ศูนย์ข่าวศรีราชา-โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชลบุรีหลายแห่งไม่เห็นด้วยกับการถ่ายโอน โรงเรียนในสังกัดพื้นที่การศึกษาไปสังกัดองค์กรท้องถิ่น หวั่นไม่เจริญก้าวและอาจถูกลิดรอนสิทธิประโยชน์ที่ควรจะได้ พร้อมแจงเห็นด้วย ครม.ที่เลื่อนโครงการดังกล่าวออกไป
นานสิทธิชัย อิ่มอ่อง ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีราชา กล่าวเกี่ยวกับเรื่องการถ่ายโอนโรงเรียนจากสังกัดพื้นที่การศึกษามาสังกัดองค์กรท้องถิ่นว่า เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันมากในหมู่ครู-อาจารย์ ในหลายพื้นที่ที่จะต้องถูกถ่ายโอน เนื่องจากในขณะนี้ทุกคนยังไม่มั่นใจว่าการถ่ายโอนนั้นจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เกือบ100% มีปัญหาในเรื่องของการไม่เห็นด้วย
เนื่องจากเห็นว่าจะมีใครออกมาการันตรีได้หรือไม่ว่า หากมีการถ่ายโอนไปแล้วเราจะอยู่กันอย่างมีความสุข ซึ่งในขณะนี้กฎหมายก็ยังไม่ออกมาชัดเจน ซึ่งคงต้องรอดูกันไปก่อน เพราะยังไม่มีการสรุปที่ชัดเจนว่า หากไปแล้วในเรื่องของกองทุนครูจะเป็นอย่างไร ความก้าวหน้าจะมากน้อยแค่ไหนแต่ในความคิดเห็นส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ดีแน่นอน เพราะว่าการรับเงินเดือนข้าราชการนั้นเงินจะต้องมีการไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วอยู่ๆ เงินตรงนี้หายไป
ดังนั้น จึงเห็นว่ายังไม่น่าที่จะมีการพูดถึงกันในขณะนี้รอให้ทุกอย่างชัดกว่านี้และขอให้มีการคิดและไตร่ตรองกันอย่างรอบครอบก่อน เพราะไม่เช่นนั้นคณะครู –อาจารย์ที่ตั้งใจทำงานกันมาจะเสียความรู้สึกและล่าสุดทราบว่า ครม.มีมติให้เลือนการถ่ายโอนโรงเรียน ซึ่งจริงแล้วเห็นว่ายังไม่ควรนำ เรื่องดังกล่าวมาพูดคุยกัน และหากมีการถ่ายโอนกันจริง ๆ คิดว่าทางคณะครู อาจารย์ ไม่น่าจะมาและทางผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่สามารถตอบแทนได้ เพราะว่าหากถ่ายโอนแล้วจะดี และหากไม่ดีขึ้นมาครูเสียโอกาสในการก้าวหน้าในสายงาน แต่หากบอกว่า ไม่ดี แต่พอไปแล้วดีขึ้นมาซึ่งอาจจะได้โบนัส 3 เดือนเราก็จะเสียอีกเพราะแนะนำไม่ถูกต้อง
ส่วนทางด้านอำเภอบางละมุง ซึ่งที่ผ่านมาทางเมืองพัทยาจะขอรับภารกิจการ ถ่ายโอนการศึกษาจากเขตการศึกษาพื้นที่จังหวัดชลบุรี เขต 3 โดยเอาโรงเรียนบางละมุง และโรงเรียนโพธิสัมพันธ์มาอยู่ในสังกัดของเมืองพัทยา ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์การถ่ายโอนภารกิจของกฎหมายกระจายอำนาจนั้น ซึ่งทางคณะครู -อาจารย์ ของทั้งสองโรงเรียนก็ไม่เห็นด้วย ซึ่งมีความคิดที่ขัดแย้งต่อแนวทางดังกล่าว เนื่องจากหวั่นปัญหาในเรื่องศักยภาพ การบริหารงานบุคคลของเมืองพัทยาที่จะเข้ามากำกับดูแลโรงเรียนขนาดใหญ่
