ศูนย์ข่าวศรีราชา -เครือข่ายเคเบิลทีวีชลบุรี สยายเครือข่ายเคเบิลในพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อสร้างอำนาจต่อรองในการจัดซื้อลิขสิทธิ์รายการ และสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจ พร้อมตั้งกก.ตั้งบริหาร ตรวจสอบผู้ประกอบการไม่ให้กระทำผิดและละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่น ขณะเดียวกันจะเร่งสร้างเครือข่าย ให้กับเคเบิลระยอง และเร่งแผนจัดตั้งโฮลดิ้ง
นายวรินทร์ เทียมจรัส ที่ปรึกษานายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย เปิดเผย ว่า เมื่อเร็วๆนี้ ผู้ประกอบการเคเบิลทีวี 19 บริษัท 23 สถานีในจังหวัดชลบุรี ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือ เข้าเครือข่ายใบอนุญาตผู้ประกอบการกิจกรรมเคเบิลทีวี จังหวัดชลบุรี หลังจากก่อนหน้านี้ได้จัดให้มีการลงสัตยาบันว่าจะไม่ละเมิดลิขสิทธิ์รายการผู้อื่น
จนกระทั่งล่าสุด คณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ หรือ กกช.เห็นชอบกับการร่วมเครือข่ายของผู้ประกอบการในจังหวัดชลบุรี โดยไม่ขอเข้าร่วมในโครงข่ายใบอนุญาตชั่วคราวของกรมประชาสัมพันธ์
ในพิธีลง นามความร่วมมือดังกล่าว ได้สรุปว่า จะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารเครือข่าย เพื่อตรวจสอบผู้ประกอบการที่เข้าร่วม ไม่ให้ดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ผิดกฎหมาย และไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของกรมประชาสัมพันธ์ ขณะเดียวกันจะต้องไม่ละเมิดลิขสิทธิ์รายการของผู้อื่นอย่างชัดเจน
สำหรับการกำหนดโทษผู้ประกอบการ ซึ่งเข้าร่วมเครือข่าย ที่ทำผิดและละเมิดข้อบังคับ ในขั้นแรกคณะกรรมการบริหาร จะแจ้งให้หยุดดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง จากนั้นจะประณามการกระทำความผิด ผ่านเครือข่ายเคเบิลทีวีด้วยกันเอง ก่อนทำหนังสือแจ้งไปยังกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อร้องให้ขับผู้ประกอบการรายดังกล่าวออกจากเครือข่าย
“พิธีลงนามร่วมกันในวันนี้ เป็นการทำข้อตกลงร่วมกัน เพื่อบันทึกเป็นหลักฐานใน การถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นต้นแบบในการรวมเครือข่ายให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในประเทศ ที่สำคัญขณะนี้เรากำลังชักชวนให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในจัง หวัดระยอง สร้างเครือข่ายของตนเอง เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายในภาคตะวันออก ซึ่งจะ เป็นการลดต้นทุนและมีงานที่เป็นลิขสิทธิ์ของตนเอง ”
นายวรินทร์ ยังเผยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งโฮลดิ้ง หรือบริษัทกลางซึ่งจะทำหน้าที่ในการจัดซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ และรายการต่างๆ จากทั้งในและต่างประเทศ ว่า หลังจากการจัดทำบันทึกข้อตกลงต่างๆ ระหว่างผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในจังหวัดชลบุรีเสร็จสิ้นลง ก็จะจัดตั้งโฮลดิ้งต่อทันทีแต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ผู้ประกอบการแต่ละรายจะต้องร่วมทุนรายละเท่าใด