xs
xsm
sm
md
lg

เจาะการเมืองชลบุรี หลัง"เป๊าะ"สูญเสีย"กำนันน้อง"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การเมืองเรื่องการหาเสียงเลือกตั้งในจังหวัดชลบุรี ทวีความเข้มข้นขึ้นทันที หลังการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ของ “กำนันน้อง” หรือนายวัฒนา ตั้งประกอบ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านสวน หัวคะแนนใหญ่ของ “กำนันเป๊าะ” ที่ร่วมหาเสียงเคียงบ่าเคียงไหล่กันมายาวนานกว่า 20 ปี

กำนันน้อง เป็นเจ้าของวลีฮิตโดนใจผู้คนที่มักเอ่ยเสมอว่า“รู้หน้าไม่รู้ใจ” และด้วยความที่มีศักดิ์เป็นน้องเขยของ “กำนันเป๊าะ” หรือ นายสมชาย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข ทำให้ กำนันน้องมีความกว้างขวางเป็นเงาตามตัวไปด้วย และสืบทอดตำแหน่ง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดชลบุรี ชมรมฯที่เสริมบารมี มาจาก “กำนันเป๊าะ” ตั้งแต่ปีพ.ศ.2531

ด้วยการสนับสนุนของกำนันเป๊าะ ทำให้ตำแหน่งทางสังคม-การเมืองของกำนันน้อง มีมากมาย เช่น ประธานสหกรณ์บริการเดินรถเมืองชลบุรีมาตั้งแต่พ.ศ.2529 รวมทั้งตำแหน่งทางสังคมเมืองอื่นๆ มากกว่า10 ตำแหน่ง ทั้งยังเป็นอดีตนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนชลราษฎรอำรุง ตั้งแต่ปีพ.ศ.2532 ติดต่อกันหลายสมัย เมื่อกำนันน้องรับหาเสียงให้ใคร ไม่ว่าจะเป็นระดับส.ส. สมาชิกสภาเทศบาล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด จึงมักจะสมหวังเสมอ

ยิ่งยืนระยะเวลานานมากว่า 20 ปี ที่ได้สร้างฐานหัวคะแนนตามตำบล หมู่บ้านต่างๆ ในแต่ละพื้นที่แต่ละอำเภอของจังหวัดชลบุรีร่วมกับกำนันเป๊าะมาโดยตลอด ทำให้กำนันน้องมีผู้คนรู้จักค่อนเมือง

หลังการเสียชีวิตของกำนันน้อง ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า การเมืองในจังหวัดชลบุรี ทั้งระดับท้องถิ่นสภาเล็กและการเมืองระดับสภาใหญ่จะเป็นอย่างไร ?

ในระดับท้องถิ่น คอการเมืองเพ่งไปที่ ตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านสวน มีคำถามว่าใครจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน ?

เทศบาลตำบลบ้านสวน มีสมาชิกสภาเทศบาลจำนวน 12 คน มีเทศมนตรีได้ 2 ตำแหน่ง ก่อนกำนันน้องเสียชีวิต มีนายสมมิตร โสภณชีวิน นาย สุนทร จำเนียรศิลป์ เป็นเทศมนตรี นายศักดิ์ชาย ไพบูลย์นันทพงษ์ เป็นประธานสภาเทศบาล

มีความแน่ชัดขึ้นมาบ้างแล้วว่า ตัวเก็งที่จะได้เป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลบ้านสวนสืบต่อจากกำนันน้อง อาจจะเป็นนายศักดิ์ชาย ไพบูลย์นันทพงษ์ ประธานสภาฯ หรือนายสมมิตร โสภณชีวิน เทศมนตรี ภายในหน้าอีก 45 วันข้างหน้า แต่ที่สำคัญไม่ว่าใครจะขึ้นเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลบ้านสวนก็ตามที คะแนนเสียงในเขตนี้จะต่อเนื่องเชื่อมโยงกันไปถึงคะแนนเสียงที่จะลงให้ผู้สมัครส.ส.เขตเป็นสำคัญ

แต่ไม่ว่าข่าวจะซุบซิบออกมาอย่างไร ผลสุดท้าย “กำนันเป๊าะ” จะเป็นผู้ชี้ขาด.

