xs
xsm
sm
md
lg

เหล้าพื้นบ้านเจอปัญหารอบด้านร้อง"ทักษิณ"ช่วยด่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวขอนแก่น-อุตสาหกรรมสุราพื้นบ้านไทยสะดุด ปัญหารุมเร้ารอบด้าน โดยเฉพาะสุราแช่สาโทตายแล้วเกือบหมด เหลือแต่สุรากลั่นไม่กี่รายที่ยังกัดฟันสู้ต่อ จวกรัฐบาลได้แต่ป่าวประกาศ ส่งเสริมแต่ไม่ดูแลปัญหา สมาคมผู้ผลิตไวน์ฯ-สมาคมสุราแช่พื้นเมืองฯและเครือข่ายเหล้าพื้นบ้าน ลงมติ ยื่นหนังสือนายกฯทักษิณ ให้สางปัญหาด่วนภายในอาทิตย์นี้ หากยังเฉยพร้อมชุมนุมกดดัน

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้สมาคมผู้ผลิตไวน์ผลไม้และสุราพื้นบ้านไทย สมาคมสุราแช่พื้นเมืองและสุรากลั่นไทยและเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านแห่งประเทศไทย เตรียมที่จะเคลื่อนไหว เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาอุตสาหกรรมการผลิตสุราพื้นบ้านไทย เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน จากการประกอบกิจการ จนกลุ่มผู้ผลิตจำนวนมากประสบการขาดทุน จนถึงขั้นเลิกผลิตไปแล้วจำนวนมาก

"ในสัปดาห์นี้ กลุ่มผู้ผลิตเหล้าพื้นบ้าน 3 สมาคมฯจะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นหนังสือถึงความเดือนร้อนที่กำลังเผชิญอยู่ และขอให้นายกฯแก้ไขให้ลุล่วงโดยเร็ว โดยให้เวลา 15 วัน หากยังไม่มีความคืบหน้าหรือสั่งการใดๆเกี่ยวกับปัญหาที่สะท้อนไป พวกเราจะนัดชุมนุมครั้งใหญ่ที่กรุงเทพฯ สมาชิกเครือข่ายฯมีอยู่ทั่วประเทศ จะห้ามพวกเราชุมนุมไม่ได้"นายสมบูรณ์ แก้วเกรียงไกร เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตไวน์ผลไม้และสุราพื้นบ้านไทย กล่าว

นายศักดิ์ชัย เตชะเกรียงไกร นายกสมาคมสุราแช่พื้นเมืองและสุรากลั่นไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลเคยให้นโยบาย เปิดโอกาสให้ประชาชน รวมตัวกันผลิตสุราแช่และสุรากลั่นได้ ตามประกาศกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 3 และฉบับที่ 4 เรื่องการบริหารงานสุรา

นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเองเคยประกาศให้นโยบายในเรื่องนี้ไว้ว่า จะต้องพัฒนาสาโทให้เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ประจำชาติ เหมือนกับเหล้าสาเกหรือเหล้าว๊อดก้า ซึ่งเป็นสุราชื่อดังประจำชาติญี่ปุ่นและรัสเซีย แต่จนถึงวันนี้นโยบายดังกล่าว ไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ ผู้ผลิตรายย่อย ที่รวมกลุ่มลงทุนผลิตขายอยู่ไม่ได้ เพราะผู้ ผลิตเผชิญอุปสรรคปัญหารอบด้าน ทั้งตัวผู้ผลิตเอง ที่ส่วนมากเป็นผู้ประกอบการรายย่อยในต่างจังหวัด ผลิตออกมาแล้ว ขายไม่ได้ เพราะกฎระเบียบเดิมไม่เอื้อต่อการทำในเชิงธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยทำการวิจัยพัฒนาคุณภาพสินค้าให้กับกลุ่มผู้ผลิต

นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญปัญหาการกีดกันการค้า กระบวนการมุ่งทำลายสารพัดรูปแบบจากบริษัทผู้ผลิตสินค้าสุรารายใหญ่ของประเทศ จนผู้ผลิตรายย่อยที่พยายามทำเป็นธุรกิจชุมชนพึ่งตนเอง ซึ่งมีศักยภาพด้อยกว่าทุกด้านไม่มีช่องทางการขาย

" ปัญหาเหล่านี้ สร้างความเดือดร้อนมาก เพราะเงินทุนต้องกู้ จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.)กู้จากธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(แบงก์SME )แต่เมื่อผลิตออกมาแล้วขายไม่ได้ ไม่มีเงินที่จะนำไปชำระหนี้ที่กู้มาได้ จนกลุ่มผู้ผลิตจำนวนมากต้องเลิกกิจการไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตสุราแช่หรือสาโท ขณะนี้แทบจะหายไปจากตลาดหมดแล้ว เหลือแต่กลุ่มผู้ผลิตสุรากลั่นไม่กี่ร้อยราย ซึ่งก็ทำขายเฉพาะท้องถิ่นของตนเองเท่านั้น"

