ศูนย์ข่าวขอนแก่น- "พิมานกรุ๊ป" ยักษ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีสาน โอ่ยอดขายครบ 4,000 หลัง วางแผนรุกตลาดต่อเนื่อง จับมือแบงก์กรุงศรีอยุธยาเป็นพันธมิตรธุรกิจ สร้างจุดแข็งด้านบริการสินเชื่อให้ลูกค้าทั้งปล่อยกู้ในวงเงินที่สูงถึง 95% และอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด เชื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังขยายตัวได้ดี แม้ต้องเจอปัญหาน้ำมันแพงและขึ้นอัตราดอกเบี้ย วางทิศทางพัฒนาธุรกิจให้สอดคล้องกำลังซื้อ
นายบุรินทร์ บุริสตระกูล ประธานกรรมการบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในภาคอีสาน เปิดเผยถึงการดำเนินงานของบริษัทว่า พิมานกรุ๊ป ประสบผลสำเร็จในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการทำธุรกิจในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นฐานธุรกิจหลักของพิมานกรุ๊ป ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคสูงมาก ยอดขายรวมถึง 4,000 หน่วยแล้วในปี 2547
การดำเนินธุรกิจในปี 2547 นี้ บริษัทจัดกิจกรรมเอื้อประโยชน์ต่อลูกค้า ร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจคือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ให้บริการสินเชื่อพิเศษ กับลูกค้าที่ซื้อบ้านในโครงการของพิมานกรุ๊ป ทั้งวงเงินให้กู้ในสัดส่วนที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าลูกค้ากู้ซื้อบ้านทั่วไป
ลูกค้าที่ซื้อบ้านจะได้รับสิทธิพิเศษในการขอสินเชื่อจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา อนุมัติวงเงินกู้สูงสุดถึง 95% ของราคาบ้าน ขณะเดียวกันจะได้รับสิทธิพิเศษอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 2.75% ในปีแรก 3.25% ในปีที่ 2 หลังจากนั้นจะปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (MLR) -1% และสามารถผ่อนได้นานสูงสุดถึง 25 ปี เกิดประโยชน์ต่อลูกค้า ลดภาระการผ่อนชำระลงได้มาก
นอกจากนี้ทางพิมานกรุ๊ป ได้จัดโปรโมชั่นเพิ่มเติม ลุ้นรับเงินรางวัล 1 ล้านบาท ให้กับลูกค้าที่ซื้อบ้านในโครงการของพิมานกรุ๊ป ที่ใช้สินเชื่อของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระหว่าง 1 กรกฎาคม-30 ธันวาคม 2547 เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจลูกค้าซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น
น้ำมันแพงดอกเบี้ยขึ้น
เชื่อกระทบตลาดน้อย
นายบุรินทร์กล่าวต่อว่า สถานการณ์ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต้องได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง แม้ว่าปรับเพียงน้ำมันเบนซิน แต่การปรับราคาดังกล่าว มีผลกระทบต่อเนื่องกับปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะราคาวัสดุก่อสร้าง ต้นทุนค่าขนส่ง อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น
ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก/เงินกู้ในระบบสถาบันการเงิน ก็ต้องปรับเพิ่มขึ้นในปี 2547 นี้ ปัจจัยดังกล่าว กระทบต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างบ้านสูงขึ้น ย่อมทำให้ราคาบ้านในปี 2548 ต้องปรับราคาขึ้นตามไปด้วย
ด้านนายชาญณรงค์ บุริสตระกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัดกล่าวว่าการปรับขึ้นราคาบ้านปี 48 กระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์บ้าง แต่ไม่คงมากนัก เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชนยังมีสูง กำลังซื้อบ้านของผู้บริโภคจังหวัดขอนแก่นมี 3 ส่วนหลัก ส่วนแรกจากเงินออม ประชาชนที่มีเงินออมอยู่มาก พร้อมจะนำมาเป็นเงินดาวน์ซื้อบ้าน
อีกทั้งเงื่อนไขพิเศษของสถาบันการเงิน ปี 2548 แม้อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่านโยบายการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน ยังคงสนับสนุนให้ประชาชนมีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง ยังปล่อยสินเชื่อซื้อบ้าน ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติสินเชื่อวงเงินที่สูง และผ่อนระยะเวลานาน จะทำให้ตลาดขยายตัวต่อไปได้
ประการสุดท้าย บทเรียนจากวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 จะทำให้ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดขอนแก่น ไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิม ทุกฝ่ายจะดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง มีระบบประกันชีวิตให้ผู้ซื้อบ้าน ค้ำประกันสินเชื่อบ้าน หากรัฐไม่กระตุ้นเศรษฐกิจจนเกิดฟองสบู่รอบ 2 น่าจะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโตต่อไปอย่างมั่นคง
กรรมการผู้จัดการบริษัทอีสานพิมานกรุ๊ปกล่าวต่อว่า ปัจจุบันพิมานกรุ๊ปมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 8 โครงการ จำนวนกว่า 700 ยูนิต ทิศทางการดำเนินงานของพิมานกรุ๊ป จะพัฒนาโครงการ ก่อสร้างบ้านให้สอดคล้องกับศักยภาพกำลังซื้อ และความต้องการของผู้บริโภค ไม่สร้างบ้านขนาดใหญ่เกินไป โดยพัฒนาระบบสาธารณูปโภครองรับ และก่อสร้างบ้านให้ลูกค้าพร้อมอยู่อาศัย สร้างความเชื่อมั่นและคุ้มครองผู้ซื้อเป็นจุดหลัก