สำหรับการเมืองสนามใหญ่ การเลือกตั้งผู้แทนราษฎรต้นปี 2548 ซึ่งเหลือเวลาประมาณ 3 เดือนกว่าๆ ขณะนี้พรรคไทยรักไทย เปิดตัวผู้สมัครเขตต่างๆ ของชลบุรีทั้ง 7 เขตไปแล้ว โดยผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นส.ส.เก่าและทายาทของอดีตส.ส. “กลุ่มชลบุรี” ที่ย้ายมาจากพรรคชาติไทย รวมถึงบุตรชายของกำนันน้อง คือนายอัมรินทร์ ตั้งประกอบ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จะลงสมัครเข้ารับการเลือกตั้งที่เขตเลือกตั้งที่ 2 ด้วย

คำถามที่เกิดขึ้น คือเมื่อกำนันเป๊าะ สูญเสียกำนันน้องไปแล้ว การหาเสียงเลือกตั้งส.ส.เขตทั้ง 7 เขตจะเป็นอย่างไร จะมีผลกระทบหรือไม่

แน่นอน กำนันเป๊าะ ย่อมต้องเหนื่อยมากขึ้นและออกหาเสียงอย่างหนักกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม การวางตัวส.ส.เขตทั้ง 7 คน ล้วนแต่เป็นผู้สมัครที่มีฐานเสียงแน่นหนาไม่ว่าจะเป็น ส.ส.สง่า ธนะสงวนวงค์ ที่เขตเลือกตั้งที่ 1 เขตเดิม ส.ส.วิทยา คุณปลื้ม ส.ส. สุรสิทธิ์ นิติวุฒิวรรักษ์ ส.ส.อิทธิพล คุณปลื้ม ที่เขต 5 เขตเดิม นายชาญยุทธ์ เฮงตระกูล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ลงเขต 6 และนายปรเมศร์ งามพิเชษฐ์ ทายาทของอดีตส.ส.จรูญหรือสันต์ศักดิ์ งามพิเชษฐ์ ลงเขต 7

พื้นที่เขต 7 ขณะนี้มองกันว่ามีปัญหาทับซ้อนระหว่างกลุ่มชลบุรี กับ พล.ร.ท.โรช วิภัติภูมิประเทศ ที่เป็นส.ส.สังกัดพรรคไทยรักไทยอยู่แต่เดิม แต่เข้าใจว่าจะมีการตกลงกันเพื่อให้พล.ร.ท.โรช ไปลงสมัครสมาชิกวุฒิสภาแทนในอนาคต เช่นเดียวกับนายสมชาย สหชัยรุ่งเรือง ส.ส.เขต 3 และ นายสันต์ศักดิ์ งามพิเชษฐ์ อดีตส.ส. จะหันไปสมัครสมาชิกวุฒิสภาแทน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องของอนาคต และคงจะเกิดความกระจ่างในไม่ช้านี้

แต่สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 7 หากคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ยังไม่ตัดสินปัญหานี้ ก็จะเกิดการขับเคี่ยวกัน ระหว่างส.ส.เดิม กับผู้สมัครจากกลุ่มชลบุรี และพื้นที่เขต 7 จะมีปัญหาแน่ โดยเฉพาะพื้นที่นี้เป็นเขตทหารเรือและทำให้นายสันต์ศักดิ์ งามพิเชษฐ์ สอบตกมาแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นขณะนี้ น.ส.เสาวลักษณ์ สุริยาทิพย์ ให้ข่าวผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ไปแล้วว่า เธอจะลงสมัครส.ส.ในนามพรรคชาติไทย

น.ส.เสาวลักษณ์ เป็นอดีตส.ส.เก่าพื้นที่เขตอำเภอเมือง ( ก่อนที่จะมีการแบ่งพื้นที่การเลือกตั้งเป็น 7เขต) เธอเป็นลูกศิษย์ทางการเมืองของนายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานรัฐสภาฯ และเป็นคนตำบลอ่างศิลาโดยกำเนิด จึงรู้ช่องทางเขตเลือกตั้งของจังหวัดชลบุรีเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่เขต 1 และเขตเลือกตั้งที่ 2

ล่าสุดเธอลงสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีแม้จะพ่ายแพ้ให้กับ นายภิญโญ ตั๊นวิเศษ แต่เธอก็ได้คะแนนจากประชาชนมาเป็นแสนคะแนน

คอการเมืองจึงจับตาดูกันว่าน.ส.เสาวลักษณ์ สุริยาทิพย์ จะฝ่าด่านการเลือกตั้งคราวหน้าเข้ามาได้หรือไม่ ?และเธอ จะวางตัวผู้สมัครส.ส.เขตในจังหวัดชลบุรีให้กับพรรคชาติไทยอย่างไร และตัวเธอเองจะลงเขตไหน

  • เสีย “กำนันน้อง”- “เป๊าะ”ไม่สะเืทือน


  • กำนันน้อง ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับกำนันเป๊าะมายาวนาน ไม่เว้นแม้ยามขาลง ของกำนันเป๊าะ เมื่อปี 2532-2533 มีการขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลของจังหวัด กำนันเป๊าะ อยู่อันดับ 1 พร้อมกับลูกน้องใกล้ชิดอีก 11 คน กำนันน้องก็ติดอันดับ 10 ด้วย

    เวลานี้เมื่อสูญเสียกำนันน้องไป 1 คน...แน่นอนที่สุด กำนันเป๊าะต่องหาคนมาเป็นตัวแทน แต่ก่อนที่จะได้ใครขึ้นมานั้น กำนันเป๊าะ ก็ต้องออกแรงเองสักระยะไปก่อน

