ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กรรมาธิการวุฒิสภา ยอมรับโรงแรมลอกแบบวัด เป็นปัญหาเร่งด่วนต้องแก้ไข เตรียมเดินหน้ารวบรวมข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อพิจารณาหาข้อสรุป ชี้ไม่มีที่ใดในโลกทำอย่างนี้ แนะชาวบ้านฟ้องศาลปกครอง ฐานทำลายภูมิปัญญาท้องถิ่น ขณะเดียวกันเสนอสภาสถาปนิก กำหนดจรรยาบรรณควบคุมการออกแบบ ไม่ให้มีการนำสถาปัตยกรรมทางศาสนาไปใช้อย่างลบหลู่ หากละเมิดให้ยึดใบอนุญาต
ตามที่เครือข่ายชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการศึกษา สังคม ศาสนา และวัฒนธรรม วุฒิสภา(กมธ.) กรณีที่มีโรงแรมและสถานบริการในจังหวัดเชียงใหม่ นำสถาปัตยกรรมและศิลปะทางพระพุทธศาสนาไปใช้เป็นเครื่องตกแต่ง โดยเฉพาะกรณีโรงแรมดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่ทำการจำลองวัดไหล่หินหลวงจากจังหวัดลำปางมาอยู่ภายในโรงแรม เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและลบหลู่ศาสนา
วันนี้(29 พ.ย.)ที่ห้องประชุมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ วัดสวนดอก นางเพ็ญศักดิ์ จักษุจินดา รองประธานกรรมาธิการการศึกษา สังคม ศาสนา และวัฒนธรรม วุฒิสภา พร้อมคณะ ได้ประชุมรับฟังข้อมูลและความคิดเห็น ร่วมกับเครือข่ายชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่และคณะศรัทธาวัดไหล่หินหลวง จังหวัดลำปาง เกี่ยวกับกรณีการนำเอาสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนาไปใช้ในเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้เครือข่ายชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่ และคณะศรัทธาวัดไหล่หินหลวง จังหวัดลำปาง ได้ยื่นข้อเสนอต่อคณะกรรมาธิการการศึกษา สังคม ศาสนา และวัฒนธรรม วุฒิสภา โดยมีข้อเรียกร้อง คือ 1.ให้ผลักดันให้เกิดกฎหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดยไม่ให้มีการนำสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนาไปใช้อย่างไม่เหมาะสม 2.จัดให้มีการทบทวนและปรับปรุงกฎระเบียบ ที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา
3.ควรมีการจัดงบประมาณสนับสนุน ให้เกิดการศึกษา สร้างองค์ความรู้ และการเผยแผ่องค์ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เพื่อเผยแผ่ต่อสาธารณชน และ 4.ให้มีการทบทวนกฎหมายในปัจจุบันให้ครอบคลุมจารีตประเพณี อันเป็นกฎหมายที่ถือปฏิบัติมายาวนาน โดยไม่ได้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
นางเพ็ญศักดิ์ กล่าวว่า จากการรับฟังข้อมูลเบื้องต้น ในฐานะชาวพุทธรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งกับการกระทำในลักษณะดังกล่าว โดยเฉพาะกรณีการสร้างโรงแรมลอกเลียนแบบวัด ซึ่งเชื่อว่าผู้ที่ทำการก่อสร้างเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ดี แต่รู้ว่าไม่มีข้อกฎหมายบังคับ จึงได้ลงมือกระทำไป ทั้งนี้เห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องเร่งหาทางป้องกันแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดการเอาอย่างกันอย่างแพร่หลาย
สำหรับการดำเนินการในส่วนของคณะกรรมาธิการฯ จากนี้ไปจะรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมให้ครบถ้วน ด้วยการแบ่งคณะทำงานหาข้อมูล เพื่อศึกษาและพิจารณาในเชิงลึก ก่อนที่จะสรุปข้อมูลเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ ว่าจะมีมติอย่างไรต่อเรื่องนี้ ซึ่งกระบวนการนี้คงจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่จะเร่งให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดและดีที่สุด
"การนำเอาสิ่งที่เคารพและเป็นจิตวิญญาณของผู้คน มาใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งสถานประกอบการ เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะไม่มีที่ไหนๆ เขาทำกัน" รองประธานกรรมาธิการการศึกษา สังคม ศาสนา และวัฒนธรรม วุฒิสภา กล่าว
ฟ้องศาลปกครองฐานละเมิดภูมิปัญญาท้องถิ่น
นอกจากนี้นางเพ็ญศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีการจำลองวัดไว้ในโรงแรมว่า ชุมชนที่เป็นเจ้าของวัดที่ถูกจำลองอาจจะอาศัยกระบวนการของศาลปกครอง เข้ามาช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาได้ แต่จะต้องมีการรวบรวมข้อมูลหลักฐาน ที่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่า โรงแรมกระทำความผิดจริง ในการละเมิดสิทธิองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งในเรื่องนี้หากชุมชน ต้องการที่จะดำเนินการอย่างแท้จริง ในส่วนของคณะกรรมาธิการฯก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
ขณะที่นายชัชวาลย์ พนัสประดิษฐ์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการการศิลปะและวัฒนธรรมวุฒิสภา และสมาชิกสภาสถาปนิก แสดงความเห็นว่า เนื่องจากการนำเอาสถาปัตยกรรมและศิลปะ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาไปใช้ ส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับสถาปนิกโดยตรง
ทั้งนี้ ทางออกหนึ่ง ในการป้องกันแก้ไขปัญหา สภาสถาปนิกน่าจะมีการออกจรรยาบรรณ มาควบคุมการออกแบบของสถาปนิก ที่จะต้องคำนึงและมีจิตสำนึกต่อวัฒนธรรม และสิ่งที่ผู้คนเคารพบูชา ว่ามีข้อจำกัดมากน้อยเพียงใด ซึ่งหากมีการละเมิด อาจจะมีการพิจารณายึดใบอนุญาตประกอบอาชีพได้ โดยเท่าที่ทราบเวลานี้ ในสภาสถาปนิกได้เริ่มมีการเคลื่อนไหวผลักดันในเรื่องนี้กันแล้ว
"ที่จริงการลอกเลียนแบบสถาปัตยกรรม และศิลปะที่เกี่ยวข้องกับศาสนา มีการทำกันมานานแล้ว แต่เป็นการกระทำในลักษณะที่สมควร เช่น เพื่อการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม แต่กรณีการนำไปใช้งานในโรงแรม อาจจะเป็นการนำไปใช้ในที่ที่ไม่เหมาะสม" นายชัชวาลย์กล่าว