xs
xsm
sm
md
lg

ไวรัล "ช่างตีดาบบางระจัน" หลังสู้ฟ้า-หน้าสู้ไฟ-ข้ามเวลามาเล่น TikTok

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดใจช่างตีดาบ แห่งบ้านบางระจัน ผู้สืบทอดวิชาบรรพบุรุษมาเป็นรุ่นที่ 19 ตีด้วยมือตามวิถีโบราณทุกขั้นตอนจนไวรัล ดาบ 1 เล่ม มีหนึ่งเดียวในโลก!!

** ยอมเหงื่อท่วม เพื่อศาสตร์บรรพบุรุษ **

ใครที่ท่องโลกโซเชียลฯ บ่อยๆ ช่วงนี้ น่าจะเคยเห็นชายไทยมาดเข้มคนหนึ่ง กำลังตีดาบหน้าเตาไฟความร้อนสูงอย่างดุดัน ผ่านไลฟ์ TikTok ทำให้คนที่ผ่านมาเห็นต้องขยี้ตารัวๆ แล้วถามว่า สมัยกรุงศรีอยุธยามีอินเตอร์เน็ตใช้แล้วหรือ?

เพราะทั้งหน้าตา การแต่งตัว และการลงท้ายประโยคด้วยคำว่า “ขอรับ” นึกว่าชาวบ้านบางระจันตัวจริงมาเอง!!

แต่ความจริงแล้ว เขาก็คือชาวบ้านบางระจันในยุคปัจจุบัน ที่ชื่อว่า “เด่นชัย เปียสงวน” หรือ “ช่างเด่น” ช่างตีดาบวัย 47 ปี เจ้าของช่อง TikTok “ช่างเด่น ตีดาบ แห่งบ้านระจัน” ที่กำลังเป็นไวรัลอยู่ในตอนนี้

คอนเทนต์หลักบนช่อง TikTok ของช่างเด่น ก็คือการตีดาบด้วยมือแบบโบราณ ที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน



หลายคนอาจจะสงสัย ทำไมการทำอาวุธคู่กายของนักรบเมื่อหลายร้อยปีก่อน ยังคงมีให้ดูได้ในตอนนี้ นั่นก็เพราะ “การตีดาบด้วยมือ” เป็นวิชาที่สืบทอดต่อกันมาในตระกูลของช่างเด่น จากรุ่นสู่รุ่น โดยมีเขาเป็นรุ่นที่ 19

ช่างเด่นเป็นทายาทของ “เดือน เปียสงวน” หรือ “ลุงตึ๋ง บางระจัน” ช่างตีดาบชื่อดังในตำนานแห่งบ้านบางระจัน เขาเติบโตขึ้นมาในพื้นที่ อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี คลุกคลีกับค้อน เตาไฟ และแท่งเหล็ก ตั้งแต่จำความได้

“เป็นอาชีพของบรรพบุรุษครับ เป็นอาชีพของตระกูลสืบทอดต่อกันมาทางแม่ผม ของตระกูลจันทราภิรมย์ สืบทอดต่อกันมารุ่นสู่รุ่น มาตกถึงรุ่นผมรุ่นที่ 19 เพื่อพัฒนาต่อยอดอาชีพตีเหล็กแบบโบราณ

แม่คนอ่างทองครับ ย้ายมาตั้งแต่ผมยังเด็กๆ ก็คือว่าตรงวัดโพธิ์เก้าต้นจะมีคลองกั้นกลาง ข้ามคลองไปจะเป็นเขตอ่างทองแล้ว มันจะเป็นเขตติดต่อกัน ตระกูลทางแม่ก็คือว่าข้ามคู คูสมัยก่อนที่เอาไว้กั้นค่ายบางระจันครับ


[ ครอบครัวช่างตีดาบระดับตำนาน ]

พี่น้องแม่ผมมีทั้งหมด 13 คน ตอนแรกก็มีหลายคนทำอยู่ สืบทอดตากับยายผม แต่ตอนหลังก็เหลือทางบ้านผม แล้วก็รู้สึกว่าจะมีอีกเจ้านึงอยู่ทางอ่างทอง เขาก็ยังทำอยู่ แต่ทางลุงเขาจะตีไปในแนวอุตสาหกรรม ก็คือมีเครื่องจักร

แม่ผมเป็นผู้หญิงตีเหล็กนะ แม่ผมจะถ่ายทอดมาให้พ่อผม พ่อเป็นคนสมุทรปราการ มาอยู่ด้วยกัน ได้เรียนรู้อาชีพนี้ ก็ทำมาเลี้ยงครอบครัวมาตลอด

