xs
xsm
sm
md
lg

บินผาดแผลง-ทำฝนหลวง-ดับไฟป่า "นักบินหญิง" ก็ทำได้ ขอแค่โอกาส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ไม่ยอมให้ใครมาบอกว่า ความฝันเราเป็นไปไม่ได้” ถึงเส้นทางการเป็น "นักบินหญิง" จะไม่ได้เป็นเส้นตรงเหมือน "นักบินชาย" แต่หัวใจไม่ยอมแพ้ก็พยายามวิ่งหาโอกาส จนวันนี้เป็นได้ทั้ง "นักบิน" และ "ยูทูบเบอร์การบิน" เกินกว่าเคยวาดฝันไว้

** ความฝันเพียงหนึ่งเดียว กับโอกาสที่เป็นศูนย์ **

“เด็กทุกคนจะต้องโดนถามว่า ‘โตขึ้นอยากเป็นอะไร’ อาชีพแรกที่จำความได้ อยากเป็นนักบินเท่านั้นเลย ถ้าอยากเป็นอย่างอื่นยังพอรู้ว่าเราไปเรียนอะไร เป็นหมอ พยาบาล ทหาร ตำรวจ หรืออาชีพอื่นๆ เราจะได้เตรียมตัวเพื่อเรียนเป็นอาชีพนั้น

การจะได้เป็นนักบินสำหรับทหารกองทัพอากาศ ต้องเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายเรืออากาศ โรงเรียนการบิน ซึ่งเขารับตั้งแต่ผู้ชายอย่างเดียวเลย ซึ่งตอนนั้นก็แบบ… ไม่มีโอกาสเลยเหรอ

ตั้งแต่เด็ก คุณพ่อเห็นเราเศร้าๆ ก็บอกว่า ‘ผู้หญิงเป็นนักบินไม่ได้ลูก โตไปไม่แน่’ นั่นคือคีย์เวิร์ดเดียวที่เราไม่ยอมแพ้ เรายึดเป็นเหมือนคัมภีร์ชีวิตว่าโตไปไม่แน่

แต่ก่อนในเมืองไทยไม่มีนักบินหญิงเลย ไม่มีทั้งนักบินพาณิชย์แล้วก็นักบินทหาร เหมือนสังคมยังไม่ได้เปิดโอกาสมากพอ หนทางที่ผู้หญิงคนนึงที่ฝันจะเป็นนักบินคือศูนย์ เพิ่งจะมาเปลี่ยนเมื่อไม่นานนี้เอง”




“ทอฟฟี่ - ชัชชุมา ฐานิสรานนท์” Influencer และ YouTuber ด้านการบินของไทย แห่งช่อง “TOFFGUN PILOT” ที่มีผู้ติดตามหลักแสน บอกกับเราพร้อมดวงตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงความฝันวัยเด็ก

คำถามที่ว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร?” เชื่อว่าเด็กๆ ทุกคนจะต้องเคยเจอ และก็คงจะมีคำตอบแตกต่างกันไป แต่สำหรับเธอคนนี้ มีความฝันแค่เพียงอย่างเดียวคือ “นักบินหญิง”

ทว่า ก่อนหน้านี้หลายสิบปีก่อน ผู้หญิงไม่มีโอกาสที่จะทำอาชีพนี้เลยด้วยซ้ำ แต่นั่นก็ไม่ทำให้หญิงสาวที่มีความฝันอยากเป็นนักบินคนนี้ย่อท้อ จนเธอสามารถทำความฝันให้เป็นจริงได้ในที่สุด

ย้อนไปในวัยเด็กเมื่อครั้งยังเป็น ด.ญ.ทอฟฟี่ เติบโตขึ้นมากับเครื่องบินรบในกองบินตั้งแต่จำความได้



“ตั้งแต่เกิดและโตมาก็อยู่ในรั้วทหาร เราจะเรียกเขตทหารของกองทัพอากาศว่ากองบิน เราก็จะโตมาเห็นเครื่องบินบินผ่านหัวทุกวัน ได้ยินเสียงเขากระหึ่มฟ้า คุณพ่อเป็นช่างซ่อมเครื่องบิน ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับการเป็นทหารอากาศมาก

ช่วงเราเด็กๆ ประมาณ 30 ปีก่อน โรงเก็บเขาจะยังไม่เข้มงวดขนาดนี้ ลูกๆ หลานๆ ในกองบินสามารถขี่จักรยานเข้าไป ไปเดินเล่นบ้างตามโอกาส เราก็ได้เห็นว่าโรงเก็บเครื่องบินใหญ่โตมาก แล้วก็มีเครื่องบินรบจอดเรียงกันอยู่หลายลำ

ทอฟมีโอกาสไปเล่นโรลเลอร์เบลดในโรงเก็บเครื่องบิน ได้ไปลอดใต้เครื่องบินรบ ตอนนั้นเป็น F-5 มีความสุขมากเลย คุณพ่อก็พาเราขึ้นบันไดไปแอบดูพื้นที่ของนักบินที่เขานั่งทำงานอยู่ เราอยากจะได้เป็นนักบินแบบนี้บ้าง อยากขับเครื่องบิน

