อุดรธานี-ร.ต.ท.อดีตตำรวจสันติบาลคอตก หลังตำรวจนำไปฝากขังญาติ เตรียมหลักทรัพย์ประกันตัว แต่ศาลคัดค้านถูกส่งตัวเข้าเรือนจำเป็นคนแรก
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.อุดรธานี ดำเนินคดีกับขบวนการ “แชร์ลูกโซ่เห็ดหลินจือ” ของ บ.เอราวัณฟู๊ดเน็ทเวิร์ค จำกัด และ หจก.สุพรรณฉัตร โดยจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว 2 คน คือนายปรีชา นนลือชา อายุ 33 ปี รองประธานกรรมการ นายวัลนะเรศ สุวะนาม อายุ 31 ปี กรรมการอำนวยการ ได้ให้การปฏิเสธขอให้การชั้นศาล และรับการมอบตัวของ ร.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มิ่งสอน อายุ 61 ปี ที่ปรึกษากฎหมาย อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนปฏิเสธไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ถูกแอบอ้าง และออกตามล่าผู้ถูกออกหมายจับอีก 6 คน โดยคาดว่าจะมีผู้เสียหายจำนวนมาก ค่าเสียหายกว่า 400 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองอุดรธานี ได้ควบคุมตัว ร.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มิ่งสอน อดีตตำรวจสันติบาลอุดรธานี พร้อมผู้ต้องขังคดีอื่นๆ ไปขออำนาจฝากขังต่อที่ศาล อุดรธานี โดยที่มีญาติของ ร.ต.ท.รุ่งศักดิ์ฯรออยู่พร้อมกับนำหลักทรัพย์ต่างๆมาขอยื่นประกันตัว แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ด้วยเหตุผลเดียวกับผู้ต้องหาอีก 2 คนแรก และให้ส่งตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำกลางอุดรธานี
พ.ต.ท.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ พนักงานสอบสวน สบ.3 สภ.อ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ในวันนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มอีก 30 คน โดยมาจาก จ.อุดรธานี และ จ.เลย ทุกคนก็จะถูกชักจูงหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน แต่มีอยู่รายหนึ่งถูกหลอกให้ลงทุกถึง 5 แสนบาท ซึ่งคาดว่าผู้เสียหายคงจะทยอยเข้ามาแจ้งความเรื่อย ๆ
ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้แบ่งชุดรับแจ้งความออกเป็น 2 ชุดรวม 14 นาย เพื่อสลับเปลี่ยนกัน เนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก
พ.ต.ท.ฉกาจน์ เปิดเผยอีกว่า จากการสอบสวน ร.ต.ท.รุ่งศักดิ์ ฯ ได้ให้การว่า ถูกชักจูงหลอกลวงเช่นกัน โดยสมัครสมาชิกไป 1 รหัสในราคา 10,500 บาทเมื่อเดือนกรกฎาคม 2547 ที่สำนักงานเก่าอยู่บ้านเก่าน้อย ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี ตอนนั้นมีผู้บริหารอยู่ 4 คนคือ 1.นายอภิรักษ์ หรืออุทิศ ลิ่มมังกูร ผู้ต้องที่หลบหนีอยู่ 2.นายวันละเรศ สุวะนาม ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม 3.นายปรีชา นนลือชา ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแล้ว และ 4.นายฉัตรชัย ราชแวง ผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ ต่อมาย้ายสำนักงานมาอยู่ที่ชุมชนหนองเตาเหล็ก ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา
พ.ต.ท. ฉกาจน์ กล่าวด้วยว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าบริษัทฯเห็นว่า ร.ต.ท.รุ่งศักดิ์ เป็นตำรวจ จึงได้ชักชวนให้มาเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมาย แล้วนำรูปถ่ายไปติดไว้ในสำนักงาน ซึ่งทาง ร.ต.ท.รุ่งศักดิ์ ได้มีหนังสือไปถึงบริษัทฯขอให้นำรูปถ่ายออก และไม่ขอเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมาย โดยมีเอกสารมายืนยันด้วย พร้อมกับบอกว่าตัวเองก็ยังไม่ได้รับปันผล และจะเข้ามาแจ้งความเป็นผู้เสียหายอีก 1 คน แต่มาถูกออกหมายจับกุมตัวเสียก่อน จึงตัดสินใจเข้ามอบตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า กิจการลักษณะแชร์ลูกโซ่ ในพื้นที่ จ.อุดรธานี ยังไม่ถูกดำเนินคดีอีก 1 ราย ตั้งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง บนถนนรอบเมืองฝั่งตะวันตก ผู้บริหารบางคนเคยทำงาน ที่ บ.เอราวัณฟู๊ดเน็ตเวร์ค จำกัด เปิดกิจการเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ลักษณะการดำเนินกิจการเหมือนกัน แตกต่างกันที่สินค้าที่นำมาใช้ เป็นประเภทสบู่สมุนไพร หลังจากที่ตำรวจจับกุม บ.