ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-ชาวบ้านกลุ่ม"บ้านม้า"ในจังหวัดลำพูนสวนกระแสสินค้าโอทอปหันผลิตเฟอร์นิเจอร์ระบบน็อกดาวน์ที่ไม่มีแบรนด์เนมป้อนตลาดบ้านจัดสรรที่กำลังบูมในภาคเหนือ เผยทำรายได้แต่ละปีไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ระบุทั้งหมู่บ้านมีโรงงานผลิตไม่ต่ำกว่า 50 แห่งทั้งไม่สนใจการทำตลาดเหตุราคาถูกกว่าแบรนด์เนมทั่วไปเกือบ 50 % ทำให้มีลูกค้าสั่งซื้อถึงที่
กลุ่มผลิตเฟอร์นิเจอร์ "บ้านม้า" ซื่อที่รู้จักกันดีของกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมในเฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับตกแต่งบ้านเรือน เกือบทุกครัวเรือนในบ้านม้าที่หันมาเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเป็นรายได้ในครอบครัวบางรายก็สามารถที่จะตั้งโรงงานใหญ่เป็นโรงงานส่วนบุคคลที่ใช้คนงานมากกว่า 80 คน
ในปัจจุบันมีโรงงานที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์มากกว่า 50 กว่าแห่งใน จ.ลำพูน ซึ่งธุรกิจเฟอร์นิเจอร์สามารถทำรายได้ให้กับผู้ผลิต ต่อเดือนเฉลี่ย 4-5 ล้านบาทหรือ 3,000 ล้านบาทต่อปีนับได้ว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่สวนกระแสสินค้าหนึ่งผลิตภัณ์ หนึ่งตำบลหรือสินค้า OTOP ที่กำลังแข่งขันกันในด้านการสร้างแบรนด์เนมให้เป็นที่รู้จักและผลักดันสินค้าออกสู่ตลาดโลก
ในขณะที่เฟอร์นิเจอร์ระบบน็อกดาวน์"บ้านม้า"ยังไม่มีแบรนด์เนมสินค้า
และไม่มีการรุกในด้านการตลาด แต่มีจุดเด่นสินค้าที่ได้เปรียบสินค้าอื่นคือ มีราคาที่ถูกกว่าสินค้าแบรนด์เนมทั่วไปกว่า 50%
ด้วยเหตุผลนี้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์บ้านม้า จึงเป็นธุรกิจหนึ่งที่มีผู้สนใจหาซื้อ และมีพ่อค้าคนกลางจำนวนมากที่มาติดต่อสินค้าไปขายในพื้นที่อื่นๆด้วยตนเอง
ส่วนราคาสินค้าก็มีตั้งแต่ 400 บาทไปจนถึง 6 หมื่นบาทต่อชิ้น สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง ที่นอน ชุดห้องครัว ฯลฯ ทางด้านภาวะการแข่งขันแม้ว่าจะมีโรงงานผลิตเป็นจำนวนมากในหมู่บ้านตาม แต่ละโรงงานก็มีการวางแผนคอนเซ็ปสินค้าให้มีความโดดเด่นและแตกต่างออกไปจากสินค้าเดิม เพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่งดังนั้นจึงขึ้นอยู่ที่ว่าแต่ละโรงงานจะมีการวางแผนอย่างไรเพื่อที่จะเอาชนะคู่แข่งได้
โรงงานส่วนบุคคล สุวิทย์เฟอร์นิเจอร์ หนึ่งในโรงงาน50 กว่าแห่งใน จ.ลำพูน ที่เป็นผลิตเฟอร์นิเจอร์ระบบน็อคดาวน์เจ้าแรก ที่ผลิตสินค้าป้อนตลาดภาคเหนือตอนบน เช่น ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ พะเยา รวมไปถึงอ. แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งแรงงานในการผลิตมาจากการใช้เครื่องจักรและแรงงานคนควบคู่กันไป
น้ำผึ้ง ต๊ะกาบโพธิ์ เจ้าของโรงงานสุวิทย์เฟอร์นิเจอร์เจ้าแรกใน จ.ลำพูน กล่าวว่า เดิมที สุวิทย์เฟอร์นิเจอร์ เป็นโรงงานเล็กๆ ที่ผลิตสินค้าเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ที่เปิดบริการอยู่ที่ จ.ชลบุรี แต่ด้วยค่าแรงงานที่แพงและหายาก รวมไปถึงที่ดินที่มีราคาสูงมาก จึงทำให้ สุวิทย์เฟอร์นิเจอร์ตัดสินใจกลับมาตั้งโรงงานเล็กๆ ที่ จ.ลำพูนในปี 2539 ด้วยที่ จ.ลำพูนมีแรงงานที่หาง่าย และราคาที่ดินไม่แพงมาก
