xs
xsm
sm
md
lg

นักการเมือง/กลุ่มทุนค้าข้าวปลุกม็อบชาวนาดันรัฐปรับราคาข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แพร่-นักการเมือง กลุ่มทุนค้าข้าวก่อกระแสปลุกม็อบชาวนา กดดันรัฐปรับราคาข้าวขึ้นอีก ระดม 20,000 เกษตรกรหวังชุมนุมหน้าทำเนียบวันนี้

หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาว่าจะมีการชุมนุมประท้วงของสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจำนวนกว่า 20,000 คนใน กทม.กดดันให้รัฐขึ้นราคาข้าวในวันนี้ (29 ก.ค.) ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้นเป็นที่สนใจในกลุ่มสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯใน จ.แพร่อย่างมาก เนื่องจากขณะนี้กองทุนฯกำลังดำเนินการในพื้นที่ทุกจังหวัด ซึ่งไม่น่าจะเป็นประเด็นความขัดแย้งต่อการดำเนินการของกองทุนและรัฐแต่อย่างใด

นายเน้ย สมบูรณ์เถกิง ประธานกลุ่มเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จ.แพร่ กล่าวว่า กลุ่มเกษตรกรของตนนั้นอยู่หมู่ที่ 6 บ้านน้ำพร้าว ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่ มีสมาชิกจำนวน 600 คนได้รับการติดต่อให้ไปชุมนุมกันที่ กทม.เพื่อกดดันให้กระทรวงพาณิชย์ขึ้นราคาข้าวให้กับเกษตรกร โดยมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมดรวมทั้งเบี้ยเลี้ยงในการไปครั้งนี้ ทั้งที่ความจริงแล้วความเดือดร้อนของเกษตรกรกำลังถูกแก้ไขโดยกองทุนและเป็นการแก้ปัญหาอย่างหลากหลายอยู่แล้ว ซึ่งไม่น่าเป็นประเด็นที่จะต้องไปประท้วงให้บ้านเมืองวุ่นวาย ดังนั้นใน จ.แพร่จึงไม่ให้การสนับสนุน และเชื่อว่ากลุ่มเกษตรกรรายย่อยใน จ.แพร่จะไม่เดินทางไปแม้แต่กลุ่มเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการรวมตัวเช่นเดียวกันที่ จ.พิจิตร โดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักไทย จ.พิจิตร และตัวแทนจากผู้ประกอบการค้าข้าวรายใหญ่ได้รวมกลุ่มชาวนาใน จ.พิจิตรจำนวน 2,000 คนในนามกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยมีการจัดรถบัสคันละ 60 คนนำส่งถึงที่และมีเบี้ยเลี้ยงให้ชาวนาหัวละ 200 บาทไปชุมนุมกันที่ กทม. เพื่อกดดันให้มีการขึ้นราคาข้าวให้กับเกษตรกร ซึ่งขณะนี้ประเทศผู้ผลิตข้าวทั้งโลกกำลังเกิดปัญหา โดยเฉพาะบังคลาเทศมีปัญหาอุทกภัยไม่สามารถผลิตข้าวได้

แหล่งข่าวในกองทุนฟื้นฟู เปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการอ้างชื่อกองทุนโดยความร่วมมือกันระหว่างสมาคมโรงสี และนักการเมือง ที่ต้องการจะขึ้นราคาข้าวช่วงที่ตลาดโลกกำลังมีปัญหา แต่การขึ้นราคาดังกล่าวไม่เกิดความชอบธรรม จึงได้ใช้วิธีการระดมชาวนา โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ในภาคกลาง ส่วนภาคเหนืออยู่ที่ จ.พิจิตร และนครสวรรค์ ส่วนกองทุนฟื้นฟูฯนั้นไม่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องในการชุมนุมครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสข่าวดังกล่าวเกษตรกรส่วนใหญ่ให้ความสนใจและไม่พอใจกับการใช้เกษตรกรไปเป็นเครื่องมือในธุรกิจค้าข้าวดังกล่าว ซึ่งผลประโยชน์ครั้งนึ้จะตกอยู่ในมือของเกษตรกรหรือนายทุนรวมทั้งผู้มีอำนาจในการค้าข้าวระดับรัฐมนตรีกันแน่
กำลังโหลดความคิดเห็น