ศูนย์ข่าวขอนแก่น-แบงก์ชาติ แถลงภาวะเศรษฐกิจอีสานครึ่งแรกปี 47 ดีขึ้นแทบทุกหมวด สินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณผลผลิตและราคาสินค้า ขณะที่การผลิตนอกภาคเกษตร โดยเฉพาะการบริโภคของภาคเอกชน ขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งยอดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ยอดขายรถยนต์ ชี้บรรยากาศการลงทุนยังคึกคัก นักลงทุนแห่ขอบีโอไอเพียบ ส่งผลโครงการเพิ่มเท่าตัว ส่วนวงเงินลงทุนพุ่งกว่า 8 เท่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 2.7
นายจิระพงศ์ ทิพยมณฑล ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท.สภอ.) เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือครึ่งแรกปี 2547 ว่า ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยรวมช่วงครึ่งแรกปี 2547 ดีขึ้นกว่าปีก่อน เห็นได้ชัดจากการบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การก่อสร้างขยายตัวดี ภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น ภาคเกษตรเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณผลผลิตและราคา
ภาคเกษตร-อุตสาหกรรมราคาเพิ่ม
สำหรับการผลิตภาคเกษตร ช่วงครึ่งแรกของปีเป็นระยะเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของฤดูการผลิตปี 2546/2547 มูลค่าการผลิตโดยรวมเพิ่มขึ้นจากฤดูการที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 4.1 เนื่องจากสภาพฝนเอื้ออำนวย ผลผลิตข้าว มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น
ส่วนผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลดลง เกษตรกรบางส่วนหันไปปลูกมันสำปะหลังที่ได้ราคาดี ราคาข้าวเปลือกอยู่ในเกณฑ์สูง ราคามันสำปะหลังลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
นายจิระพงศ์กล่าวต่อว่า ภาคอุตสาหกรรม ในหมวดอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวดี ทั้งโรงสีข้าว โรงานแป้งมันสำปะหลัง อุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมแปรรูปไก่และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบจากโรคไข้หวัดนก ตั้งแต่ต้นปีต้องเก็บรักษาไก่แช่แข็งไว้รอสถานการณ์คลี่คลายเพื่อส่งออก แต่กลับเกิดโรคระบาดอีกครั้งช่วงมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ ส่งผลให้การส่งออกต้องชะลอออกไปอีก
ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท.สภอ.กล่าวถึงการใช้จ่ายภาคเอกชนในภาคอีสานครึ่งแรกปี 47 ว่า ปรับตัวสูงขึ้น จากระยะเดียวกันของปีก่อน โดยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ถึง 4,342.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.9 ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพื่อที่อยู่อาศัย 1,938.1 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0
ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 15,205 คัน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล 28,262 คัน และรถจักรยานยนต์ 239,477 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.2 ร้อยละ 46.2 และร้อยละ 31.4 ตามลำดับ
ขณะเดียวกันบรรยากาศการลงทุนในภาคอีสาน มีแนวโน้มที่ดี พิจารณาจากโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน มีมูลค่าเงินลงทุนถึง 27,431 ล้านบาท เป็นมูลค่าที่สูงกว่าเงินลงทุนตลอดทั้งปี 2546 กว่าเท่าตัว ส่วนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนนั้นมี 37 โครงการ วงเงินลงทุน 17,040 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนที่มีโครงการได้รับอนุมัติ 16 โครงการ วงเงิน 1,794 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 131.3 และร้อยละ 850.0 ตามลำดับ
ส่วนภาคการคลังครึ่งแรกปี 47 รายได้รัฐบาลในภาคอีสานจัดเก็บได้ 10,472.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.3 จากระยะเดียวกันของปีก่อน 8,855.6 ล้านบาท ส่วนรายจ่าย 82,008.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 จากระยะเดียวกันของปีก่อน 23,938.5 ล้านบาท ทำให้เงินงบประมาณขาดดุล 71,536.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 จากระยะเดียวกันของปีก่อนที่ขาดดุล 66,974.7 ล้านบาท