xs
xsm
sm
md
lg

ร้าน-กฎต้องชัด ลูกค้า-มารยาทต้องมี!! อย่าเปลี่ยน “คาเฟ่” เป็น “สตูฯ ส่วนตัว”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ใจดีแล้วได้อะไร นอกจาก “ความท้อใจ” เจ้าของคาเฟ่อึ้ง เจอทีมถ่ายทำยกกองถล่มร้านจัดเต็ม แบบไร้ความเกรงใจ ยอมรับตรงๆ หยวนให้จนอาจละเลย “กฎ-กติกา” กลายเป็นดรามาบทเรียนชีวิต

** “ร้านกาแฟ” ไม่ใช่ “สตูดิโอ” **


เจาะเคสคาเฟ่ใจดี ให้ถ่ายฟรีไม่คิดตังค์ แต่ดันเจอกองถ่ายหัวใส ยกกันมาทั้งระบบชุดใหญ่ ทั้งไฟสตูฯ แบบจัดเต็ม จัดของเซ็ตฉาก เปลี่ยนโฉม “ร้านกาแฟ” ให้กลายเป็น “สตูดิโอส่วนตัว” อย่างที่แม้แต่เจ้าของสถานที่ ก็ยังตั้งตัวไม่ทันสุดท้ายทนไม่ไหว ทางร้านโพสต์แฉพฤติกรรมผ่านแฟน

เพจ “MindMost coffee”จากเริ่มแรกติดต่อขออนุญาตทางร้านล่วงหน้า ว่าจะเข้ามา “ถ่ายงาน”ภายในร้าน ซึ่งลูกค้ารายนี้เคยเข้ามาถ่ายแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร

และที่ผ่านมา ร้านก็ไม่ได้เก็บค่าใช้จ่าย เพราะตั้งใจตกแต่งร้านและจัดมุมสวยๆ ไว้ให้ลูกค้าทุกคน สามารถเข้ามาถ่ายทำคอนเทนต์ ถ่ายรูป โดยไม่คิดเงินอยู่แล้ว

“แต่ในกรณีลูกค้าท่านดังกล่าวนี้ พยายามบิดเบือนร้านกาแฟ MindMost coffee เปลี่ยนแปลงเป็นสตูดิโอส่วนตัวเป็นอย่างมาก และไม่คำนึงถึงลูกค้าท่านอื่นที่เข้ามาใช้บริการ”

                                                                                {ยกกองมาแบบจัดเต็ม ไม่เกรงใจใคร}

เพราะนอกจาก “ไฟสตูดิโอ”กับ “ของประกอบฉาก”ที่วางระเกะระกะเต็มร้านแล้ว ลูกค้ารายนี้ยังหยิบเอาของที่ทางร้านตั้งโชว์ออก แล้วใส่สินค้าของตัวเองเข้าไปวางแทน จากนั้นก็นั่งไลฟ์สดขายของกันตรงนั้น โดยไม่เกรงใจลูกค้าคนอื่นเลยสักนิด

หลังจากเรื่องนี้ถูกแชร์ออกไป หลายคนก็เข้ามาช่วยกันงวิจารณ์เรื่องมารยาท ประณามการกระทำของกองถ่ายนี้กันให้ทะลักโซเชียลฯ


“มารยาทน่าจะไม่มีเลย ถ่ายเเบบไม่สนใจไรเลย”


“มีแบรนด์ขนาดนี้ บริษัทไม่มีห้องไลฟ์สด เป็นของตัวเองเลยเหรอคะ?”


“คิดแต่มาเอา มานั่งขายของในร้านเขาเฉย ลงทุนบ้าง”

หลายคนคิดเห็นไปทางเดียวกันว่า ถ้าจะถ่ายทำกันจัดเต็มขนาดนี้ ก็ควรจะขอจ่ายเงินเช่าร้าน หรือขอปิดบางโซนของร้านไปเลย ไม่ก็เลือกวันที่ร้านหยุดเพื่อถ่ายทำดีกว่าไหม จะได้ไม่รบกวนลูกค้ารายอื่น

ล่าสุดหลังถูกกระหน่ำอย่างหนัก “เจ้าของแบรนด์” ผู้ก่อดรามาครั้งนี้ ก็ได้ออกมาขอโทษและน้อมรับผิดเรียบร้อยแล้ว พร้อมชี้แจงว่าทีมงานที่ไปเป็น “เด็กใหม่” ไม่มีหัวหน้างานอยู่ดูแล ทำให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น

