ศูนย์ข่าวภาคอีสาน-อุบลฯสรุปตัวเลขลงทะเบียนคนจน รอรับความช่วยเหลือจากรัฐสูงถึง 285,344 คน รั้งตำแหน่งอันดับ 3 ของประเทศ เบื้องต้นแบงก์ออมสิน-กรุงไทย ยอมแบกรับหนี้คนจนเมืองอุบลฯกว่า 2,000 ล้านบาท
วันนี้(24 มิ.ย.)นางศศิกา นามพิทักษ์ นักพัฒนาชุมชนสำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี กล่าวถึงความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบของประชาชนในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี จาก 75 ชุมชน จำนวนกว่า 1,500 ราย ที่ลงทะเบียนรับความช่วยเหลือ ตามนโยบายการแก้ไขปัญหาสังคม และความยากจนเชิงบูรณาการของรัฐบาล ซึ่งสำนักงานเทศบาล ได้ทำความเข้าใจกับผู้มีปัญหาหนี้สินนอกระบบ ทราบแนวทางการให้ความช่วยเหลือคือ จะนำภาระหนี้สินนอกระบบ ที่อัตราดอกเบี้ยสูง เข้าสู่ระบบธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ทั้งนี้ เพื่อลดภาระเรื่องเงินต้นและดอกเบี้ย ที่ต้องชำระคืนให้เจ้าหนี้นอกระบบ รวมทั้งเป็นการขยายเวลาการชำระคืนกับธนาคาร ซึ่งประชาชนรายใดที่มีความพร้อมสามารถเข้าสู่ระบบการช่วยเหลือด้วยวิธีนี้ได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันที่ห้องประชุมมิตรไมตรี ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นายจิรศักดิ์ เกษณียบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ประชุมนายอำเภอและปลัดอำเภอ ที่เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอ เพื่อสรุปรายละเอียดการแก้ไขปัญหาสังคมและความยากจนเชิงบูรณาการ ที่จังหวัดอุบลราชธานี มีประชาชนลงทะเบียนรับความช่วยเหลือเป็นอันดับ 3ของประเทศ จำนวน 285,344 คน และมีผู้ผ่านการตรวจสอบของประชาคมจำนวน 266,053 ราย
โดยที่เหลืออีก 9,240 ราย ไม่ผ่านการตรวจสอบโดยการทำประชาคม และผู้มาลงทะเบียนมีปัญหาหนี้สินภาคประชาชนมากที่สุด 198,267 คนรองลงมาเป็นปัญหาที่ดินทำกิน 156,101 คนปัญหาคนยากจนไม่มีที่อยู่อาศัย 35,419 คน
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ในจำนวนนี้ มีข้าราชการครูร่วมลงทะเบียน 2,637 คนรองลงมาเป็นข้าราชการตำรวจ 1,701 คน ลูกจ้างประจำของหน่วยงานภาครัฐ 958 คน โดยมีปัญหาหนี้สิน และปัญหาต้องการที่กินไว้ทำกิน สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ร่วมลงทะเบียน 7,534 รายต้องการมีรายได้จากการประกอบอาชีพที่เหมาะในช่วงปิดภาคเรียนโดยที่ผ่านมาจังหวัดได้หางานให้นักเรียน นักศึกษาที่มาลงทะเบียนทำงานระหว่างปิดภาคเรียนได้เพียง 365 ราย
ส่วนข้อมูลการรับจดทะเบียนของผู้ต้องขังในเรือนจำอุบลราชธานี ที่ได้ลงทะเบียนไว้ 805 คน มีเรื่องปัญหาที่ทำกินมากที่สุด 225 คนปัญหาเป็นคนจนไม่มีที่อยู่อาศัยอีก 124 คนสำหรับการลงทะเบียนของสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนมีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 5คน โดยเป็นปัญหาคนเร่ร่อนทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเบื้องต้น ได้มีการสรุปแนวทางการช่วยเหลือหนี้สินภาคประชาชน โดยผู้ที่มีหนี้สินเกิน 100,000 บาท ให้ธนาคารออมสิน เป็นผู้ให้การช่วยเหลือส่วนผู้ที่มีหนี้สินไม่เกิน 100,000 บาท ธนาคารกรุงไทยจำกัดเป็นผู้ช่วยเหลือ ซึ่งตัวเลขหนี้สิ้นภาคประชาชนที่มาลงทะเบียนมียอดสูงกว่า 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จะเรียกประชาชนที่เป็นหนี้สิน รับฟังคำชี้แจง ตลอดจนรายละเอียดการช่วยเหลือตามท้องที่ที่ประชาชนมีภูลำเนาอาศัยอยู่ ส่วนการช่วยเหลือด้านที่ดินทำกินคนจนไม่มีที่อยู่อาศัย ปัญหาคนไม่งานทำ เด็กเร่ร่อนและเด็กนักเรียนนักศึกษาต้องการมีงานทำในช่วงปิดภาคเรียน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาหาทางช่วยเหลือต่อไป