ตอนเด็ก เครื่องบินที่เป็นความฝันเลยคือเครื่องบิน F-5 ตอนนั้นจะประจำการอยู่ที่กองบิน 23 ฝูงบิน 231 อุดรธานี จะเป็นหน่วยบินของฝั่งอีสาน ซึ่ง F-5 ในสมัยนั้นก็ถือว่าเป็นเครื่องบินที่โก้ หัวแหลมๆ เป็นเครื่องบินรบที่สมรรถนะดีเลยนะคะ

ภารกิจปกป้องน่านฟ้า เวลาเขาบินหมู่มากันที 3 ลำ 5 ลำ บินผ่านโรงเรียน เด็กที่อยู่ในห้องเรียนหรือว่าใต้ชายคาจะวิ่งออกมาดูกัน เพื่อนๆ ก็จะรู้ว่าพ่อเราเป็นทหารอากาศ เขาก็จะ ‘พ่อทอฟฟี่ๆ’ มันจะมีความน่ารักในบรรยากาศในตอนนั้น

ด้วยความใกล้ชิดของเราด้วยแหละ เราเห็น สัมผัส ได้เห็นภารกิจ ได้เห็นการทำงานของนักบิน ของช่างที่ดูแลอากาศยาน ว่ามันมีมากกว่าแค่เครื่องบิน นักบินรบ มันมีแผนกซัพพอร์ตอื่นๆ ด้วย มีหลายฝ่ายที่เหมือนกับอุทิศทั้งแรงกายแรงใจ เพื่อให้ภารกิจปกป้องน่านฟ้าให้สมบูรณ์ เพอร์เฟกต์ และปลอดภัย มันคือความประทับใจที่เป็นมิติมากค่ะ”



เมื่อความฝันกลายเป็นทางตัน ในตอนนั้นเด็กสาวจึงต้องตัดสินใจเลือกเส้นทางใหม่ให้ตัวเอง

“เรารอตั้งแต่เด็กเลย ประมาณอนุบาล 2 คำว่า ‘โตไปไม่แน่’ ยังมีเวลาอีกหลายปีนะ เผื่อประมาณ ม.3 - ม.4 ประเทศไทยจะเปลี่ยนนโยบายให้โรงเรียนเตรียมทหารรับผู้หญิง ตอนนั้นคือใสมาก ทำไมเขาไม่รับผู้หญิงนะ เขาคงยังไม่ได้เตรียมห้องน้ำหญิง ห้องนอนให้ผู้หญิงมั้ง อะไรอย่างนี้ (หัวเราะ) ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็มีลึกกว่านั้น

จน turning point ต้องตัดสินใจว่า ม.ปลายเราจะไปต่อสายไหน โรงเรียนเตรียมทหารก็ยังไม่รับผู้หญิงอยู่ดี เพราะฉะนั้น มันคือศูนย์จริงๆ ในตอนนั้นก็เลย... โอเค ถ้าไม่ได้เป็นทหาร ไม่ได้เป็นนักบิน Plan B คือชอบเรื่องราวของศิลปะ วงการบันเทิง อะไรแบบนี้ งั้นไปเรียนศิลป์ภาษาก็แล้วกัน ก็ไปเรียนศิลป์ภาษาฝรั่งเศสก่อน เพื่อที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย

อยากเรียนสายนิเทศเพื่อจะเป็นผู้กำกับ นั่นคือ Plan B ในชีวิตเลย ที่ก็ชอบ แต่ไม่ใช่ passion ซะทีเดียว ก็เลยมุ่งหน้าไปสายภาพยนตร์ ก็ได้ไปเรียนที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นภาพยนตร์และวิดีโอค่ะ”

** วันที่ “นักบินหญิง” ติดปีกโบยบิน **

ความฝันของทอฟฟี่ยังไม่ไปไหน เพราะ Thesis ก่อนเรียนจบ ก็ยังทำหนังสั้นเป็นเรื่องราวของผู้หญิงที่อยากจะเป็นนักบิน เมื่อเข้าสู่ชีวิตทำงาน เธอไปเป็นเบื้องหลังในแวดวงภาพยนตร์และโฆษณา รวมถึงด้าน marketing และสื่อโซเชียลมีเดีย

กระทั่งเธอได้พาตัวเองเข้าใกล้สิ่งที่รักอีกครั้ง เพราะมีบริษัท Flight Simulator ที่เป็นเครื่องจำลองการบินแห่งหนึ่ง เปิดรับฝ่าย marketing ที่นี่พาให้เธอได้มารู้จักกับ หน่วยฝึกบินการบินพลเรือนกองทัพอากาศ ฝูงบิน 604 หรือ Sunny

“แม้ว่าเส้นทางที่เราจะได้เป็นนักบินรบมันถูกตัดโดยสิ้นเชิง แต่เราพาตัวเองเข้าไปใกล้ๆ ความฝันด้านการบิน ทำให้ไฟในใจที่เคยหมกเอาไว้ใต้พรม มันกลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง ได้คุยกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน ที่เขาเป็นนักบิน แล้วทัศนคติของคนที่อยู่ใกล้ตัวเรา เขาบอกว่าเรื่องการบินมันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ทอฟฟี่ก็ยังสามารถจะเป็นนักบินได้นะ

มันก็ยังมีที่นี่นะ Sunny หน่วยฝึกบินการบินพลเรือนของกองทัพอากาศ ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้มาเรียนขับเครื่องบิน เพื่อเป็นหน่วยบินสนับสนุนกองทัพในยามที่มีเหตุฉุกเฉิน เหตุสงครามที่นักบินไม่พอ หน่วยบินนี้ก็จะสามารถเสริมได้