ทั้งนี้ ทางทีมถ่ายทำไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ จะหยิบมากล่าวอ้าง แต่สัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก



** “ถ่ายทำฟรี” ไม่มีอีกต่อไป **

มองอีกมุม ผู้คนก็สงสัยไม่น้อยว่า ทำไมร้านและพนักงานถึง “ไม่ห้าม” หรือ “ตักเตือน” ทีมถ่ายทำตั้งแต่เริ่มตั้งขาไฟขากล้อง? แต่กลับปล่อยให้ยกกองแบบจัดเต็มเข้ามาภายในร้าน


“เขาเข้ามาทำขนาดนี้ ไม่มีขัดขวาง ห้ามปรามเลยรึ”


“ทางร้านมีสิทธิ์หยุดการถ่ายทำตรงนั้นทันทีนะครับ ถ้าการติดต่อมาแต่แรกไม่ตรงปก แบบนี้เรียก ยกกองถ่ายแบบค้าขายเลยอะ เขาได้พื้นที่เราฟรี เสียเงินไม่กี่ร้อย ค่าน้ำไม่กี่แก้ว”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าของร้าน “MindMost coffee” อย่าง “อ้อ” ช่วยย้อนเล่าถึงวันเกิดเหตุให้อีกทีว่า หลังจากพนักงานโทร.มาแจ้งกับเธอว่า ทีมถ่ายทำนี้มีการย้ายของภายในร้าน

บวกกับมีลูกค้าโทร.มาร้องเรียน อ้อเลยขอต่อสายตรงไปยังทีมงานที่ถ่ายทำ ณ ตรงนั้น รีบห้ามปรามในทันทีที่ทราบเรื่อง

“พออ้อโทร.ไป อ้อก็อยากจะพูดกับเขาว่า มันทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ แต่เหมือนเขาไม่ค่อยฟัง เหมือนพยายามตัดบทว่า โอเค..เดี๋ยวเก็บของกลับแล้วครับ”



ประเด็นคือ กองถ่ายของแบรนด์สินค้านี้ “ไม่เคยแจ้งรายละเอียด” เลยว่า จะมีการตั้งกล้องถ่ายไลฟ์สด แล้วเปลี่ยนให้ร้านของเธอ กลายเป็นสตูดิโอจริงจังขนาดนี้ ทีมงานบอกแค่ว่า “ขอถ่ายที่ร้าน”

ส่วนเหตุผลที่อ้ออนุญาต ก็เพราะแบรนด์สินค้านี้เคยเข้ามาถ่ายแล้ว ซึ่งแต่ละครั้งที่ผ่านๆ มา ก็เป็นกองถ่ายเล็กๆ มีไม่กี่คน และไม่ได้มีชุดไฟจัดเต็ม ขยายกินพื้นที่ร้านขนาดนี้

ถึงอย่างนั้น ทางเจ้าของร้านก็ถูกสังคมตั้งคำถามอยู่ดีว่า ที่เป็นแบบนี้ ส่วนนึงเป็นเพราะ “ร้านไม่มีการตั้งกฎกติกาที่ชัดเจน” เพื่อเป็นแนวทาง สำหรับคนที่จะเข้าไปใช้พื้นที่หรือเปล่า เลยทำให้เกิดภาพแบบนี้ขึ้น ซึ่งเจ้าของร้านก็ยอมรับตรงๆ ว่า “ไม่ได้คิดถึงจุดนี้จริงๆ”

“คือไม่เคยคิดว่ามันจะขนาดนี้ เพราะว่าอ้อรู้สึกว่า ถ้าการถ่ายทำอะไรแบบนี้ ไลฟ์สด ส่วนใหญ่เขาจะมีสตูดิโอไหมคะ ซึ่งที่ผ่านๆ มา ไม่ใช่ของเคสนี้นะ เราก็เห็นบางคน เขาแค่เอาผลิตภัณฑ์มาถ่าย มาวาง ซึ่งมันเล็กน้อยมากเลย ก็เลยไม่ได้คิดว่า มันจะมีคนกล้าทำอย่างนี้”



