xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจ(มืด) #หมอแอร์ เพราะช่องโหว่ “ยาโรคจิตเวช” เข้าถึงยาก? “บุคลากรการแพทย์” เลยถือโอกาสลักลอบขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ช็อกวงการ เมื่อแพทย์สาวผู้เคยเตือนภัยเกี่ยวกับเรื่อง“ยาเสียสาว” ดันกลับกลายเป็นตัวแม่ในตลาดมืด ค้ายานอกระบบซะเอง ตรวจสอบพบเงินหมุนเวียนกว่า 400 ล้านในธุรกิจมืด สะท้อนการอาศัย“ช่องโหว่ระบบสาธารณสุข” หากินกับพี่น้องประชาชน ผ่านอำนาจในฐานะ “บุคลากรทางการแพทย์”


** สะเทือนวงการแพทย์!! ตัวแม่อยู่เบื้องหลัง? **

“11 คลินิก”คือจำนวนสถานพยาบาล ที่ถูกแอบอ้าง เพื่อใช้ซื้อขายตัวยา “อัลปราโซแลม” (Alprazolam)ด้วยฝีมือของ “หมอแอร์” (พ.ต.อ.พญ.อัญชุลี เพ็ชรรัตน์) กับผู้เกี่ยวข้องรวม 7 ราย

ล่าสุดถูกส่งเข้าเรือนจำเรียบร้อยแล้ว พร้อมของกลางกว่า 1.7 แสนเม็ด ด้วยข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาที่ต้องควบคุม โดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด

ยาที่ในตลาดมืดเรียกกันว่า “ยาเสียสาว”เพราะมักถูกกลุ่มภัยสังคม เอาไปใช้มอมผู้หญิง แต่แท้จริงคือ “ยานอนหลับ” หรือ “ยาคลายเครียด”สำหรับผู้ป่วยทางจิตเวช รวมไปถึงโรคซึมเศร้า


                                      {“หมอแอร์” เคสยาเสียสาว สะเทือนวงการแพทย์}

ส่วนที่ถูกจำกัดความว่าคือ “ยาเสียสาว”เพราะฤทธิ์ยาที่ทำให้ง่วง บวกกับความทรงจำลดลง หรืออาจทำให้ผู้ใช้เสียความทรงจำชั่วขณะ ยิ่งถ้าใช้ในปริมาณที่สูง จะเพิ่มอาการเคลิ้มด้วย

ด้วยความที่ออกฤทธิ์ไว ทำให้หลับได้ง่าย เลยกลายเป็นยาถูกเอามาใช้ในทางที่ผิด ยิ่งถ้าถูกเอามาผสมกับเหล้า ยิ่งเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต จึงถูกกำหนดเอาไว้ให้เป็น “ยาควบคุม” ต้องให้แพทย์สั่งจ่ายเท่านั้น ถ้าซื้อขายกันเองนอกระบบ ถือว่า “ผิดกฎหมาย”

อีกมุมนึง เจ้า “อัลปราโซแลม”ตัวนี้ ในทางการแพทย์แล้ว เอาไว้ใช้รักษาผู้ป่วยจิตเวชฃ โดยเฉพาะกลุ่มอาการวิตกกังวลอย่างรุนแรง ไปจนถึงกลุ่มที่มีพฤติกรรมคิดสั้น ควบคุมตัวเองไม่ได้

หรือแม้แต่ “ผู้ป่วยโรคมะเร็ง” ที่มีอาการทุกข์ทรมานจากโรคจนนอนไม่หลับ อย่างที่  “นพ.โยธิน วิเชษฐวิชัย” แพทย์จิตเวชศาสตร์ โรงพยาบาลสมิติเวช ช่วยอธิบายเอาไว้



“คนที่จ่ายอาจจะเป็นแพทย์กลุ่มเฉพาะทาง, จิตแพทย์, แพทย์ระบบประสาท หรือแพทย์รักษา เรื่องมะเร็งครับ
หมอที่ให้ ต้องคิดแล้วคิดอีกอะครับ ว่าคนไข้จะไม่ได้ เอาไปทำอย่างอื่น มันก็เลยจ่ายยาก สมมติว่า มีคนไข้บางคน ที่ติดยาอัลปาโซแลม แล้วตระเวนช้อปปิงทุกโรงพยาบาล โรงพยาบาลละแผงอย่างนี้ เขาก็มีคนทำนะครับ
แต่ว่าเราก็จะมีเครือข่าย ที่เช็กบัญชีดำคนไข้เหล่านี้อยู่ เขาก็เลยหาซื้อยาก ต้องไปตลาดมืดกัน แล้วมีคนอาจจะแอบเอามาขาย”


                                                         {“นพ.โยธิน” แพทย์จิตเวชศาสตร์ รพ.สมิติเวช}

** “ช่องโหว่” ยาในระบบ ผลักให้ “ลักลอบขาย” **

ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับหลายราย ใช้ยาตัวนี้ช่วยรักษา ซึ่งถ้าเป็นโรงพยาบาลในระบบ ราคาจะอยู่ที่ราวๆ แผงละ 50 บาท

