นครราชสีมา-อบต.หว้านคำ อ.ราษีไศล จัดงานเลี้ยงโต๊ะจีนลิงโบราณยิ่งใหญ่ เผยลิงอดอยากหนักจนเข้าแย่งไข่ไก่ในเล้าชาวบ้านเป็นอาหารแม้แต่ปลาร้าก็ยังกิน ด้านอบจ.ศรีสะเกษเตรียมทุ่มงบฯพัฒนาเมืองลิงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของอีสานใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ก.ย.)ที่บริเวณสวนลิงบ้านหว้าน ต.หว้านคำ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา นายอำเภอราษีไศล และนายปวีณ แซ่จึง ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ (อบจ.)ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานเลี้ยงโต๊ะจีนลิงโบราณ
ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลหว้านคำ (อบต.) ได้ขึ้นเพื่อการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวของ ต.หว้านคำ อ.ราษีไศล อีกทั้งเพื่ออนุรักษ์ลิงโบราณในสวนลิงบ้านหว้าน ให้อยู่คู่เมืองศรีสะเกษตลอดไป โดยได้มีประชาชนชาวบ้านหว้านและใกล้เคียงมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
ภายในงานได้มีการจัดโต๊ะจีนให้สำหรับลิงได้กินเป็นอาหาร จำนวน 20 โต๊ะ ซึ่งประกอบด้วยผลไม้หลากหลายชนิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งฝูงลิงหลายร้อยตัวได้พากันออกจากป่าพากันมากินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย เป็นภาพที่น่ารักและประทับสำหรับผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงลิงปีนี้เป็นอย่างมาก
นายปวีณ แซ่จึง ประธานสภา อบจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนเป็นชาว อ.ราษีไศลโดยกำเนิดและพบว่าลิงที่อาศัยอยู่ในสวนลิงแห่งนี้อยู่มานานหลายชั่วอายุคนแล้ว โดยอาศัยผลไม้ในป่าเป็นอาหาร และส่วนหนึ่งได้อาหารจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชม ปัจจุบันคาดว่าโบราณแห่งนี้มีอยู่ประมาณ 2,000 ตัว จากที่เพิ่มปริมาณขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดปัญหาลิงขาดแคลนอาหาร จึงมักพากัน เข้าไปแย่งอาหารจากชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านเองก็ไม่ได้ทำร้ายลิงเพียง แต่ขับไล่ลิงที่มารบกวน เพื่อให้ลิงกลัวและพากันวิ่งหลบหนีไป เท่านั้น
ในเรื่องนี้ ตนได้เตรียมเสนอของบประมาณจาก อบจ.ศรีสะเกษ เพื่อที่จะนำมาพัฒนาบริเวณสวนลิงแห่งนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของอีสานใต้ เนื่องจากว่าสวนลิงแห่งนี้เป็นที่รู้จักของประชาชนชาวศรีสะเกษ รวมทั้งนักท่องเที่ยวมานานแล้ว และเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีศักยภาพสูงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดและอีสานใต้
ด้านนายประทีป กีรติเรขา นายอำเภอราษีไศล กล่าวว่า สำหรับปัญหาความอดอยากของลิงนั้นปัจจุบันทางอำเภอได้ร่วมกับ อบต.หว้านคำแก้ปัญหาโดยการจัดตั้งงบประมาณปีละ 4,000 บาท เพื่อมาซื้ออาหารมาเลี้ยงลิง พร้อมทั้งได้จัดตั้งกองทุนรับบริจาคเงินจากผู้มีจิตศรัทธา เพื่อใช้เป็นค่าอาหารเพิ่มเติมด้วย
