ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – โรงแรมดัง แชงกรี-ลา วางแผนบุกเชียงใหม่ ขึ้นอาคาร 13 ชั้น ใกล้แม่น้ำปิง ถูกคัดค้านจากครู-ผู้ปกครองโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย เพื่อนบ้านรั้วติดกัน เหตุกระทบการเรียน และเป็นย่านที่รถติดมากที่สุดในเชียงใหม่ อำเภอรับลูกชงต่อให้ มหาดไทยตัดสินพิจารณาผ่อนผัน เพราะกฎหมายห้ามสร้างติดโรงเรียน
โครงการก่อสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว ในของกลุ่มแชงกรี-ลา กำหนดสร้างเป็นอาคารสูง 13 ชั้นบริเวณถนนช้างคลาน ใกล้กับ โรงแรมดิเอ็มเพรส ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งย่านดังกล่าว เป็นย่านธุรกิจหลักใกล้ไนท์บาร์ซ่า และอีกด้านหนึ่งติดกับถนนเจริญประเทศซึ่งมีโรงเรียนใหญ่หลายแห่งตั้งอยู่เช่น โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย และ โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย
โครงการก่อสร้างโรงแรมกลุ่มแชงกรี-ลา ได้ผ่านการอนุมัติการก่อสร้างแล้ว โดยมีสถาปนิกชื่อดัง อาจารย์จุลทัศน์ กิตติบุตร เป็นผู้ออกแบบ อย่างไรก็ตามเมื่อข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหารโรงเรียนและสมาคมผู้ปกครองของโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน
ผู้บริหารโรงเรียนและสมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย ได้ออกแบบสอบถามสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองเด็กนักเรียนทุกคน เพื่อให้จังหวัดเชียงใหม่นำไปประกอบการพิจารณาอนุญาตให้สร้างโรงแรมดังกล่าวหรือไม่
แหล่งข่าวจากโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัยกล่าวว่า ได้ข้อสรุปจากทั้งทางโรงเรียนและผู้ปกครองที่ส่งกลับแบบสอบถาม โดยนายชายชาตรี ลิ้มจรูญ นายกสมาคมผู้ปกครองและครูฯมานับพันรายว่า ไม่เห็นด้วยกับการให้มีการก่อสร้างโรงแรมดังกล่าว เพราะอยู่ในระยะห่างจากแนวเขตรั้วโรงเรียนประมาณ 62 เมตร
ประเด็นสำคัญก็คือ คณะครูและผู้ปกครอง เกิดความวิตกถึงผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและความเหมาะสม เพราะบริเวณดังกล่าว เป็นย่านที่คับคั่งที่สุดของเชียงใหม่ การจราจรติดขัดเป็นประจำทั้งเช้าเย็นเพราะมีสถานศึกษารวม 4 แห่งในละแวกเดียวกัน อีกทั้ง อาคารดังกล่าวเป็นตึกที่สูงมาก กิจกรรมของโรงแรมอาจจะกระทบกับการเรียนการสอน รวมถึง การก่อสร้างที่จะต้องตอกเสาเข็มอาคารสูงถึง 13 ขั้น และระยะเวลาการก่อสร้างนับปี ย่อมกระทบต่อการเรียนการสอนของเด็กนักเรียนอย่างแน่นอน
ต่อจากนั้น โรงเรียนได้มีหนังสือแจ้งต่อนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ไปแล้วและเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2547 อำเภอเมืองเชียงใหม่และฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประชุมร่วมกันพิจารณาประเด็นดังกล่าว และจังหวัดได้สรุปข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งเหตุผลของโรงเรียนเรยีนา เสนอต่อกระทรวงมหาดไทยให้เป็นผู้พิจารณา
ทั้งนี้ เนื่องจากมีคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 387/2528 ลงวันที่ 23 กันยายน 2528 เรื่องการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรงแรม พุทธศักราช 2478 ข้อ(1) ได้กำหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาตประกอบกิจการโรงแรมโดยสถานที่ตั้งต้องไม่อยู่ใกล้สถานที่ราชการ โรงเรียน สถานศึกษา วัด ฯลฯ ในรัศมี 100 เมตร
เว้นแต่จะได้รับอนุมัติผ่อนผันเป็นกรณีพิเศษ เป็นการเฉพาะรายจากกระทรวงมหาดไทย
แหล่งข่าวในงานปกครองจังหวัดระบุว่า โครงการดังกล่าวได้เคยมายื่นขออนุญาตก่อสร้างไว้กับอำเภอเมืองตั้งแต่ปี 2536 และต่ออายุเรื่อยมา โดยล่าสุดได้จัดทำรายงานระบบด้านสิ่งแวดล้อมของอาคารเสร็จสิ้นจึงจะเริ่มลงมือก่อสร้างเพื่อประกอบกิจการโรงแรมในปีนี้