ทางบ้านฐานะไม่ดี เท่าที่ผมจำความได้ พ่อจะให้ผมจับค้อนมาตั้งแต่ตอนอยู่ ป.2 ก็ช่วยเท่าที่จะทำได้ พอเรียน ป.6-ม.3 ก็จะเริ่มซึมซับ แล้วก็จะช่วยงานได้ทุกอย่างเกี่ยวกับเครื่องมือ คราวนี้ก็ทำมาตลอดครับ

พ่อมาตีที่ตลาดไทยย้อนยุค จะมีหลายรายการมาถ่ายทำ ก็เลยมีชื่อของ ลุงตึ๋ง บางระจัน เป็นช่างตีดาบ ช่วงนี้พ่อผมท่านจะไม่ไหว ก็ทำก๊อกแก๊กๆ อายุเยอะแล้วครับ ก็เลยสืบทอดต่อเต็มตัว

จันทร์-ศุกร์ ผมก็จะทำงานอยู่บ้าน ตีมีด ทำมีดขาย ส่วนเสาร์-อาทิตย์จะไปตลาด (ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน วัดโพธิ์เก้าต้น) จะไปตีดาบให้กับนักท่องเที่ยว แล้วก็ให้คนรุ่นหลังเขาได้ศึกษา”



ช่างเด่น ยังให้คำนิยามถึงอาชีพช่างตีดาบว่าเป็นงานที่ต้อง “หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ไฟ” ของแท้

“อย่างที่เห็น 4 ชั่วโมง ผมก็จะอยู่กับหน้าไฟตลอด ถ้ามายืนดูผม คนดูก็จะท้อ แต่ผมก็ต้องทำเป็นอาชีพ ผมก็อยู่กับหน้าไฟอยู่อย่างนี้ จนหน้าไหม้ มีดผม ผมรับประกันได้เลยทุกเล่ม มีเหงื่อช่างคนนี้หยดลงไปบนใบมีดทุกเล่ม

อย่างผมมาไลฟ์สดหรือว่าไปตีอยู่ที่ตลาดไทยย้อนยุค นักท่องเที่ยวก็อยากจะได้ภาพสวยๆ ตอนตี ดาบผมใส่ทีละ 2 เล่ม จะผลัดกันออกมาตี เล่มนี้แดงเอาออกมาตี จะสลับอย่างนี้ ถ้าใส่ทีละเล่ม กว่าเหล็กจะแดง ต้องใช้เวลานาน

ยิ่งแต่งชุดนักรบ เสื้อไม่ต้องใส่ เหงื่อท่วม หน้าผมก็สู้กับไฟตลอด ต้องคอยระวังเหล็กแดงในเตาตลอด เผลอไม่ได้ เผลอเหล็กละลายเสียของเลย มีดเล่มนั้นใช้ไม่ได้เลยครับ

ถ้าเกิดทำนาก็หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน ส่วนผมวันๆ ก็จะอยู่แต่หน้าไฟ ไฟแรงๆ ร้อนๆ ต้องใช้แรงปะทะอยู่ตลอด ถึงได้บอกว่าหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ไฟ”

** เหล็กร้อนๆ ตีด้วยค้อนจนเป็นดาบ **

กว่าจะได้มีดหรือดาบออกมาแต่ละเล่มนั้น เรียกได้ว่าต้องใช้ทั้งความอดทน ผ่านหยาดเหงื่อและแรงกายของช่าง ตีแท่งเหล็กร้อนๆ ปั้นแต่งให้ออกมาเป็นงานฝีมือ ที่ส่งผ่านภูมิปัญญามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

“มันเป็นอาชีพที่สืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษ ส่วนการตีมันดั้งเดิมอยู่แล้ว ประวัติศาสตร์เขาก็ตีกันแบบนี้ เหล็กสมัยก่อนเขาไม่ได้ไปซื้อมาแบบเรา วิธีขั้นตอนเขาก็จะยากหน่อย การหาโลหะ หาเหล็กมาตี สมัยก่อนเขาจะหาแร่ธาตุมาถลุงให้เป็นเหล็ก เสร็จปุ๊บเขาก็จะมาหลอมก้อน เป็นแท่ง แล้วก็เอามาตี ของเขาจะไม่มีไฟฟ้าใช้ด้วย