เอราวัณฯ สำนักงานของแชร์ลูกโซ่รายนี้ ไม่เปิดดำเนินกิจการ ด้วยการนำป้ายมาติดไว้ว่าหยุด 7 วัน โดยกิจการรายนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.อุดรธานี ดำเนินคดีกับขบวนการ “แชร์ลูกโซ่เห็ดหลินจือ” ของ บ.เอราวัณฟู๊ดเน็ทเวิร์ค จำกัด และ หจก.สุพรรณฉัตร โดยจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว 2 คน คือนายปรีชา นนลือชา อายุ 33 ปี รองประธานกรรมการ นายวัลนะเรศ สุวะนาม อายุ 31 ปี กรรมการอำนวยการ ได้ให้การปฏิเสธขอให้การชั้นศาล และรับการมอบตัวของ ร.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มิ่งสอน อายุ 61 ปี ที่ปรึกษากฎหมาย อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนปฏิเสธไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ถูกแอบอ้าง และออกตามล่าผู้ถูกออกหมายจับอีก 6 คน โดยคาดว่าจะมีผู้เสียหายจำนวนมาก ค่าเสียหายกว่า 400 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองอุดรธานี ได้ควบคุมตัว ร.ต.ท.รุ่งศักดิ์ มิ่งสอน อดีตตำรวจสันติบาลอุดรธานี พร้อมผู้ต้องขังคดีอื่นๆ ไปขออำนาจฝากขังต่อที่ศาล อุดรธานี โดยที่มีญาติของ ร.ต.ท.รุ่งศักดิ์ฯรออยู่พร้อมกับนำหลักทรัพย์ต่างๆมาขอยื่นประกันตัว แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ด้วยเหตุผลเดียวกับผู้ต้องหาอีก 2 คนแรก และให้ส่งตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำกลางอุดรธานี
พ.ต.ท.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ พนักงานสอบสวน สบ.3 สภ.อ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ในวันนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มอีก 30 คน โดยมาจาก จ.อุดรธานี และ จ.เลย ทุกคนก็จะถูกชักจูงหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน แต่มีอยู่รายหนึ่งถูกหลอกให้ลงทุกถึง 5 แสนบาท ซึ่งคาดว่าผู้เสียหายคงจะทยอยเข้ามาแจ้งความเรื่อย ๆ
ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้แบ่งชุดรับแจ้งความออกเป็น 2 ชุดรวม 14 นาย เพื่อสลับเปลี่ยนกัน เนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก
พ.ต.ท.ฉกาจน์ เปิดเผยอีกว่า จากการสอบสวน ร.ต.ท.รุ่งศักดิ์ ฯ ได้ให้การว่า ถูกชักจูงหลอกลวงเช่นกัน โดยสมัครสมาชิกไป 1 รหัสในราคา 10,500 บาทเมื่อเดือนกรกฎาคม 2547 ที่สำนักงานเก่าอยู่บ้านเก่าน้อย ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี ตอนนั้นมีผู้บริหารอยู่ 4 คนคือ 1.นายอภิรักษ์ หรืออุทิศ ลิ่มมังกูร ผู้ต้องที่หลบหนีอยู่ 2.นายวันละเรศ สุวะนาม ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม 3.นายปรีชา นนลือชา ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแล้ว และ 4.นายฉัตรชัย ราชแวง ผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ ต่อมาย้ายสำนักงานมาอยู่ที่ชุมชนหนองเตาเหล็ก ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา
พ.ต.ท. ฉกาจน์ กล่าวด้วยว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าบริษัทฯเห็นว่า ร.ต.ท.รุ่งศักดิ์ เป็นตำรวจ จึงได้ชักชวนให้มาเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมาย แล้วนำรูปถ่ายไปติดไว้ในสำนักงาน ซึ่งทาง ร.ต.ท.รุ่งศักดิ์ ได้มีหนังสือไปถึงบริษัทฯขอให้นำรูปถ่ายออก และไม่ขอเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมาย โดยมีเอกสารมายืนยันด้วย พร้อมกับบอกว่าตัวเองก็ยังไม่ได้รับปันผล และจะเข้ามาแจ้งความเป็นผู้เสียหายอีก 1 คน แต่มาถูกออกหมายจับกุมตัวเสียก่อน จึงตัดสินใจเข้ามอบตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า กิจการลักษณะแชร์ลูกโซ่ ในพื้นที่ จ.อุดรธานี ยังไม่ถูกดำเนินคดีอีก 1 ราย ตั้งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง บนถนนรอบเมืองฝั่งตะวันตก ผู้บริหารบางคนเคยทำงาน ที่ บ.เอราวัณฟู๊ดเน็ตเวร์ค จำกัด เปิดกิจการเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ลักษณะการดำเนินกิจการเหมือนกัน แตกต่างกันที่สินค้าที่นำมาใช้ เป็นประเภทสบู่สมุนไพร หลังจากที่ตำรวจจับกุม บ.เอราวัณฯ สำนักงานของแชร์ลูกโซ่รายนี้ ไม่เปิดดำเนินกิจการ ด้วยการนำป้ายมาติดไว้ว่าหยุด 7 วัน โดยกิจการรายนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