อย่างไรก็ตาม บริเวณดังกล่าวอยู่นอกเขตควบคุมอาคารหรือตึกสูง หากยึดตามข้อกำหนดกฎกระทรวงประกาศเพิ่มเติมของผังเมืองเดิม อย่างไรก็ตาม ผังเมืองฉบับดังกล่าวกำลังจะสิ้นสุดลงในปี 2547 และโยธาธิการและผังเมืองเชียงใหม่ กำลังอยู่ระหว่างกำหนดขยายพื้นที่ควบคุม และจัดทำผังเมืองเฉพาะใหม่โดยเชียงใหม่เป็น 1 ใน 6 เมืองตัวอย่างของประเทศ
โครงการก่อสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว ในของกลุ่มแชงกรี-ลา กำหนดสร้างเป็นอาคารสูง 13 ชั้นบริเวณถนนช้างคลาน ใกล้กับ โรงแรมดิเอ็มเพรส ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งย่านดังกล่าว เป็นย่านธุรกิจหลักใกล้ไนท์บาร์ซ่า และอีกด้านหนึ่งติดกับถนนเจริญประเทศซึ่งมีโรงเรียนใหญ่หลายแห่งตั้งอยู่เช่น โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย และ โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย
โครงการก่อสร้างโรงแรมกลุ่มแชงกรี-ลา ได้ผ่านการอนุมัติการก่อสร้างแล้ว โดยมีสถาปนิกชื่อดัง อาจารย์จุลทัศน์ กิตติบุตร เป็นผู้ออกแบบ อย่างไรก็ตามเมื่อข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหารโรงเรียนและสมาคมผู้ปกครองของโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน
ผู้บริหารโรงเรียนและสมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย ได้ออกแบบสอบถามสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองเด็กนักเรียนทุกคน เพื่อให้จังหวัดเชียงใหม่นำไปประกอบการพิจารณาอนุญาตให้สร้างโรงแรมดังกล่าวหรือไม่
แหล่งข่าวจากโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัยกล่าวว่า ได้ข้อสรุปจากทั้งทางโรงเรียนและผู้ปกครองที่ส่งกลับแบบสอบถาม โดยนายชายชาตรี ลิ้มจรูญ นายกสมาคมผู้ปกครองและครูฯมานับพันรายว่า ไม่เห็นด้วยกับการให้มีการก่อสร้างโรงแรมดังกล่าว เพราะอยู่ในระยะห่างจากแนวเขตรั้วโรงเรียนประมาณ 62 เมตร
ประเด็นสำคัญก็คือ คณะครูและผู้ปกครอง เกิดความวิตกถึงผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและความเหมาะสม เพราะบริเวณดังกล่าว เป็นย่านที่คับคั่งที่สุดของเชียงใหม่ การจราจรติดขัดเป็นประจำทั้งเช้าเย็นเพราะมีสถานศึกษารวม 4 แห่งในละแวกเดียวกัน อีกทั้ง อาคารดังกล่าวเป็นตึกที่สูงมาก กิจกรรมของโรงแรมอาจจะกระทบกับการเรียนการสอน รวมถึง การก่อสร้างที่จะต้องตอกเสาเข็มอาคารสูงถึง 13 ขั้น และระยะเวลาการก่อสร้างนับปี ย่อมกระทบต่อการเรียนการสอนของเด็กนักเรียนอย่างแน่นอน
ต่อจากนั้น โรงเรียนได้มีหนังสือแจ้งต่อนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ไปแล้วและเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2547 อำเภอเมืองเชียงใหม่และฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประชุมร่วมกันพิจารณาประเด็นดังกล่าว และจังหวัดได้สรุปข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งเหตุผลของโรงเรียนเรยีนา เสนอต่อกระทรวงมหาดไทยให้เป็นผู้พิจารณา
ทั้งนี้ เนื่องจากมีคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 387/2528 ลงวันที่ 23 กันยายน 2528 เรื่องการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรงแรม พุทธศักราช 2478 ข้อ(1) ได้กำหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาตประกอบกิจการโรงแรมโดยสถานที่ตั้งต้องไม่อยู่ใกล้สถานที่ราชการ โรงเรียน สถานศึกษา วัด ฯลฯ ในรัศมี 100 เมตร
เว้นแต่จะได้รับอนุมัติผ่อนผันเป็นกรณีพิเศษ เป็นการเฉพาะรายจากกระทรวงมหาดไทย
แหล่งข่าวในงานปกครองจังหวัดระบุว่า โครงการดังกล่าวได้เคยมายื่นขออนุญาตก่อสร้างไว้กับอำเภอเมืองตั้งแต่ปี 2536 และต่ออายุเรื่อยมา โดยล่าสุดได้จัดทำรายงานระบบด้านสิ่งแวดล้อมของอาคารเสร็จสิ้นจึงจะเริ่มลงมือก่อสร้างเพื่อประกอบกิจการโรงแรมในปีนี้
อย่างไรก็ตาม บริเวณดังกล่าวอยู่นอกเขตควบคุมอาคารหรือตึกสูง หากยึดตามข้อกำหนดกฎกระทรวงประกาศเพิ่มเติมของผังเมืองเดิม อย่างไรก็ตาม ผังเมืองฉบับดังกล่าวกำลังจะสิ้นสุดลงในปี 2547 และโยธาธิการและผังเมืองเชียงใหม่ กำลังอยู่ระหว่างกำหนดขยายพื้นที่ควบคุม และจัดทำผังเมืองเฉพาะใหม่โดยเชียงใหม่เป็น 1 ใน 6 เมืองตัวอย่างของประเทศ