ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-รัฐ/เอกชนภาคเหนือเตรียมตั้งโต๊ะของบ “เอื้ออาทร” จากทัวร์สายเหนือรอบใหม่ของนายกฯทักษิณ ที่ไล่ลงพื้นที่ตั้งแต่ “อุทัยธานี”ขึ้นไปถึงจังหวัดชายแดนเหนือสุด “เชียงใหม่” งัดโครงการที่หลุดจาก ครม.สัญจรลำพูนเสนอใหม่
การเดินทางตรวจราชการจังหวัดภาคเหนือของคณะนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะเริ่มขึ้นอีกครั้งในวันที่ 17 ก.ค.เป็นต้นไปโดยเริ่มจากจังหวัดอุทัยธานีไปจนถึงจังหวัดชายแดนเหนือสุดนั้นปรากฏว่า ทุกจังหวัดที่คณะนายกฯจะเดินทางผ่านและแวะพัก ล้วนเตรียมเสนอของบประมาณดำเนินโครงการกันทั้งสิ้น
สำหรับการตะลอนทัวร์สายเหนือของคณะนายกฯครั้งนี้ เพื่อตรวจเยี่ยมรับฟังปัญหาและติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล อาทิ โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ธนาคารคนจนและ 30 รักษาทุกโรค ฯลฯ
เริ่มตั้งแต่จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดแรกที่คณะนายกฯจะพักค้างแรมในคืนแรกวันที่ 17 ก.ค.ทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯ จะนำเสนอการแก้ปัญหาเรื่องน้ำที่ขาดแคลนในฤดูแล้งในพื้นที่เกษตรกรรม รวมทั้งปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม โดยจะเสนอทางออกไว้ 3 ระยะคือระยะสั้นผันน้ำจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาสู่แม่น้ำสะแกกรังด้วยงบฯ 20 ล้านบาท ระยะกลางจัดทำแผนพัฒนาลุ่มน้ำสะแกกรังทั้งระบบ และระยะยาวของบศึกษาแนวทางที่เหมาะสมงบฯ 30 ล้านบาทในการผันน้ำจากแม่น้ำแม่กลองสู่ลุ่มน้ำสะแกกรัง
จังหวัดกำแพงเพชร ผู้ว่าราชการจังหวัดฯเตรียมบรรยายภาพรวมของจังหวัดพร้อมเสนอของบฯใน 7 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท อาทิ ถนนจากคลองลาน-ขุนน้ำเย็น ลอกคลองจาก อ.พรานกระต่าย-กำแพงเพชร สร้างศูนย์ชีวเกษตรครบวงจร ปรับปรุงถนนสายเอเชียบริเวณโค้งวิไล และปรับปรุงอุทยานเมืองเก่ากำแพงเพชร ซึ่ง 3 ใน 7 โครงการนั้นเป็นโครงการพิเศษที่ ส.ส.กำแพงเพชรเสนอขอรับการสนับสนุน โดยไม่อยู่ในแผนงานปกติ อาทิ ปรับปรุงภูมิทัศน์อุทยานประวัติศาสตร์เมือง เป็นของนายวราเทพ รัตนากร ส.ส.กำแพงเพชรที่เคยเสนอขอรับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดหลายสมัย แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา
จังหวัดสุโขทัย ที่คณะนายกฯจะเดินทางมายังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมืองเก่าสุโขทัยเพื่อรับฟังบรรยายสรุปสภาพทั่วไปของจังหวัด รายงานผลด้านเกษตรกรรม ปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้งและโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่ทันสมัย โดยเตรียมเสนอของบฯเร่งด่วนเพื่อสร้างถนน 4 เลน จากพิษณุโลก-สุโขทัย ระยะทาง 58 กิโลเมตร ซึ่งได้ขยายเป็นถนน 4 เลนบ้างแล้วแต่ไม่ครบสมบูรณ์ ขาดเพียงงบฯขยายถนนเพิ่มเติม
จังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯจะนำเสนอการแก้ปัญหาของราษฎรในเรื่องภัยแล้งและน้ำท่วม พร้อมกับผลักดันจุดผ่านแดนภูดู่ให้เป็นด่านชายแดนถาวร ขณะที่ยุทธศาสตร์ของจังหวัดต้องการพัฒนาตลาดกลาง โดยจะของบฯ 70-80 ล้านบาท เพื่อสร้างตลาดกลางค้าผลไม้ที่อุตรดิตถ์ โดยภาพรวมทั้งหมดจะเสนอขอรับงบฯ 500-600 ล้านบาท
