สมาชิกกอล์ฟ"แนเชอรัลพาร์ค"ยื่นฟ้อง"เลกาซี่"ฐานฉ้อโกง

ศูนย์ข่าวศรีราชา-กลุ่มสมาชิกสนามกอล์ฟ แนเชอรัลพาร์ค รีสอร์ท และ แนเชอรัล พาร์คฮิลล์ รวมตัวยื่นฟ้องบริษัทเลกาซี่กอล์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด ต่อศาลจังหวัดชลบุรี ฐานฉ้อโกง ริดรอนสิทธิสมาชิกสนามกอล์ฟทั้ง 2 แห่งแล้ว

นายสมหมาย มณีรัตน์ ประธานคณะกรรมการรักษาสิทธิสมาชิกสนามกอล์ฟ และอดีตอธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ทางกลุ่มสมาชิกสนามกอล์ฟ แนเชอรัล พาร์ค รีสอร์ท และ แนเชอร์รัล พาร์คฮิลล์ รวมตัวยื่นฟ้องศาลจังหวัดชลบุรีกว่า 200 คน เพื่อฟ้องร้องบริษัท เลกาซี่กอล์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด ต่อศาลจังหวัดชลบุรี ในข้อหา ริดรอน ฉ้อโกง สิทธิสมาชิกสนามกอล์ฟ ทั้งสองแห่ง เพราะหลังจากบริษัทเลกาซี่ ได้เข้ามาบริหารสนามกอล์ฟ ทั้งสองแห่งก็ได้ทำการปิดสนามกอล์ฟ ทั้ง 2 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2546 ที่ผ่านมา โดยไม่แจ้งให้ทางสมาชิกทั้ง 2 สนามรับทราบ

หลังจากนั้นได้ส่งจดหมาย แจ้งสมาชิกของสนามกอล์ฟทั้งสองแห่งในวันที่ 3 ธันวาคม 2546 ว่า บริษัทเลกาซี่ ได้รับโอนสนามกอล์ฟ ทั้ง 2 แห่งดังกล่าวจากเจ้าหนี้ของเจ้าของสนามกอล์ฟ โดยรับโอนเฉพาะกรรมสิทธิ์ในที่ดินสนามกอล์ฟ พร้อมสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น บริษัท มิได้รับโอนสิทธิ หรือหน้าที่ตามข้อตกลง หรือสัญญาใดๆ รวมถึงหน้าที่ในการให้บริการสมาชิกสนามกอล์ฟตลอดมาด้วย

ทำให้สมาชิกของสนามกอล์ฟ ทั้ง 2 แห่งรู้สึกว่าทางบริษัทเลกาซี่ มีความตั้งใจที่จะหาประโยชน์โดยการริดรอน และฉ้อโกงสิทธิที่พึงมีของสมาชิกสนามกอล์ฟ ทั้ง 2 แห่งนี้ จึงได้มีการรวมตัวกันคัดค้านการกระทำดังกล่าวของบริษัทเลกาซี่ โดยที่ผ่านมาทางเราได้ทำการร้องเรียนมาโดยตลอด พร้อมทั้งร้องไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค จนได้สิทธิความเป็นสมาชิกกลับคืนมา แต่หลังจากนั้นทางเจ้าของใหม่ได้ออกเงื่อนไขขึ้นมาสำหรับสมาชิกเดิมหลายข้อที่พวกเรารับไม่ได้ เช่น สมาชิกเดิมที่จะโอนสิทธิให้กับผู้อื่นจะต้องเสียธรรมเนียมในการโอน 50,000 บาท และสามารถคงความเป็นสมาชิกได้ 5 ปี บริษัทสามารถเปลี่ยนอัตราค่าบำรุง สนามกอล์ฟได้ ตามสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต
ส่วนในกรณีของผู้ที่ซื้อที่ดิน และคอนโดมิเนียมภายในสนามกอล์ฟ ซึ่งทางสนามจะให้สิทธิการเป็นสมาชิกของสนามกอล์ฟรวมอยู่ด้วย แต่เมื่อมีการขายบ้าน หรือที่ดินให้กับผู้อื่นสิทธิดังกล่าวจะถูกตัดไปทันทีนั้น สมาชิกเดิมได้เสนอให้เจ้าของสนามแยกสิทธิดังกล่าวออกจากเจ้าของเดิม แต่ขอให้สิทธิติดอยู่ที่ตัวบ้านหรือที่ดิน เพื่อที่ว่าผู้ซื้อที่ดินหรือที่อยู่อาศัยต่อจะได้กรรมสิทธิ์ในการเป็นสมาชิกด้วย และในเรื่องของการใช้สปอร์ตคลับ ซึ่งสระว่ายน้ำจะอยู่ในบริเวณของคอนโดมิเนียมนั้น เจ้าของสนามกอล์ฟ ใหม่ กำหนดให้สมาชิกสนามสามารถใช้บริการได้ฟรี แต่ต้องเสียค่าบริการต่อครั้ง ซึ่งสมาชิกเดิมเสนอให้เจ้าของสนามไม่คิดค่าบริการดังกล่าว แต่ก็ได้รับการปฏิเสธในทุกข้อเรียกร้อง

