สระแก้ว-จังหวัดสระแก้ว รณรงค์ตรวจโรคกลุ่มเสี่ยงหลังทราบมีคนไทยป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตปีละ 1.5 แสนคนในวันที่ 12 สิงหาคมนี้
นายแพทย์สุวัช เซียศิริวัฒนา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ในปัจจุบันชาวไทยป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตถึงปีละ 150,000 คน ต้องสูญเสียค่ารักษาเป็นเงินอย่างน้อย 100,000บาท ต่อปีต่อคน โดยปกติผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต 100 คนมักจะเสียชีวิตราว 20 คน ส่วนที่รอดชีวิตอีก 80 คนจะมีความพิการถึง 60 คน มีเพียง 20 คน จาก 100 คนเท่านั้นที่จะสามารถดำรงชีวิตได้ใกล้เคียงกับคนปกติได้
วิธีการบำบัดที่ได้ผลดีที่สุดคือ การป้องกันโรค เพราะประหยัดได้ผลดี และยังไม่เป็นโรคอีกด้วย โดยจะต้องใช้วิธีการเชิงรุกเข้าไปในชุมชนสู่ประชาชนโดยตรง และมุ่งไปยังกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งได้แก่ผู้สูงอายุผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูงผู้ป่วยโรค เบาหวาน ผู้สูบบุหรี่ ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย และผู้ที่มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคหัวใจเต้นผิดปกติ เป็นต้น การดำเนินงานในปัจจุบันจึงมุ่งเป้าไปยังกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูงดังกล่าวที่อยู่ในชุมชนทั่วไปและมักจะไม่ทราบว่า ตัวเองมีความเสี่ยงต่อโรค
ด้วยเหตุนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดฯ จึงได้ร่วมมือกับเครือข่ายต่างๆ เพื่อสนับสนุนการประเมินตรวจคัดกรองกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรค พร้อมกันในวันที่ 12 สิงหาคม 2547 โดยกำหนดให้เป็นวันป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต (The StrokePrevention Day) โดยในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับสมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย และเครือข่ายในการป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ร่วมกันรณรงค์
นายแพทย์สุวัช กล่าวต่อว่า ในส่วนของจังหวัดสระแก้ว ในระหว่างวันที่ 1-12 สิงหาคมนี้ทั้งโรงพยาบาล ศูนย์สุขภาพชุมชน และสถานีอนามัยทุกแห่งจะดำเนินการ ค้นหา คัดกรองความดันโลหิตสูงและตรวจระดับน้ำตาลในเลือดในกลุ่มเป้าหมายคือ ประชาชนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปที่ด้อยโอกาส ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยโรค เบาหวาน ผู้สูบบุหรี่ ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย พร้อมทั้งจัดนิทรรศการ อบรมให้ความ รู้โดยตั้งเป้าหมายในการคัดกรองไว้ศูนย์สุขภาพชุมชนละ 100 คน จึงขอให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปและกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ไปรับการตรวจคัดกรองโรคได้
นายแพทย์สุวัช เซียศิริวัฒนา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ในปัจจุบันชาวไทยป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตถึงปีละ 150,000 คน ต้องสูญเสียค่ารักษาเป็นเงินอย่างน้อย 100,000บาท ต่อปีต่อคน โดยปกติผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต 100 คนมักจะเสียชีวิตราว 20 คน ส่วนที่รอดชีวิตอีก 80 คนจะมีความพิการถึง 60 คน มีเพียง 20 คน จาก 100 คนเท่านั้นที่จะสามารถดำรงชีวิตได้ใกล้เคียงกับคนปกติได้
วิธีการบำบัดที่ได้ผลดีที่สุดคือ การป้องกันโรค เพราะประหยัดได้ผลดี และยังไม่เป็นโรคอีกด้วย โดยจะต้องใช้วิธีการเชิงรุกเข้าไปในชุมชนสู่ประชาชนโดยตรง และมุ่งไปยังกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งได้แก่ผู้สูงอายุผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูงผู้ป่วยโรค เบาหวาน ผู้สูบบุหรี่ ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย และผู้ที่มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคหัวใจเต้นผิดปกติ เป็นต้น การดำเนินงานในปัจจุบันจึงมุ่งเป้าไปยังกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูงดังกล่าวที่อยู่ในชุมชนทั่วไปและมักจะไม่ทราบว่า ตัวเองมีความเสี่ยงต่อโรค
ด้วยเหตุนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดฯ จึงได้ร่วมมือกับเครือข่ายต่างๆ เพื่อสนับสนุนการประเมินตรวจคัดกรองกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรค พร้อมกันในวันที่ 12 สิงหาคม 2547 โดยกำหนดให้เป็นวันป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต (The StrokePrevention Day) โดยในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับสมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย และเครือข่ายในการป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ร่วมกันรณรงค์
นายแพทย์สุวัช กล่าวต่อว่า ในส่วนของจังหวัดสระแก้ว ในระหว่างวันที่ 1-12 สิงหาคมนี้ทั้งโรงพยาบาล ศูนย์สุขภาพชุมชน และสถานีอนามัยทุกแห่งจะดำเนินการ ค้นหา คัดกรองความดันโลหิตสูงและตรวจระดับน้ำตาลในเลือดในกลุ่มเป้าหมายคือ ประชาชนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปที่ด้อยโอกาส ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยโรค เบาหวาน ผู้สูบบุหรี่ ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย พร้อมทั้งจัดนิทรรศการ อบรมให้ความ รู้โดยตั้งเป้าหมายในการคัดกรองไว้ศูนย์สุขภาพชุมชนละ 100 คน จึงขอให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปและกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ไปรับการตรวจคัดกรองโรคได้