พลเรือน บุคคลทั่วไป รวมถึงข้าราชการ ก็สามารถเรียนหลักสูตรนี้ได้นะคะ อยู่ในกองบิน 6 ดอนเมือง การคัดเลือกก็ค่อนข้างจะละเอียดมาก คุณจะมาเรียนขับเครื่องบินเพราะอะไร ประวัติอาชญากรรม ทุกอย่างก็ต้องเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวดเลย

คุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุนค่ะ โอเค มันก็เอาจนได้เว้ย (หัวเราะ) ได้ทำสิ่งที่รักก็ดีใจค่ะ จริงๆ คุณพ่อรู้อยู่แล้วว่ามันมีหน่วยฝึกบิน Sunny อยู่ใกล้ๆ กับที่ทำงานเก่าคุณพ่อด้วยซ้ำ แต่เขาไม่เคยบอกเราเลย คิดว่าเราคงทิ้งความฝันนี้ไปแล้วมั้ง จนเราไปหาเองทำเอง มาขอให้เขาช่วยเซ็นเอกสารรับรองอะไรบางอย่าง เขาก็โอเค ขอให้ประสบความสำเร็จ บินปลอดภัย”

และแล้ว... วันที่ความฝันเป็นศูนย์ ก็กลายเป็นความจริงขึ้นมา เมื่อเธอได้ขึ้นบินเป็น “นักบินหญิง” ในฐานะศิษย์การบิน ภายใต้ปีกของฝูงบิน 604 กองทัพอากาศได้สำเร็จ

“มันตลกนิดนึงนะคะ เราเห็นภาพยนตร์ Top Gun หรือ Armageddon โรงเก็บใหญ่ๆ ถ้าเราได้ไปยืนตรงนั้น เดินเหมือน slow motion มันคงจะเท่ไม่น้อย ใส่ชุดนักบินแล้ว องค์ลงเรียบร้อย วันนี้ขึ้นบินเป็นครั้งแรกในชีวิต


[ ฝันเป็นจริง Solo ครั้งแรก ]

แต่ภาพความเท่มันถูกพับทิ้งไว้เลย วันแรกที่เราได้มาอยู่บนเครื่องบิน ครูบอกว่าลองคอนโทรลเครื่องบินดู อื้อหือ… เราเหมือนคนเหลวเป๋วมาก แค่ใช้เท้าทำให้เครื่องบินตรงที่พื้น เรายังทำไม่ได้เลย เพราะประสาทสัมผัสมือเท้าเราจะยังไม่ชิน

การที่เครื่องบินอยู่ที่พื้น เราเรียกว่า Taxi ไม่ใช้มือเหมือนพวงมาลัยรถยนต์ เราใช้เท้าซ้ายกับเท้าขวาบังคับล้อให้มันเลี้ยวซ้ายกับเลี้ยวขวา อยากให้ตรงต้องประคองเท้าทั้งสองไปข้างหน้า แค่นี้ยังยากเลย ทุกคนถ้าบินไฟลท์แรกจะเลื้อยเป็นงูค่ะ เราจะมามองแค่ว่าเป็นเรื่องเท่ไม่ได้ เราจะต้องใส่ใจการฝึก ฝึกประสาทสัมผัสให้มากขึ้น โฟกัสเรื่องการบินให้มากที่สุด

(พ่อแม่) เขาก็ตื่นเต้นดีใจค่ะ ความฝันของลูกที่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ที่อยากจะสนับสนุนก็ไม่รู้จะสนับสนุนยังไงด้วยซ้ำ เขาก็เห็นเราทำได้ วันที่เราใส่ชุดนักบิน เขาก็ภูมิใจมาก วันที่มาบอกพ่อแม่ว่า solo แล้ว เขาก็ลุ้นอยู่ที่บ้าน ลูกลงมาปลอดภัย ก็คือความภูมิใจของที่บ้านค่ะ แล้วความภูมิใจอีกอย่างนึง ก็คือพาคุณพ่อคุณแม่ซ้อนท้ายเราบินไปต่างจังหวัดด้วยกันได้

ภูมิใจมากๆ เลย ที่เราทำสำเร็จในฐานะผู้หญิงคนนึง ที่โตมากับความฝันที่มันเป็นศูนย์ มองย้อนไป เราแทบจะลืมความฝันนี้ไปแล้วก็ได้ เปลี่ยนตัวเองไปทำอย่างอื่นแล้วก็ได้ แต่ว่าก็ยังขอบคุณตัวเองนะ ที่ยังเชื่อมั่นในความฝัน เราไม่ทิ้งคีย์เวิร์ดนี้ว่า ‘โตไปไม่แน่’ เราก็เอามันจนได้ มันก็คือความภูมิใจที่เราทำความฝันสำเร็จ”

** “นักบินรบ” ตีลังกา สานฝันบนฟ้า **

หลังจากติดปีกเป็นที่เรียบร้อย นักบินทอฟฟี่ ได้แชร์ประสบการณ์การบินสนุกๆ ให้เราได้ฟัง แถมเธอยังได้มีโอกาสติดตามกองทัพอากาศ ในภารกิจช่วยเหลือประชาชน ก็คือ “ฝนหลวง” และ “การดับไฟป่า” อีกด้วย