ครูเตาจะเป็นครูเพชรฉลูกัณฑ์ จะแรงมากครับ ครูเดียวกับเครื่องดนตรีไทย ศิลปิน นักแสดง ลิเก ช่างตีเหล็กทุกช่างต้องไหว้ครับ มีวันไหว้ครูประจำปี เตานี่ก็ต้องไหว้ ถ่านที่ใช้สุมไฟเผาเหล็กก็จะต้องเป็นถ่านไม้ไผ่เท่านั้น ถ่านธรรมดาเผาไม่แดง ส่วนถ่านไม้ไผ่ ถ้าเกิดเราเผาไฟมันจะแรง เราเผลอไม่ได้เลย เหล็กจะละลายเป็นน้ำทันที จะเสียเลย



ส่วนขั้นตอนการตี ทางตระกูลผมจะใช้เหล็กโฮอัง เหล็กอเมริกันหัวแดง จะเป็นเหล็กนำเข้าจากญี่ปุ่น เหล็กชนิดนี้เอาไว้ตีมีดโดยเฉพาะ แต่ต้องทำให้ถูกขั้นตอนวิธี วิธีการตีก็คือจะเอาเหล็กมาเผาไฟ

จากเหล็กแท่ง เราจะตีร้อนปั้นแต่ง ก็คือว่าเหล็กเป็นแท่งเราจะมาเผาไฟเหมือนกับปั้นดินเหนียว เราก็จะนวดไปเรื่อย เผาไฟแล้วก็เอามานวดๆ พอดำเสร็จปุ๊บเราก็เผาไฟ พอแดงเราก็เอาออกมาปั้นด้วยค้อน จนออกมาเป็นหุ่นมีด

กว่าจะออกมาแต่ละเล่ม การเข้าหน้าเตาเผาเหล็ก เต็มที่วันนึง 4 ชั่วโมงผมก็เพลียแล้ว ไม่เกี่ยวกับทำผิว ตอกลาย หรือว่าทำด้าม ทำฝัก แค่ปั้นออกมาเป็นทรงมีดดาบแค่ 1 เล่ม แล้วก็จะเปลี่ยนหน้างานไปทำอย่างอื่น เพราะว่าต้องใช้แรง

รีดใบเสร็จปุ๊บก็ขึ้นใบ เสร็จก็จะมาขัดผิว ตอกลาย ถึงจะเอาไปชุบแข็ง วิธีการชุบแข็งก็จะชุบแข็งแบบโบราณ เผาไฟแล้วก็ชุบด้วยน้ำ จะทำให้เหล็กแข็ง พอเหล็กแข็ง เราจะไปตอกลายไม่ได้แล้ว เอาไปขัดผิวไม่ได้แล้ว”


[ พิธีไหว้ครูที่ช่างตีเหล็กทุกคนเคารพ ]

วิธีการของตระกูลช่างเด่น เป็นแบบโบราณแท้ๆ และแทบจะไม่มีเครื่องทุ่นแรงหรือตัวเครื่องวัดอุณหภูมิใดๆ ใช้แรงคน บวกประสบการณ์ และความชำนาญล้วนๆ

“เหล็กโฮอังที่ผมใช้ จะเป็นแข็งเหนียว ไม่เปราะ คำว่าไม่เปราะนี่ก็ต้องถูกขั้นตอนด้วยนะครับ บางคนไม่รู้ ไปทำเลียนแบบ ก็เผาไฟซะแดงแล้วเอาไปชุบน้ำ เหล็กแตกเลย เพราะฉะนั้นแล้ว ทุกขั้นตอนมันจะต้องเป็นช่างที่ใช้ประสบการณ์

เหล็กทุกชนิด เขาจะผลิตมาใช้งานไม่เหมือนกัน อย่างเหล็กที่ผมใช้ ทุกเล่มความแข็งจะออกมาไม่เท่ากัน เราไม่ได้มีตัววัดอุณหภูมิต้องเท่านี้เท่านั้น น้ำก็จะต้องกี่อุณหภูมิ เราไม่ได้มีขั้นตอนละเอียดขนาดนั้น แต่เรารับประกันเรื่องของเหล็กชนิดนี้ เขาผลิตขึ้นมาคาร์บอนมันจะอยู่ในระดับที่เอามาตีมีดโดยเฉพาะ

