xs
xsm
sm
md
lg

สาวแสบแอบฉกทารกแรกเกิดจากอกแม่ในโรงพยาบาลนครปฐม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครปฐม-สาวแสบย่องฉกทารกจากอกแม่ช่วงเผลอนอนหลับ หลังคลอดเพียงวันเดียวในโรงพยาบาลนครปฐม เผยแม่เด็กถูกวางยาขณะที่ยังนอนหลับอยู่ ด้านตำรวจสเก็ตซ์ภาพแจกจ่ายทั่วเมืองตามล่าสาวแสบแล้ว

วันนี้ (18 ม.ค.) เวลา 14.00 น.นายนพรัตน์ อายุ 40 ปี และนางศรี เจนวิทยาอมรเวช อายุ 40 ปี สองสามีภรรยาได้เข้าร้องเรียนผ่านสื่อว่า มีคนร้ายแอบลักลูกชายวัยแรกเกิดภายหลังจากคลอดลูกที่โรงพยาบาลนครปฐมได้เพียง 1 วันโดยคนร้ายอาศัยช่วงเวลาขณะที่นางศรีนอนหลับ ช่วงกลางดึกหลังจากให้นมลูกจนเพลีย บนเตียงพักชั้น 24 ชั้น 4 อาคารสูตินรีเวช โรงพยาบาลนครปฐม จนถึงวันนี้ผ่านไป 2 วันโดยยังไม่รู้ชะตากรรมของลูกชาย หลังเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.อ.เมืองนครปฐม

นายนพรัตน์ เจนวิทยาอมรเวช อายุ 40 ปีอยู่บ้านเลขที่ 90 ม. 2 ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนางศรี ภรรยา ได้ตั้งท้องบุตรชายคนที่ 6 จนครบกำหนดคลอด ตนเองจึงได้พาภรรยามาคลอดบุตรที่โรงพยาบาลนครปฐม เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ม.ค.48 ที่ผ่านมา จนเมื่อเวลา 15.30 น.ของวันเดียวกันนางศรี อายุ 40 ปีได้คลอดบุตรเป็นเด็กผู้ชาย มีน้ำหนัก 3,700 กรัม ทาง โรงพยาบาลจึงได้ให้ภรรยาของตนไปพักหลังคลอดที่ตึกสูตินรีเวช ชั้น 4 เตียง 24

ต่อมาในวันเดียวกัน หลังจากที่ภรรยาตนกำลังนอนพักฟื้นอยู่ ทางนางพยาบาลได้นำลูกชาย ซึ่งเป็นเด็กทารกแรกเกิดที่ภรรยาตนเพิ่งคลอดนำมานอนข้างภรรยาโดยให้แม่และเด็กมีสายสัมพันธ์ที่ดีโดยการให้ลูกกินนมจากมารดา ซึ่งเวลานั้นเป็นช่วงเย็นแล้ว ตนจึงได้เดินทางกลับบ้านเพราะยังมีลูกๆ อยู่บ้านอีกหลายคนที่ต้องดูแล ตนจึงได้ให้น้องฉาย ลูกสาวคนโตวัย 12 ปี อยู่เฝ้าภรรยาที่ยังอ่อนเพลียจากการคลอดบุตร ก่อนที่ตนจะกลับบ้าน และมาทราบว่าลูกชายได้ถูกลักไปตอนกลางดึกของคืนวันที่16 ม.ค.จึงได้ไปดูภรรยาและเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองนครปฐม เพื่อให้ติดตามคนร้ายและบุตรชายที่หายตัวไป

นางศรี เจนวิทยาอมรเวช เล่าต่อว่า หลังจากที่สามีของตนกลับไปแล้ว ได้มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งอายุประมาณ 20 ปีเศษ จูงเด็กผู้หญิงวัย 10 ขวบเข้ามาที่ห้องพักที่ตนนอนอยู่โดยเป็นห้องรวมแบบพัดลม ซึ่งขณะนั้นมีคนไข้อยู่ในห้องประมาณ 8 เตียง หญิงสาวดังกล่าวได้เข้ามาทำทีช่วยเหลือคนไข้ทุกเตียง ซึ่งตนสงสัยว่าหญิงสาวคนนั้นมาทำอะไร
 
