ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ -ผจว.เชียงใหม่นำคณะตัวแทนเกษตรกรพร้อมหอบลำไย 44 ตัน ไปประชาสัมพันธ์ที่เซี่ยงไฮ้ หวังขยายตลาดในจีน พาณิชย์จังหวัดเผยเตรียมส่งออกลำไยถึงเซี่ยงไฮ้โดยตรง เพื่อลดเวลาและคงคุณภาพผลผลิต เบื้องต้นผู้นำเข้าจีนตกลงรับซื้อแล้วอย่างน้อย 4,400 ตัน
นางวิภาดา ตรีสัตย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการประชาสัมพันธ์ลำไยไทยในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะนำคณะตัวแทนเกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางจากเชียงใหม่ในวันที่ 3 มิ.ย.2547 เพื่อนำลำไยที่ได้ส่งไปก่อนหน้านี้แล้วจำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์หรือประมาณ 44 ตัน ไปประชาสัมพันธ์ลำไยที่นครเซี่ยงไฮ้ ในระหว่างวันที่ 4-5 มิ.ย.2547
ในวันที่ 4 มิ.ย.2547 จะจัดการประชาสัมพันธ์ที่โรงแรม Shanghai Four Season ที่จะมีการเชิญนักธุรกิจ และผู้ค้ารายใหญ่ของเซี่ยงไฮ้มาร่วมงาน เพื่อทำความรู้จักเกี่ยวกับลำไยไทยให้มากยิ่งขึ้น และเห็นถึงความแตกต่างระหว่างลำไยไทยกับลำไยจากที่อื่น ส่วนวันที่ 5 มิ.ย.47 จะเป็นการไปประชาสัมพันธ์ที่ตลาดขายส่ง 4 แห่ง และซูเปอร์มาร์เก็ต 50 แห่งในเซี่ยงไฮ้
ทั้งนี้ ภายหลังจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้แล้ว บริษัทผู้นำเข้าจีนได้กำหนดที่จะสั่งซื้อลำไยจากจังหวัดเชียงใหม่ในปริมาณไม่ต่ำกว่า 200 ตู้คอนเทนเนอร์หรือประมาณ 4,400 ตัน ซึ่งหากสามารถทำตลาดได้มากก็อาจจะมีการสั่งซื้อมากขึ้น โดยที่การทำตลาดในช่วงจะเป็นการทำตลาดที่เซี่ยงไฮ้และเมืองใกล้เคียงเป็นหลักก่อน แล้วต่อไปจะขยายตลาดไปยังมณฑลทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนต่อไป
พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า จากการศึกษาตลาดพบว่า ที่ตลาดเซี่ยงไฮ้ยังไม่รู้จักลำไยไทยดีเท่าที่ควร เนื่องจากยังไม่มีการส่งลำไยไปเซี่ยงไฮ้โดยตรง ต้องบรรทุกเรือไปขึ้นที่ท่าฮ่องกงหรือกวางโจว แล้วบรรทุกรถต่อไปยังเซี่ยงไฮ้ ใช้เวลานานประมาณ 15 วัน ทำให้คุณภาพของลำไยลดลง และบางครั้งยังพบปัญหาการถูกแอบอ้างชื่อลำไยไทยไปใช้โฆษณาลำไยจากที่อื่น ที่มีคุณภาพต่ำกว่า ทำให้คนซื้อหลงเข้าใจผิดอีกด้วย ซึ่งจากนี้ไปที่จะมีการส่งลำไยไทยไปขึ้นยังท่าที่เซี่ยงไฮ้โดยตรง น่าจะช่วยทำให้ลำไยไทยเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