เกี่ยวกับเรื่องนี้ แหล่งข่าววงใน ผู้ใช้ยาประเภทนี้เป็นประจำบอกว่า ส่วนใหญ่ทางโรงพยาบาลจะจำกัดการจ่ายยา อยู่ที่ไม่เกิน เดือนละ 30 เม็ด ทำให้ผู้ป่วยที่ต้องการการใช้มากกว่านั้น ต้องหาซื้อเพิ่มเติมจากที่อื่น

เนื่องจากใช้ยาเป็นเวลานาน จนกินวันละ 1 เม็ดแล้วไม่เพียงพอ ถึงแม้จะอัพราคาเพิ่มขึ้น จากแผงละ 50 บาท เป็น 300 ไปจนถึง 500 บาทเลยก็มี

เทียบง่ายๆ แม้แต่โรงพยาบาลที่สั่งจ่ายแบบถูกกฎหมาย ยังขายในราคาแตกต่างกัน มีตั้งแต่ 100 เม็ด ราคา 500 บาท ไปจนถึงราคาที่พุ่งพรวดอย่าง 100 เม็ด 5,000 บาท



ด้วยส่วนต่างของกำไรตรงนี้เอง จึงอาจเป็นหนึ่งในเหตุผล ที่ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ มองเห็นเป็นช่องทางทำเงิน จนกลายเป็น “เคสหมอแอร์” ล่าสุด

ไหนจะผลประโยชน์ในตลาดมืด กลุ่มที่ใช้เป็นยาเสียสาว หนุนการก่ออาชญากรรม เพราะหาได้ง่ายกว่ายาสลบอื่นๆ ผลักให้เกิด “ธุรกิจลักลอบ” ซื้อขายยาชนิดนี้ ผุดขึ้นมาเพียบ

“ในตลาดมืดก็จะถือว่า ยากลุ่มนี้ หาง่ายกว่า ยาสลบครับ มันไม่ถึงกับจะเป็น แรร์ไอเทม คนก็จะใช้กันเยอะ ยากลุ่มนี้ ก็จะเข้าถึงได้ยากจริงๆ อันนี้ยอมรับ

แต่ว่าถ้าเป็นยากลุ่มทั่วไป เช่น ยารักษาโรคซึมเศร้า ยารักษาอาการวิตกกังวลทั่วไป ก็มีฤทธิ์ง่วงนอนด้วย แล้วก็ช่วยให้นอนหลับได้ด้วย แต่ไม่เสพติด ไอ้พวกนี้ เข้าถึงได้ง่ายครับ บางทีเดินไปร้านขายยา ก็มีขายเลย”



สิ่งที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า ระบบสาธารณสุขในบ้านเรา ยังคงมีช่องโหว่เรื่องเข้าถึงยาได้ยาก จนต้องไปหาซื้อกันนอกระบบนั้น ซึ่งก็มองได้ 2 มุมคือ 

ส่วนนึงเป็นเพราะลักษณะยา ที่เป็นยาควบคุม และมีฤทธิ์เกี่ยวกับประสาท สุ่มเสี่ยงต่อการ “ก่ออาชญากรรม” ทำให้ต้องมีหลักเกณฑ์ในการคัดกรอง ไม่ให้เข้าถึงได้ง่ายเกินไป

แต่ในอีกมุมนึง ส.ส.พรรคประชาชน อย่าง “สิริลภัส กองตระการ” เคยเสนอในที่ประชุมเอาไว้เหมือนกัน ให้แก้ปัญหาเรื่อง “การเข้าถึงยารักษาโรคจิตเวช” 



เพราะทุกวันนี้ยังมีผู้ป่วยบางคนไม่สามารถใช้ยาเหล่านี้ได้ เนื่องจากไม่มีอยู่ในบัญชียาหลัก ที่โรงพยาบาลรัฐจะสามารถจ่ายให้ได้ ผ่านสิทธิประกันสุขภาพ

ตรงกับข้อมูลจาก “หมอกุ๊ก” (พญ.อธิชา วัฒนาอุดมชัย) จิตแพทย์ จากโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ที่เคยให้สัมภาษณ์กับเราไว้ว่า ส่วนใหญ่ที่ภาครัฐยอมเบิกจ่ายให้ คือตัวยารุ่นเก่า ที่มีผลข้างเคียงเยอะ

แถมประสิทธิภาพยายังไม่ถึงเกณฑ์ จนผู้ป่วยบางคนไม่ตอบสนองกับตัวยา ผลักให้กลายเป็นช่องโหว่การรักษา ก่อเป็นวงจรลักลอบยามาขายนอกระบบในที่สุด



สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ :
เพจเฟซบุ๊ก “หมอแอร์” 



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น