จังหวัดแพร่ คณะนายกฯจะเดินทางมาถึงวันที่ 18 ก.ค.มีกำหนดเข้าพบประชาชนที่ประตูสู่ล้านนา ริมทางหลวงหมายเลข 11 เขต ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย และร่วมพิธิรดน้ำดำหัวก่อนที่จะเข้าตรวจเยี่ยมโครงการแก้ปัญหาความยากจนในจังหวัด ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี อ.เด่นชัย รวมทั้งรับฟังบรรยายสรุปของผู้ว่าฯ ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้เฉลิมพระเกียรติ อ.ร้องกวาง ก่อนจะร่วมงานเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.แพร่ของพรรคไทยรักไทย โดยเฉพาะนายอนุวัธ วงศ์วรรณ ลูกชายของพ่อเลี้ยงณรงค์ วงศ์วรรณ อดีต ส.ส.หลายสมัยของจังหวัด ที่จะลงสู้กับแม่เลี้ยงติ๊ก นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.3 สมัยของพรรคประชาธิปัตย์
โดยจังหวัดแพร่ ได้เตรียมยื่นเสนอโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณต่อนายกฯ 2 โครงการหลักรวมมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ที่จังหวัดแพร่วาดหวังจะพัฒนารองรับสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าด้วยระบบคอนเทนเนอร์ที่ อ.เด่นชัย เช่น โครงการขยายถนน 4 เลน ศูนย์ขนถ่ายสินค้าคอนเทนเนอร์ที่เด่นชัย อ่างเก็บน้ำ และโครงการขยายสนามบิน ฯลฯ จากนั้นคณะของนายกฯ ก็จะเดินทางต่อไปยัง อ.เวียงสา จ.น่าน พะเยา เชียงราย และเชียงใหม่
สำหรับจังหวัดเชียงราย ที่คณะนายกฯ จะเดินทางถึงวันที่ 19 ก.ค. จะมีการนำเสนอปัญหาเรื่องเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อ อ.แม่สาย-พม่า-จีนตอนใต้ เส้นทางการเดินเรือในแม่น้ำโขง และเส้นทางถนนจาก อ.เชียงของ-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ รวมทั้งแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเขตลุ่มน้ำอิง แม่น้ำลาว แม่น้ำกก ที่น่าจะมีการจัดระบบให้ดีขึ้นก่อนปล่อยให้ไหลลงสู่แม่น้ำโขง
ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จะหยิบยกโครงการที่พลาดจากการนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.สัญจร จ.ลำพูน เมื่อ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา นำเสนอต่อนายกฯอีกครั้ง ประกอบด้วยโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน เชียงใหม่ ระยะแรก 390 ล้านบาท โครงการก่อสร้างโครงข่ายถนนและแก้ปัญหาจราจรในเขตเมืองเชียงใหม่ 4,454 ล้านบาท โครงการเชียงใหม่ ICT ซิตี้ 381 ล้านบาท โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ ระยะสั้น 113.88 ล้านบาท ระยะยาว 303.85 ล้านบาท
โครงการพัฒนาธุรกิจสุขภาพ 175.40 ล้านบาท โครงการจัดตั้งศูนย์ออกแบบสินค้าหัตถกรรม 60.23 ล้านบาท โครงการสร้างแนวโน้มแฟชั่นรูปแบบสินค้าหัตถกรรมสไตล์ 34.8 ล้านบาท โครงการพัฒนาสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 264.38 ล้านบาท โครงการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ 330 ล้านบาท
โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 7,031.54 ล้านบาท โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่ 461 ล้านบาท โครงการพัฒนาอมก๋อยแบบบูรณาการ 207 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 14,207 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมโครงการตามดำริของนายกฯอีกหลายโครงการ เช่น ศูนย์ประชุมนานาชาติ ไนท์ซาฟารี เป็นต้น
ขณะที่จังหวัดลำปาง เตรียมเสนอโครงการที่จัดเตรียมไว้แต่ยังไม่มีงบประมาณสนับสนุนเบื้องต้นทั้งสิ้น 14 โครงการ เช่น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่พริก อ่างเก็บน้ำ ในเขต ต.เวียงมอก โครงการพัฒนาลุ่มน้ำวัง โครงการพัฒนาวัดพระธาตุลำปางหลวง โครงการจัดตั้งศูนย์พลังงานภาคเหนือและย้ายคลังก๊าซ ปตท.ไปอยู่ที่ศูนย์พลังงาน โครงการก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองเส้นทางบ้านน้ำโท้ง และโครงการก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองจากสามแยกโยนก-ถนนสายลำปาง/งาว
โครงการปรับปรุงถนนสายแจ้ห่ม-วังเหนือ-แม่ขะจาน-ดอยสะเก็ด และสายวังเหนือ-พะเยา โครงการก่อสร้างถนนสายบ้านหัวทุ่ง-ปางปง/ปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โครงการก่อสร้างถนนวงแหวนเชื่อมถนนจามเทวีสายลำปาง-งาว โครงการก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะลำปาง โครงการก่อสร้างระบบรวมและระบบบำบัดน้ำเสียในเขตเทศบาลฯ โครงการก่อสร้างศูนย์แสดงสินค้าและจำหน่ายเซรามิก และโครงการไทยแลนด์เซรามิก
ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน คณะของนายกฯมีกำหนดเดินทางมามาถึงวันที่ 21 ก.ค. ทางจังหวัดได้เตรียมโครงการของบฯดำเนินการพัฒนาจังหวัดไว้ถึง 10 โครงการคือ โครงการปรับปรุงทางหลวงแผ่นดิน 108 และ 1095 มูลค่า 643,210,000 บาท โครงการปรับปรุงท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน 262 ล้านบาท โครงการก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้า 115 KV จำนวน 450 ล้านบาท โครงการปรับปรุงสนามบิน อ.ปาย 11.5 ล้านบาท โครงการปรับปรุงสนามบินแม่สะเรียง 9.5 ล้านบาท
โครงการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ มูลค่า 10.2 ล้านบาท และโครงการเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 30 ล้านบาท โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการปลูกสร้างสวนป่า 9.3 ล้านบาท โครงการก่อสร้างปรับปรุงพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในเขตเทศบาล 32 ล้านบาท โครงการพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัด 1,590 กว่าล้านบาท และโครงการก่อสร้างถนน คสล.ในหมู่บ้านใน 7 อำเภอ 41.56 ล้านบาท รวมวงเงินที่ยื่นเสนองบประมาณครั้งนี้ถึง 3,099.22 ล้านบาท
ส่วนจังหวัดตาก นายกฯและคณะ มีกำหนดเดินทางมาที่เขื่อนภูมิพลวันที่ 22 ก.ค.ทางจังหวัดเตรียมจะเสนอโครงการขอรับการสนับสนุนไว้เพียง 3 โครงการคือ โครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วมในเขตลุ่มน้ำวัง วงเงิน 50 ล้านบาท โครงการศึกษาฟื้นฟูผลกระทบจากปัญหาแคดเมี่ยม ต.แม่ตาว อ.แม่สอด วงเงิน 73 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างทางและสะพาน คสล.ยาว 80 เมตร ทดแทนของเดิมที่เสียหายจากอุทกภัย อ.แม่ระมาด กว่า 15 ล้านบาท
