ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- อบจ.โคราชในภาวะสุญญากาศไร้ผู้บริหารนับวันยิ่งส่งผลกระทบหนัก เผยการดำเนินการงานพัฒนาระดับนโยบายทั้งระยะสั้นและระยะยาวชะงัก แผนงบประมาณปี 48 วงเงิน 400 ล้านบาทลอยเคว้ง ปลัด อบจ.ไม่มีอำนาจดำเนินการได้ ชี้ทางออก กกต.กลางเลิกแบกภาระและกระจายอำนาจให้ กกต.จังหวัดสามารถการเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับได้อย่างเบ็ดเสร็จ
องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ประสบปัญหา“สูญญากาศทางการบริหาร”อันผลพวงมาจาก กกต.กลางยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่เพิ่งประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปเพียง 25 เขตจากทั้งหมด 48 เขตเลือกตั้ง ทั้งที่การเลือกตั้งได้ผ่านมานานเกือบ 3 เดือนแล้วโดยสาเหตุหลักก็คือ มีการร้องเรียนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเข้าไปยัง กกต.จำนวนมากโดยเฉพาะผู้ทีได้คะแนนมาเป็นอันดับต้นๆ
นายสวอง ทองแผ่ ปลัด อบจ.และผู้อำนวยการการเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ปัญหาความล่าช้าของการประกาศผลเลือกตั้งนายกฯ และสมาชิก อบจ.ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของ อบจ.อย่างมากและการทำงานของข้าราชการก็เป็นไปด้วยความเงียบเหงา เพราะไม่ค่อยมีอะไรทำ
ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าปลัด อบจ.จะรักษาการและปฏิบัติหน้าที่แทนนายก อบจ.แต่ทำได้ภายใต้กรอบที่จำกัดอย่างยิ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นเพียงการทำหน้าที่บริหารแทนในงานประจำภายในองค์กรหรือการช่วยเหลือประชาชนเล็กๆ น้อยๆ ทั่วไปเท่านั้น ส่วนการบริหารหรือดำเนินงานใดๆ ในระดับนโยบายนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะตามกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใหม่กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของนายก อบจ.โดยตรงไว้อย่างชัดเจน
ดังนั้น การดำเนินงานในระดับนโยบายสำคัญต่างๆ ของ อบจ.นครราชสีมาขณะนี้จึงได้รับผลกระทบไปทั้งหมด เช่น ไม่สามารถจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาระยะ 3 ปีของ อบจ.ได้ ซึ่งตามกำหนดเวลาทั้ง 2 แผน ต้องทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.และมิ.ย.นี้ตามลำดับ เช่นเดียวกับแผนงบประมาณปี 2548 ของ อบจ.วงเงินรวมประมาณ 400 ล้านบาทที่ต้องทำให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. ก็ไม่สามารถดำเนินการได้เช่นกัน เพราะเป็นอำนาจของนายก อบจ.โดยตรง ซึ่งฝ่ายข้าราชการประจำทำได้เพียงจัดทำร่างงบประมาณในส่วนค่าใช้จ่ายประจำ เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ไว้รอเท่านั้น
“แผนเหล่านี้ต้องชะลอไว้จนกว่านายกฯและคณะผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาดำเนินการ ซึ่งยังไม่มีใครตอบได้ว่าจะต้องรออีกนานเท่าไร แต่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยตรงคือประชาชนทุกคน รวมทั้งได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของท้องถิ่นอื่นทั้ง อบต.และเทศบาลต่างๆ ภายในจังหวัดด้วย เพราะบริหารงานและการพัฒนาในหลายๆ ด้านต้องทำงานประสานร่วมกันกับ อบจ.” นายสวอง กล่าว
นายสวอง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในความเห็นส่วนตัวแล้วเห็นว่า ควรมีการแก้ไขการเลือกตั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถประกาศรับรองผลได้เร็วขึ้น เช่น การประกาศให้ใบเหลืองหรือใบแดงก่อนถึงวันเลือกตั้งเพื่อตัดสิทธิ์ผู้ที่กระทำผิดกฎหมายในระหว่างหาเสียง และเมื่อผ่านเลือกตั้งแล้วให้กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนแล้วค่อยพิจารณาตัดสิทธิ์ภายหลัง หากพบว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งจริง
ด้านนายวิทูร ชาติปฏิมาพงษ์ อดีตนายกอบจ.นครราชสีมาและผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมาที่ได้คะแนนรับเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่งห่างอันดับ 2 กว่า 1.26 แสนคะแนน กล่าวว่า การประกาศรับรองผลการเลือกตั้งล่าช้าจะส่งผลให้การพัฒนาด้านต่างๆ ของจังหวัดต้องช้าออกไปและบางส่วนจะทำให้ไม่ทันการณ์ต่อการแก้ปัญหา เพราะแผนงานโครงการพัฒนาระดับนโยบายข้าราชการประจำไม่มีอำนาจสามารถจัดทำหรือดำเนินการได้ รวมทั้งการเข้าไปช่วยเหลือความเดือดร้อนเร่งด่วนของประชาชนที่ต้องใช้ทรัพยากร หรืองบประมาณค่อนข้างสูงก็ไม่สามารถทำได้ เช่น ปัญหาภัยธรรมชาติที่กำลังประสบอยู่ เป็นต้น
การแก้ปัญหาดังกล่าว กกต.กลางซึ่งปัจจุบันมีภาระหน้าที่มากภายใต้ข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน ควรกระจายอำนาจหน้าที่การพิจารณารับรองผลการเลือกตั้งรวมทั้งการบริหารจัดการเลือกตั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายในจังหวัดมาให้กกต.จังหวัดดำเนินการให้มากที่สุด โดย กกต.กลางควรสร้างกลไกที่มีประสิทธิเข้ามาคอยกำกับและตรวจสอบให้การทำงานการเลือกตั้งและรับรองผลของ กกต.จังหวัดเป็นไปด้วยความโปร่งใสและยุติธรรม มากกว่าจะมารับแบกภาระชี้ขาดการเลือกตั้งทุกระดับของประเทศไว้เองทั้งหมดเช่นที่เป็นอยู่ในขณะนี้
“ขณะนี้ผมมีความพร้อมที่จะเข้าบริหาร อบจ.นครราชสีมาได้ทันที เพราะเตรียมคณะผู้บริหารและทีมที่ปรึกษา พร้อมทั้งจัดทำร่างแผนนโยบายไว้ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของกกต.เท่านั้น” นายวิทูร กล่าว
องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ประสบปัญหา“สูญญากาศทางการบริหาร”อันผลพวงมาจาก กกต.กลางยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่เพิ่งประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปเพียง 25 เขตจากทั้งหมด 48 เขตเลือกตั้ง ทั้งที่การเลือกตั้งได้ผ่านมานานเกือบ 3 เดือนแล้วโดยสาเหตุหลักก็คือ มีการร้องเรียนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเข้าไปยัง กกต.จำนวนมากโดยเฉพาะผู้ทีได้คะแนนมาเป็นอันดับต้นๆ
นายสวอง ทองแผ่ ปลัด อบจ.และผู้อำนวยการการเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ปัญหาความล่าช้าของการประกาศผลเลือกตั้งนายกฯ และสมาชิก อบจ.ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของ อบจ.อย่างมากและการทำงานของข้าราชการก็เป็นไปด้วยความเงียบเหงา เพราะไม่ค่อยมีอะไรทำ
ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าปลัด อบจ.จะรักษาการและปฏิบัติหน้าที่แทนนายก อบจ.แต่ทำได้ภายใต้กรอบที่จำกัดอย่างยิ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นเพียงการทำหน้าที่บริหารแทนในงานประจำภายในองค์กรหรือการช่วยเหลือประชาชนเล็กๆ น้อยๆ ทั่วไปเท่านั้น ส่วนการบริหารหรือดำเนินงานใดๆ ในระดับนโยบายนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะตามกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใหม่กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของนายก อบจ.โดยตรงไว้อย่างชัดเจน