โดยได้รับคำตอบจากหญิงสาวแปลกหน้าว่าเขามาเยี่ยมญาติคลอดลูกอยู่ที่ชั้น 2 จึงได้เดินขึ้นมาเยี่ยมญาติอีกคนหนึ่งที่มาคลอดลูกที่ห้องนี้ ซึ่งคนร้ายพยายามตีสนิท จนคนไข้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นญาติของคนใดคนหนึ่งในห้องพัก แต่ก็เริ่มเกิดความสงสัยในใจ

จนกระทั่งช่วงหัวค่ำตนให้นมลูกเสร็จแล้ว และเริ่มง่วงนอน จึงได้นอนหลับไปโดยมีบุตรชายที่เพิ่งคลอดนอนหลับอยู่ในอ้อมอก โดยมีน้องฉายบุตรสาวนอนเฝ้าอยู่ใต้เตียง จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.50 น.ของเช้าวันอาทิตย์ที่ 16 ม.ค.ตนรู้สึกตัวสะดุ้งตื่นขึ้นมาพบว่าลูกชายของตนได้หายไป ตนจึงได้ร้องเรียกพยาบาลให้ช่วยหา แต่ก็ไม่พบตัว
 
ตนจึงได้สอบถามญาติคนไข้ที่อยู่เตียงใกล้ๆกัน จึงทราบว่า ผู้หญิงคนที่ขึ้นมาช่วยดูแลคนไข้นั้นได้อุ้มเอาลูกชายของตนไปจากอกขณะนอนหลับ ซึ่งเขาเข้าใจว่าเป็นญาติกัน จึงไม่ได้คิดว่าจะเป็นคนร้ายที่เข้ามาเพื่อลักเด็ก ตอนนี้มีความเป็นห่วงบุตรชายมากอยากวิงวอนขอให้ตำรวจตามคนร้ายและนำลูกมาคืนให้เร็วที่สุดเพราะตอนนี้กลุ้มในจนกินไม่ได้นอนไม่หลับและไม่รู้ชะตากรรมของลูกชายที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียงวันเดียวว่าจะเป็นอย่างไร
 
โดยก่อนหน้าในช่วงเย็นตนรู้สึกมึนหัวมากและอ่อนเพลียโดยพยายามจะเดินไปบอกพยาบาลแต่ไม่ทราบว่า ทำไม่จึงไม่มีแรง โดยคาดว่านเองอาจจะถูกคนร้ายป้ายยาให้ครองสติไม่ได้ก่อนย่องมาฉกลูกไปตอนหลับ

ด้าน นพ.ปฐม วงษ์อุบล หัวหน้าตึกสูตินรีเวช โรงพยาบาลนครปฐม กล่าวว่า ทันทีที่ทราบว่า มีการลักเด็กออกจากห้องพักหลังคลอด ได้มีการสั่งให้ทาง รปภ.ของโรงพยาบาลตรวจคนที่จะออกนอก รพ.ทั้งเดินเท้าและรถยนต์ทุกคัน แต่ก็ไม่พบ ซึ่งตนคาดว่าคนร้ายน่าจะลักเด็กไปช่วงประมาณ 03.00 น. เศษและหลบหนีออกไปนอกรพ.แล้ว ซึ่งตนก็ยังได้ประสานไปยัง สภ.อ.เมืองนครปฐม ให้ช่วยติดตามผู้ต้องสงสัยในคืนเดียวกัน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ

ส่วนนางศรี หลังบอกมีอาการอ่อนเพลียมาก และน่าบอกว่าน่าจะถูกคนร้ายป้ายยาก่อนเอาบุตรไป ตอนนี้ได้นำปัสสาวะไปตรวจว่าจะพบสารแปลกปลอมหรือไม่ซึ่งอีกไม่กี่วันผลตรวจปัสสาวะน่าจะออกมาว่าจะมีอะไรผิดปรกติหรือไม่