“เป็น Air Rally ค่ะ จะเป็นกิจกรรมที่สมาคมการบินที่จัด ก็จะเป็นการทำกิจกรรมทดสอบความแม่นยำในหลายๆ อย่างของนักบิน จะมีบินเอาถุงแป้งไปหย่อนลงให้ใกล้กับจุดที่มาร์กไว้มากที่สุด มันจะมีการคำนวณว่าต้องทิ้งล่วงหน้าระยะเวลาเท่าไหร่ นักบินกับผู้ที่โยนต้องทำงานร่วมกัน คล้ายๆ กับการย้อนอดีตไปทิ้งระเบิดเมื่อสมัยสงครามโลก อะไรแบบนี้



อีกอันนึงจะเป็น Spot Landing ฝึกลงจอดให้มัน touch down ในจุดที่มาร์กเอาไว้ ถ้าใครลงได้ปลอดภัย นิ่มนวล ใกล้ที่สุด ก็จะได้คะแนนเยอะไป แต่ว่าความปลอดภัยต้องมาที่ 1 ไม่ใช่บังคับให้เครื่องลงปั้ง!! ก็ไม่ได้ ก็เป็นความสนุกอีกอย่างนึง

เป็นโอกาสดีอันนึงที่กองทัพอากาศให้ TOFFGUN ได้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์การทำฝนหลวงนะคะ ก็จะได้เรียนรู้ว่าวิธีการทำฝนหลวง ใช้หลักวิทยาศาสตร์มาทำให้เมฆก่อตัวอิ่มตัว กลายเป็นฝนลงมา ก็จะไม่ใช้สารเคมี

ทุกอย่างก็จะเป็นหลักการของเกลือ โซเดียมคลอไรด์ การทำให้ไอน้ำมันอิ่มตัวควบแน่นอะไรแบบนี้ เมฆที่อยู่เฉยๆ เราเอาเกลือไปเพิ่มเขาให้เย็นจัด อิ่มตัวขึ้น เมื่อเขาเกิดกระแสอากาศ มวลเมฆอิ่มตัวมากพอ เขาก็จะกลายเป็นฝนให้เราได้

ใช้อากาศยานของกองทัพอากาศ ตอนนั้นเป็น AU-23 Peacemaker เป็นอากาศยานอายุ 40 ปี แต่ว่ากองทัพอากาศก็ยังใช้เครื่องบินนี้ได้อย่างคุ้มค่า สามารถเอาเครื่องบินที่เหมือนจะไปทำภารกิจสู้รบกับใครไม่ได้ มาช่วยเหลือประชาชนในภารกิจฝนหลวงได้ เป็นเหมือนช่องทางนึงในการช่วยประชาสัมพันธ์ภารกิจของกองทัพอากาศ ที่ได้ช่วยเหลือประชาชนค่ะ



นอกจากทำฝนหลวง เราได้เห็นอุปกรณ์ที่ดับไฟป่า เหมือนได้ตามขึ้นไปในฐานะ Influencer ไปเห็นเครื่องบิน C-130 ทิ้งถังน้ำทำเป็นแนวกันไฟ ก็เป็นประสบการณ์ที่เราได้ขึ้นไปนะคะ”

ไม่เพียงแค่นั้น ทอฟฟี่ยังได้มีโอกาสสัมผัสท่าทางการบินผาดแผลง ที่แม้เธอจะไม่ได้เป็น “นักบินรบหญิง” แต่ประสบการณ์สุดพิเศษในครั้งนั้น ก็เรียกได้ว่าเข้าใกล้ความฝันมากที่สุด

“ด้วยความที่ภาพฝันของเราตั้งแต่เด็ก เราอยากเป็นนักบินรบ ดู Air Show มาตั้งแต่เด็กทุกปี เราเห็นเครื่องบินมันตีลังกา ขอสักครั้งในชีวิต อยากไปสัมผัสประสบการณ์ที่เขาว่าดึง G มันเป็นยังไง บินตีลังกาม้วนมันเป็นยังไง


[ ตีลังกากลางเวหา ชิมลางการบินผาดแผลง ]

พอดีว่าแต้มบุญสูง ครูการบินคนแรกของ TOFFGUN เป็นนักบิน F-5 มาก่อน เชื่อมโยงมาก คุณพ่อซ่อมเครื่องบิน F5 ครูการบินคนแรกบิน F-5 มาก่อน เครื่องบิน CT-4 Chicken เป็นเครื่องบินฝึกของศิษย์การบินกองทัพอากาศมาก่อน ซึ่งเขามีสมรรถนะในการทำท่าทางบินผาดแผลงเบื้องต้นได้ บินตีลังกาได้ ครูการบินเราก็ผ่านเครื่องบินลำนี้มาอย่างโชกโชน

เขาก็บอกว่า ‘ถ้าทอฟฟี่ landing solo ไม่ได้ จะไม่มีโอกาสได้ลองการบินตีลังกา’ ครูช่างเอาอะไรมาล่อเรา หลังจากนั้นทอฟตั้งใจมาก เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้ solo ก่อนใครในห้อง ครูก็พาไปทำ demo flight ท่าทางการบินผาดแผลงต่างๆ