แตกต่างจากการใช้เครื่องไหม มันอยู่ที่ช่าง เพราะว่าช่างสมัยนี้เขาจะเรียนรู้จากช่างต่างประเทศใน YouTube วิธีขั้นตอนตี แม้กระทั่งชุบน้ำ แม้กระทั่งเผาไฟ ช่างต่างประเทศเขาเข้าตู้อบ เขาก็จะมีตัววัดอุณหภูมิ ชุบแข็ง เขาก็มีตัววัดอุณหภูมิ น้ำ ความชื้น วิธีการทำของช่างต่างประเทศเขาจะมีหลายขั้นตอน”


ด้วยความที่ช่างตีดาบคนนี้ ต้องทำงานคนเดียวทุกขั้นตอน ทำให้กว่าจะได้ผลงานออกมาแต่ละชิ้น ค่อนข้างที่จะใช้เวลานาน

“ผมต้องการจะอนุรักษ์ไว้ งานมือแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้ามีดใช้งาน ขั้นตอนมันก็จะง่ายหน่อย อาทิตย์นึงสำหรับมีดเหน็บใช้งาน 10 เล่มน่าจะได้ อันนี้ประเมินเอานะครับ ผมก็ยังไม่เคยได้กะเวลา วันนี้ตีใบ เราก็ตีใบอย่างเดียว วันที่ 2 เราก็มาทำคม เราไม่ต้องขัดผิว ไม่ต้องมาตอกลาย ทำด้ามให้มั่นคงแค่นั้น เราก็จะใช้ไม้ธรรมดา

แต่ถ้าทำสไตล์สวยงามด้วย อาทิตย์นึง 3 เล่ม เพราะว่าต้องมาคัดไม้ แล้ววิธีการทำจะเพิ่มขึ้น เวลาขัดต้องมาไล่กระดาษทรายตั้งแต่เบอร์ 60-100-120-300-400 เราต้องไล่มาถึงจะขัดน้ำมัน ลายไม้มันจะสวย ผิวมีดก็จะเพิ่มขั้นตอน ไล่กระดาษทรายแล้วก็มาตอกผิว หรือว่าต้องการความสวยงาม มีซองหนัง ขั้นตอนก็จะเพิ่มขึ้น มันก็จะช้าลง

ช่างสมัยนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานตัดแต่ง ทุกวันนี้จะเป็นอุตสาหกรรม เขาจะใช้เหล็กเป็นแผ่นใหญ่ๆ ก็จะวาดรูปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แล้วเขาก็เอาเลเซอร์ตัดขึ้นมา ชั่วโมงนึงได้เป็นร้อยเล่ม แล้วเขาจะมีขั้นตอนการเจียรคม เสร็จแล้ว

ช่างสมัยใหม่ งานตีร้อนปั้นแต่งเหมือนกัน ถ้ามีทุนหน่อยก็ไปซื้อเครื่องไฮดรอลิคมาช่วยตี แต่ก็จะไม่ใช่งานมือ 100 เปอร์เซ็นต์อย่างที่ผมทำ เพราะที่ผมทำส่วนมากดาบผมจะไปขึ้นที่ตลาด ที่เราได้ไปตีสาธิตให้นักท่องเที่ยว จะเอาเวลาตรงนั้นขึ้นใบดาบไปเลย ใบดาบที่ขึ้นไว้แล้วก็จะมีอยู่ 10 กว่าเล่ม แต่ก็ยังไม่มีเวลาทำด้าม ทำฝัก เพราะผมทำงานหลายหน้า

ทุกวันนี้ก็อยู่กับลูกสาว 2 คน เช้ามาก็ต้องวุ่นงานบ้านก่อน แล้วถึงจะมาเข้าหน้างาน ผมทำงานคนเดียว งานผมจะออกมาช้า ทุกวันนี้จะมีงานขายไม่กี่เล่ม ถ้าลูกค้าจะสั่งจองก็จะตามคิว”

** ดาบ 1 เล่ม หนึ่งเดียวในโลก **

แม้คนทั่วไปจะรู้จักเขาผ่านไวรัลบน TikTok แต่การมีตัวตนบนโลกโซเชียลฯ ของชายวัย 47 ปีคนนี้ ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ยากกับการทำความเข้าใจ แต่ในที่สุดก็สามารถพิชิตคนที่ได้เห็นคลิปได้ โดยเฉพาะน้องๆ หนูๆ เด็กรุ่นใหม่

“ผมไม่เป็นหรอกครับเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยี พอดีเห็นเขามีรายได้ทาง TikTok ทาง Reels กำลังปั้นช่อง Reels อยู่ ตอนนี้เล่น TikTok ก็จะมีรายได้ตอนไลฟ์สด แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น เพราะว่าต้องทำชาเลนจ์ของเขา บางทีเราก็ไม่ว่างที่จะไปทำเพราะงานเราก็มี อย่างเข้าไปไลฟ์ ได้ดาว ได้ของขวัญ ชั่วโมงนึงก็ได้ 100 กว่าบาท เป็นรายได้เสริมเก็บสะสมครับ

ถ้ามีคนเก่งและมีคนมาแนะนำ ผมคิดว่าผมน่าจะมีรายได้เสริมตรงนี้ได้ดี ทุกวันนี้ก็พยายามจะเรียนรู้อยู่ ต้องยอมรับว่าคนสมัยก่อนกับเด็กรุ่นหลัง เกี่ยวกับเทคโนโลยีจะต่างกัน ลูกสาวผมตอนนี้เรียนอยู่ ป.4 ผมก็บอกกับลูกสาวตลอดว่าพยายามเรียนรู้ศึกษาตรงนี้ ทุกวันนี้เขาหากินกับเทคโนโลยีอย่างนี้ๆ นะลูก ให้ลูกซึมซับ


[ ใครเห็นก็ว่า “ชาวบ้านบางระจัน” ตัวจริง ]

อย่าง TikTok แฟนคลับผม เด็กๆ เยอะมาก แต่ตอนแรกผมไลฟ์สดผมไม่รู้ โดนแบนไป 3 วัน เราต้องกำกับผู้ชมอายุต่ำกว่า 18 ปี ตอนแรกผมไลฟ์สดคนดู 3,000 - 5,000 แต่ AI เขาจะอ่านว่าเป็นชาเลนจ์ที่รุนแรง ขนาดตั้งกล้องให้เห็นไฟขึ้น มันจะขึ้นมาเตือน ผมก็กำลังเรียนรู้อยู่ตรงนี้ อย่างคลิป Reels กฎชุมชน ผมเข้าไปอ่านมันเยอะมากมาย บางทีอ่านไปก็งงไป

คอนเทนท์ที่ทำในช่อง ส่วนมากก็จะเป็นเกี่ยวกับงานมีด ขั้นตอนการทำ ตอกลาย ถ้าไลฟ์สดคนจะเข้ามาดูตอนที่เราเข้าหน้าเตา ตอนที่เราตี คนจะเข้ามาดูเยอะ

เอกลักษณ์ก็คือแต่งชุดนักรบ แล้วก็วิธีการทำ มีคอมเมนต์เข้ามา ‘ผมหลงยุคมาหรือเปล่า’ เด็กจะเข้ามาแซวเยอะ แล้วเด็กบางคนจะชอบเป็นพิเศษ ในตลาดไทยย้อนยุคที่ผมไปทำ วันเสาร์-อาทิตย์ เสียงมาแต่ไกลเลย จูงมือผู้ปกครองมาหาช่างตีดาบ บางทีถามมาตั้งแต่เข้าตลาด แม่ค้าในตลาดเขาก็จะบอก นู่นเลยล็อก 8

ที่ผ่านมาก็มีอยู่นะ บอก ‘FC TikTok นะ ดูอยู่นะ ติดตามอยู่นะ’ ส่วนมากเขาไม่ค่อยได้เห็นคอนเทนต์แบบนี้ ไม่ค่อยเห็นอาชีพแบบนี้ เขาถึงได้เข้ามาติดตาม เข้ามาดู ให้กำลังใจ ส่วนมากก็คือว่าจะให้กำลังใจ อนุรักษ์ไว้ๆ”



นอกจากการตีดาบโชว์แล้ว ช่างเด่นมีอาชีพหลัก ก็คือการผลิตมีดใช้งานและอาวุธมีคมสวยงาม สำหรับนักสะสม ซึ่งก็มีราคาแตกต่างกันไปตามความยากง่ายของขั้นตอนการทำ แต่รับรองว่าทุกชิ้นคืองานมีดทำมือ 100 เปอร์เซ็นต์

“ทำเกี่ยวกับมีดทุกชนิดที่ลูกค้าสั่งมีดเล็ก มีดอีโต้ ทำได้หมด ถ้าเป็นมีดใช้งาน ไม่ต้องมาเลือกไม้สวย ก็คือว่าด้ามก็มั่นคงเท่านั้น ถ้าเป็นมีดใช้งานแต่งตัวสวย เราต้องไปคัดไม้ ไม้ชิงชัง ไม้พยุง ราคาก็จะเป็นอีกขั้น

ตอนนี้พื้นฐานเริ่มต้นอยู่ที่ 5,000 เฉพาะใบดาบก็ 13 นิ้ว แต่ก็ต้องอยู่ที่ขนาดใบเล็กหรือว่าใบใหญ่ เพราะว่าดาบมันมีหลายขนาด บางทีลูกค้าต้องการใบใหญ่ ขั้นตอนการผลิตมันก็ยากขึ้น ถ้าพร้อมขายเลยก็จะมีด้าม มีฝัก แล้วก็มีแท่นวาง



เล่มใหญ่ที่ผมเคยทำเสร็จแล้วเหลือ 1 เล่ม ใบ 30 นิ้ว ราคาอยู่ที่ 15,000 ลูกค้าผมจะอยู่กลุ่มที่คนมีฐานะ แล้วคนนิยมจริงๆ เพราะถ้าชอบมีดดาบอย่างเดียว เขาจะมีช่างให้เปรียบเทียบ ราคา 2,000-3,000 สวยกว่าผมอีก แต่ไม่ใช่งานมือ อย่างเครื่องประดับเป็นงานโรงงาน งานผลิตเครื่อง ที่เหมือนซ้ำๆ กัน ทั่วประเทศ

แต่งานมีดผมคืองานมือ 100 เปอร์เซ็นต์ 1 เล่ม มีหนึ่งเดียวในโลก งานผม 10 เล่มเอามาเปรียบเทียบกัน ก็จะไม่เหมือนกันเลย ส่วนใหญ่ลูกค้าที่สั่งไปจะได้คลิปวิธีการตีของเล่มนั้นไว้ เขาสามารถยืนยันได้เลยว่าดาบเล่มนี้ ช่างคนนี้ตี”

กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ ก็คือนักสะสมมีด ซึ่งก็แยกย่อยลงไปอีกว่าต้องเป็นคนที่ชื่นชอบงานมีดตีมือของแท้ เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มเฉพาะที่มีจำนวนไม่เยอะ แต่ช่างทำมีดคนนี้ก็ทำสินค้าออกมาหลากหลาย เพื่อให้เข้าถึงคนที่สนใจหลายกลุ่มยิ่งขึ้น


[ ผลงานมีดตีมือ 100 เปอร์เซ็นต์ ]

“ตั้งแต่เราเล่นโซเชียลฯ จะมีกลุ่มงานมีดอยู่ มีดงานตีมือ มีดสวยงาม มีดดาบโบราณ ก็จะมีกลุ่มอยู่ กลุ่มไม่ใหญ่หรอกครับ แล้วยิ่งผมต้องไปแยกอีก งานตีมือ 100 เปอร์เซ็นต์ สำหรับคนที่ชอบงาน Handmade จริงๆ เขาเอาไปสะสม

มีลูกค้าบางคนที่เขาเป็นนักรบแสดงที่อยุธยา เขาชอบ เขาจะสั่งมีดจากผมไปตอกรายชื่อไว้เลยในตระกูลเขา เขาสั่งที 6-7 เล่มเลย แล้วเขาก็จะมอบให้แฟนเขา ลูกชาย ลูกสาว เขาเรียกว่าเป็นมรดกตกทอดไว้ให้ดูลูกหลานดู ว่าเป็นงานมีดที่ตีมือ 100 เปอร์เซ็นต์ จากช่างที่ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ตั้งแต่สมัยโบราณ

กลุ่มลูกค้าของเราที่นิยมงานมือจริงๆ แล้วก็ต้องมีฐานะดีด้วย ฐานะปานกลางตอนนี้ก็รัดเข็มขัดกันแล้ว ฐานะลงมาอีกจะมาซื้อเหรอครับ มีดเล่มละ 5,000-6,000 ลูกค้าที่จะมาซื้อจริงๆ บางคนบอกราคานี้ไม่แพง หาดูยาก เพราะเขามีกำลังซื้อ

ลูกค้าฐานะปานกลางและลงมา กำลังซื้อตอนนี้ก็จะยากอยู่ ผมก็เลยพยายามผลิตมีดใช้งาน เพื่อที่จะมาหล่อเลี้ยงตัวเอง ขายราคาไม่สูง มีดใช้งานไม้ธรรมดา ป้องกันคมไม่ให้ไปโดนผู้ใช้ ราคาก็จะถูกหน่อย แต่ถ้าเป็นมีดสวย ไม้สวย ไม้มงคล ปราณีต มีซองหนังไว้เดินป่า ก็จะอยู่อีกราคานึง ลูกค้าจะมีหลายระดับครับ”

