xs
xsm
sm
md
lg

ช็อก!! ฟิตหุ่นเกินลิมิต วิ่งควบเวท ไร้วันพัก จนกล้ามเนื้อสลาย เกือบไตวายไม่รู้ตัว [มีคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ช็อกหนักมาก!! ออกกำลังกายหนักฟิตหุ่น คาร์ดิโอเกือบทุกวัน เวทเทรนนิ่งไม่มีพัก คิดว่าสุขภาพดีมาตลอด ที่ไหนได้ ผลตรวจออกมา ถึงกับอึ้ง!! กลายเป็นคนไข้ภาวะอันตราย เกือบไตวาย เข้าข่ายกล้ามเนื้อสลาย เพราะใช้ร่างกายเกินลิมิต





3 โรงพยาบาล คอนเฟิร์ม “กล้ามเนื้อสลาย”

จากค่าเอนไซม์กล้ามเนื้อ หรือ CPK ของคนปกติ ที่ไม่ควรเกิน 200 แต่เคสนี้ปาเข้าไป 14,271 ซึ่งหมายถึงอยู่ใน “ภาวะกล้ามเนื้อสลาย” พ่วงอาการ “ตับอักเสบ” แถมด้วยวิกฤตอวัยวะภายในรวน คือเกือบเป็น “โรคไตวาย”

ทั้งหมดนี้ คุณหมอวินิจฉัยว่า หลักๆ น่าจะเป็นผลมาจาก การออกกำลังกายเกินขีดจำกัดร่างกายตัวเอง

นี่คือเรื่องราวไวรัล ที่แชร์กันบน X @processic เล่าที่มาที่ไปว่า ตอนแรกไม่มีอาการเจ็บป่วย หรือแม้แต่ปวดกล้ามเนื้ออะไรเลย และตั้งใจไปตรวจสุขภาพประจำปีแบบชิลชิล

แต่ผลคืออาการหนักมาก จนคุณหมอจาก “โรงพยาบาลแรก” ที่ไป ต้องส่งตรวจค่าตับกับหมอเฉพาะทาง และขอความร่วมมือให้หยุดกินอาหารเสริมทุกตัว

ที่สำคัญ ให้พักการออกกำลังกาย และดื่มน้ำเยอะๆ เพราะตอนนี้ร่างกายกำลังอยู่ในภาวะกล้ามเนื้อสลาย ซึ่งมีค่าพุ่งสูงไปถึง 14,271


พอมาตรวจ “โรงพยาบาลที่ 2” อีกรอบ ตอนนี้ค่ากล้ามเนื้อสลายลดลงมาหน่อยนึง คือลดจากค่าที่พุ่งแตะหลักหมื่น มาอยู่ที่ CPK 7,848 และคุณหมอสั่งให้แอดมิท นอนโรงพยาบาลทันที

แต่เจ้าตัวยังไม่สะดวก เพราะต้องเดินทางกลับต่างจังหวัด ปล่อยเวลาผ่านไปวันที่ 3 ถึงตัดสินใจไปตรวจอีกที ครั้งนี้ที่ “โรงพยาบาลที่ 3” ค่ากล้ามเนื้อสลายลดลงมาอีก อยู่ที่ CPK 3,592 และคุณหมอก็ให้แอดมิทโรงพยาบาลเหมือนกัน

สรุปเลยได้นอนให้น้ำเกลือ 3 ลิตร ในเวลา 24 ชั่วโมง ตื่นมาอีกที วัดค่ากล้ามเนื้อสลายอีกรอบ ค่าถึงได้ลดลงมาเหลือ 1,720 ซึ่งถือว่าปลอดภัยแล้ว

เห็นได้ชัดว่า พองดออกกำลังกาย และดื่มน้ำเยอะๆ อาการของคนไข้ก็ดีขึ้น จนอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้

สุดท้ายคุณหมอเขียนใบรับรองแพทย์ให้ว่า เป็นภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย แบบระบุตำแหน่งไม่ได้ และต้องค่อยๆ ติดตามอาการ เฝ้าระวังกันต่อไป

โดยหลังจากนั้น เว้นไป 1 วัน มาตรวจร่างกายอีกที ในวันที่ 6 ของการป่วย ผลปรากฏว่า ค่ากล้ามเนื้อสลายลดลงมาอยู่ที่ 515 คุณหมอก็เลยตัดสินใจ ไม่นัดมาติดตามอาการต่อ แต่ให้หยุดออกกำลังกายเป็นเวลานาน 1 สัปดาห์ และย้ำว่า ให้ดื่มน้ำเยอะๆ

