โคราชเตรียมต้อนรับ‘น้องอร’ยิ่งใหญ่

ศูนย์ข่าวนคราชสีมา-โคราชเตรียมจัดงานต้อนรับ“น้องอร”วีระสตรีเหรียญทองโอลิมปิกอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งตั้งจุดขบวนต้อนรับทุกอำเภอบนถนนมิตรภาพและจัดขบวนหลักนำแห่รอบเมืองก่อนมอบรางวัลทั้งเงินสด-ทองคำแท่ง-ของที่ระลึกจำนวนมากที่ลานย่าโม ปิดฉากด้วย “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” เป็นเจ้าภาพร่วมกับชาวโคราชปิดเมืองจัดงานเลี้ยงใหญ่ฉลองเหรียญทองโอลิมปิกแห่งประวัติศาสตร์ ที่หน้าศาลากลางจังหวัดฯ ในวันเดินทางกลับสู่มาตุภูมิ

วันนี้( 16 ส.ค.) เวลา 11.30 น.ที่ห้องประชุมชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายสุนทร ริ้วเหลือง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาลนคร และองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์กรเอกชน หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เพื่อหารือด่วนถึงการเตรียมจัดงานต้อนรับและฉลองชัยชนะเหรียญทองโอลิมปิกให้กับ น.ส.อุดมพร พลศักดิ์ หรือ “น้องอร” นักยกน้ำหนักหญิงทีมชาติไทย รุ่น 53 กิโลกรัม สายเลือดย่าโมที่สามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักโอลิมปิกเป็นเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยได้สำเร็จเมื่อคืนที่ผ่านมา

เตรียมขบวนรับแห่รอบเมืองยิ่งใหญ่
‘สุวัจน์’เจ้าภาพปิดเมืองเลี้ยงฉลอง

นายสุนทร เปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมาร่วมเทศบาลนครนครราชสีมา องค์การบริหารส่วนจังหวัด รวมทั้งองค์กรเอกชนและประชาชนทั้ง 26 อำเภอ 6 กิ่งอำเภอของจังหวัดนครราชสีมา ได้มีความเห็นร่วมกันที่จะจัดงานต้อนรับและฉลองชัยชนะให้กับ“อุดมพร พลศักดิ์”อย่างสมเกียรติและยิ่งใหญ่ขึ้นที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

โดยในวันเดินทางกลับจากประเทศกรีซ สู่ประเทศไทยของ น้องอร ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 31 ส.ค.นี้ จะมีขบวนชาวโคราชไปต้อนรับถึงสนามบินดอนเมืองและหลังจากทางส่วนกลางที่กรุงเทพฯได้ทำพิธีต้อนรับและฉลองชัยชนะให้เสร็จแล้ว ในการเดินทางจากกรุงเทพฯ มาจังหวัดนครราชสีมานั้น ก็จะมีขบวนของประชาชน เยาวชน นักเรียนนักศึกษา คอยต้อนรับกลับสู่บ้านเกิดในทุกอำเภอตลอดเส้นทาง ถนนมิตรภาพตั้งแต่เริ่มเข้าเขตประตูสู่อีสานคือ จาก อ.ปากช่อง สีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ และ อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้แสดงความยินดีและเป็นกำลังใจให้กับ “อุดมพร”อย่างเต็มที่

เมื่อเดินทางถึงตัวเมืองนครราชสีมา จะมีการจัดตั้งขบวนขนาดใหญ่ ของพี่น้องประชาชน ทุกอำเภอ พร้อมด้วยผู้แทนทุกหน่วยงาน ทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งตำรวจ ทหาร ต้อนรับอยู่ที่บริเวณสามแยกปักธงชัย เพื่อนำคณะของน้องอร และพ่อแม่น้องอร เข้าสู่ตัวเมืองนครราชสีมา จากนั้นจะแห่ขบวนไปตามเส้นทางสายสำคัญในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา

ทั้งนี้ ทางเทศบาลนครฯ เตรียมที่จะมอบทะเบียนบ้านทองคำและกุญแจประตูเมืองทองคำ ให้กับ “น้องอร” เมื่อขบวนแห่ไปถึงจุดบริเวณสำนักงานเทศบาลนครฯ หลังจากนี้จะนำขบวนแห่เข้าสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม พร้อมทั้งจะมีการมอบรางวัลของที่ระลึกต่างๆ จากภาคส่วนต่างทั้งรัฐและเอกชนเตรียมที่จะมอบให้กับน้องอร ทั้งหมดในจุดนี้ ซึ่งจะมีนักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พ่อค้านักธุรกิจร่วมมอบของรางวัลเป็นจำนวนมาก เช่น นายสุวัจน์ ลิปพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี นายกร ทัพพะรังสี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงกลุ่ม ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย นำโดยนายจำลอง ครุฑขุนทด และ ส.ว.นครราชสีมาร่วมกัน เป็นต้น

“เฉพาะในส่วนของจังหวัดนครราชสีมาจะมอบทองคำแท่ง 24 บาทให้กับน้องอร ซึ่งก็จะมีส่วนราชการและภาคเอกชนอื่นๆ มอบของขวัญและเงินสดให้เป็นกำลังใจเพิ่มอีกมากมาย และในภาคค่ำของวันเดียวกันนั้นจะมีการเลี้ยงใหญ่ฉลองเหรียญทองเกียรติยศที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งนายสุวัจน์ ลิปพัลลภ จะเป็นประธานจัดงานเลี้ยงในครั้งนี้ร่วมประชาชนชาวโคราช โดยจะนำอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อแต่ละอำเภอมาออกร้านให้รับประทานกันอย่างเต็มที่ในงานเลี้ยงฉลองดังกล่าวด้วย” นายสุนทร กล่าว

แย่งจองตัวรับ“น้องอร”เข้าทำงาน
เตรียมสร้างอนุสรณ์สถาน-ตั้งชื่อชุมชน

นายสุนทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารีได้มีความประสงค์อยากจะให้เกียรติ น.ส.อุดมพร โดยรับเข้าเป็นข้าราชการทหารเพื่อเป็นอาจารย์สอนกีฬาด้านนี้ เช่นเดียวกับทางเทศบาลนครและทางจังหวัดเองก็อยากจะเชิญ น.ส.อุดมพร มาเป็นโค้ช หรือเป็นครูฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักให้กับเยาวชนประจำจังหวัดนครราชสีมา โดยบรรจุเป็นข้าราชการของเทศบาลนครนครราชสีมาในวุฒิปริญญาตรีพละศึกษาศาสตร์บัณฑิตด้วย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของน้องอร เอง

ด้านนายเชิดชัย โชครัตนชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า ทางเทศบาลจะรับผิดชอบในส่วนขบวนต้อนรับที่ยิ่งใหญ่ โดยในริ้วขบวนจะมีการแต่งชุดท้าวสุรนารี หญิงกล้าแห่งเมืองย่าโม และเป็นขบวนข้าราชการผู้ใหญ่ โดยภายในขบวนจะให้ความสำคัญกับน้องอร และครอบครัว

นอกจากนี้จะมีการขึ้นป้ายขนาดใหญ่ต้อนรับและแสดงความยินดีกับ น้องอร กับการสร้างประวัติศาสตร์คว้าชัยชนะเหรียญทองกีฬาโอลิมปิก ทั่วเมืองนครราชสีมา โดยเริ่มตั้งแต่ทางเข้าเมืองบริเวณสามแยกปักธงชัย ซึ่งในแต่ละอำเภอก็จะมีการขึ้นป้ายแสดงความยินดีกับความสำเร็จของ “อุดมพร” ครั้งนี้พร้อมกันทั้งจังหวัดด้วยเช่นกัน

“นอกจากนี้ในเบื้องต้น ยังมีการเสนอสร้างอนุสรณ์สถานให้กับน้องอร ซึ่งจะหารือกันอีกครั้งว่าจะเป็นที่สนามกีฬากีฬาที่กำลังจะสร้างใหม่ หรืออาคารโรงยิมภายในสนามกีฬาเทศบาลเดิม ส่วนชื่อชุมชมมหาชัย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอุดมพร ก็ได้มีการเสนอให้เปลี่ยนชื่อเป็น ชุมชนมหาชัย-อุดมพร เพื่อยกย่องและเป็นเกียรติให้น้องอร กับการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติครั้งยิ่งใหญ่นี้”นายเชิดชัย กล่าว

ผู้คนแห่ยินดีคึกคักทั้งวัน
พ่อ-แม่เตรียมบินรับลูกที่“กรีซ”

ขณะที่บรรยากาศที่บ้านเกิดของน้องอร ในชุมชนมหาชัย ถ.มหาชัย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ยังคงคึกคักอยู่ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยทางพรรคชาติพัฒนาได้ส่งทีมงานเข้ามากางเต็นท์และจัดเวทีขึ้นเพื่อจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับครอบครัวและชาวชุมชนมหาชัยในช่วงค่ำ ซึ่งนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้ให้ผู้แทนนำช่อดอกไม้มาแสดงความยินดีกับครอบครัวน้องอร เช่นเดียวกับผู้แทนหน่วยงานต่างๆ และพี่น้องประชาชนชาวโคราช ที่ทราบข่าวก็ได้ทยอยเดินทางมาแสดงความดีใจกับพ่อ-แม่ครอบครัวน้องอรอย่างไม่ขาดสาย

นายบุญส่ง พลศักดิ์ พ่อของ “น้องอร”กล่าวว่า วันนี้ญาติพี่น้องและประชาชนในเขตชุมชนมหาชัยต่างเดินทางมาแสดงความยินดีตลอดทั้งวัน และมีญาติที่อยู่ จ.น่าน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่ก็ติดต่อทางโทรศัพท์แสดงความยินดีมาด้วย วันนี้ยังมีคความรู้ดีใจและตื้นเต้นไม่หาย ซึ่งในช่วงบ่ายที่ผ่านมาก็ได้รับกระเช้าดอกไม้จากนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตัวแทนนำมาแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน

“สำหรับของขวัญชิ้นสำคัญที่พ่อและแม่เตรียมไว้ให้กับ “น้องอร” คือทาวเฮ้าส์ 2 ชั้นราคา 1 ล้านเศษ เลขที่ 150/10 ซึ่งเป็นเงินของ“น้องอร” ที่พ่อและแม่ตั้งใจเก็บไว้และซื้อไว้ให้ลูกโดย “น้องอร” ยังไม่เคยเห็นบ้านหลังดังกล่าวเลย เมื่อลูกเดินทางมาถึงตนก็จะทำเรื่องโอนเป็นชื่อของ“น้องอร”ทันที ซึ่งถือเป็นของขวัญที่พ่อและแม่ตั้งใจจะมอบให้น้องอร” นายบุญส่ง กล่าว

ด้านนางศศิธร พลศักดิ์ แม่ของ “น้องอร” เสริมว่า ได้รับการติดต่อจากการบินไทยว่า จะดำเนินการจัดตั๋วเครื่องบินให้ฟรีสำหรับพ่อกับแม่ 2 ที่นั่ง พร้อมทั้งกำลังทำเรื่องขอวีซ่าเข้าประเทศกรีซให้เพื่อนำตนและสามีเดินทางโดยเครื่องบินสายการบินไทยไปต้อนรับลูกสาวที่ประเทศกรีซ เบื้อต้นทราบว่า จะทราบวันเวลาชัดเจนในวันพฤหัสบดี ( 19 ส.ค.) นี้

“สิ่งแรกที่เจอหน้าลูกก็จะเข้าไปกอดลูกเพราะไม่ได้เจอหน้ากันมาประมาณกว่าครึ่งปีแล้วและจะบอกลูกว่าทำได้ดีมากๆ ที่สำคัญคือจะบอกว่าพ่อและแม่คิดถึงและคอยติดตามข่าวของน้องอรตลอดเวลา พร้อมส่งแรงเชียร์อยู่ตลอดเช่นกัน “ นางศศิธร กล่าว