xs
xsm
sm
md
lg

น้ำเริ่มลด-ช่วยเหลืออย่าลด!! ขออาสา “กรอกพิกัดผู้ประสบภัย” ข้อมูลหลักเซฟชีวิต #น้ำท่วมหาดใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดข้าว ขาดน้ำ กลุ่มเปราะบางยังไม่ถูกอพยพ อีกหลายชีวิต หลายพันเคสยังรอความช่วยเหลือ วอนขอกำลัง “จิตอาสา” ช่วยมาเป็นทีมหลังบ้าน พร้อมกำลังพี่น้องชาวไทย “คนหน้าจอ” ช่วยกรอกฐานข้อมูลหลัก ที่ทุกหน่วยงานใช้ร่วมกัน เพื่อชี้ “พิกัด” ผู้ประสบภัย จะได้ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

** ต้องการด่วน!! “อาสาชี้จุด” ผู้ประสบภัย **

“น้ำท่วมหาดใหญ่” นี่ถือเป็นอุทกภัยใหญ่ที่สุด เท่าที่ชาวจังหวัดสงขลาเคยเจอ ส่งให้ชาวบ้านหลายคนกลายเป็นผู้ประสบภัย หนีน้ำไม่ทัน แม้ตอนนี้หลายจุดระดับน้ำเริ่ม “ลดลง”

แต่ก็ยังมีหลายคน ติดอยู่ใน “บ้าน” หลายวันแล้ว ขาดน้ำ-อาหาร-ยารักษาโรค กลุ่มเปราะบางอย่าง เด็ก คนแก่และผู้ป่วย ยังคงต้องการอพยพด่วน

ล่าสุดเพื่อให้ทีมกู้ภัยและหน่วยงานรัฐ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ตามจุดต่างๆ ได้ “มูลนิธิกระจกเงา” ได้จัดทำเว็บ “จิตอาสาดอทแคร์” (jitasa.care) ให้ “ผู้ประสบภัย” “ญาติ” หรือ “ประชาชน” ที่เห็นโพสต์ขอความช่วยเหลือ บนโซเชียลฯ สามารถร่วมช่วยเหลือได้

ด้วยการกรอก “ที่อยู่-พิกัด” ของผู้ประสบภัย เพื่อให้การช่วยเป็นไปอย่างแม่นยำที่สุด ซึ่งข้อมูลจากจิตอาสาดอทแคร์ ตอนนี้เป็น “ฐานข้อมูลหลัก” ทั้ง “ทีมกู้ภัย” และ “ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 42(ศบภ.มทบ.42)” ที่อยู่หน้างานใช้กันอยู่



“โจ้” ณัฐพล สิงห์เถื่อน หัวหน้าชุด จาก มูลนิธิกระจกเงา ที่ดูแลเรื่องนี้บอกกับเราว่า ตอนนี้ปัญหาหนึ่งในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย คือทีมที่เข้าไปช่วย เป็น “คนนอกพื้นที่” จึง “ไม่รู้เส้นทาง” การมีพิกัดที่แม่นยำ จะทำให้หาเคสที่ต้องการความช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงตัวผู้ประสบภัยได้เร็วขึ้น ประชาชนที่

เว็บไซต์นี้ มี “ทีมหลังบ้าน” ที่มอนิเตอร์ นำเคสขอความช่วยเหลือ ที่เหล่าผู้ประสบภัยโพสต์ก่อนหน้านี้ มาใส่ด้วยแล้ว แต่ก็อาจยังไม่ครบถ้วน ดังนั้น ประชาชนที่เห็นเคส ผู้ประสบภัยโพสต์ขอความช่วยเหลือ แล้วกลัวจะยังไม่มีใครเห็น ก็สามารถเข้าไปช่วยกรอกข้อมูลได้

และไม่ต้องกลัวว่า ข้อมูลจะซ้ำซ้อน เพราะระบบมีการคัดกรอง ในกรอกข้อมูลเพื่อป้องกันเรื่องนี้ไว้แล้ว และข้อดีอีกอย่างในการกรอกที่อยู่ทิ้งไว้ในเว็บนี้คือ ต่อให้มือถือแบตหมด ก็ยังตามรอยและส่งความช่วยเหลือไปหาได้

ตอนนี้อีกอย่างที่อยากให้ช่วยกันคือ หากญาติๆ สามารถติดต่อผู้ประสบภัยได้ ขอให้เข้าไปอัปเดตสถานะในเว็บว่า ได้รับการช่วยเหลือแล้วหรือยัง

“อย่างน้อยช่วยโทรเช็กแล้วอัปเดตในระบบข้อมูลให้ด้วย จะดีมากเลย”

“เขาสามารถแจ้งกลับมาได้ว่าญาติเขาปลอดภัยแล้ว ในฐานข้อมูล มันจะได้ลดจุดสีแดงลงไป หรือเขายังติดค้างอยู่ ให้ Register เพิ่มเข้ามาเลยครับ”



เพราะตอนนี้ทีมงานหลังบ้าน ที่คอยดูแล “รับเคส-ปิดเคส” ในระบบ ตอนนี้ “คนไม่พอ” เพราะจำนวนที่เข้าแจ้งในเว็บมีมากกว่า 9,000 ราย ตอนนี้ต้องการ “คนโทรเช็กเคส” ว่าผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลือยัง เพื่ออัปเดตในระบบ

ใครที่จิตอาสาอยากเข้ามาช่วย ขอแค่ “ใช้คอมพิวเตอร์เป็น”สามารถพูดจา “สื่อสารได้ชัดเจน”จะเป็น คนในพื้นที่ หรือ คนนอกพื้นที่ก็ได้ ใครอยากช่วยติดต่อ “เบน”มูลนิธิกระจกเงา โทร 065-489-1761

“ต้องการโทรเช็กเพื่อเคลียร์ข้อมูล เพราะว่าต้องอย่าลืมว่า บางทีที่แจ้งไว้แล้ว ญาติพี่น้องแจ้งไว้แล้ว แต่เขาไปอยู่ศูนย์อพยพแล้ว เราตามตัวยากครับ เพราะว่าระบบศูนย์อพยพ ไม่ได้ส่งข้อมูลมาประสานกับเรา”

สำหรับเรื่อง “ของบริจาคช่วยเหลือ”นั้น นอกจากน้ำ-อาหาร-ยาแล้ว ตอนนี้ที่ "ศูนย์พักพิง”ขาดแคลนมากๆ คือ “ของใช้ประจำวัน” อย่าง รองเท้า ผ้าห่ม ผ้าขนหนู สบู่ ยาสีฟัน ที่จะให้ผู้ประสบภัย ที่มาอยู่ใช้

ล่าสุดทาง “มูลนิธิกระจกเงา” ได้ตั้งศูนย์รับบริจาคที่“วัดน้ำน้อยนอก”ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พี่น้องประชาชนที่สะดวก สามารถส่งของมาร่วมช่วยเหลือได้


                                                              {“โจ้-ณัฐพล” จาก มูลนิธิกระจกเงา}

** “ช้า” เพราะ “ไร้เอกภาพ” **

แม้ตอนนี้เราจะเห็นหลายทีม ระดมพลลงช่วยเหลือ ผู้ประภัยที่สงขลา แต่ยอมรับว่า “ล่าช้า” เพราะยังมีชาวบ้านหลายจุดที่ความช่วยเหลือยังไปไม่ถึง ซึ่งหลายคนตอนนี้ต้องแข่งกับเวลา “โจ้”  บอกถึงสถานการณ์หลังคุยกับพูดประสบภัยว่า...

“ผมเช็กผู้ประสบภัยหลายพื้นที่เวลาโพสต์เข้ามา มีญาติโพสต์เข้ามา จะบอกว่า น้ำเหลือไม่ถึงวันแล้ว อาหารหมดแล้ว อดอาหารมา 2 วันแล้วครับ”

หัวทีมของกระจกเงา ที่อยู่หน้างานรายนี้ ชี้จุดที่ทำให้ความช่วยเหลือไปถึงช้า ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ อันดับแรกคือ “การไม่แจ้งเตือน” ของรัฐบาล ให้คน “เห็นภาพ” ว่าต้อง “รีบอพยพ” ก่อนน้ำมาทำให้จำนวนผู้ประสบภัย โดยเฉพาะเคส “หาดใหญ่” มีเยอะมาก มากกว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยเหลือ

“มีคนจำนวนมาก ที่ไม่ได้ออกมาตั้งแต่แรก แล้วการที่จะเข้าไปช่วยเหลืออพยพ มันก็ยากแล้ว มันต้องใช้กู้ภัยจำนวนมาก ที่จะเอาคนกลุ่มนี้ออกมา”

“ต้องบอกก่อนว่าหาดใหญ่เนี่ย เป็นเมืองใหญ่นะครับ ประกอบกับกู้ภัยที่มีเนี่ย กับปริมาณของผู้ประสบภัยเนี่ย มันเทียบกันไม่ได้เลย”



และบางพื้นที่ “น้ำที่ไหลเชี่ยว” จนผลักให้ “เรือกู้ภัย” ที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือ “ล่ม” ก็มีทำให้การเข้าอพยพคนออก หรือส่งเสบียง ทำได้ยากลำบากมากๆ

แล้วนอกจากนี้ การเข้าไปอพยพคน แม้จะมีผู้ประสบภัยจำนวนมาก แต่ก็ต้องเร่งนำกลุ่ม “เปราะบาง” ออกมาก่อน ทำให้คนที่ร้องขอความช่วยเหลือมา รู้สึกว่าความช่วยเหลือไปถึงช้า

อีกประเด็นที่สำคัญสุดๆ คือ “การบริหาร” อย่าง “ไร้เอกภาพ” ตั้งแต่เรื่องข้อมูลผู้ประสบภัย ที่ไม่มีการรวมเป็นแหล่งเดียว ไม่มีการอัปเดตว่า จุดไหนมีการอพยพไปแล้วบ้าง ทำให้บางครั้งก็รับเคสซ้อนกัน หรือบางทีกู้ภัยก็ไปเก้อ เพราะคนถูกอพยพไปแล้ว



ส่วนเคสเมื่อ “รับคน” ออกมาแล้ว ก็ไม่มีการประสานกันต่อว่า จะต้องไปส่งจุดไหน ใครจะมารับไม้ต่อ ในการส่งผู้อพยพไปจุดปลอดภัย ไปศูนย์พักพิง นี่ทำให้การเข้าไปช่วยเหลือในช่วงแรก สับสนวุ่นวายมาก

แต่ “โจ้” บอกว่า ตอนนี้การประสานงานดีขึ้น เริ่มมี “การประชุม” ให้ทีมกู้ภัย มารวมตัวกันรับเคสในจุดเดียว มีการประสานงานส่งต่อเคสกัน

“เห็นช่วงหลังเริ่มประกาศให้กู้ภัยมารวมตัวในจุดนึง เพื่อรับงานแบ่งงานกันออกไป ในการกระจายเข้าช่วยเหลือ พี่น้องประชาชน มีการพยายามจะเชื่อมหน่วยต่างๆ เข้าสู่ระบบ Single Command”



สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก “Luddawal Buangam”,” Weerapong Narongkul”,”กษมา ศิลาชัย (June Kasama)”,” Ann B Tanyalak” X” @aorwiki” ,” @KhaosodOnline”,” @netnsss” ,” @joe_black317”



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น