สำหรับขั้นตอนการขนส่งลำไยจากจังหวัดเชียงใหม่ไปเซี่ยงไฮ้ เดิมต้องใช้เวลาประมาณ15วัน ส่วนการส่งลำไยจากท่าเรือแหลมฉบังไปยังท่าเซี่ยงไฮ้โดยตรง จะใช้เวลาเพียงประมาณ 7 วันเท่านั้น ทำให้ลำไยที่ไปถึงมือผู้บริโภคมีคุณภาพดีกว่าการขนส่งด้วยวิธีการเดิม
นางวิภาดา ตรีสัตย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการประชาสัมพันธ์ลำไยไทยในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะนำคณะตัวแทนเกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางจากเชียงใหม่ในวันที่ 3 มิ.ย.2547 เพื่อนำลำไยที่ได้ส่งไปก่อนหน้านี้แล้วจำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์หรือประมาณ 44 ตัน ไปประชาสัมพันธ์ลำไยที่นครเซี่ยงไฮ้ ในระหว่างวันที่ 4-5 มิ.ย.2547
ในวันที่ 4 มิ.ย.2547 จะจัดการประชาสัมพันธ์ที่โรงแรม Shanghai Four Season ที่จะมีการเชิญนักธุรกิจ และผู้ค้ารายใหญ่ของเซี่ยงไฮ้มาร่วมงาน เพื่อทำความรู้จักเกี่ยวกับลำไยไทยให้มากยิ่งขึ้น และเห็นถึงความแตกต่างระหว่างลำไยไทยกับลำไยจากที่อื่น ส่วนวันที่ 5 มิ.ย.47 จะเป็นการไปประชาสัมพันธ์ที่ตลาดขายส่ง 4 แห่ง และซูเปอร์มาร์เก็ต 50 แห่งในเซี่ยงไฮ้
ทั้งนี้ ภายหลังจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้แล้ว บริษัทผู้นำเข้าจีนได้กำหนดที่จะสั่งซื้อลำไยจากจังหวัดเชียงใหม่ในปริมาณไม่ต่ำกว่า 200 ตู้คอนเทนเนอร์หรือประมาณ 4,400 ตัน ซึ่งหากสามารถทำตลาดได้มากก็อาจจะมีการสั่งซื้อมากขึ้น โดยที่การทำตลาดในช่วงจะเป็นการทำตลาดที่เซี่ยงไฮ้และเมืองใกล้เคียงเป็นหลักก่อน แล้วต่อไปจะขยายตลาดไปยังมณฑลทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนต่อไป
พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า จากการศึกษาตลาดพบว่า ที่ตลาดเซี่ยงไฮ้ยังไม่รู้จักลำไยไทยดีเท่าที่ควร เนื่องจากยังไม่มีการส่งลำไยไปเซี่ยงไฮ้โดยตรง ต้องบรรทุกเรือไปขึ้นที่ท่าฮ่องกงหรือกวางโจว แล้วบรรทุกรถต่อไปยังเซี่ยงไฮ้ ใช้เวลานานประมาณ 15 วัน ทำให้คุณภาพของลำไยลดลง และบางครั้งยังพบปัญหาการถูกแอบอ้างชื่อลำไยไทยไปใช้โฆษณาลำไยจากที่อื่น ที่มีคุณภาพต่ำกว่า ทำให้คนซื้อหลงเข้าใจผิดอีกด้วย ซึ่งจากนี้ไปที่จะมีการส่งลำไยไทยไปขึ้นยังท่าที่เซี่ยงไฮ้โดยตรง น่าจะช่วยทำให้ลำไยไทยเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
สำหรับขั้นตอนการขนส่งลำไยจากจังหวัดเชียงใหม่ไปเซี่ยงไฮ้ เดิมต้องใช้เวลาประมาณ15วัน ส่วนการส่งลำไยจากท่าเรือแหลมฉบังไปยังท่าเซี่ยงไฮ้โดยตรง จะใช้เวลาเพียงประมาณ 7 วันเท่านั้น ทำให้ลำไยที่ไปถึงมือผู้บริโภคมีคุณภาพดีกว่าการขนส่งด้วยวิธีการเดิม