โดยอบต.หว้านคำ ได้จ้างคนมาเป็นผู้ให้อาหาร และดูแลความสะอาดสวนลิง โดยจะให้อาหารลิงเป็นประจำวันละครั้ง คือช่วงเช้า 07.00 -08.00 น.และ ช่วงบ่ายเวลาประมาณ 15.00 น. จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศมาเที่ยวชมลิงที่สวนลิงแห่งนี้ได้ทุกวัน
นางสังเวียน นาคทองอินทร์ ชาวบ้านหว้าน ต.หว้านคำ อ.ราษีไศล จ. ศรีสะเกษ กล่าวว่า อาหารที่ทางอบต.นำมาเลี้ยงลิงทุกวันนั้น ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลิงโบราณจำนวนมากเหล่านี้ โดยเฉพาะลิงตัวเล็กมักจะถูกลิงตัวใหญ่แย่งกินหมดทำให้อาหารไม่ทั่วถึง ส่งผลให้ลิงที่อดอยากมีโกรธง่ายและมีอารมณ์ร้าย
โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งของทุกปี จะประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารเป็นอย่างมาก ลิงจะพากันเข้าไปขโมยอาหารภายในบ้านเรือนของชาวบ้าน เพื่อรื้อค้นหาอาหารออกมากิน แม้แต่ปลาร้าที่อยู่ในไห ลิงก็ยังล้วงเอามากินได้ หรือไม่ไข่ไก่ที่อยู่เล้าก็พากันไปไล่แม่ไก่หนีให้ตกใจหนีไปแล้วล้วงเอาไข่จากรังกินเป็นอาหาร ดังนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าทุกครัวเรือนในระแวกนี้ต้องเก็บซ่อนอาหารทุกอย่างในครัวไว้อย่างดีที่สุด
นอกจากนี้ แม้แต่ครูและเด็กนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาที่อยู่ติดกับสวนลิงบ้านหว้าน ดังกล่าวก็เผชิญกับฝูงลิงที่มักจะเข้าไปก่อกวนสร้างความรำคาญ หรือแย่งหาอาหารภายในโรงเรียนอยู่เป็นประจำ ซึ่งทางโรงเรียนเองได้พยายามติดเหล็กดัดหน้าต่าง ของห้องเรียนหรืออาคารต่างๆเท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันลิงเข้าไปทำลายสิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ อย่างไรก็ตามทุกคนก็ไม่ได้ทำร้ายลิงรุนแรงและได้ร่วมกันอนุรักษ์ลิงโบราณแห่งนี้ให้อยู่คู่บ้านหว้านต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ก.ย.)ที่บริเวณสวนลิงบ้านหว้าน ต.หว้านคำ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา นายอำเภอราษีไศล และนายปวีณ แซ่จึง ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ (อบจ.)ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานเลี้ยงโต๊ะจีนลิงโบราณ
ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลหว้านคำ (อบต.) ได้ขึ้นเพื่อการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวของ ต.หว้านคำ อ.ราษีไศล อีกทั้งเพื่ออนุรักษ์ลิงโบราณในสวนลิงบ้านหว้าน ให้อยู่คู่เมืองศรีสะเกษตลอดไป โดยได้มีประชาชนชาวบ้านหว้านและใกล้เคียงมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
ภายในงานได้มีการจัดโต๊ะจีนให้สำหรับลิงได้กินเป็นอาหาร จำนวน 20 โต๊ะ ซึ่งประกอบด้วยผลไม้หลากหลายชนิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งฝูงลิงหลายร้อยตัวได้พากันออกจากป่าพากันมากินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย เป็นภาพที่น่ารักและประทับสำหรับผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงลิงปีนี้เป็นอย่างมาก