ขณะที่ภาคเอกชนนำโดยหอการค้าจังหวัดตาก จะนำเสนอเรื่องการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จ.ตากที่ค้างคามาร่วม 10 ปีด้วยเช่นกัน
การเดินทางตรวจราชการจังหวัดภาคเหนือของคณะนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะเริ่มขึ้นอีกครั้งในวันที่ 17 ก.ค.เป็นต้นไปโดยเริ่มจากจังหวัดอุทัยธานีไปจนถึงจังหวัดชายแดนเหนือสุดนั้นปรากฏว่า ทุกจังหวัดที่คณะนายกฯจะเดินทางผ่านและแวะพัก ล้วนเตรียมเสนอของบประมาณดำเนินโครงการกันทั้งสิ้น
สำหรับการตะลอนทัวร์สายเหนือของคณะนายกฯครั้งนี้ เพื่อตรวจเยี่ยมรับฟังปัญหาและติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล อาทิ โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ธนาคารคนจนและ 30 รักษาทุกโรค ฯลฯ
เริ่มตั้งแต่จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดแรกที่คณะนายกฯจะพักค้างแรมในคืนแรกวันที่ 17 ก.ค.ทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯ จะนำเสนอการแก้ปัญหาเรื่องน้ำที่ขาดแคลนในฤดูแล้งในพื้นที่เกษตรกรรม รวมทั้งปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม โดยจะเสนอทางออกไว้ 3 ระยะคือระยะสั้นผันน้ำจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาสู่แม่น้ำสะแกกรังด้วยงบฯ 20 ล้านบาท ระยะกลางจัดทำแผนพัฒนาลุ่มน้ำสะแกกรังทั้งระบบ และระยะยาวของบศึกษาแนวทางที่เหมาะสมงบฯ 30 ล้านบาทในการผันน้ำจากแม่น้ำแม่กลองสู่ลุ่มน้ำสะแกกรัง
จังหวัดกำแพงเพชร ผู้ว่าราชการจังหวัดฯเตรียมบรรยายภาพรวมของจังหวัดพร้อมเสนอของบฯใน 7 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท อาทิ ถนนจากคลองลาน-ขุนน้ำเย็น ลอกคลองจาก อ.พรานกระต่าย-กำแพงเพชร สร้างศูนย์ชีวเกษตรครบวงจร ปรับปรุงถนนสายเอเชียบริเวณโค้งวิไล และปรับปรุงอุทยานเมืองเก่ากำแพงเพชร ซึ่ง 3 ใน 7 โครงการนั้นเป็นโครงการพิเศษที่ ส.ส.กำแพงเพชรเสนอขอรับการสนับสนุน โดยไม่อยู่ในแผนงานปกติ อาทิ ปรับปรุงภูมิทัศน์อุทยานประวัติศาสตร์เมือง เป็นของนายวราเทพ รัตนากร ส.ส.กำแพงเพชรที่เคยเสนอขอรับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดหลายสมัย แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา
จังหวัดสุโขทัย ที่คณะนายกฯจะเดินทางมายังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมืองเก่าสุโขทัยเพื่อรับฟังบรรยายสรุปสภาพทั่วไปของจังหวัด รายงานผลด้านเกษตรกรรม ปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้งและโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่ทันสมัย โดยเตรียมเสนอของบฯเร่งด่วนเพื่อสร้างถนน 4 เลน จากพิษณุโลก-สุโขทัย ระยะทาง 58 กิโลเมตร ซึ่งได้ขยายเป็นถนน 4 เลนบ้างแล้วแต่ไม่ครบสมบูรณ์ ขาดเพียงงบฯขยายถนนเพิ่มเติม
จังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯจะนำเสนอการแก้ปัญหาของราษฎรในเรื่องภัยแล้งและน้ำท่วม พร้อมกับผลักดันจุดผ่านแดนภูดู่ให้เป็นด่านชายแดนถาวร ขณะที่ยุทธศาสตร์ของจังหวัดต้องการพัฒนาตลาดกลาง โดยจะของบฯ 70-80 ล้านบาท เพื่อสร้างตลาดกลางค้าผลไม้ที่อุตรดิตถ์ โดยภาพรวมทั้งหมดจะเสนอขอรับงบฯ 500-600 ล้านบาท
จังหวัดแพร่ คณะนายกฯจะเดินทางมาถึงวันที่ 18 ก.ค.มีกำหนดเข้าพบประชาชนที่ประตูสู่ล้านนา ริมทางหลวงหมายเลข 11 เขต ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย และร่วมพิธิรดน้ำดำหัวก่อนที่จะเข้าตรวจเยี่ยมโครงการแก้ปัญหาความยากจนในจังหวัด ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี อ.เด่นชัย รวมทั้งรับฟังบรรยายสรุปของผู้ว่าฯ ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้เฉลิมพระเกียรติ อ.ร้องกวาง ก่อนจะร่วมงานเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.แพร่ของพรรคไทยรักไทย โดยเฉพาะนายอนุวัธ วงศ์วรรณ ลูกชายของพ่อเลี้ยงณรงค์ วงศ์วรรณ อดีต ส.ส.หลายสมัยของจังหวัด ที่จะลงสู้กับแม่เลี้ยงติ๊ก นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.3 สมัยของพรรคประชาธิปัตย์
โดยจังหวัดแพร่ ได้เตรียมยื่นเสนอโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณต่อนายกฯ 2 โครงการหลักรวมมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ที่จังหวัดแพร่วาดหวังจะพัฒนารองรับสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าด้วยระบบคอนเทนเนอร์ที่ อ.เด่นชัย เช่น โครงการขยายถนน 4 เลน ศูนย์ขนถ่ายสินค้าคอนเทนเนอร์ที่เด่นชัย อ่างเก็บน้ำ และโครงการขยายสนามบิน ฯลฯ จากนั้นคณะของนายกฯ ก็จะเดินทางต่อไปยัง อ.เวียงสา จ.น่าน พะเยา เชียงราย และเชียงใหม่
สำหรับจังหวัดเชียงราย ที่คณะนายกฯ จะเดินทางถึงวันที่ 19 ก.ค. จะมีการนำเสนอปัญหาเรื่องเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อ อ.แม่สาย-พม่า-จีนตอนใต้ เส้นทางการเดินเรือในแม่น้ำโขง และเส้นทางถนนจาก อ.เชียงของ-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ รวมทั้งแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเขตลุ่มน้ำอิง แม่น้ำลาว แม่น้ำกก ที่น่าจะมีการจัดระบบให้ดีขึ้นก่อนปล่อยให้ไหลลงสู่แม่น้ำโขง
ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จะหยิบยกโครงการที่พลาดจากการนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.สัญจร จ.ลำพูน เมื่อ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา นำเสนอต่อนายกฯอีกครั้ง ประกอบด้วยโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน เชียงใหม่ ระยะแรก 390 ล้านบาท โครงการก่อสร้างโครงข่ายถนนและแก้ปัญหาจราจรในเขตเมืองเชียงใหม่ 4,454 ล้านบาท โครงการเชียงใหม่ ICT ซิตี้ 381 ล้านบาท โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ ระยะสั้น 113.88 ล้านบาท ระยะยาว 303.85 ล้านบาท
โครงการพัฒนาธุรกิจสุขภาพ 175.40 ล้านบาท โครงการจัดตั้งศูนย์ออกแบบสินค้าหัตถกรรม 60.23 ล้านบาท โครงการสร้างแนวโน้มแฟชั่นรูปแบบสินค้าหัตถกรรมสไตล์ 34.8 ล้านบาท โครงการพัฒนาสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 264.38 ล้านบาท โครงการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ 330 ล้านบาท
โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 7,031.54 ล้านบาท โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่ 461 ล้านบาท โครงการพัฒนาอมก๋อยแบบบูรณาการ 207 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 14,207 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมโครงการตามดำริของนายกฯอีกหลายโครงการ เช่น ศูนย์ประชุมนานาชาติ ไนท์ซาฟารี เป็นต้น