สำหรับ นางศรี คนไข้ได้เข้ามาทำการคลอดบุตรเป็นคนที่ 6 แล้ว หลังจากที่เข้ามาทำการคลอดลูก 9 ครั้ง และแท้งไป 3 ครั้ง ซึ่งทางโรงพยาบาลนครปฐม ก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้พยายามทำการประสานงานให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มที่ในการสืบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้
 
หากว่าได้ตัวเด็กมาเมื่อไหร่ ทางโรงพยาบาลนครปฐมจะได้ทำการตรวจดีเอ็นเอ เพื่อตรวจให้แน่ชัดว่าเด็กที่ได้คืนมาคือบุตรที่แท้จริงของสองสามีภรรยา ก่อนที่จะส่งมอบเด็กคืนให้กับพ่อแม่ โดยทางโรงพยาบาลจะเป็นผู้ออกค่าใช่จ่ายให้ทั้งหมด โดยเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดมาแล้วที่โรงพยาบาลนครปฐมเมื่อหลายปีก่อน แต่จบด้วยการได้บุตรคืนเพราะคนร้ายเป็นญาติกันเอง แต่ กรณีทั้งสองสามีภรรยา ก็ยังไม่ทราบว่าคนร้ายคือใคร

นพ.พินิจ หรัญโชติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ ทำหนังสือชี้แจงไปยังกระทรวงสาธารณะสุขแล้ว และได้เตรียมการวางมาตรการคุมเข้มญาติของคนไข้ที่จะเข้าออกในรพ.นครปฐม ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่าแม้เราจะมีมาตรการแล้วแต่ก็อาจจะมีช่องโหว่ให้กับคนร้ายได้แอบปะปนเข้ามากับญาติคนไข้ได้ ซึ่งตนจะได้จัดให้มีการทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้ระวังการลักเด็กติดไว้บริเวณหัวเตียงคนไข้ และจะได้ทำการติดกล้องวงจรปิดไว้อีกด้วยในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนด้านเจ้าหน้าที่และพยาบาล ตนจะได้มีการเรียกประชุม อบรม และวางมาตรการเข้มงวดกวดขันต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นใน รพ.นครปฐมอีก

พ.ต.ท.สานิต ชินจอหอ พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเหตุตนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายและพยานแล้วรวมถึงเจ้าหน้าที่พยาบาลที่รับผิดชอบดูแลเวรในคืนเกิดเหตุ ซึ่งทราบว่าคนร้ายเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 20 ปีเศษ ซึ่งมากับเด็กหญิงวัย 10 ปีเศษ ซึ่งตรงกับคำให้การของผู้เสียหายและพยาน ตนจึงได้ให้นางศรี มาทำการสเก็ตซ์ภาพคนร้ายแล้วโดยตนได้ให้ภาพสเก็ตซ์ดังกล่าวไปยังฝ่ายสืบสวนเพื่อจะได้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.ท.ไชยศ มุกดาหาญ สว.สส.กล่าวว่า จากการสืบสวนเบื้องต้น ตนกำลังตั้งข้อสันนิษฐานว่า การลักเด็กครั้งนี้อาจจะมีเบื้องหลังก็เป็นได้ เนื่องจากเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ทางด้านนายนพรัตน์ บิดาของทารกที่หายไป ได้มีเรื่องแย่งชิงมรดกกันกับญาติ จนถึงขึ้นโรงขึ้นศาลและทางฝ่ายนายนพรัตน์ก็แพ้คดี แต่ทางฝ่ายญาติที่ชนะคดี อาจจะยังไม่หายแค้นเพราะต้องทำให้เสียเวลาไปขึ้นโรงขึ้นศาล จึงอาจจะเป็นไปได้ว่าการลักเด็กครั้งอาจจะเป็นการลักเด็กเพื่อกลั่นแกล้ง ส่วนอีกประเด็นอาจจะเป็นไปได้เกี่ยวกับแก๊งลักเด็ก ซึ่งตนจะได้ทำการติดตามคนร้ายดังกล่าวและติดตามญาติของนายนพรัตน์มาทำการสอบสวนต่อไป เพื่อติดตามคนร้ายและเด็กที่ถูกลักไปมาให้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น