xs
xsm
sm
md
lg

"พรรคมหาชน"ตระเวนหาเสียงขอนแก่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวขอนแก่น-“มหาชน”ลงพื้นที่ขอนแก่น เปิดไต๋ผู้สมัคร 4 เขตพลิกล็อค “ศรีนวล”อดีต ส.ส.ร่วมลงสู้ศึกครั้งหน้า ชูนโยบาย 4 ข้อเน้นการปลดหนี้ประชาชน

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา พรรคมหาชน นำโดย นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายจเด็จ อินสว่าง เลขาธิการพรรค นายวิชัย รัตนเศรษฐ์ แกนนำ ส.ส.ภาคอีสาน และนายอภิชาต ทองอยู่ โฆษกพรรค ได้ลงพื้นที่หาเสียงในจังหวัดขอนแก่น เพื่อเปิดตัวพรรคมหาชนและพบปะประชาชนในพื้นที่อย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยเริ่มจากการเดินพบผู้นำชุมชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นรอบบริเวณที่พัก ก่อนที่จะเดินทางไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่อีกครั้งที่อำเภอชุมแพ

โดยระหว่างทางได้แวะพบปะพูดคุยกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในนามของพรรคในพื้นที่อำเภอบ้านฝาง และอำเภอหนองเรือ อาทิ นายประสิทธิ์ เต๊าะเจริญสุข ว่าที่สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สมาชิก อบจ.) เขต 1 อำเภอหนองเรือ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย ที่มีปัญหากับนายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.เขต 8 เจ้าของพื้นที่ในการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งที่ผ่านมาโดยที่ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ศาลเจ้าจอมชุมแพ เขตเทศบาลตำบลชุมแพ ท่ามกลางการต้อนรับของประชาชนในอำเภอชุมแพ กว่า 300 คน

นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวว่า ในการเปิดตัวพรรคมหาชนเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงที่ให้ความสนใจกับพรรคการเมืองทางเลือกที่สาม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ แต่เป็นการรวมเอาคนที่ตั้งใจและพร้อมที่จะทำงานให้กับประเทศเนื่องจากนโยบายของพรรคการเมืองที่จัดตั้งรัฐบาลขณะนี้มีหลายนโยบายที่นำมาบริหารประเทศผิดพลาดอย่างมหันต์ กองทุนหมู่บ้านที่รัฐบาลประกาศให้ก่อยการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาถึงวันนี้กลายเป็นดินพอกหางหมูไปแล้ว นายกรัฐมนตรีก่อนเข้ามาบริหารประเทศมีเงิน 100,000 ล้านบาท

แต่มาถึงขณะนี้มีกว่า 400,000 ล้านบาท ซึ่งมีค่าเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าจากการเป็นรัฐบาล 4 ปี ขณะที่ประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรที่เสมือนเป็นระดับรากหญ้ายังคงมีหนี้สินอยู่กันอย่างพะรุงพะรัง ครั้นเมื่อพรรคมหาชนเข้ามาบริหารประเทศจะมีการปลดหนี้เงินกองทุนหมู่บ้านที่มีอยู่ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ให้กลายเป็นศูนย์ทั้งหมด โดยนำเงิน 35 % ของรายได้รัฐนำมาทดแทนในส่วนที่ขาดหายไป ขณะที่ในปี 2549 ที่รัฐบาลจะประกาศกระจายอำนาจคืนให้กับท้องถิ่นเงินงบประมาณครึ่งปีแรกก็จะมีการจัดสรรคืนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด และจะสั่งยกเลิกนโยบายเงินกองทุนหมู่บ้านและนำเงินงบประมาณประจำปีประมาณ 70,000 ล้านบาทมาทดแทนในส่วนที่ขาดหายไปและเป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืน ขณะที่ด้านการศึกษาจะมีการกำหนดให้ทุกคนต้องได้เรียนและเรียนฟรีตั้งแต่ ป.1-ปริญญาตรี