และจากบทเรียนครั้งกระหึ่มโซเชียลฯ ครั้งนี้ ทางร้าน “MindMost coffee” ก็ตัดสินใจแล้วว่า จะ “ไม่ให้ใครเข้ามาถ่ายในเชิงพาณิชย์” อีกแล้ว

“เป็นข้อห้ามเลยดีกว่าค่ะว่า ไม่อนุญาตให้ถ่ายเชิงพาณิชย์ใดๆ ทั้งสิ้นแล้ว เพราะก็ไม่อยากให้มีปัญหา กับลูกค้า ที่เขามาใช้บริการในร้านด้วย ไม่อยากให้เกิดเป็นประเด็น หรืออะไรแล้วค่ะ”

** ถึงไม่มีกฎ แต่ต้องมี “มารยาท” **

“การที่จะเอาไฟไปตั้งอย่างนั้น โดยที่เขาไม่ได้ปิดโซนให้แยกเฉพาะ ใช้ร่วมกับลูกค้าคนอื่น โดยปกติตามมารยาท ก็ไม่เหมาะสมอยู่แล้วค่ะ”

นี่คือความคิดเห็นของ “อินฟลูฯ สายท่องเที่ยวและรีวิวอาหาร” รายนึง ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1 ล้าน ที่ช่วยวิเคราะห์ผ่านมุมมองของคนทำงานสายนี้

ปกติ เวลาถ่ายทำคอนเทนต์ในพื้นที่สาธารณะ หรือพื้นที่ที่เราต้องแชร์กับคนอื่น ต่อให้เจ้าของสถานที่ไม่ได้มีกฎชัดเจน แต่การตั้งไฟ ตั้งกล้อง หรือแม้แต่การใช้เสียง มันต้องอยู่บนพื้นฐานของ “ความเกรงใจ” เพราะพื้นที่ตรงนั้นไม่ได้มีแค่ทีมงานของเรา

คือเวลาไปถ่ายงานในร้านอาหารหรือคาเฟ่ นอกจากจะต้องขออนุญาตแล้ว ยังต้องบอกรายละเอียดกับเจ้าของร้านทุกอย่างด้วยว่า ถ่ายแนวไหน ภาพนิ่ง วิดีโอ หรือไลฟ์สด และอุปกรณ์มีอะไรบ้าง

“สมมติว่ามีไฟ ก็จะต้องแจ้งเลย คือถ้าร้านอนุญาตแล้ว เราถึงจะทำได้”



นอกเจ้าของร้านแล้ว ทีมถ่ายทำยังต้องขออนุญาตลูกค้าที่มาใช้บริการตอนนั้นด้วย ตั้งแต่ก่อนเริ่มถ่ายทำ เพราะบรรยากาศการถ่ายทำอาจสร้างสิ่งรบกวน จากเสียงพูดคุย อุปกรณ์กล้อง หรือแม้แต่แสงไฟ
ยิ่งสมัยนี้มี “กฎหมาย PDPA”ที่เสี่ยงถ่ายติดหน้าใครโดยไม่ได้รับความยินยอม ทางที่ดี “พื้นที่ที่ถ่าย” ต้องถูกจัดเป็นโซนแยกออกมาเพื่อไม่ให้ไปรบกวนลูกค้ารายอื่น

และที่ไม่ควรทำอย่างร้ายแรงเลยคือ ในกรณีที่เราใช้สถานที่เขาฟรี แล้ว “ไปเปลี่ยนสภาพร้าน” จนคนจำไม่ได้ เพราะเรื่องแบบนี้มันต้อง win-win ทั้ง 2 ฝ่ายคือ “ทางลูกค้าได้ใช้สถานที่ฟรี”และ“ทางร้านได้รับการโปรโมต” จากการเป็นฉากหลังในคอนเทนต์



ดังนั้น ย้ำว่าถ้าต้องการจะเซ็ตฉาก ยกการประดับตกแต่งแบบเดิมออกขนาดนั้น ทีมถ่ายทำควรไปเช่าสตูดิโอจะดีกว่า

“คนที่ไปถ่ายอะค่ะ อาจจะ win เฉพาะฝั่งเขา ฝั่งร้านก็คือเขาก็ไม่ได้อะไรเลย สถานที่ก็ใช้ฟรี ถูกไหม”

สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ :
Facebook “MindMost coffee”



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น