จากธุรกิจในครัวเรือน ที่ใช้คนงาน 5-10 คนและได้ลงทุนในการซื้อที่ดินเพื่อสร้างโรงงานเล็ก ๆที่จุคนงานได้ 8 คน ในพื้นที่ 40 ตารางวา จนปัจจุบันมีคนงาน 80-100 คน ในพื้นที่ 5 ไร่ แรงงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานของคนในพื้นที่ 70 % และเป็นคนต่างจังหวัด 30% โดยแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการเริ่มต้นใหม่ และการขยับขยายมาจากเงินส่วนตัวและกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตร(ธ.ก.ส.)อีกประมาณ 150,000 บาท
ปัจจุบันนับว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเพราะธุรกิจนี้สามารถทำรายได้หมุนเวียนในโรงงานเดือนละ 5-6 ล้านบาท
ด้านภาวะการแข่งขัน น้ำผึ้งกล่าวว่า แม้จะมีคู่แข่งและมีโรงงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 50 แห่งแต่เพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่ง สุวิทย์เฟอร์นิเจอร์ มีการวางแผนทั้งในด้านการตลาดโดยเน้นการขายส่งเป็นหลัก โดยวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ เป็นไม้ ปาติเกิลบรอด์ หรือไม้น็อกดาวน์ ที่มีลักษณะเบาง่ายต่อการแปรรูปและมีความสะดวกในการเคลื่อนย้าย โดยวัตถุดิบส่วนใหญ่จะสั่งตรงจาก จ. ชลบุรี และระยอง ซึ่งในแต่ละเดือนใช้ไม้ถึง 4 คันรถบรรทุก
ด้านการผลิตและออกแบบ หนึ่งในการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เน้นให้เป็นที่สนใจแก่ลูกค้า ซึ่งในแต่ละเดือนก็จะมีสินค้าในรูปแบบใหม่ที่โดดเด่นและแปลกใหม่กว่าเดิมโดยรูปแบบใหม่ในช่วงนี้ก็จะเป็น ชุดตกแต่งห้องครัว
น้ำผึ้ง กล่าวต่ออีกว่า สินค้าของโรงงานเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ถึงแม้จะไม่มีการสร้าง
แบรนด์เนมให้เป็นที่รู้จักแต่ก็สามารถที่จะดึงลูกค้าได้โดยราคาของสินค้าที่ถูกดึงดูดลูกค้ามาเลือกซื้อถึงร้าน และนอกจากนี้ยังมีพ่อค้ามารับไปขายในพื้นที่อื่นๆ จำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม สุวิทย์เฟอร์นิเจอร์และโรงงานเฟอร์นิเจอร์ "บ้านม้า" ยังไม่สามารถที่จะพัฒนาศักยภาพของสินค้าที่จะนำสินค้าออกสู่ตลาดต่างประเทศได้เนื่องจากขาดเครื่องจักรและเครื่องไม้เครื่องมือที่ได้มาตรฐานที่จะสามารถผลิตสินค้าที่เพื่อการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศได้ แต่ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ยังคงอยู่ได้ ถ้าโครงการอสังหาริมทรัพย์และโครงการบ้านจัดสรรต่างๆยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็จะสามารถทำให้กลุ่มผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ยังคงอยู่ได้และมีรายได้หมุนเวียนตลอดไป
มาถึงวันนี้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ "บ้านม้า" ยังคงเป็นสินค้าที่ไร้แบรนด์เนม แต่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในกลุ่มภาคเหนือตอนบน และทำรายได้ให้กับ "บ้านม้า" เป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะไม่มีตลาดต่างประเทศมารองรับก็สามารถดำเนินธุรกิจได้ และเชื่อแน่ว่าวันหนึ่งธุรกิจเฟอร์นิเจอร์จะมีการพัฒนาศักยภาพของสินค้าให้มีมาตรฐานและคุณภาพที่ดี เพื่อรองรับลูกค้าทีมี่มากกว่ากลุ่มลูกค้าภาคเหนือตอนบน แพร่หลายไปจนถึงในประเทศ และสามารถที่จะส่งออกสินค้าสู่ตลาดต่างประเทศได้แน่นอนในอนาคต