นายสมหมาย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเราขอเจรจากับทางผู้บริษัทแล้วแต่ ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งพวกเราเห็นว่าเงื่อนไขดังกล่าวไม่เป็นธรรมกับพวกเรา อีกทั้งเป็นการริดรอนสิทธิห้ามขายสิทธิ ซึ่งโดยปกติสมาชิกตลอดชีพนั้นสามารถซื้อขายได้และรับโอนก็จะได้รับสิทธิเท่าเทียมกับสมาชิกเดิมตลอดไป

อีกทั้ง ทางสมาชิกก็ยังถูกริดรอนในการเข้าไปใช้สนามกอล์ฟ ทั้ง 2 แห่งดังกล่าว ดังนั้น พวกเราจึงต้องพึ่งกฎหมายโดยจะทำการฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดชลบุรีเพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรม พร้อมกันนี้ก็จะขอยื่นคำร้องฉุกเฉินขอให้ศาลไต่สวนเพื่อให้กลุ่มสมาชิกได้เข้าไปใช้สนามกอล์ฟได้ในขณะที่คดียังไม่สิ้นสุด

อนึ่ง ความเป็นมาของสนามกอล์ฟเลกาซี่ (ประเทศไทย ) จำกัด จากเดิมนั้นคือสนามกอล์ฟปัญญาพาร์ค รีสอร์ท บริหารโดยบริษัท ปัญญารีสอร์ท จำกัด ในปี 2528-2539 หลังจากนั้นเปลี่ยนชื่อมาเป็นแนเชอรัลพาร์ค รีสอร์ท กอล์ฟ คลับ กำจัด โดยได้รับโอนมาจาก บริษัทปัญญารีสอร์ท ส่วนสนามกอล์ฟ ปัญหาพาร์คฮิลล์ ซึ่งบริหารโดยปัญญาก่อสร้างในปี 2531-2539 หลังจากนั้นก็เปลี่ยนชื่อมาเป็นแนเชอรัล พาร์คฮิลล์ ซึ่งได้รับโอนมาจากบริษัทปัญญาก่อสร้าง

หลังจากนั้น สนามกอล์ฟ ทั้ง 2 แห่งก็ถูกโอนให้กับบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน ในนามบริษัทแนเชอรัล พาร์ค จำกัด(มหาชน)

ต่อจากนั้นก็มีการเปลี่ยนมืออีกครั้ง ทางบริษัทแนเชอรัล แบรนด์ส จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งใน บริษัท ลูกของบริษัทแนเชอรัล พาร์ค จำกัด ซึ่งทำการซื้อคืนจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ สถาบันการเงิน โดยใช้สิทธิการเป็นเจ้าของเดิมในราคา 400 ล้านบาท ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2546 โดยทำการเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทพินไฮ กอล์ฟ กำจัด เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2546 และทั้ง 2 สนามก็ได้ถูกปิดในวันที่ 4 สิงหาคม 2546 โดยประกาศว่าจะทำการปรับปรุงสนามครั้งใหญ่

ต่อจากนั้นทางบริษัทวัฒนประชา จำกัด ซึ่งซื้อมาจากบริษัท แนเชอรัล แบรนด์ส ในราคา 650 ล้านบาทในวันที่ 3 กันยายน 2546 พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนชื่อกรรมการผู้ถือหุ้น และทางบริษัทวัฒนประชา ได้ทำการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นบริษัท เลกาซี่กอล์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2546 ที่ผ่านมา ซึ่งมีกรรมการบริษัท 3 คนคือนายชัยรัตน์ อัศวางกรู พลเอกสมชัย สมประสงค์ และนายสตีเวน มาร์ค วิลเลาบี้