งนี้ เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่า พื้นที่ดังกล่าวในรัศมี 3 กิโลเมตร จากโรงงาน มีชุมชนหนาแน่น วัด และโรงเรียนอีก 5 แห่ง รวมทั้งหมู่บ้านจัดสรรอีกหลายโครงการ จึงไม่ควรที่จะให้มีการประกอบกิจการที่เกี่ยวกับปิโตรเคมี และโรงกลั่นน้ำมัน โดยให้คงเงื่อนไข้ข้อห้ามดังกล่าวไว้เหมือนเดิม พร้อมทั้งขอให้มีการ ศึกษาข้อมูลทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบจาก อุตสาหกรรมปิโตรเคมี กับสิ่งแวดล้อมด้วย
ด้านนายธวัชชัย สุภาผล เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ผังเมือง 7 จังหวัดระยอง เปิดเผยว่าในขณะนี้คณะกรรมการผังเมือง ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ ในการแก้ไขเพิ่มเติมกฏกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม บริเวณอุตสาหกรรมหลักและชุมชน จังหวัดระยอง พ.ศ.2546เกี่ยวกับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภท อุตสาหกรรมและคลังสินค้า(สีม่วง) บริเวณ พื้นที่หมู่ 2 ตำบลบ้านฉาง ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง
โดยตัดข้อความในข้อ 10 วรรคสาม ของกฎกระทรวงเฉพาะ ในส่วน ของข้อห้าม การประกอบกิจการอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ใช้วัตถุดิบ ซึ่งได้จากการกลั่นน้ำมัน ปิโตรเลียมหรือการแยกก๊าซธรรมชาติ ออกจากกฎกระทรวง ซึ่งคณะกรรมการผังเมืองได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว
กรมโยธาธิการและผังเมือง ขอให้ผู้ที่มีส่วนได้เสียในเขตผังเมืองรวม บริเวณอุตสาหกรรมหลักและชุมชนไปตรวจดูข้อกำหนดของผังเมืองรวมที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ที่ ศาลากลางจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด และหน่วยราชการอื่นๆ ที่อยู่ในเขตผังเมืองรวม ได้ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ถึง วันที่ 8 เมษายน ซึ่งผู้มีส่วนได้เสียในเขตพื้นที่ ดังกล่าวมีสิทธิร้องขอ ให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกข้อกำหนดที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมได้ โดยยื่นคำร้องที่ศาลากลางจังหวัด ระยองภายในระยะเวลา 90 วันที่กำหนด
นายธวัชชัย กล่าวว่าต่อไปว่า หลังครบกำหนด คณะกรรมการระดับจังหวัด ผู้เชี่ยวชาญ จากหลายด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาอุตสาหกรรม หอการค้า จังหวัดระยอง จะเป็นผู้ให้คำชี้แจงถึงผลดีและผลเสีย หลังจากนั้นคณะกรรมการ จะนำข้อมูลเสนอให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาอีกครั้ง