** อนาคตวิชาตีดาบไทย มอดไหม้ตามกาลเวลา **

เมื่อถามถึงอนาคตของช่างตีดาบทำมือ ช่างเด่น ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า มีความเป็นไปได้ที่จะจบที่รุ่นเขา ด้วยเพราะทายาทอาจไม่มาสานต่อ บวกกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่งานอื่นอาจจะตอบโจทย์มากกว่า

“สืบทอดให้ลูก ตอนนี้ลูกชายผมโตแล้ว ก็ไปทำอาชีพที่เขาชอบ เขาแสดงการฟันดาบ ก็จะรับอีเวนท์งานเกี่ยวกับแสดงฟันดาบ เขาจะมีทีมงานของเขาอยู่ ก็เคยดึงมาช่วยแล้ว ถามว่าทำเป็นไหม ก็พอเป็นบ้าง แต่เด็กไม่เอาเราก็บังคับไม่ได้

อย่างลูกสาวผม ผมก็ไปคาดหวังอะไรไม่ได้ เพราะเป็นผู้หญิงด้วย แต่ช่างมีดที่แม่ผมทำมาตั้งแต่สาวๆ ก็คือว่าคนสมัยก่อนก็ต้องปากกัดตีนถีบ มันไม่เหมือนสมัยนี้ แม่ผมถึงได้เป็นงานมีด มาสืบทอดให้พ่อผม แล้วก็สืบทอดให้ลูกให้หลาน


[ ช่างเด่นและลูกสาวตัวน้อย ]

แต่คำว่าสืบทอดมันก็อยู่ที่ว่าลูกหลานจะเอาไหม อย่างผมตีมาตั้งแต่เด็ก พอเรียนจบผมก็ตามประสาวัยรุ่น ไปทำงานไปโน่นไปนี่ กว่าจะกลับมาบ้าน กลับมาทำบ้างก็ฉาบฉวย ด้วยเศรษฐกิจและสังคมทุกวันนี้มันเปลี่ยนแปลงไป ตรงไหนได้เงินเราก็ต้องวิ่งเข้าหา แต่ตอนนี้ที่ผมกลับมาทำเต็มตัว เพราะว่าพ่อผมเขาไม่ไหวแล้ว แม่ผมไม่ไหวแล้ว

ถามว่าทำตรงนี้ ทำได้ แต่บางทีค่าครองชีพผมมีอยู่ การใช้ตังค์ทุกวันนี้ต้องรัดเข็มขัดอยู่แล้ว ค่าครองชีพสูงกว่าเดิม แต่กว่าจะได้มาแต่ละบาทก็ยากอยู่ครับ บางทีผมก็ท้อนะ แต่ก็สู้ ผมถึงได้บอกว่าเปอร์เซ็นต์สูงมากๆ ว่างานตีมีดแบบโบราณย้อนยุคแบบนี้ อาจจะจบที่รุ่นผม และเวลาผมก็ไม่รับประกันอีกว่าร่างกายผมจะปะทะได้นานถึงขนาดไหน

ส่วนลูกผมจะมาสืบทอดตรงนี้ ผมมองดูแล้วก็ยากอยู่ เพราะสมัยนี้สังคมรุ่นใหม่ เด็กมันเห็นช่องทางที่จะหาเงินง่ายกว่าตรงนี้เยอะแยะมากมาย ตอนนี้ผมก็หวังนะว่าทางการเขาจะมาช่วย แต่ผมก็มองอีกมุม คุณค่าตรงนี้ก็อาจจะหมดที่รุ่นผมก็ได้ รายได้ก็ปากกัดตีนถีบครับ ต้องดิ้นเอา ก็ทำไป ผมก็หวังว่าสักวันเศรษฐกิจจะดีขึ้น”



ถึงอย่างนั้น เขาก็อยากจะอนุรักษ์องค์ความรู้ของคนรุ่นก่อน ให้อยู่คู่แผ่นดินไทยนานที่สุดเท่าที่จะทำได้

“การอนุรักษ์ไว้ ก็ต้องมอง ค่าครองชีพผมก็ต้องมี ผมก็ต้องผลิตงานออกมาขาย งานของผมที่ผลิตออกมา ราคาจะแตกต่างจากงานเทคโนโลยีที่เขาใช้เครื่อง ที่เขาผลิตเป็นอุตสาหกรรม วันนึงเขาได้เป็นร้อยๆ เล่ม

