ศูนย์ข่าวขอนแก่น-3 สถาบันการแพทย์ชื่อดังประชุมเตรียมความพร้อมผ่าตัดแยกร่างแฝดสยามรายล่าสุดหลังคลอดเมื่อ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา“น้องนนท์-น้องนันท์”หลังร่างกายเด็กแข็งแรงขึ้น เผยแพทย์ต้องทำการซักซ้อมประสบการณ์ผ่าตัดแยกร่างเพราะมีอวัยวะหลายส่วนเด็กใช้ร่วมกัน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ ( 22 ก.ย.) ที่ห้องประชุมจำลอง มุ่งการดีชั้น 4 โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมวางแผนการผ่าตัดแยกร่างแฝดสยามคู่ใหม่ ซึ่งเป็นเพศชายที่มีลำตัวติดกันบริเวณหน้าท้อง ที่เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา
ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์ จากสถาบันเด็กแห่งชาติมหาราชินี โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และแพทย์งานกุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น
น.พ.วิทยา จารุพูนผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลได้ทำการคลอดเด็กแฝดสยามเพศชายโดยการผ่าตัดเด็กออกทางหน้าท้องได้อย่างปลอดภัย โดยเด็กมีน้ำหนักรวม 5,590 กรัม ขณะที่มารดาตั้งครรภ์ 39 สัปดาห์ ซึ่งเป็นคนไข้ที่รับการส่งตัวมาจากโรงพยาบาลบ้านฝาง อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น แม่เด็กชื่อนางอ้อย อ่อนเหลา อายุ 28 ปี พ่อเด็กชื่อนายคำบู้ ทะสูง อายุ 31 ปี
ทั้ง 2 คนประกอบอาชีพทำนาและรับจ้างเย็บรองเท้าอยู่ในอำเภอบ้านฝาง และพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 5 บ้านโคกสี ตำบลบ้านฝาง อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น โดยตั้งชื่อเด็กทั้ง 2 ว่า ด.ช.นนทกานต์-นันทวัฒน์ ทะสูง หรือ “น้องนนท์-น้องนันท์” ซึ่งในการประชุมวันนี้เป็นการประชุมเตรียมความพร้อมในการคัดเลือกบุคลากร ทีมผู้เชี่ยวชาญในการวางแผนดำเนินการผ่าตัดแยกร่างเด็ก เนื่องจากอาการล่าสุดเด็กทั้ง 2 มีความสมบูรณ์ของร่างกายและพร้อมที่จะได้รับการผ่าตัดแยกลำตัวทั้งคู่ออกจากกันแล้ว
สภาพร่างกายของเด็กทารกทั้ง 2 ขณะนี้ถือว่ามีสภาพร่างกายที่มีความสมบูรณ์ของร่างกายในทุกๆ ด้าน แต่ทางคณะแพทย์ต้องทบทวนประสบการณ์การฝ่าตัดแยกร่างที่ผ่านมาเพื่อให้การผ่าตัดแยกร่างครั้งนี้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะการผ่าตัด “น้องนนท์-น้องนันท์” นั้นไม่ใช่แค่การผ่าหน้าท้องและแยกร่างเด็กออกจากกันเพียงอย่างเดียวเพราะมีอยู่หลายส่วนที่เด็กใช้อวัยวะร่วมกันโดยเฉพาะการใช้ตับและลำไส้เล็กร่วมกัน
“ประเด็นรายละเอียดเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เชิญมาร่วมทีมในการผ่าตัดต้องวิเคราะห์เป็นอย่างดีว่าจะดำเนินการวางแผนกันอย่างไร การใช้อวัยวะร่วมกันของเด็กมีการใช้งานร่วมกันกี่ส่วนและความสำคัญลำดับก่อนหลังเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมแพทย์ต้องมีการวิเคราะห์เป็นอย่างดี เพราะการผิดพลาดเพียงนิดเดียวหรือเพียงจุดเดียวอาจจะส่งผลอันตรายต่อเด็กทั้ง 2 ได้ “น.พ.วิทยากล่าว
น.พ.วิทยา กล่าวต่อว่า การผ่าตัดแยกร่างครั้งนี้ถือเป็นกรณีศึกษาของคณะแพทย์ พยาบาล ทุกคน ซึ่งต้องประชุมหารือร่วมกันวางแผนการดูแลรักษาแฝดสยามคู่นี้โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญสถาบันที่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดแฝดสยาม ทั้งจากสถาบันเด็กแห่งชาติมหาราชินี คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช และคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มาร่วมกำหนดวิธีการวางแผนการผ่าตัดแยกร่าง
“การกำหนดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดนั้นได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว คงเหลือเพียงการยินยอมจากพ่อและแม่เด็กในการผ่าตัดแยกร่างออกจากกันเท่านั้น ซึ่งทางคณะแพทย์จะดำเนินการอย่างเต็มที่และดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของน้องนนท์และน้องนันท์”น.พ.วิทยา ระบุ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ ( 22 ก.ย.) ที่ห้องประชุมจำลอง มุ่งการดีชั้น 4 โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมวางแผนการผ่าตัดแยกร่างแฝดสยามคู่ใหม่ ซึ่งเป็นเพศชายที่มีลำตัวติดกันบริเวณหน้าท้อง ที่เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา
ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์ จากสถาบันเด็กแห่งชาติมหาราชินี โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และแพทย์งานกุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น
น.พ.วิทยา จารุพูนผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลได้ทำการคลอดเด็กแฝดสยามเพศชายโดยการผ่าตัดเด็กออกทางหน้าท้องได้อย่างปลอดภัย โดยเด็กมีน้ำหนักรวม 5,590 กรัม ขณะที่มารดาตั้งครรภ์ 39 สัปดาห์ ซึ่งเป็นคนไข้ที่รับการส่งตัวมาจากโรงพยาบาลบ้านฝาง อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น แม่เด็กชื่อนางอ้อย อ่อนเหลา อายุ 28 ปี พ่อเด็กชื่อนายคำบู้ ทะสูง อายุ 31 ปี
ทั้ง 2 คนประกอบอาชีพทำนาและรับจ้างเย็บรองเท้าอยู่ในอำเภอบ้านฝาง และพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 5 บ้านโคกสี ตำบลบ้านฝาง อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น โดยตั้งชื่อเด็กทั้ง 2 ว่า ด.ช.นนทกานต์-นันทวัฒน์ ทะสูง หรือ “น้องนนท์-น้องนันท์” ซึ่งในการประชุมวันนี้เป็นการประชุมเตรียมความพร้อมในการคัดเลือกบุคลากร ทีมผู้เชี่ยวชาญในการวางแผนดำเนินการผ่าตัดแยกร่างเด็ก เนื่องจากอาการล่าสุดเด็กทั้ง 2 มีความสมบูรณ์ของร่างกายและพร้อมที่จะได้รับการผ่าตัดแยกลำตัวทั้งคู่ออกจากกันแล้ว
สภาพร่างกายของเด็กทารกทั้ง 2 ขณะนี้ถือว่ามีสภาพร่างกายที่มีความสมบูรณ์ของร่างกายในทุกๆ ด้าน แต่ทางคณะแพทย์ต้องทบทวนประสบการณ์การฝ่าตัดแยกร่างที่ผ่านมาเพื่อให้การผ่าตัดแยกร่างครั้งนี้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะการผ่าตัด “น้องนนท์-น้องนันท์” นั้นไม่ใช่แค่การผ่าหน้าท้องและแยกร่างเด็กออกจากกันเพียงอย่างเดียวเพราะมีอยู่หลายส่วนที่เด็กใช้อวัยวะร่วมกันโดยเฉพาะการใช้ตับและลำไส้เล็กร่วมกัน
“ประเด็นรายละเอียดเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เชิญมาร่วมทีมในการผ่าตัดต้องวิเคราะห์เป็นอย่างดีว่าจะดำเนินการวางแผนกันอย่างไร การใช้อวัยวะร่วมกันของเด็กมีการใช้งานร่วมกันกี่ส่วนและความสำคัญลำดับก่อนหลังเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมแพทย์ต้องมีการวิเคราะห์เป็นอย่างดี เพราะการผิดพลาดเพียงนิดเดียวหรือเพียงจุดเดียวอาจจะส่งผลอันตรายต่อเด็กทั้ง 2 ได้ “น.พ.วิทยากล่าว
น.พ.วิทยา กล่าวต่อว่า การผ่าตัดแยกร่างครั้งนี้ถือเป็นกรณีศึกษาของคณะแพทย์ พยาบาล ทุกคน ซึ่งต้องประชุมหารือร่วมกันวางแผนการดูแลรักษาแฝดสยามคู่นี้โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญสถาบันที่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดแฝดสยาม ทั้งจากสถาบันเด็กแห่งชาติมหาราชินี คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช และคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มาร่วมกำหนดวิธีการวางแผนการผ่าตัดแยกร่าง
“การกำหนดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดนั้นได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว คงเหลือเพียงการยินยอมจากพ่อและแม่เด็กในการผ่าตัดแยกร่างออกจากกันเท่านั้น ซึ่งทางคณะแพทย์จะดำเนินการอย่างเต็มที่และดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของน้องนนท์และน้องนันท์”น.พ.วิทยา ระบุ