แบรนด์นาฬิกาหรูเหนือระดับจากสวิสเซอร์แลนด์ มอริส ลาครัวซ์ ได้จัดงานฉลองพิเศษ “Maurice Lacroix 50th Anniversary Celebration ขึ้นในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของแบรนด์พร้อมกับการแถลงข่าวเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ AIKONIC and 2025 Novelties” ณ ร้านRiedel Wine Bar & Cellar ชั้น 2 Gaysorn Village
โดยในงานครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก Mr. Stephane Waser (สเตฟาน วาเซอร์) Managing Director of Maurice Lacroixที่บินตรงจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ พร้อมกับ ชัชวาล เอี่ยมพัฒนาสุข Senior General Manager, Client Management ได้ให้การต้อนรับและร่วมพูดคุยกับบรรดาแขกวีไอพีคนสำคัญ
พร้อมกับให้สัมภาษณ์คณะสื่อมวลชนถึงการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยตลอดปี 2025 ด้วยตนเอง โดยการจัดงานได้รับเกียรติจาก ลิซ่า-อลิซาเบธ แช๊ดเลอร์ มาเป็นพิธีกรภายในงาน
พร้อมกับนักร้องรับเชิญ เมย์-ฝนพา ปราโมช ณ อยุธยา จากThe Voiceมาร่วมร้องเพลงสไตล์ Bossa & Light Jazzสร้างบรรยากาศดีๆให้ภายในงานอีกด้วย
โดยงานได้เริ่มที่คุณสเตฟาน วาเซอร์ได้กล่าวในงานแถลงข่าวครั้งนี้ไว้ว่า
“แนวทางของเราตลอด 50 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในแนวคิดดั้งเดิมของแบรนด์คือ “ความเป็นเลิศที่เข้าถึงได้” ตั้งแต่นาฬิกาเรือนแรกที่เราทำในปี 1975 ภารกิจของเราก็คือการนำเสนอความเป็นเลิศในงานนาฬิกาและต้องเป็นราคาที่เข้าถึงได้ นี่คือหลักการสำคัญที่ยังคงอยู่มาจนถึงวันนี้
ทุกสิ่งที่เราพัฒนาขึ้นยังคงเป็นงานนาฬิการะดับสูงเรามีโรงงานของเราในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งคุณจะได้พบกับนาฬิกางานฝีมือแบบสวิสมันน่าทึ่งมากกับช่างฝีมือและความประณีตที่เกี่ยวข้องในการสร้างนาฬิกา
จนถึงวันนี้นาฬิกาของเราทุกเรือน ยังคงประกอบด้วยมือ และทุกเรือนพัฒนาด้วยฝีมือ นี่คือสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมากในอุตสาหกรรมนาฬิกา ที่มีดีไซน์ไอคอนิกเฉพาะตัวตั้งแต่ปี 1975 เรามีสองคอลเลกชันที่ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Maurice Lacroix และสามารถจดจำได้ทันทีว่า เป็นของแบรนด์เรา
ได้แก่ Masterpiece ซึ่งเป็นนาฬิการะดับสูง ที่แสดงถึงงานคราฟต์ชั้นเลิศ และรุ่น AIKON ที่เป็นนาฬิกาเอกลักษณ์ของเรา หรือจะเรียกได้ว่าเป็น Signature Watches ของแบรนด์นั่นเอง”
สำหรับคอลเลกชันใหม่ที่น่าจับตา และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงานนี้คือ รุ่น AIKONIC โดยเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของรุ่นที่เป็น Signature Watches ของแบรนด์อย่าง AIKON ซึ่งมีรากฐานการออกแบบมาจากนาฬิการุ่นดังอย่าง Calypso มาก่อน และ AIKON เอง ก็ได้ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักของคนไปทั่วโลก
โดยนาฬิการุ่นใหม่ AIKON ที่มีตัว IC เพิ่มเข้ามาจะหมายถึง “Innovative Craftsmanship”หรือความประณีตในงานสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยนาฬิกา AIKONIC มีรุ่นที่น่าสนใจอย่างAIKONIC Master Triple Retrograde 43 mm.เป็นนาฬิการุ่นใหม่ที่รวมเอา 'งานฝีมืออันล้ำสมัย'ที่ผสมผสานวัสดุและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดเข้ากับระบบคอมพลิเคชั่นอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