นายศักดิ์ชัยกล่าวอีกว่า แม้แต่สาโทอีสานของหจก.บุรีรัมย์สาโทสูตรโบราณที่ทำอยู่ ก็ทนรับปัญหาไม่ไหว เลิกผลิตไปกว่าปีแล้ว ตอนนี้เหลือแต่เหล้ากลั่นยี่ห้อไก่ชน ซึ่งก็ทำส่งขายแค่ในท้องถิ่น ปัญหาอีกอย่างที่สุรากลั่นพื้นบ้านอยู่ไม่ได้ คือ ภาระภาษีต้องจ่ายเท่ากับเหล้าขาวของผู้ผลิตรายใหญ่ ทำให้แข่งขันในตลาดยาก รายใหญ่เขาได้เปรียบทุกด้าน เรื่องนี้รัฐบาลยังไม่แก้ไข ทั้งที่เรียกร้องกันมานาน

เหล้ากลั่นทั่วประเทศเหลือ4พันราย

ด้านนายสมบูรณ์ แก้วเกรียงไกร เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตไวน์ผลไม้และสุราพื้นบ้านไทย เปิดเผยว่า ผู้ผลิตสุรากลั่นทั้งประเทศ ในขณะนี้มีอยู่ประมาณ 4,000 ราย ในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งทำสุราแช่ด้วย เมื่อรวมกับผู้ผลิตสุราแช่น่าจะถึง 5,000 ราย และในความเป็นจริงผลิตสุรากลั่นหรือสุราแช่ น่าจะเหลือน้อยกว่านี้ ซึ่งในรายที่ยังทนผลิต เพราะว่าต้องการหารายได้ไปใช้หนี้ที่ยืมมา เชื่อว่าเมื่อถึงสิ้นปีผู้ผลิตจำนวนไม่น้อยคงต้องเลิกกิจการ

สำหรับปัญหาของผู้ผลิตสุรากลั่น นอกจากเจอปัญหาด้านการตลาด ปัญหาระเบียบของรัฐไม่เอื้ออำนวยแล้ว ยังต้องเผชิญกับปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐ นำแสตมป์ปลอมหรือลักลอบนำแสตมป์ออกมาขายให้กับผู้ประกอบการบางรายในราคาถูก ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางการตลาด

ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการผลิตสุราพื้นบ้านดังกล่าว ทั้ง 2 สมาคม คือ สมาคมผู้ผลิตไวน์ผลไม้และสุราพื้นบ้านไทย สมาคมสุราแช่พื้นเมืองและสุรากลั่นไทย และเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านแห่งประเทศไทย จึงมีมติร่วมกันที่จะยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี

นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ อยากจะให้นายกฯสั่งการให้มีการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็น และปัญหาของผู้ประกอบการผลิตสุราไทยอีกสักครั้ง เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับทราบประเด็นปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมสุราพื้นบ้าน และร่วมกันหาทางออกร่วมกันในแต่ละประเด็น

เปิดข้อเรียกร้องนายกฯทักษิณ

สำหรับประเด็นข้อเรียกร้องที่กลุ่มผู้ผลิตเหล่าพื้นบ้าน จะยื่นให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแก้ไข ประกอบด้วย
1.ขอให้ลดภาษีสุราแก่ผู้ประกอบการ ในลักษณะธุรกิจชุมชน เพราะผู้ประกอบการในลักษณะธุรกิจชุมชน มีต้นทุนการผลิตสูงกว่าบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่มาก

2.ขอให้ลดภาษีสุราที่ผลิตในประเทศ ให้เท่ากับสุรานำเข้าจากต่างประเทศ หรือต่ำกว่า เพื่อให้ได้เปรียบในเชิงการแข่งขันทางการค้า

3. ขอให้แก้กฎระเบียบ ในการอนุญาตให้ผู้ประกอบการธุรกิจชุมชน ใช้เครื่องมือในการผลิตขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมที่อนุญาตแค่เพียงเครื่องมือขนาดย่อมในการผลิต

4. ระเบียบปฏิบัติใดๆของกระทรวงการคลังที่มีอยู่แต่เดิม และไม่ได้เป็นไปในลักษณะการส่งเสริมให้เกิดการค้าเสรีหรือระเบียบใดๆที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าเสรี ขอให้ยกเลิกหรือปรับปรุงแก้ไข ให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกในทางปฏิบัติ เพราะระเบียบหลายอย่างที่มีอยู่จะขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540

ในหนังสือร้องเรียนยังระบุอีกว่า นอกจากปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่เกิดจากภาครัฐแล้วยังมีปัญหาและอุปสรรคที่เกิดจากผู้ผลิตสุรารายใหญ่ ซึ่งผูกขาดวงการสุราของประเทศไทยมานาน เพราะผู้ผลิตสุรารายใหญ่ดังกล่าวได้พยายามเข้ามากีดกันในทุกวิถีทาง ที่จะทำให้ผู้ผลิตสุราชุมชนไม่สามารถทำการค้าอย่างเสรีได้
เช่น การห้ามร้านค้าปลีกนำสุราชุมชนเข้ามาจำหน่ายในร้าน ขึ้นราคาขวดเก่าที่นำมาใช้ใหม่ การเก็บทำลายขวดเก่าที่นำมาใช้ใหม่ การแจ้งความดำเนินคดีกับผู้นำขวดที่มีเครื่องหมายการค้ามาใช้ เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น