    แต่อาจเป็นเพราะในเขตอำเภอเมือง อำเภอพานทองและ อำเภอพนัสนิคมบางส่วน กลุ่มกำนันเป๊าะมีฐานเสียงแน่นหนาอยู่แล้ว ทำให้หลายเขตเลือกตั้ง เช่น เขต 1 เขต 2 และเขต 3 มีคะแนนจัดตั้งหลายหมื่นเสียงตุนอยู่ และรับประกันได้ว่าย่อมลงคะแนนเทให้กับส.ส.พรรคไทยรักไทย ทั้ง 3 เขตนี้ กำนันเป๊าะ จึงไม่ต้องออกแรงมากนัก

    สำหรับชลบุรีแล้ว หากผู้สมัครพรรคใดจะอาศัย “กระแส” จากเหตุการณ์ทางการเมืองใหญ่ๆ เหมือนกรณีเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 หรือ กระแสสังคม เป็นตัวนำปลุกเร้าประชาชนไปสู่การได้รับชัยชนะ เห็นทีจะทำได้ยาก หากไม่ได้ลงพื้นที่คลุกคลีประชาชน ชาวบ้าน แบบต้องต่อเนื่อง ผูกพันยาวนาน เช่นที่กำนันเป๊าะทำไว้

    อาจกล่าวได้ว่า ผู้สมัครส.ส.กลุ่มชลบุรี ที่กำนันเป๊าะวางตัวเอาไว้ ไม่ว่าจะลงสมัครในนามพรรคใด ผลออกมาก็ไม่มีความแตกต่าง ยิ่งสถานการณ์ปัจจุบัน บุคคลที่เป็นผู้นำใน 103 องค์กรท้องถิ่น อันประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลต่างๆ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลเมืองพัทยา กำนันผู้ใหญ่บ้านและยังไม่นับชมรมแม่บ้านสตรีในพื้นที่ ล้วนเป็นเครือข่ายของกำนันเป๊าะ ที่มีการปูพื้นฐานเอาไว้หนาแน่น ยากที่บรรดาหัวคะแนนของพรรคการเมืองอื่นๆ จะเข้าไปเจาะได้

    กำนันเป๊าะมีประสบการณ์การหาเสียงเลือกตั้งมาอย่างยาวนาน จากการหาเสียงให้ผู้สมัครจากหลายพรรคการเมืองที่มาไหว้วานให้ช่วยเหลือ แต่วันนี้ เป็นการหาเสียงให้กับคนที่เขาคัดเลือกด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นคนที่มีพื้นฐานโยงใยอยู่กับเครือข่ายที่เขาวางไว้ ทุกอย่างจึงน่าจะง่ายขึ้น

    การขาดกำนันน้อง หัวคะแนนคู่ใจคนสำคัญไป นับได้ว่าเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญก็จริง แต่เมื่ออาศัยฐานราก ฐานเสียงที่วางไว้แน่นหนา เป็นปึกแผ่น ยากที่นักการเมืองกลุ่มอื่นๆ จะเจาะเข้ามาได้ แม้กระแสสังคม เหตุการณ์ทางการเมืองระดับกว้าง จะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม

    กล่าวถึงมือไม้คนสำคัญของกำนันเป๊าะ ยังมีอีกหลายคนที่ร่วมหาเสียงกับกำนันเป๊าะมายาวนาน เช่น ในเขตอำเภอเมือง นายกำพล วงค์ทรายทอง (กำนันบั๊ก) ปัจจุบันเป็นนายกเทศมนตรีตำบลบางทราย ส่วนที่อำเภอศรีราชา มี กำนันแบ๊ง ศิริมงคล อดีตกำนันตำบลบ่อวิน ซึ่งเป็นคนตรงไปตรงมา นอกจากนี้แล้วบรรดาหัวคะแนนสำคัญอีกหลายคนในระยะ10 กว่าปีมานี่ก็จะขึ้นมาทดแทนกันได้ โดยไม่ต้องลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองในสภาท้องถิ่น ขณะมาช่วยเดินสายหาเสียง

    นี่เป็นการวิเคราะห์จากสถานการณ์ที่เป็นจริง หลังจากกำนันเป๊าะ สูญเสียหัวคะแนนคนสำคัญไปอีกคน หลังการสูญเสีย “กู่บรื๊อ” นายพินิจ ประจักษ์แสงสกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ไปเมื่อกลางปีนี้ ซึ่งน่าจะฟันธงได้ว่า ไม่กระทบต่อคะแนนเสียงของส.ส.เขตพรรคไทยรักไทย ภายใต้การดูแลของกำนันเป๊าะ มากนัก

    แต่ถ้าเป็นด้านลึกในจิตใจผู้คน..คงวิเคราะห์ได้ยาก
    กำลังโหลดความคิดเห็น