กระทั่งผ่านไป 10 วัน ไปตรวจอีก ถึงพบว่าค่ากล้ามเนื้อสลาย ลดลงมาเหลือ CPK 251 ซึ่งยังไม่ใช่ค่าปกติของคนทั่วไป ซึ่งต้องค่าต่ำกว่า 200

แต่ก็ทำให้เห็นชัดเจนว่า ตลอด 10 วันที่ผ่านมา หลังจากงดอาหารเสริม หยุดยาวิตามินทุกอย่างที่เคยกิน บวกกับงดออกกำลังกายทุกรูปแบบ ทำให้อาการฟื้นได้จริง


คำเตือน จาก “คนเกือบไตวาย”

หลายคนคงสงสัยว่า เจ้าของเคสนี้ต้องออกกำลังหนักขนาดไหน ค่ากล้ามเนื้อสลายถึงได้พุ่งสูงแตะหลักหมื่น จนเสี่ยงชีวิตได้ขนาดนี้?

คำตอบที่ได้คือ เค้าออกกำลังกายด้วยการเวทเทรนนิ่ง วันละ 1 ชั่วโมง ใช้เวลา 2-3 วัน/สัปดาห์ และเป็นการเวทโดยไม่ได้โหลดน้ำหนักมากด้วย

พอลองเอาคลิปตอนเวทเทรนนิ่งให้คุณหมอดู 3-4 คลิปที่ถ่ายไว้ คุณหมอก็ยืนยันว่า ถือว่าไม่ได้ออกกำลังหนักเกินไป

แต่เรื่องของเรื่องคือ เจ้าตัวทำคาร์ดิโอควบไปด้วย คือใช้เวลาวันละ 60-70 นาที เกือบทุกวัน ซึ่งก่อนหน้าจะได้แอดมิทโรงพยาบาลครั้งนี้ เจ้าตัวคาร์ดิโอติดต่อกันมานานถึง 3 สัปดาห์

ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้น เจ้าของเคสเล่าไว้ว่า กินทุกอย่างตามที่เทรนเนอร์แนะนำ คือวันนึงกินข้าว 600 กรัมแบบชั่งสุก เฉลี่ยมื้อละ 200 กรัม บวกกับโปรตีนเนื้อสัตว์ 400 กรัมแบบชั่งดิบ และมีผักต้มผสม

ถ้ากินอาหารประเภทผัดหรือทอด จะใช้น้ำมันมะกอกเติมลงไปด้วยนิดหน่อย นอกนั้นจะเลือกกินอัลมอนด์อบเอง สลับกินอะโวคาโด เพื่อเพิ่มไขมันดีให้ร่างกาย

ส่วนยากับอาหารเสริม ที่เคยกินประจำก่อนแอดมิท คุณหมอทุกคนที่ตรวจให้แต่ละโรงพยาบาล ยืนยันเป็นเสียงเดียวว่า ไม่น่าจะมีผลในแง่ลบต่อร่างกาย แต่ในระหว่างที่แอดมิท และรักษาตัว ก็จำเป็นต้องแนะนำให้งดทั้งหมดก่อน เพื่อง่ายต่อการวินิจฉัย


ลองเทียบกับเคสของคนดังอย่าง “พี่ตูน บอดี้สแลม” ที่เคยมีค่ากล้ามเนื้อสลายพุ่งถึง CPK 4,000 หลังวิ่งมาราธอน 150 กม. (จากระยะทางทั้งหมด 2,191 กม.) และได้นอนวันละ 1 ชั่วโมง เพื่อระดมทุนบริจาคโรงพยาบาลทั่วประเทศในตอนนั้น

เคสของพี่ตูน ยังถูกมองว่าค่อนข้างเสี่ยงตายมากแล้ว พอมาเป็นเคสนี้ เจ้าตัวก็ตกใจมากเหมือนกันว่า ค่าที่พุ่งไปถึง CPK 14,271 ของตัวเอง เสี่ยงตายขั้นสุดของจริง

แต่ก็น่าสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมร่างกายไม่ฟ้องอะไรเลย ในเมื่อถ้าเทียบกับเคสกล้ามเนื้อสลายขั้นวิกฤต อย่างที่เห็นในข่าวนักเรียนถูกลงโทษ ลุก-นั่งเกินลิมิต

ส่วนใหญ่จะมีอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง และมีจุดสังเกตเด่นชัดที่สุดคือ ฉี่ของผู้ป่วยจะเป็นสีโค้ก แต่ในเคสของตัวเองเคสนี้ ไม่ปวดกล้ามเนื้ออะไรเลย แถมฉี่ก็ใสปกติ

สุดท้ายเจ้าตัวเลยได้แต่เตือนใจ และเตือนภัยคนรักสุขภาพเอาไว้ จากประสบการณ์ตรงว่า ไม่ควรออกกำลังกายหักโหมจนเกินลิมิตโดยไม่รู้ตัว คือภายใน 1 สัปดาห์ ต้องมีเวลาให้ร่างกายพักบ้าง อย่างน้อยสัก 1-2 วัน

ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ให้ดื่มน้ำเยอะๆ และอย่าลืมตรวจสุขภาพประจำปี เช็กทุกอย่างอีกที แนบท้ายด้วยประโยคชวนเตือนใจที่ว่า “ด้วยความปรารถนาดี จากคนเกือบไตวาย”


บางครั้ง ไม่มีสัญญาณเตือน

เพื่อให้คนรักการออกกำลังกาย ไม่แพนิคจากเคสนี้จนเกินไป ทางทีมข่าวจึงติดต่อขอสัมภาษณ์ “พญ.พลอยระวี ธนะไพรรักษ์” อายุรแพทย์ชำนาญการด้านโรคไต โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง ให้ช่วยสะท้อนอุทาหรณ์จากเคสนี้ว่า สรุปแล้วควรเฝ้าระวังยังไงถึงจะดีที่สุด

“พญ.พลอยระวี” แพทย์ชำนาญการโรคไต
“อย่างเคสนี้ มันน่าจะเป็นเรื่องของการออกกำลังกายที่หนัก แต่ว่าดูจากปัจจัยที่เขาทวิต ก็คือว่า เขามีเรื่องของอาหารเสริม แล้วก็เรื่องการออกกำลังกายหนัก

แต่ว่าที่เขาหาโรคประจำตัว เช่น ไทรอยด์ โรคแพ้ภูมิตัวเอง เขาไม่มีเลย เกลือแร่อะไรก็ดีหมด ก็เลยคิดว่า ปัจจัยหลัก น่าจะมาจาก การที่ออกกำลังกายหนัก แล้วก็ไม่ให้วันที่ กล้ามเนื้อพักเลย

หมอไม่ได้ฟันธงว่า ออกกำลังกายหนักแล้วไตวาย เดี๋ยวคนจะไม่ออกกำลังกายกันหมด ต้องบอกว่า พอเราออกกำลังกายหนัก เกินขีดความสามารถตัวเอง

มีความเสี่ยง ที่จะทำให้เกิด ภาวะกล้ามเนื้อสลาย ทำให้เกิดภาวะไตวายตามมา ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อน ของกล้ามเนื้อสลาย


ก่อนหน้านี้ ก็มีเคสที่เหมือนอยู่ในข่าว ก็คือคุณครูลงโทษ ให้เด็กลุกนั่ง อันนั้นหมอจำได้ เหมือนเขาให้เด็กสควอท 200 ที แล้วเกิดภาวะกล้ามเนื้อสลาย

ภาวะกล้ามเนื้อสลาย บางคนไม่มีอาการ ประมาณ 20-30% เลย ที่ไม่มีอาการ คือถ้าอาการที่บอกว่า เป็นแน่ อย่างเช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง


หรือว่าปัสสาวะออกมา เป็นสีโค้ก สีน้ำตาล 3 ข้อนี้รวมกัน เจอได้แค่ไม่ถึง 10% ของคนไข้ ที่มีภาวะกล้ามเนื้อสลาย
คนที่มาด้วยกล้ามเนื้อสลาย ประมาณ 60% จะมาด้วย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ 30% บางคนมาด้วย อ่อนเพลีย”



ออกกำลังแบบไหน? ไม่ทำร้ายตัวเอง

ส่วนเรื่องอาหารที่เลือกทาน คุณหมอมองว่า อาจไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับภาวะกล้ามเนื้อสลาย ยกเว้นเรื่องกินน้ำน้อย ที่มีผลทางตรงจริงๆ

นอกนั้น อยากเตือนคนรักสุขภาพ กลุ่มกินอาหารเสริม โดยเฉพาะ กลุ่มอาหารเสริมที่มีพวกคาเฟอีน, ครีเอทีน และแอลคาร์นิทีน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มความเครียดให้ร่างกาย ขณะออกกำลังกาย

ยิ่งถ้ารายไหนออกกำลังกายหนัก ยิ่งจะเครียดเพิ่มทวีคูณ ผลักให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ แตกได้ง่ายขึ้น

ส่วนภาวะกล้ามเนื้อสลายนั้น ย้ำว่าเกิดได้จากหลายสาเหตุ คือไม่ได้เกิดจากแค่ออกกำลังกายหนักเกินไปอย่างเดียว

แต่ยังเกิดขึ้นได้กับเหยื่อประสบอุบัติเหตุ ถูกตึกทับ ร่างติดอยู่ในจุดที่โดนรถชน ถูกรถบีบอัด หรือบางคนโดนไฟช็อต ผิวหนังมีแผลไหม้ ก็ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อสลายได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ โรคประจำตัวบางอย่างก็ไปกระตุ้นภาวะนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ รวมถึงการติดเชื้อไวรัส อย่าง ไข้หวัดใหญ่ หรือโควิด แล้วส่งผลให้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ก็สามารถส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อสลายได้เหมือนกัน