Aerobatics จริงๆ ไม่ได้อันตรายนะคะ เพราะครูการบินมีชั่วโมงบินสูงมาก แล้วก็เครื่องบินเราก็ทำได้ บินเป็นวงกลมบนท้องฟ้า แล้วแรงที่เกิดขึ้นเรียกว่าแรง G เหมือนน้ำหนักตัวคูณไป 4 เท่า ครั้งแรกที่สัมผัสแรง G เราไม่ได้เกร็งตัว คอมันหักไป คอเรามันหนักไป 4 เท่า มันไม่สามารถจะเงยหน้าขึ้นมาสู้แรง G ได้ โอเค หลังจากนั้นตั้งตัวได้ มันมาก

ก็มีโอกาสได้ลองท่าทางการบินที่หลากหลายมากขึ้น ดีใจมากเลย นี่มันใกล้ความฝันที่เราเห็นภาพตัวเองเป็นนักบินรบตอนเด็กมาก ซึ่งท่าทางการบินเหล่านั้นเป็นประโยชน์สำหรับการบินสมัยโบราณ สมมติว่าเราเป็นลำหน้าที่ถูกเขาไล่ยิงก้น การบินตีลังกาเหินกลับมา เราจะสามารถมาอยู่ข้างหลังแล้วไล่ยิงคนอื่นได้ เขาฝึกเป็นปกติเพื่อให้เหนือชั้นด้านการบินค่ะ”

** อินฟลูฯ การบิน คนแรกๆ ของบ้านเรา **

นอกจากจะเป็นนักบินแล้ว ในตอนนี้ทอฟฟี่ยังสวมหมวกอีกหลายใบ ทั้งด้านการบินและด้านอื่นๆ

“มีธุรกิจส่วนตัว ทำยาสีฟันสมุนไพรแบรนด์ TOPFORM รีวิวยังไงให้แต่คนชมว่าฟันสวยจัง (หัวเราะ) ทอฟเป็นคนที่ดูแลเรื่องฟันดีมาก เพราะว่าโตมากับคำว่าเป็นนักบินฟันผุไม่ได้ ร่างกายเราต้องแข็งแรง ดูแลสุขภาพต้องที่ 1 เลยนะคะ

อีกอาชีพนึงนะคะ สอนดูดวง พอดีมีโอกาสได้ไปเรียน ก็คือตามคุณแม่ไป แต่ว่าอาจารย์เห็นสีหน้า ท่าทาง โหงวเฮ้ง พลังงาน น่าจะอย่างนั้น อาจารย์ถูกชะตา ก็เรียนมา 10 กว่าปีแล้ว ตอนนี้ก็เป็นอาจารย์สอนดูดวงจากศาสตร์ตัวเลขด้วย

เคยไปทำบริษัทขายเครื่องบินอยู่ช่วงนึงนะคะ แต่ว่าหลักๆ ก็ไปอยู่บริษัทที่ทำ simulator เครื่องจำลองการบิน ชื่อ Flight Experience Bangkok รวมถึงเราได้มาทำสมาคมการบินกับรุ่นพี่ที่ Sunny ก็จะเป็น สมาคมการบิน Happy Aviator

ก็จะสอนบุคคลทั่วไปที่อยากลองขับเครื่องบินครั้งนึงในชีวิต ใครก็ได้ 7 ขวบขึ้นไป จะมีครูการบินพาขึ้น อันนี้ก็เป็นความสุขอีกอย่างที่ได้อยู่ตรงนั้น ได้เห็นคนที่มาเติมฝัน ได้เห็นเด็กๆ ที่เหมือนมาจั๊มพลังงานความฝันของเขา มันใจฟูมากเลยค่ะ

มีช่วงนึงอยากเป็น (นักบินพาณิชย์) ก็เตรียมจะไปเรียนต่อเหมือนกัน แต่ว่าพอเห็นแนวโน้มนักบินก็ล้นตลาด สักพักโควิดมาอีก โอเค พับโครงการเลยดีกว่า เพราะว่าเราก็มาโฟกัสด้านอื่นที่เรายังทำได้ดีก่อนก็ได้”



ไม่พอแค่นั้น เธอยังเป็น Influencer ด้านการบิน เจ้าของ YouTube ช่อง “TOFFGUN PILOT” ที่มีผู้ติดตามหลักแสน

“จุดที่ทำให้ช่อง TOFFGUN PILOT มันดัง การเล่าเรื่องการบินที่มันเข้าถึงยาก กับนักบินที่ทำสื่อเป็น ทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงการบินได้ง่ายขึ้น แล้วก็มีคนติดตามเพิ่มขึ้นตามลำดับค่ะ ก็มีความสุขมาก (ยิ้ม)

ตอนที่เริ่มเรียนบินใหม่ๆ หาข้อมูลเกี่ยวกับการบินภาษาไทย ไม่มีเลย ช่องที่ให้ความรู้ ให้ประสบการณ์ด้านการบิน มันจะมีแต่ภาษาอังกฤษเท่านั้น เป็นช่องฝรั่ง ทอฟก็รู้สึกว่าทอฟอยากดู แล้วไม่มีใครทำเหรอ คิดง่ายๆ ไม่มีใครทำเราทำสิ

ทำนานแล้วค่ะ 10 ปีได้ 1. เป็นบันทึกเรื่องการบินของตัวเอง 2. ใครที่หาดูอย่างที่เราเคยหา เขาก็จะได้เจอช่องของเรา พื้นที่ฝึกยังเป็นพื้นที่ของกองทัพอากาศ หลายๆ พื้นที่มันก็ยังเป็นความลับ มันก็มีข้อห้ามเยอะเหมือนกัน แต่พอเราได้มาอยู่สมาคมการบินที่เป็นของบุคคลทั่วไปกับพลเรือน เราก็เริ่มมีความสุขที่จะได้ถ่ายทอดเรื่องราวได้มากขึ้นนะคะ



แล้ว feedback มันมาเอง พอเราลงคลิปคนก็สนใจ มันก็เป็นหลายๆ อย่างที่เราก็อยากรู้ด้วยซ้ำ เครื่องบินแต่ละรุ่นเป็นอย่างไร ข้อแตกต่าง ข้อดี-ข้อเสีย เราอยากรู้เองด้วย เราก็ทำคลิปแบ่งปันความรู้ให้คนอื่นด้วย

พอเราเป็นศิษย์การบินกองทัพอากาศ หลายๆ อีเวนท์ที่กองทัพอากาศจัด เราก็มีโอกาสได้ติดตาม อย่างเช่น งานใช้อาวุธทางอากาศ เหมือนเป็นการสอบวัดผลประจำปีของกองทัพอากาศ เราก็มีโอกาสได้ไปดู ไปถ่ายวิดีโอ แล้วก็มาเล่า

รวมถึงได้เผยแพร่กิจกรรมของกองทัพอากาศ อาจจะกองทัพอื่นด้วยนะ บก เรือ ตำรวจ ถ้ามีโอกาส ก็อยากให้เรื่องราวของการบินเป็นองค์ความรู้ เป็นแรงบันดาลใจ ส่งต่อให้บุคคลทั่วไปได้รู้เรื่องของการบิน

ศัพท์อะไรที่เป็นศัพท์นักบิน ศัพท์การบิน ทอฟจะพยายามใช้คำพูดที่เข้าใจง่าย เพราะว่าคนที่ดูช่องเรา 4-5 ขวบก็ดูแล้ว จนถึงผู้ใหญ่ เรียกได้ว่ากลุ่มกว้างมาก เราก็เลยค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญ ในเรื่องการให้ข้อมูลที่เข้าใจง่าย เนื้อหาก็ต้องเป็นเนื้อหาที่ friendly กับทุกคน ทุกวัย ทอฟตั้งใจจะทำให้มันดูสนุกด้วย ได้ความรู้ด้วย inspire ผู้คนด้วยค่ะ”


[ FC ตัวน้อยของช่อง “TOFFGUN PILOT” ]

เรียกได้ว่าช่อง TOFFGUN PILOT เติบโตมาจากความรักในด้านการบินจริงๆ เพราะพี่น้องในแวดวงการบินใคอยหยิบยื่นโอกาส และมีผู้ติดตามโดยเฉพาะแฟนคลับตัวจิ๋ว ที่คอยเติมไฟในใจให้ลุกโชนเสมอ

“เราเริ่มต้นด้วย passion ง่ายๆ ทอฟทำด้วยอะไรที่มันสะดวก มีกล้อง มีไมค์ มีขาตั้ง อาจจะมีคนช่วยถ่ายนิดๆ หน่อยๆ เพื่อนกัน งานที่มันหนักหน่วงที่สุดสำหรับ YouTuber ก็คือตัดต่อ ซึ่งทอฟก็ตัดเองได้ พยายามพึ่งพาคนอื่นน้อยที่สุด

การที่ทอฟไปถ่าย ขับรถไปต่างจังหวัด ก็เงินตัวเองทั้งนั้นนะคะ ถามว่าช่อง TOFFGUN ให้รายได้พอไหม เดือนนึงไม่พอค่าน้ำมันที่จะออกไปต่างจังหวัดด้วยซ้ำ แต่ว่าทำด้วยความสุขจริงๆ สปอนเซอร์ก็ไม่มีนะ สปอนเซอร์ตัวเอง เราก็ไปทำงานอย่างอื่นเพื่อมาซัพพอร์ตช่องนี้ มันก็เลยทำให้ทอฟอยู่กับสิ่งที่ทอฟรักจริงๆ ได้นานมาจน 10 ปี

แต่ว่าสิ่งที่มันต่อยอดและทำให้ทอฟยังไม่หยุด คือผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส ผู้ใหญ่ในวงการการบิน พี่ๆ น้องๆ เจอกันตามงานอีเวนต์ ‘พี่มีอันนี้ๆๆ ทอฟมาถ่ายนะ’ เขารู้สึกว่าช่องเราให้ประโยชน์ ให้ความรู้กับผู้คนจริงๆ เขาก็ให้โอกาสเรา ซึ่งทอฟก็ไม่ได้รับค่าอะไรเลย เพราะทอฟแทบจะไม่ได้มีต้นทุนการผลิต นอกจากเรื่องของเวลาเท่านั้นเองนะคะ

รวมถึงวันที่เราไปเจอเด็กๆ เจอผู้ปกครองวันที่มี Air Show น้องๆ ที่ใส่ชุดนักบินมาขอถ่ายรูปกับเรา แล้วคุณแม่บอก ‘ดูพี่ทอฟๆ’ มันใจฟูมากค่ะ อันนี้แหละที่ทำให้เราไม่หยุดที่จะทำช่องต่อไป คอนเทนต์เรามันอาจจะไม่ใช่คอนเทนต์ที่ต้องลงทุกสัปดาห์เพื่อให้ได้เอ็นเกจ ก็ตามโอกาสเอื้ออำนวยค่ะ ก็ยังอยากจะทำคอนเทนต์ดีๆ ให้วงการการบินต่อไปค่ะ”

** รอวัน(ทัพ)ฟ้าเปิดรับ “นักบินรบหญิง” **

ถึงแม้ว่าหลักสูตรการบิน จะเปิดกว้างให้คนทั่วไปได้มีโอกาสมาเรียน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นนักบินได้ นอกจากการฝึกอย่างเข้มข้นแล้ว ยังต้องผ่านสิ่งที่เรียกว่า “เวชศาสตร์การบิน” ไปให้ได้เสียก่อน

“ถ้าเป็นนักบินพาณิชย์ ก็ต้องอยู่ใต้กฎของสายการบิน ซึ่งเขาจะเขียนกฎว่าเขาอยากจะได้นักบินแบบไหน หลักๆ คือสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีองค์ความรู้ด้านการบินที่เรียนได้ตามระดับของเขา ถ้าเป็นนักบินที่ซื้อเครื่องบินขับเอง ก็จะกฎน้อยหน่อย จะบินเพื่อความบันเทิงหรือบินเพื่อความสะดวกในชีวิตตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ใต้กฎการบิน

ในเรื่องของกฎการบิน คนที่จะเป็นนักบินได้ มันไม่ใช่ใครก็ได้ ไม่ใช่ว่าเรามีเงินจะซื้อเครื่องบินแล้วจะไปขับเครื่องบินได้เลย การตรวจร่างกายของนักบินต้องใช้ใบสำคัญการแพทย์ ต้องให้คุณหมอเป็นคนบอกว่าเราบินได้หรือเปล่า

การตรวจร่างกายเพื่อเป็นนักบิน มันตรวจความแข็งแรงของร่างกายทุกอย่าง รวมถึงจิตวิทยาด้วย มันสมอง ปฏิกิริยาตอบโต้ การประมวลผล ตรรกะเป็นเหตุเป็นผลของคนที่จะมาเป็นนักบินด้วยค่ะ

บางคนก็ดูปกติ แต่ทัศนคติที่คุณหมอเวชศาสตร์การบินตรวจมาไม่สามารถขับเครื่องบินได้ ก็คือไม่ได้ค่ะ มันมีปัจจัยก็คือเวชศาสตร์การบินคอยขีดเส้นอยู่ ว่าคุณจะเป็นนักบินได้หรือไม่ได้”



ทอฟฟี่ยังสะท้อนสถานการณ์นักบินหญิงในบ้านเราอีกว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ตอนนี้ ‘ผู้หญิง’ เข้ามามีบทบาทในวงการการบินของไทยมากขึ้น ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะมีนักบินรบหญิงก็เป็นได้

“เหมือนทอฟจะเรียนบินไปประมาณ 3-5 ปี กองทัพอากาศถึงได้เปิดโอกาสให้ผู้หญิงมาเป็นนักบินได้ ก็จะมีนักบินหญิง 5 คนแรกของกองทัพอากาศ เป็นนักบินที่จบนักบินพาณิชย์มา แล้วก็เป็นทหารอากาศหญิง กองทัพอากาศมาฝึกเพื่อเป็นนักบิน ก็จะมี 2 กรณีที่ตอนนี้ก็ยังปฏิบัติการอยู่ค่ะ

จะต่างจากขั้นตอนผลิตนักบินของกองทัพอากาศที่เป็นนักบินผู้ชาย ที่ขั้นตอนตามสูตรก็คือผ่านโรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายเรืออากาศ โรงเรียนการบิน เทียบง่ายๆ ประมาณ ม.4 ถึงมหาวิทยาลัย ที่เขาจะปั้นนักบินสักคนนึงมาค่ะ

(นักบินหญิง) ตอนนี้เยอะค่ะ 10 ปีก่อนน้อยมาก จริงๆ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส นกแอร์ แอร์เอเชีย มีนักบินหญิงก่อนสายการบินแห่งชาติอีกนะ ปีนี้ก็เห็นว่าการบินไทยรับนักบินหญิงแล้วนะคะ เป็นอะไรที่ใจฟูมาก ที่วันนี้ประเทศไทยมันมีพัฒนาการ การเปิดโอกาสให้ความหลากหลายเรื่องเพศ แล้วก็ให้โอกาสผู้หญิงมากขึ้นนะคะ

แล้วทอฟแอบหวังว่ากองทัพอากาศ กองทัพเรือ กองทัพบก เร็วๆ นี้นะ น่าจะเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้อยู่ใน process ของการคัดเลือกนักบินตั้งแต่ต้นทางเต็มตัวสักที ความฝันที่ทอฟอยากเห็น แม้ว่าตอนนี้มันเลยจุดที่ทอฟอยากจะเป็นนักบินรบแล้ว แต่ทอฟยังฝันว่าวันนึงเราได้เห็นนักบินผู้หญิงในประเทศไทยจริงๆ ที่บิน Fighter”



