ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-“น้องอร”ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกหลานย่าโม ยื่นเอกสารหลักฐานและกรอกใบสมัครเข้ารับราชการทหารแล้วที่ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 นครราชสีมา โดยมี “พล.ท.ชุมแสง สวัสดิสงคราม” แม่ทัพภาคที่ 2 ให้การต้อนรับ เผยเสนอเรื่องกระทรวงกลาโหมอนุมัติตำแหน่งนายทหารบำรุงความรู้สังกัด มทบ.21 รับขวัญเร็วๆ นี้
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่อาคารกองบัญชาการค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา น.ส.อุดมพร พลศักดิ์ หรือ “น้องอร” นักกีฬายกน้ำหนักหญิงทีมชาติไทยเจ้าของเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 28 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ได้นำเอกสารหลักฐานการศึกษาและประวัติส่วนตัวที่ใช้ประกอบการพิจารณาบรรจุเข้ารับราชการทหาร พร้อมกรอกใบสมัครแสดงความประสงค์เข้ารับราชการทหารยื่นต่อเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 โดย พล.ท.ชุมแสง สวัสดิสงคราม แม่ทัพภาคที่ 2 ร่วมให้การต้อนรับ
พล.ท.ชุมแสง สวัสดิสงคราม แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า น.ส.อุดมพร พลศักดิ์ เป็นผู้ที่ทำคุณงามความดีสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติและมีความประสงค์จะเข้ารับราชการทหารประจำอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา บ้านเกิด ทางกระทรวงกลาโหม โดยกองทัพบกจึงได้พิจารณาให้รับเข้าบรรจุเป็นนายทหารกองประจำการชั้นสัญญาบัตร สังกัดมณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ในตำแหน่งนายทหารบำรุงความรู้ ในอัตราร้อยเอก ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 2 จะส่งเอกสารหลักฐานทั้งหมดเข้าไปตรวจสอบที่กองบัญชาการทหารบก ตามขั้นตอนของทางกองทัพ
ส่วนการอนุมัติเข้าบรรจุเป็นนายทหารในวันไหนนั้นขึ้นอยู่กับกระทรวงกลาโหมจะดำเนินการ หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงนามอนุมัติก็จะมีผลบังคับใช้ทันที เรื่องการติดยศนั้นก็จะต้องรอทางกองทัพบกอีกเช่นกันว่าจะติดยศอะไรให้กับ “น้องอร”
แต่ในระหว่างที่รอการอนุมัติก็จะให้ทำงานในหน้าที่ไปก่อน ส่วนการฝึกซ้อมกับสมาคมกีฬายกน้ำหนักแห่งประเทศไทยต่อไปนั้นจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง หรือทางสมาคมฯ ก็คงจะต้องทำหนังสือถึงกองทัพภาคที่ 2 เพื่อขอตัวไปทำการฝึกซ้อมโดยรายละเอียดจะหารือกันต่อไป
ด้าน น.ส.อุดมพร พลศักดิ์ “น้องอร”กล่าวภายหลังยื่นเอกสารและใบสมัครเข้ารับราชการทหารว่า รู้สึกดีใจมาก เพราะเป็นความใฝ่ฝันมาโดยตลอดและวันนี้ฝันเป็นจริงแล้วขอขอบคุณกองทัพภาคที่ 2 ขอบคุณกองทัพบกที่เปิดโอกาสให้ “อร” ซึ่งท่านแม่ทัพภาคที่ 2 เองก็บอกว่ายินดีต้อนรับ
ส่วนการเป็นนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาตินั้นจะต้องดูความพร้อมของร่างกายก่อน หากยังทำหน้าที่ต่อไปไหวก็จะไปฝึกซ้อมกับสมาคมฯ ต่อไป แต่หากทำไม่ไหวแล้วก็จะมาทำงานเป็นข้าราชการทหารที่กองทัพภาคที่ 2 อย่างเต็มที่และการเดินทางมาที่จังหวัดนครราชสีมาครั้งนี้มีเวลาประมาณ 3 วันจะตระเวนไปขอบคุณหน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน ผู้ใหญ่ที่นับถือที่ให้การสนับสนุนจนประสบความสำเร็จสูงสุดในวันนี้ได้
จากนั้น“น้องอร”ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครราชสีมา เพื่อทำทะเบียนประวัติกับเจ้าพนักงานตำรวจใช้ประกอบการเข้าบรรจุรับราชการทหารโดยมี พ.ต.อ.บุญเผ่า บุญญะฤทธิ์ ผู้กำกับการ สภ.อ.เมืองนครราชสีมา ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้วยการใช้พิมพ์ลายมือประกอบการทำทะเบียนประวัติให้กับ “น้องอร”ด้วยตนเอง
หลังจากนั้น “น้องอร” ได้เดินทางกลับบ้านพักในซอยชุมชนมหาชัย-อุดมพร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา