ศูนย์ข่าวศรีราชา-ททท.ชูยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว 4 จังหวัดภาคตะวันออก ส่งเสริมการตลาดช่วงโลว์ซีซั่น จัดโครงการ “สีสันตะวันออก” ดึงดูดนักท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2547 ที่โรงแรมแมริออท แอนด์ สปา นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฝ่ายสินค้า เป็นประธาน การประชุมร่วมกับตัวแทนจาก 4 จังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออก ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมพิจารณาการ จัดทำโครงการ “เทศกาลท่องเที่ยวสีสันตะวันออก” (Unseen Season Of The East) ซึ่งเป็นโครงการที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้กำหนดให้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16-18 กรกฎาคม 2547
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้กับแหล่งท่องเที่ยวของภาคตะวันออกในช่วงโลว์ซีซั่น รวมทั้งยังเป็นการสนับสนุนภาครัฐตามนโยบายด้านการ ท่องเที่ยวในโครงการ “เที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกเดือน” และยังเป็นการประชาสัมพันธ์ แหล่งท่องเที่ยวภาคตะวันออกและการจัดแข่งกีฬา Asian Indoor Games ซึ่ง จังหวัดชลบุรี ได้รับโอกาสในการเป็นเจ้าภาพของการแข่งขันกีฬาในอินดอร์ระดับนานาชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2548 นี้
นายสันติชัย เผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้ททท. เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งมีแผนการส่งเสริมการตลาด โดยกำหนดเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างประเทศถึง 12 ล้านคน และนักท่องเที่ยวในประเทศจำนวน 67 ล้านคน เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติ โดยรวม
ในส่วนของททท.เอง ที่ผ่านมาได้ดำเนินมาตรการทางด้านการตลาดอย่างเข้มข้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายโดยได้ใช้กลยุทธ์หลายด้าน ในการกระตุ้นส่งเสริมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยจัดให้มี World Event Marketing ที่สำคัญหลาย กิจกรรม เช่น Bangkok International Film Festival,Pattaya Music Festival,โครงการเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์,สีสันแห่งสายน้ำมหกรรมลอยกระทง
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการนำเสนอศักยภาพทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย ให้ครบทุกภาคตามโครงการ “เที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกเดือน” จึงได้กำหนดให้มีการจัดงาน ส่งเสริมในทุกภูมิภาคของประเทศ โดยจะดึงจุดขายตามยุทธศาสตร์ทางด้านการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัด มาเป็นจุดขาย ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้ว 1 ครั้ง ที่ ภาคเหนือในงาน “มหกรรมเทศกาลสงกรานต์” ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการนำ จุดขายของเมืองล้านนาในพื้นที่ภาคเหนือมาจัดงานส่งเสริมการขาย ซึ่งพบว่าได้รับ ความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
นายสันติชัย เผยต่อไปว่า สำหรับในภาคตะวันออก ได้รวมเอาพื้นที่ 4จังหวัด หลักได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เข้ามาผนึกเพื่อจัดงานเทศกาลท่องเที่ยว สีสันตะวันออก หรือ “Unseen Season Of The East” เพื่อเป็นการนำเสนอศักยภาพ ของสินค้าการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก เนื่องจากกลุ่มจังหวัดเหล่านี้เป็นเมืองที่มี ความสำคัญทางด้านธุรกิจ บันเทิง อัญมณี กีฬา ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ศิลปวัฒนธรรม เมืองนิคมอุตสาหกรรม การผลิตผลไม้และการส่งออก ตลอดจนอาหารทะเล และอาหาร พื้นบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ยังมีศักยภาพทางด้านการกีฬา
และนันทนาการอีกมากมาย ซึ่งการจัดโครงการนี้ขึ้นก็จะถือว่าเป็นการส่งเสริมการตลาด ในช่วงโลว์ซีซั่นได้เป็นอย่างดี
สำหรับการจัดงานนั้นจะมีไฮไลต์ในระหว่างวันที่ 16-18 กรกฎาคม โดยจะ จัดกิจกรรม การออกบูทบริเวณชายหาดเมืองพัทยาตลอดแนวในระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร โดยจะชูจุดขายการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์ของแต่ละจังหวัดที่แตกต่างกัน โดยจังหวัดชลบุรี จะเน้นด้านความบันเทิง ระยอง เน้นด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จันทบุรี เน้นด้านการผลิตผลไม้และการส่งออก และจังหวัดตราด เน้นด้านแหล่ง ท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์ ซึ่งจะมีการจัดตั้งการแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม สินค้า OTOP ของแต่ละจังหวัด
รวมทั้งการจำหน่ายอาหารทะเล และการเปิดลานเบียร์เพื่อบริการ ให้กับนัก ท่องเที่ยว พร้อมทั้งมีการประกวดบู้ท สวยงามของแต่ละจังหวัดด้วย นอกจากนี้ภายใน บริเวณงานยังได้จัดกิจกรรมเสริมขึ้นอีกมากมาย เช่นการจัดแสดง นิทรรศการด้านการ ท่องเที่ยวภาคตะวันออก กิจกรรม Pattaya International Beach Chalange มีการ แข่งขันกีฬา
อาทิ ฟุตบอลชายหาด วอลเลย์บอลชายหาด หรือกีฬาเอ็กซ์เกม การแข่งขันกอล์ฟใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก การแข่งขันตกปลาในรายการ “วสันต์ หรรษา ตกปลาตะวันออก” การแข่งขันแรลลี่ ท่องเที่ยวทั่วภาคตะวันออก ในรายการ “บูรพาภิรมย์” การจัดกิจกรรมเสริมใน “วอล์กกิ้งสตรีทพัทยาใต้” รวมทั้งการแข่งขันกีฬา “พัทยา ควีนคัพส์ มาราธอน 2004” ซึ่งถือเป็นกิจกรรมกีฬาระดับ นานาชาติที่จัดมาอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งจะมีในวันสุดท้าย ของการจัดงาน
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2547 ที่โรงแรมแมริออท แอนด์ สปา นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฝ่ายสินค้า เป็นประธาน การประชุมร่วมกับตัวแทนจาก 4 จังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออก ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมพิจารณาการ จัดทำโครงการ “เทศกาลท่องเที่ยวสีสันตะวันออก” (Unseen Season Of The East) ซึ่งเป็นโครงการที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้กำหนดให้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16-18 กรกฎาคม 2547
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้กับแหล่งท่องเที่ยวของภาคตะวันออกในช่วงโลว์ซีซั่น รวมทั้งยังเป็นการสนับสนุนภาครัฐตามนโยบายด้านการ ท่องเที่ยวในโครงการ “เที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกเดือน” และยังเป็นการประชาสัมพันธ์ แหล่งท่องเที่ยวภาคตะวันออกและการจัดแข่งกีฬา Asian Indoor Games ซึ่ง จังหวัดชลบุรี ได้รับโอกาสในการเป็นเจ้าภาพของการแข่งขันกีฬาในอินดอร์ระดับนานาชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2548 นี้
นายสันติชัย เผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้ททท. เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งมีแผนการส่งเสริมการตลาด โดยกำหนดเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างประเทศถึง 12 ล้านคน และนักท่องเที่ยวในประเทศจำนวน 67 ล้านคน เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติ โดยรวม
ในส่วนของททท.เอง ที่ผ่านมาได้ดำเนินมาตรการทางด้านการตลาดอย่างเข้มข้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายโดยได้ใช้กลยุทธ์หลายด้าน ในการกระตุ้นส่งเสริมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยจัดให้มี World Event Marketing ที่สำคัญหลาย กิจกรรม เช่น Bangkok International Film Festival,Pattaya Music Festival,โครงการเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์,สีสันแห่งสายน้ำมหกรรมลอยกระทง
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการนำเสนอศักยภาพทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย ให้ครบทุกภาคตามโครงการ “เที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกเดือน” จึงได้กำหนดให้มีการจัดงาน ส่งเสริมในทุกภูมิภาคของประเทศ โดยจะดึงจุดขายตามยุทธศาสตร์ทางด้านการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัด มาเป็นจุดขาย ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้ว 1 ครั้ง ที่ ภาคเหนือในงาน “มหกรรมเทศกาลสงกรานต์” ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการนำ จุดขายของเมืองล้านนาในพื้นที่ภาคเหนือมาจัดงานส่งเสริมการขาย ซึ่งพบว่าได้รับ ความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
นายสันติชัย เผยต่อไปว่า สำหรับในภาคตะวันออก ได้รวมเอาพื้นที่ 4จังหวัด หลักได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เข้ามาผนึกเพื่อจัดงานเทศกาลท่องเที่ยว สีสันตะวันออก หรือ “Unseen Season Of The East” เพื่อเป็นการนำเสนอศักยภาพ ของสินค้าการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก เนื่องจากกลุ่มจังหวัดเหล่านี้เป็นเมืองที่มี ความสำคัญทางด้านธุรกิจ บันเทิง อัญมณี กีฬา ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ศิลปวัฒนธรรม เมืองนิคมอุตสาหกรรม การผลิตผลไม้และการส่งออก ตลอดจนอาหารทะเล และอาหาร พื้นบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ยังมีศักยภาพทางด้านการกีฬา
และนันทนาการอีกมากมาย ซึ่งการจัดโครงการนี้ขึ้นก็จะถือว่าเป็นการส่งเสริมการตลาด ในช่วงโลว์ซีซั่นได้เป็นอย่างดี
สำหรับการจัดงานนั้นจะมีไฮไลต์ในระหว่างวันที่ 16-18 กรกฎาคม โดยจะ จัดกิจกรรม การออกบูทบริเวณชายหาดเมืองพัทยาตลอดแนวในระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร โดยจะชูจุดขายการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์ของแต่ละจังหวัดที่แตกต่างกัน โดยจังหวัดชลบุรี จะเน้นด้านความบันเทิง ระยอง เน้นด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จันทบุรี เน้นด้านการผลิตผลไม้และการส่งออก และจังหวัดตราด เน้นด้านแหล่ง ท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์ ซึ่งจะมีการจัดตั้งการแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม สินค้า OTOP ของแต่ละจังหวัด
รวมทั้งการจำหน่ายอาหารทะเล และการเปิดลานเบียร์เพื่อบริการ ให้กับนัก ท่องเที่ยว พร้อมทั้งมีการประกวดบู้ท สวยงามของแต่ละจังหวัดด้วย นอกจากนี้ภายใน บริเวณงานยังได้จัดกิจกรรมเสริมขึ้นอีกมากมาย เช่นการจัดแสดง นิทรรศการด้านการ ท่องเที่ยวภาคตะวันออก กิจกรรม Pattaya International Beach Chalange มีการ แข่งขันกีฬา
อาทิ ฟุตบอลชายหาด วอลเลย์บอลชายหาด หรือกีฬาเอ็กซ์เกม การแข่งขันกอล์ฟใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก การแข่งขันตกปลาในรายการ “วสันต์ หรรษา ตกปลาตะวันออก” การแข่งขันแรลลี่ ท่องเที่ยวทั่วภาคตะวันออก ในรายการ “บูรพาภิรมย์” การจัดกิจกรรมเสริมใน “วอล์กกิ้งสตรีทพัทยาใต้” รวมทั้งการแข่งขันกีฬา “พัทยา ควีนคัพส์ มาราธอน 2004” ซึ่งถือเป็นกิจกรรมกีฬาระดับ นานาชาติที่จัดมาอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งจะมีในวันสุดท้าย ของการจัดงาน