เพราะเมืองพัทยาเป็นองค์กรท้องถิ่นที่อาจจะไม่มีความรู้โดยตรงเหมือนกับสังกัดกับพื้นที่การศึกษาหากมีปัญหาอะไรจะคุยกันไม่รู้เรื่อง รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ของครูที่จะได้รับซึ่งอาจแตกต่างกันหลังมีการถ่ายโอนภารกิจ
นานสิทธิชัย อิ่มอ่อง ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีราชา กล่าวเกี่ยวกับเรื่องการถ่ายโอนโรงเรียนจากสังกัดพื้นที่การศึกษามาสังกัดองค์กรท้องถิ่นว่า เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันมากในหมู่ครู-อาจารย์ ในหลายพื้นที่ที่จะต้องถูกถ่ายโอน เนื่องจากในขณะนี้ทุกคนยังไม่มั่นใจว่าการถ่ายโอนนั้นจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เกือบ100% มีปัญหาในเรื่องของการไม่เห็นด้วย
เนื่องจากเห็นว่าจะมีใครออกมาการันตรีได้หรือไม่ว่า หากมีการถ่ายโอนไปแล้วเราจะอยู่กันอย่างมีความสุข ซึ่งในขณะนี้กฎหมายก็ยังไม่ออกมาชัดเจน ซึ่งคงต้องรอดูกันไปก่อน เพราะยังไม่มีการสรุปที่ชัดเจนว่า หากไปแล้วในเรื่องของกองทุนครูจะเป็นอย่างไร ความก้าวหน้าจะมากน้อยแค่ไหนแต่ในความคิดเห็นส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ดีแน่นอน เพราะว่าการรับเงินเดือนข้าราชการนั้นเงินจะต้องมีการไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วอยู่ๆ เงินตรงนี้หายไป
ดังนั้น จึงเห็นว่ายังไม่น่าที่จะมีการพูดถึงกันในขณะนี้รอให้ทุกอย่างชัดกว่านี้และขอให้มีการคิดและไตร่ตรองกันอย่างรอบครอบก่อน เพราะไม่เช่นนั้นคณะครู –อาจารย์ที่ตั้งใจทำงานกันมาจะเสียความรู้สึกและล่าสุดทราบว่า ครม.มีมติให้เลือนการถ่ายโอนโรงเรียน ซึ่งจริงแล้วเห็นว่ายังไม่ควรนำ เรื่องดังกล่าวมาพูดคุยกัน และหากมีการถ่ายโอนกันจริง ๆ คิดว่าทางคณะครู อาจารย์ ไม่น่าจะมาและทางผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่สามารถตอบแทนได้ เพราะว่าหากถ่ายโอนแล้วจะดี และหากไม่ดีขึ้นมาครูเสียโอกาสในการก้าวหน้าในสายงาน แต่หากบอกว่า ไม่ดี แต่พอไปแล้วดีขึ้นมาซึ่งอาจจะได้โบนัส 3 เดือนเราก็จะเสียอีกเพราะแนะนำไม่ถูกต้อง
ส่วนทางด้านอำเภอบางละมุง ซึ่งที่ผ่านมาทางเมืองพัทยาจะขอรับภารกิจการ ถ่ายโอนการศึกษาจากเขตการศึกษาพื้นที่จังหวัดชลบุรี เขต 3 โดยเอาโรงเรียนบางละมุง และโรงเรียนโพธิสัมพันธ์มาอยู่ในสังกัดของเมืองพัทยา ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์การถ่ายโอนภารกิจของกฎหมายกระจายอำนาจนั้น ซึ่งทางคณะครู -อาจารย์ ของทั้งสองโรงเรียนก็ไม่เห็นด้วย ซึ่งมีความคิดที่ขัดแย้งต่อแนวทางดังกล่าว เนื่องจากหวั่นปัญหาในเรื่องศักยภาพ การบริหารงานบุคคลของเมืองพัทยาที่จะเข้ามากำกับดูแลโรงเรียนขนาดใหญ่
เพราะเมืองพัทยาเป็นองค์กรท้องถิ่นที่อาจจะไม่มีความรู้โดยตรงเหมือนกับสังกัดกับพื้นที่การศึกษาหากมีปัญหาอะไรจะคุยกันไม่รู้เรื่อง รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ของครูที่จะได้รับซึ่งอาจแตกต่างกันหลังมีการถ่ายโอนภารกิจ