อีกกลุ่มที่เสี่ยงกว่าคนทั่วไป คือคนที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เพราะจะส่งผลให้เกลือแร่ในร่างกายอยู่ในระดับผิดปกติ ที่สำคัญ ทำให้โพแทสเซียม และฟอสฟอรัสในเลือดต่ำ จนกลายเป็นตัวกระตุ้นสำคัญ ทำให้กล้ามเนื้อแตกได้ง่ายขึ้น

หรือแม้แต่แสงแดดเองก็มีผล คิดดูว่าแค่เดินไปตลาด แล้วตากแดด ก็ทำให้ค่า CPK สูงขึ้นได้ถึง 400-500 ได้แล้ว เพราะร่างกายแห้ง จนผลักให้กระตุ้นภาวะนี้ได้มากขึ้น

ส่วนภาวะไตวายที่เสี่ยงต่อชีวิตอย่างเคสนี้ คุณหมอบอกว่า พอจะมีสัญญาณเตือนอยู่ คือถ้าหลังออกกำลัง แล้วเริ่มรู้สึกว่าปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หนักไปจนถึงขั้นกล้ามเนื้ออ่อนแรง นั่งแล้วลุกไม่ขึ้น

นอกนั้นคือ ถ้าเริ่มฉี่ออกน้อยลง หรือเป็นสีโค้ก สีน้ำตาล อันนี้ก็เป็นตัวบ่งบอกแล้วว่า อาจกำลังมีภาวะกล้ามเนื้อสลาย ที่ส่งผลให้เกิดภาวะไตวายตามมา

เป้าหมายที่ควรตั้งไว้ สำหรับการออกกำลังกาย คุณหมอแนะนำว่า ให้ใช้เวลามากกว่า 150 นาทีต่อสัปดาห์ และควรจะค่อยๆ ทยอยอัปเลเวลไปทีละสเต็ป

คืออาจเริ่มจากเดินชันบนลู่วิ่ง ด้วยความเร็วที่ไม่ต้องเยอะมาก ตั้งความเร็วไวประมาณ 4-5 ก็พอ และใช้เวลาครั้งละประมาณครึ่งชั่วโมง

ส่วนถ้าอยากจะเวทเทรนนิ่งเพิ่มเติม แนะนำว่าให้เลือกน้ำหนักที่เบาที่สุดก่อน แล้วค่อยๆ เล่นเพิ่มขึ้น ตามความสามารถของแต่ละคน

ย้ำว่าไม่ควรหักโหมเกินไป ที่สำคัญคือ อย่างน้อยควรมีเวลาให้ร่างกายได้พัก 2 วัน คืออาจจะออกกำลังกาย 5 วัน แล้วพักสัก 2 วัน

และอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้ได้ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน รวมถึงจิบน้ำบ่อยๆ ตลอดระยะเวลาที่กำลังออกกำลังกายด้วย

“บางคนออกกำลังกาย แต่ไม่ได้พักเลย ไม่มีเวลาให้ร่างกาย ได้ฟื้นฟูตัวเองเลย กล้ามเนื้อมันก็เครียดไปด้วย มันก็แตกได้ง่ายขึ้น


เวลาเราออกกำลังกาย เราควรจะมีกระบอกน้ำอยู่ข้างตัว จิบน้ำเรื่อยๆ ไม่ควรให้ร่างกายขาดน้ำเลย เพราะว่ายิ่งจะทำให้ เกิดภาวะกล้ามเนื้อสลายได้ง่ายขึ้น”






ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย LIVE Style (@livestyle.official)




...

@livestyle.official ...ช็อกหนักมาก!! ออกกำลังกายหนัก คาร์ดิโอเกือบทุกวัน เวทเทรนนิ่งไม่มีพัก ผลตรวจออกมา ถึงกับอึ้ง!! @drployrawee... . กลายเป็นคนไข้ภาวะอันตราย เกือบไตวาย เข้าข่ายกล้ามเนื้อสลาย เพราะใช้ร่างกายเกินลิมิต . #LIVEstyle #LIVEstyleofficial #ข่าวTikTok #TikTokCommunityTH #เตือนภัย #สุขภาพ #ออกกําลังกาย #นักวิ่ง #วิ่ง #วิ่งมาราธอน #เวทเทรนนิ่ง #คาร์ดิโอ #ลดน้ําหนัก #กล้ามเนื้อสลาย #ไตวาย ♬ เสียงต้นฉบับ - LIVE Style


สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น