วันนี้(24 มิ.ย.)นางศศิกา นามพิทักษ์ นักพัฒนาชุมชนสำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี กล่าวถึงความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบของประชาชนในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี จาก 75 ชุมชน จำนวนกว่า 1,500 ราย ที่ลงทะเบียนรับความช่วยเหลือ ตามนโยบายการแก้ไขปัญหาสังคม และความยากจนเชิงบูรณาการของรัฐบาล ซึ่งสำนักงานเทศบาล ได้ทำความเข้าใจกับผู้มีปัญหาหนี้สินนอกระบบ ทราบแนวทางการให้ความช่วยเหลือคือ จะนำภาระหนี้สินนอกระบบ ที่อัตราดอกเบี้ยสูง เข้าสู่ระบบธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ทั้งนี้ เพื่อลดภาระเรื่องเงินต้นและดอกเบี้ย ที่ต้องชำระคืนให้เจ้าหนี้นอกระบบ รวมทั้งเป็นการขยายเวลาการชำระคืนกับธนาคาร ซึ่งประชาชนรายใดที่มีความพร้อมสามารถเข้าสู่ระบบการช่วยเหลือด้วยวิธีนี้ได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันที่ห้องประชุมมิตรไมตรี ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นายจิรศักดิ์ เกษณียบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ประชุมนายอำเภอและปลัดอำเภอ ที่เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอ เพื่อสรุปรายละเอียดการแก้ไขปัญหาสังคมและความยากจนเชิงบูรณาการ ที่จังหวัดอุบลราชธานี มีประชาชนลงทะเบียนรับความช่วยเหลือเป็นอันดับ 3ของประเทศ จำนวน 285,344 คน และมีผู้ผ่านการตรวจสอบของประชาคมจำนวน 266,053 ราย
โดยที่เหลืออีก 9,240 ราย ไม่ผ่านการตรวจสอบโดยการทำประชาคม และผู้มาลงทะเบียนมีปัญหาหนี้สินภาคประชาชนมากที่สุด 198,267 คนรองลงมาเป็นปัญหาที่ดินทำกิน 156,101 คนปัญหาคนยากจนไม่มีที่อยู่อาศัย 35,419 คน
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ในจำนวนนี้ มีข้าราชการครูร่วมลงทะเบียน 2,637 คนรองลงมาเป็นข้าราชการตำรวจ 1,701 คน ลูกจ้างประจำของหน่วยงานภาครัฐ 958 คน โดยมีปัญหาหนี้สิน และปัญหาต้องการที่กินไว้ทำกิน สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ร่วมลงทะเบียน 7,534 รายต้องการมีรายได้จากการประกอบอาชีพที่เหมาะในช่วงปิดภาคเรียนโดยที่ผ่านมาจังหวัดได้หางานให้นักเรียน นักศึกษาที่มาลงทะเบียนทำงานระหว่างปิดภาคเรียนได้เพียง 365 ราย
ส่วนข้อมูลการรับจดทะเบียนของผู้ต้องขังในเรือนจำอุบลราชธานี ที่ได้ลงทะเบียนไว้ 805 คน มีเรื่องปัญหาที่ทำกินมากที่สุด 225 คนปัญหาเป็นคนจนไม่มีที่อยู่อาศัยอีก 124 คนสำหรับการลงทะเบียนของสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนมีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 5คน โดยเป็นปัญหาคนเร่ร่อนทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเบื้องต้น ได้มีการสรุปแนวทางการช่วยเหลือหนี้สินภาคประชาชน โดยผู้ที่มีหนี้สินเกิน 100,000 บาท ให้ธนาคารออมสิน เป็นผู้ให้การช่วยเหลือส่วนผู้ที่มีหนี้สินไม่เกิน 100,000 บาท ธนาคารกรุงไทยจำกัดเป็นผู้ช่วยเหลือ ซึ่งตัวเลขหนี้สิ้นภาคประชาชนที่มาลงทะเบียนมียอดสูงกว่า 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จะเรียกประชาชนที่เป็นหนี้สิน รับฟังคำชี้แจง ตลอดจนรายละเอียดการช่วยเหลือตามท้องที่ที่ประชาชนมีภูลำเนาอาศัยอยู่ ส่วนการช่วยเหลือด้านที่ดินทำกินคนจนไม่มีที่อยู่อาศัย ปัญหาคนไม่งานทำ เด็กเร่ร่อนและเด็กนักเรียนนักศึกษาต้องการมีงานทำในช่วงปิดภาคเรียน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาหาทางช่วยเหลือต่อไป