นายปวีณ แซ่จึง ประธานสภา อบจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนเป็นชาว อ.ราษีไศลโดยกำเนิดและพบว่าลิงที่อาศัยอยู่ในสวนลิงแห่งนี้อยู่มานานหลายชั่วอายุคนแล้ว โดยอาศัยผลไม้ในป่าเป็นอาหาร และส่วนหนึ่งได้อาหารจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชม ปัจจุบันคาดว่าโบราณแห่งนี้มีอยู่ประมาณ 2,000 ตัว จากที่เพิ่มปริมาณขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดปัญหาลิงขาดแคลนอาหาร จึงมักพากัน เข้าไปแย่งอาหารจากชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านเองก็ไม่ได้ทำร้ายลิงเพียง แต่ขับไล่ลิงที่มารบกวน เพื่อให้ลิงกลัวและพากันวิ่งหลบหนีไป เท่านั้น
ในเรื่องนี้ ตนได้เตรียมเสนอของบประมาณจาก อบจ.ศรีสะเกษ เพื่อที่จะนำมาพัฒนาบริเวณสวนลิงแห่งนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของอีสานใต้ เนื่องจากว่าสวนลิงแห่งนี้เป็นที่รู้จักของประชาชนชาวศรีสะเกษ รวมทั้งนักท่องเที่ยวมานานแล้ว และเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีศักยภาพสูงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดและอีสานใต้
ด้านนายประทีป กีรติเรขา นายอำเภอราษีไศล กล่าวว่า สำหรับปัญหาความอดอยากของลิงนั้นปัจจุบันทางอำเภอได้ร่วมกับ อบต.หว้านคำแก้ปัญหาโดยการจัดตั้งงบประมาณปีละ 4,000 บาท เพื่อมาซื้ออาหารมาเลี้ยงลิง พร้อมทั้งได้จัดตั้งกองทุนรับบริจาคเงินจากผู้มีจิตศรัทธา เพื่อใช้เป็นค่าอาหารเพิ่มเติมด้วย
โดยอบต.หว้านคำ ได้จ้างคนมาเป็นผู้ให้อาหาร และดูแลความสะอาดสวนลิง โดยจะให้อาหารลิงเป็นประจำวันละครั้ง คือช่วงเช้า 07.00 -08.00 น.และ ช่วงบ่ายเวลาประมาณ 15.00 น. จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศมาเที่ยวชมลิงที่สวนลิงแห่งนี้ได้ทุกวัน
นางสังเวียน นาคทองอินทร์ ชาวบ้านหว้าน ต.หว้านคำ อ.ราษีไศล จ. ศรีสะเกษ กล่าวว่า อาหารที่ทางอบต.นำมาเลี้ยงลิงทุกวันนั้น ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลิงโบราณจำนวนมากเหล่านี้ โดยเฉพาะลิงตัวเล็กมักจะถูกลิงตัวใหญ่แย่งกินหมดทำให้อาหารไม่ทั่วถึง ส่งผลให้ลิงที่อดอยากมีโกรธง่ายและมีอารมณ์ร้าย
โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งของทุกปี จะประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารเป็นอย่างมาก ลิงจะพากันเข้าไปขโมยอาหารภายในบ้านเรือนของชาวบ้าน เพื่อรื้อค้นหาอาหารออกมากิน แม้แต่ปลาร้าที่อยู่ในไห ลิงก็ยังล้วงเอามากินได้ หรือไม่ไข่ไก่ที่อยู่เล้าก็พากันไปไล่แม่ไก่หนีให้ตกใจหนีไปแล้วล้วงเอาไข่จากรังกินเป็นอาหาร ดังนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าทุกครัวเรือนในระแวกนี้ต้องเก็บซ่อนอาหารทุกอย่างในครัวไว้อย่างดีที่สุด
นอกจากนี้ แม้แต่ครูและเด็กนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาที่อยู่ติดกับสวนลิงบ้านหว้าน ดังกล่าวก็เผชิญกับฝูงลิงที่มักจะเข้าไปก่อกวนสร้างความรำคาญ หรือแย่งหาอาหารภายในโรงเรียนอยู่เป็นประจำ ซึ่งทางโรงเรียนเองได้พยายามติดเหล็กดัดหน้าต่าง ของห้องเรียนหรืออาคารต่างๆเท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันลิงเข้าไปทำลายสิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ อย่างไรก็ตามทุกคนก็ไม่ได้ทำร้ายลิงรุนแรงและได้ร่วมกันอนุรักษ์ลิงโบราณแห่งนี้ให้อยู่คู่บ้านหว้านต่อไป