สำหรับในด้านการรักษาพยาบาลจะยกเลิกนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคและให้ทุกคนเข้ารับการรักษาพยาบาลฟรีในทุกโรงพยาบาลไม่จำกัดว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนโดยที่รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด และที่สำคัญคือการพลิกฟื้นชีวิตเกษตรกรด้วยการนำที่ดิน ส.ป.ก.มาออกโฉนดที่ดินแจกจ่ายให้กับประชาชนยากจนที่ไม่เฉพาะคนที่เคยขึ้นทะเบียนคนจนกับทางรัฐบาลไว้ก่อนหน้านี้และการยกเลิกค่าหัวคิวสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศเพราะกลุ่มคนเหล่านี้เสมือนเป็นคนที่นำเงินเข้าสู่ประเทศปีละหลายล้านบาท

“ผมขอประกาศให้ประชาชนคนอีสานทุกคนได้ทราบว่าถึงเวลานี้พรรคมหาชนยึดเอาภาคอีสานเป็นฐานที่มั่นที่สำคัญในการเลือกตั้งสมัยหน้า โดยเอาความสด ความใหม่ ความเป็นผู้นำ และการเป็นนักวิชาการ ที่สามารถทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรมด้วยหลักการและเหตุผลตามข้อเท็จจริงของแต่ละพื้นที่ นโยบายการปลดหนี้ เรียนฟรี มีโฉนด ไปทำงานต่างประเทศไม่เสียค่าหัวคิว รัฐบาลประกันราคาผลผลิตด้านเกษตรในทุกรายการ จะเป็นจริงได้ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าต้องการที่จะเปลี่ยนระบบของการบริหารประเทศจากนายทุนเป็นพื้นฐานตามความเป็นจริงหรือไม่ หลายโครงการของรัฐบาลชุดปัจจุบันมีให้อยู่อย่างชัดเจนแล้วว่าอะไรที่ประชาชนยอมรับได้ พรรคประชาชนพร้อมที่จะมารับใช้ประชาชนด้วยพื้นฐานข้อเท็จจริงในแต่ละพื้นที่ ที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ”

ด้านนายจเด็จ อินสว่าง เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ยังคงมีหลายนโยบายที่พรรคเริ่มที่จะทยอยประกาศให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจน เนื่องจากการลงพื้นที่ในภาคอีสานหลายเรื่องที่เป็นจุดบอดของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ดังนั้น การที่พรรคจะพิจารณาคัดสรรตัวผู้สมัครก็ขึ้นอยู่ในแต่ละพื้นที่ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการใช้สมการ 4 ต่อ 1 คือการนำเอาผู้สมัครที่มีการเสนอชื่อในแต่ละเขตจำนวน 4 คนมาโหวตและทำโพลกับประชาชนในพื้นที่ว่าใครเหมาะสมที่สุดว่าทางพรรคจะส่งตัวใครเป็นตัวแทนของพรรคลงสมัครรับการเลือกตั้ง และที่ยังไม่เปิดเผยอีกหนึ่งนโยบายคือการให้เงินเดือน อสม.เดือนละ 500 บาททั่วประเทศ และการจัดสวัสดิการให้กับกลุ่ม อส.ซึ่งถือเป็นนักรบประชาชน เงินที่มาจัดซื้อยุทโธปกรณ์ก็นำมาจัดซื้อเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาจังหวัด

เพราะหน้าที่ของฝ่ายปกครองมีอยู่อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ทำให้ทางพรรคสามรรถเข้าถึงกลุ่มคนได้อย่างถูกจุดในขณะที่การเปิดตัวผู้สมัครของจังหวัดขอนแก่น เป็นไปอย่างแน่นอนแล้วว่าทางพรรคจะส่งผู้สมัครครบทั้ง 11 เขตเลือกตั้งของจังหวัดขอนแก่น

ในขณะนี้ที่สามารถเปิดตัวได้คือนางศรีนวล ศรีตรัย อดีต ส.ส.หลายสมัยลงรับการเลือกตั้งในเขต 7 นายประสิทธิ์ เต๊าะเจริญสุข ว่าที่สมาชิก อบจ.เขต 1 อำเภอหนองเรือ ลงสมัครในเขต 8 นายสุเทพ ดีบุญมี ณ ชุมแพ ลงสมัครเขต 6 สำหรับในเขตอื่นๆ นั้นจะมีการพิจารณาอีกครั้งเพราะในขณะนี้มีหลายคนที่เสนอตัวเพื่อขอรับใช้ประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น