นี่คือเรื่องราวของ ทอฟฟี่ เด็กผู้หญิงที่ตอบคำถามถึงอนาคตตัวเองมาเสมอว่า “อยากเป็นนักบิน” ผ่านไปหลายสิบปีวันนี้เธอก็ได้ติดปีกสมใจหวัง นอกจากความมุ่งมั่นของตัวเองแล้ว กำลังใจจากคนรอบข้างก็สำคัญไม่แพ้กัน

“การค้นหาตัวตน จริงๆ ลองถามตัวเองว่าอะไรที่ทำให้เรามีความสุข บางคนโตมาอาจจะยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะเป็นอะไรกันแน่ ฝันจะเป็นอะไรกันแน่ ให้เอาความสุข ความใจฟู ความไม่ลดละ มองสิ่งนี้แล้วยังรู้สึกว่าหัวใจมันยังเต้นแรง

อันนั้นน่าจะเป็นตัวตนที่แท้จริงที่คุณจะทำได้ดี อย่างทอฟเอง ทอฟไม่ทิ้งความฝัน เราไม่ยอมให้ใครมาบอกว่าความฝันเราเป็นไปไม่ได้ด้วยนะ ใครที่พูดแบบนั้นอย่าไปอยู่ใกล้เขา

ทอฟต้องขอบคุณครอบครัวก่อนเลยที่ให้แรงบันดาลใจ แล้วก็ไม่ตัดโชะความฝันของทอฟมาตั้งแต่เด็กนะคะ แล้วก็ขอบคุณเพื่อนร่วมทางที่บอกทอฟว่าทุกอย่างมันเป็นไปได้ ทอฟก็เป็นนักบินได้

เลือกคนใกล้ตัวที่สนับสนุนความฝันคุณ จะทำให้สิ่งเหล่านั้นพาคุณไปถึงความฝันได้มากที่สุด ที่สำคัญกำลังใจของตัวเองนะคะ มันจะต้องเข้มข้น แล้วก็โฟกัสให้มากพอค่ะ”


สะท้อนใจ อุบัติเหตุใหญ่พรากคนการบิน

“อันนี้เป็นข่าวเศร้า เวลามีข่าวเครื่องบินตก เรายังไม่ได้พักหายเสียใจเลย มีต่ออีกแล้ว ก็เป็นส่วนที่ทำให้บุคลากรการบินจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเรื่องของความปลอดภัยมากขึ้น ไม่ว่าจะตัวนักบินเองหรือว่าบุคลากรที่ซัพพอร์ตอยู่เบื้องหลัง

แน่นอนว่าหลายคนเสียขวัญกำลังใจมากๆ แต่ว่าถ้ามองในมุมวงการการบิน เหมือนเราลงเรือด้านนี้แล้ว การที่จะมากลัวจนไม่ก้าวหน้า จนไม่ลงมือทำเลยมันก็คงไม่ใช่ ทุกคนจะต้องมีสติทุกย่างก้าว ทุกลมหายใจ

ตั้งแต่การที่เราจะต้องมีวินัยในตัวเอง เตรียมบิน พักผ่อน อ่านหนังสือตำรา จริงๆ เบื้องหลังนักบินเตรียมตัวเยอะก่อนจะขึ้นบินซักไฟลท์ รวมถึงพี่ๆ ช่างเองก็ไม่ได้จะมาดูแต่กับช่าง เขาก็ต้องมีเรียนหนังสือ มีสอบ มีการทบทวนเยอะมากเหมือนกัน

แล้วก็เรื่องของอากาศยานก็เป็นอีกอย่างนึงที่จะต้องเป็นจำเลยในสังคมเสมอ ว่าเครื่องบินหรืออากาศยานมันเป็นของเก่า แต่จริงๆ มันไม่ใช่แบบนั้นเลย มันก็จะเป็นเรื่องของการซ่อมบำรุงรักษา ทุกอย่างมีเช็กลิสต์ตามระยะของเขานะคะ ไม่ใช่ว่าคุณเห็นว่าเครื่องบินมัน 30 ปี คุณก็จะโทษแต่ว่าเครื่องบินเก่า จริงๆ มันอาจจะเก่าแค่ตัวเฟรม ตัวบอดี้ภายนอก

เขาก็จะมีคู่มือมาว่ามันจะสามารถทำการบินได้กี่หมื่นชั่วโมง ถ้าคู่มือบอกว่าตัวนี้ 6 เดือนเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน ไม่สึกไม่หรอก็ต้องเปลี่ยน ตัวนี้ครบ 500 ชั่วโมง 1,000 ชั่วโมง ซึ่งทุกอย่างจะนับเป็นหลักชั่วโมง ถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยน เครื่องยนต์ ใบพัด engine อะไหล่ทั้งหลาย

เวลามีเหตุการณ์เกิดขึ้นในสังคมไทย ทอฟก็ไม่อยากให้คนรีบด่วนตัดสินว่าเป็นเพราะอันนั้น เพราะอันนี้ อยากให้รอเรื่องของการตรวจสอบของสาเหตุก่อนดีกว่าค่ะ เพราะว่าเวลามีข่าวเศร้าทีนึง คนที่ไม่รู้คอมเมนต์ที คนวงการการบินจิตตกที แล้วมันก็อาจจะเป็นการทำให้เสียขวัญในวงกว้างไปกันใหญ่ค่ะ”



สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : กีรติ เอี่ยมโสภณ
ขอบคุณภาพ : Facebook “Toffgun”



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น