ขณะที่จังหวัดลำปาง เตรียมเสนอโครงการที่จัดเตรียมไว้แต่ยังไม่มีงบประมาณสนับสนุนเบื้องต้นทั้งสิ้น 14 โครงการ เช่น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่พริก อ่างเก็บน้ำ ในเขต ต.เวียงมอก โครงการพัฒนาลุ่มน้ำวัง โครงการพัฒนาวัดพระธาตุลำปางหลวง โครงการจัดตั้งศูนย์พลังงานภาคเหนือและย้ายคลังก๊าซ ปตท.ไปอยู่ที่ศูนย์พลังงาน โครงการก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองเส้นทางบ้านน้ำโท้ง และโครงการก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองจากสามแยกโยนก-ถนนสายลำปาง/งาว
โครงการปรับปรุงถนนสายแจ้ห่ม-วังเหนือ-แม่ขะจาน-ดอยสะเก็ด และสายวังเหนือ-พะเยา โครงการก่อสร้างถนนสายบ้านหัวทุ่ง-ปางปง/ปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โครงการก่อสร้างถนนวงแหวนเชื่อมถนนจามเทวีสายลำปาง-งาว โครงการก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะลำปาง โครงการก่อสร้างระบบรวมและระบบบำบัดน้ำเสียในเขตเทศบาลฯ โครงการก่อสร้างศูนย์แสดงสินค้าและจำหน่ายเซรามิก และโครงการไทยแลนด์เซรามิก
ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน คณะของนายกฯมีกำหนดเดินทางมามาถึงวันที่ 21 ก.ค. ทางจังหวัดได้เตรียมโครงการของบฯดำเนินการพัฒนาจังหวัดไว้ถึง 10 โครงการคือ โครงการปรับปรุงทางหลวงแผ่นดิน 108 และ 1095 มูลค่า 643,210,000 บาท โครงการปรับปรุงท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน 262 ล้านบาท โครงการก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้า 115 KV จำนวน 450 ล้านบาท โครงการปรับปรุงสนามบิน อ.ปาย 11.5 ล้านบาท โครงการปรับปรุงสนามบินแม่สะเรียง 9.5 ล้านบาท
โครงการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ มูลค่า 10.2 ล้านบาท และโครงการเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 30 ล้านบาท โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการปลูกสร้างสวนป่า 9.3 ล้านบาท โครงการก่อสร้างปรับปรุงพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในเขตเทศบาล 32 ล้านบาท โครงการพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัด 1,590 กว่าล้านบาท และโครงการก่อสร้างถนน คสล.ในหมู่บ้านใน 7 อำเภอ 41.56 ล้านบาท รวมวงเงินที่ยื่นเสนองบประมาณครั้งนี้ถึง 3,099.22 ล้านบาท
ส่วนจังหวัดตาก นายกฯและคณะ มีกำหนดเดินทางมาที่เขื่อนภูมิพลวันที่ 22 ก.ค.ทางจังหวัดเตรียมจะเสนอโครงการขอรับการสนับสนุนไว้เพียง 3 โครงการคือ โครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วมในเขตลุ่มน้ำวัง วงเงิน 50 ล้านบาท โครงการศึกษาฟื้นฟูผลกระทบจากปัญหาแคดเมี่ยม ต.แม่ตาว อ.แม่สอด วงเงิน 73 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างทางและสะพาน คสล.ยาว 80 เมตร ทดแทนของเดิมที่เสียหายจากอุทกภัย อ.แม่ระมาด กว่า 15 ล้านบาท
ขณะที่ภาคเอกชนนำโดยหอการค้าจังหวัดตาก จะนำเสนอเรื่องการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จ.ตากที่ค้างคามาร่วม 10 ปีด้วยเช่นกัน