ผมวันนึงจะได้ซักเล่มนึง ถ้าผมเอาไปขายราคาเดียวกับงานอุตสาหกรรม ผมก็อยู่ไม่ได้อีก งานผมถ้าเกิดลูกค้าบางคนเขาไม่รู้ เขาไม่ได้มาดูขั้นตอนการผลิต เขาจะว่าแพง เขาก็จะไม่สู้ราคา ตรงนี้ก็เข้าใจ เพราะเขามีราคาเปรียบเทียบ

เดี๋ยวนี้มีดรถเข็นที่เขาเข็นขายตามหมู่บ้าน เล่มนึง 200-300 ถามว่าคมไหม คม แต่คมไม่นาน ใช้งานไม่กี่คราวก็หมดคมแล้ว พอหมดคมเขาซื้อใหม่ ก็แค่นั้นเองแต่เขาไม่ได้มาเห็นขั้นตอนการผลิตของงานเล่มละ 200 กับงานเล่มละ 1,000 ขึ้น

ผมก็อยู่ยากนะครับกับค่าครองชีพทุกวันนี้ แต่ผมก็พยายามที่จะประคองตัวเองเพื่อที่จะสืบทอด ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่ารุ่นต่อไปจะมีต่ออีกหรือเปล่า ขนาดรุ่นผมที่ทำอยู่ก็ยังยาก ค่าใช้จ่ายเราใช้วันนึงอย่างน้อยต้องมี 200-300 เศรษฐกิจทุกวันนี้

ผมมาทำตรงนี้เป็นหลัก ทุกวันนี้ 7-8 ปีได้แล้ว ถามว่าถ้าเรามาประยุกต์ทำอุตสาหกรรม อย่างใช้เครื่อง ลงทุนเครื่อง ขายถูกแข่งกับเขาแบบงานตลาด เล่มละร้อยสองร้อย ผมก็ทำได้ แต่ผมต้องการที่จะประยุกต์สืบทอดให้ชนรุ่นหลังเขาดู ว่าวิธีการตีมีด ตีดาบ อาวุธของนักรบสมัยโบราณ กว่าจะได้มาแต่ละเล่ม ผ่านหยาดเหงื่อ ผ่านแรงของช่างมามากน้อยแค่ไหน”



ช่างตีดาบแห่งบ้านบางระจันคนนี้ ทิ้งท้ายกับเราว่า มีวันนี้ได้ ก็เพราะวิชาที่สืบทอดกันมาในตระกูล ส่วนใครที่อยากเห็นฝีมือการตีดาบของช่างเด่นด้วยตาเนื้อ พร้อมสัมผัสไอร้อนที่หน้าเตา ก็ไปเจอกับเขาได้ ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ที่ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน วัดโพธิ์เก้าต้น จ.สิงห์บุรี

“ความภูมิใจ ต้องภูมิใจอยู่แล้วครับ เพราะว่าเป็นอาชีพหล่อเลี้ยงมาหลายรุ่นแล้ว และยิ่งรุ่นผมยังไม่เกิด ตอนนั้นเป็นอาชีพทั้งตาทั้งยายเลย เขาจะมีลูกเยอะมาก 13 คน เขาเลี้ยงชีพ เลี้ยงลูก เลี้ยงหลานมา ตายายผมเสียไปแล้วเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว

ตอนที่ยังไม่เสียเขาก็ทำอยู่นะครับ แล้วแม่ผมก็มาทำต่อ ก็เลี้ยงลูก เลี้ยงหลาน ผมก็มาสืบทอดอาชีพของบรรพบุรุษของตระกูลจันทราภิรมย์ ผมก็จะทำ เพราะพี่ชายผมเขาก็มีอาชีพส่วนตัว เขาก็ไม่ได้ทำตรงนี้ 100 เปอร์เซ็นต์ จะมาหวังลูกผมต่อไป ผมมองแล้วจะยากอยู่ ถามว่าภูมิใจไหม ก็ภูมิใจครับ เพราะเป็นอาชีพเลี้ยงผมมา ส่งผมเรียนมา ให้ผมโตมาครับผม”

สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : กีรติ เอี่ยมโสภณ
ขอบคุณภาพ : Facebook “ช่างเด่น ตีดาบ” และ “ลุงตึ๋ง บางระจัน”



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น