ดังนั้น การดำเนินงานในระดับนโยบายสำคัญต่างๆ ของ อบจ.นครราชสีมาขณะนี้จึงได้รับผลกระทบไปทั้งหมด เช่น ไม่สามารถจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาระยะ 3 ปีของ อบจ.ได้ ซึ่งตามกำหนดเวลาทั้ง 2 แผน ต้องทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.และมิ.ย.นี้ตามลำดับ เช่นเดียวกับแผนงบประมาณปี 2548 ของ อบจ.วงเงินรวมประมาณ 400 ล้านบาทที่ต้องทำให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. ก็ไม่สามารถดำเนินการได้เช่นกัน เพราะเป็นอำนาจของนายก อบจ.โดยตรง ซึ่งฝ่ายข้าราชการประจำทำได้เพียงจัดทำร่างงบประมาณในส่วนค่าใช้จ่ายประจำ เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ไว้รอเท่านั้น
“แผนเหล่านี้ต้องชะลอไว้จนกว่านายกฯและคณะผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาดำเนินการ ซึ่งยังไม่มีใครตอบได้ว่าจะต้องรออีกนานเท่าไร แต่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยตรงคือประชาชนทุกคน รวมทั้งได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของท้องถิ่นอื่นทั้ง อบต.และเทศบาลต่างๆ ภายในจังหวัดด้วย เพราะบริหารงานและการพัฒนาในหลายๆ ด้านต้องทำงานประสานร่วมกันกับ อบจ.” นายสวอง กล่าว
นายสวอง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในความเห็นส่วนตัวแล้วเห็นว่า ควรมีการแก้ไขการเลือกตั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถประกาศรับรองผลได้เร็วขึ้น เช่น การประกาศให้ใบเหลืองหรือใบแดงก่อนถึงวันเลือกตั้งเพื่อตัดสิทธิ์ผู้ที่กระทำผิดกฎหมายในระหว่างหาเสียง และเมื่อผ่านเลือกตั้งแล้วให้กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนแล้วค่อยพิจารณาตัดสิทธิ์ภายหลัง หากพบว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งจริง
ด้านนายวิทูร ชาติปฏิมาพงษ์ อดีตนายกอบจ.นครราชสีมาและผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมาที่ได้คะแนนรับเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่งห่างอันดับ 2 กว่า 1.26 แสนคะแนน กล่าวว่า การประกาศรับรองผลการเลือกตั้งล่าช้าจะส่งผลให้การพัฒนาด้านต่างๆ ของจังหวัดต้องช้าออกไปและบางส่วนจะทำให้ไม่ทันการณ์ต่อการแก้ปัญหา เพราะแผนงานโครงการพัฒนาระดับนโยบายข้าราชการประจำไม่มีอำนาจสามารถจัดทำหรือดำเนินการได้ รวมทั้งการเข้าไปช่วยเหลือความเดือดร้อนเร่งด่วนของประชาชนที่ต้องใช้ทรัพยากร หรืองบประมาณค่อนข้างสูงก็ไม่สามารถทำได้ เช่น ปัญหาภัยธรรมชาติที่กำลังประสบอยู่ เป็นต้น
การแก้ปัญหาดังกล่าว กกต.กลางซึ่งปัจจุบันมีภาระหน้าที่มากภายใต้ข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน ควรกระจายอำนาจหน้าที่การพิจารณารับรองผลการเลือกตั้งรวมทั้งการบริหารจัดการเลือกตั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายในจังหวัดมาให้กกต.จังหวัดดำเนินการให้มากที่สุด โดย กกต.กลางควรสร้างกลไกที่มีประสิทธิเข้ามาคอยกำกับและตรวจสอบให้การทำงานการเลือกตั้งและรับรองผลของ กกต.จังหวัดเป็นไปด้วยความโปร่งใสและยุติธรรม มากกว่าจะมารับแบกภาระชี้ขาดการเลือกตั้งทุกระดับของประเทศไว้เองทั้งหมดเช่นที่เป็นอยู่ในขณะนี้
“ขณะนี้ผมมีความพร้อมที่จะเข้าบริหาร อบจ.นครราชสีมาได้ทันที เพราะเตรียมคณะผู้บริหารและทีมที่ปรึกษา พร้อมทั้งจัดทำร่างแผนนโยบายไว้ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของกกต.เท่านั้น” นายวิทูร กล่าว