หน้าปัดแอนทราไซต์ตกแต่งด้วยการขัดด้านแบบแนวตั้ง โอบล้อมองค์ประกอบแบบสเกเลตันด้วยช่อง4ช่อง กลไกอัตโนมัติ ML291 ยังประดับด้วยลวดลาย Côtes de Genève ซึ่งเป็นการตกแต่งแบบคลาสสิกที่ประกอบด้วยเส้นแนวตั้ง ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ของช่องบนหน้าปัดจะแสดงวินาทีขนาดเล็กอีก 3 ช่อง ที่เหลือคือตัวบอกเวลาแบบเรโทรเกรด โดยจะแสดงเวลาที่ประเทศบ้านเกิด(GMT)ร วมถึงวันและวันที่นาฬิกา AIKONIC Master Triple Retrograde ผสมผสานลวดลายวงกลมและเส้นแนวตั้ง
ในขณะเดียวกันก็นำเสนอส่วนประกอบในระดับต่างๆ ทำให้ช่องแสดงผลมีความลึก จึงช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดใจได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นและอีกรุ่นคือ AIKONICChronograph Skeleton 43 mm.ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์หน้าปัดในแบบสเกเลตันผสมผสานไปกับกลไกโครโนกราฟมีให้เลือกด้วยกันสองสี ทั้งแบบโทนสีเทาดำและโทนสีฟ้า
ส่วนนาฬิกาอีกหนึ่งรุ่นที่เป็นไฮไลท์ของงานอย่างคอลเลกชันฉลองครบรอบ 50 ปี ที่มีชื่อว่า 1975Legacy Day-Date Limited Edition 40 mm.จำนวนผลิตเพียง 500 เรือนเท่านั้น ถือว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่มาพร้อมหน้าปัดลาย Vagues du Jura แต่ในครั้งนี้ได้เลือกใช้เฉดสี Sapin Green อันโดดเด่น ซึ่งเป็นสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นเฟอร์ (sapinในภาษาฝรั่งเศส) ที่ประดับรายล้อมอยู่บนเนินเขา Saignelégier
หน้าปัดที่อยู่ใต้กระจกแซฟไฟร์ จะดูดซับแสง ช่วยเน้นให้องค์ประกอบที่มีมิติละเอียดอ่อนของฉากสีเขียวชอุ่มดู โดดเด่นยิ่งขึ้น หน้าปัดนาฬิกายังคงไว้ซึ่งความสอดคล้องกับรุ่น 1975 Legacy โดยมีเข็มบอกชั่วโมงและนาที แบบโดฟิน พร้อมกับหลักชั่วโมงทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ช่องแสดงวันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา และเข็มวินาทีตรงกลาง โดยยังคงมีช่องแสดงวันที่อยู่ตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกา ตามที่ระบุในชื่อ
และบนฝาหลัง แบบทึบสลักข้อความ “Limited Edition of 500 pieces”พร้อมด้วยภาพม้าสองตัวยืนอยู่ ท่ามกลางต้นเฟอร์ ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึง “Franches-Montagnes” อันมีชื่อเสียงของม้าสายพันธุ์พื้นเมืองในแถบนี้ พร้อมสายสเตนเลสสตีล แบบ 5 แถวที่ผสมผสานข้อต่อแบบขัดเงา และแบบด้านเข้าด้วยกัน เป็นอีกครั้งที่นาฬิกาเรือนนี้ มีระบบเปลี่ยนสายนาฬิกาแบบง่ายของมอริส ลาครัวซ์
สำหรับการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวในโอกาสครบรอบ 50 ปีของแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ ในครั้งนี้ ถือว่าได้รับความสนใจจากแขกผู้มีเกียรติและบรรดาสื่อมวลชนที่มาเข้าร่วมเป็นอย่างมาก จากการที่คอลเลกชันใหม่ๆ ของแบรนด์นั้น มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสูงขึ้นไปอีกระดับ
แต่แฟนคลับก็ยังสามารถเข้าถึงได้ง่าย ตามเจตนาของแบรนด์ เพราะนอกจากรุ่นไฮไลท์ภายในงานแล้ว ก็ยังมีรุ่นย่อยๆ อื่นๆ ที่น่าสนใจมาให้ชมภายในงานอีกด้วย
สามารถชมและสัมผัสเรือนจริง หรือสอบถามข้อมูลนาฬิกาเพิ่มเติมได้ที่ มอริส ลาครัวซ์ บูติคชั้น 2 Gaysorn Village02-853-9742 หรือ LINE Official @MauriceLacroixTHคลิ๊กhttps://lin.ee/TYO5J3F
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **


