คนแห่แชร์ ราคาอวัยวะคนในตลาดมืด!! กาชาดฯ แจง “ไม่จริง” ไม่มีหลักฐานว่า ไทยมีตลาดค้าอวัยวะคน นักอาชญาวิทยาไม่เห็นด้วย บอกไม่มีก็ไม่ถูก “ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลได้มากกว่า”
** “ดาร์กเว็บ” ออนไลน์ตลาดมืด!! **
กลายเป็นเรื่องแชร์กันสนั่นโซเชียลฯ กับ “ราคาอวัยวะคน”ในตลาดมืด บางส่วนราคาเฉียด 10 ล้านบาทเลยทีเดียว อย่าง “ปอด” ราคาสูงถึงข้างละ “9.2 ล้านบาท” ส่วน “ไต”1 ข้างตกเป็นเงินถึง “4.7 ล้านบาท”
“ตับ”เองก็ราคาแพงเช่นกัน อยู่ที่ “4.6 ล้านบาท”แม้แต่ “ผิวหนัง” ก็มีการซื้อ-ขายกัน โดยคิดเป็น “ตารางนิ้ว”ราคาอยู่ที่ 270 บาท/ตร.นิ้ว
หลังข้อมูลนี้ที่ถูกแชร์ออกไป ทาง “สภากาชาดไทย”ก็ออกมาชี้แจงกับสื่อทันทีว่า “ไทยไม่มีการซื้อ-ขายอวัยวะคน”เพราะถ้ามี ต้องมีหลักฐาน หรือข้อมูลออกมาบ้างแล้ว
เนื่องจากเรื่องนี้ “ผิดกฎหมาย” “ผิดจริยธรรม”ทั้งในไทยและต่างประเทศ เพราะฉะนั้น ถ้ามีจริงๆ คงไม่ได้เกิดขึ้นในบ้านเรา
“รศ.นพ.สุภนิติ์ นิวาตวงศ์”รองผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยยืนยันว่า การปลูกถ่ายอวัยวะในไทย ทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของ “ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ”
และต้องมาจาก “การบริจาคโดยสมัครใจเท่านั้น”ซึ่งจะมี 2 แบบคือ 1.บริจาคจากญาติขณะมีชีวิตและ 2. บริจาคหลังเสียชีวิตโดยผู้บริจาคแสดงเจตจำนงไว้ก่อน
เมื่ออวัยวะถูกผ่าออกมา ก็ต้องทำการปลูกถ่ายโดยทันที ไม่สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ โดยการปลูกถ่ายต้องใช้แพทย์หลายคน และต้องทำในห้องปฏิบัติการเท่านั้น
{แชร์จนไวรัล ราคาอวัยวะในตลาดมืด}
แต่ถึงอย่างนั้น ก็จะเห็นการออกมา “เตือน” คนที่คิดจะขายอวัยวะในตลาดมืดอยู่ตลอดๆ ว่า “ผิดกฎหมาย” และหากตัดสินใจหลงผิด ไปแลกเงินด้วยร่างกาย “อาจไม่ได้เท่าที่คิด” ซึ่งอาจหมายความว่า การค้าอวัยวะเถื่อนต้องมีมูลความจริงอยู่บ้าง?
ทีมข่าวจึงขอต่อสายตรงหา “ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา” นักอาชญาวิทยา อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อให้ช่วยไขข้อข้องใจว่า ตลาดขายอวัยวะในไทยนั้น เป็นแค่ “ข่าวลือ” หรือ “มีจริงกันแน่?”
“จะบอกว่าไม่มีเลย ก็ไม่ถูกต้องนะครับ การค้าอวัยวะมันมีอยู่ทุกมุมโลก อยู่ที่ว่าตลาดมืดนั้น หน่วยงานของรัฐเราจะทราบหรือไม่ทราบเท่านั้นเอง”
การค้าอวัยวะเถื่อนเหล่านี้ ต้องทำเป็นกระบวนการ โดยมี “การซื้อ-ขาย” กันใน “ตลาดมืด” ซึ่งมีทั้งติดต่อกันแบบตัวต่อตัว และแบบเจอกันในอินเทอร์เน็ตหรือที่เรียกว่า “ดาร์กเว็บ” สถานที่ที่ไว้ซื้อ-ขายกันผ่าน “เอเจนซี่”
ส่วนเหตุผลที่การซื้อ-ขายอวัยวะในไทย ยังไม่มีหลักฐานชัดๆ อาจเพราะ “การสมประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย” คือ คนขายได้เงิน คนซื้อได้อวัยวะ มันจึงไม่มีการร้องเรียนอะไรเกิดขึ้น
อีกอย่าง แม้การผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะในบ้านเมืองเรา จะถูกดูแลโดย “ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ” และต้องทำในห้องปฏิบัติการเฉพาะ แต่ก็ไม่ได้ยืนยันว่า หมอเถื่อนที่รับงานเหล่านี้จะไปเปิดตลาดมืดกันในโรงพยาบาล
“น่าจะเป็นดินแดนสนธยาครับ ที่เจ้าหน้าที่รัฐอาจยังเข้าไม่ถึง ยังไม่สามารถหาแหล่งได้ ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลได้มากกว่า”
{ “ดร.ตฤณห์” นักอาชญาวิทยา }
** บังคับทางอ้อม ให้ “บริจาคอวัยวะ” ถูกกฎหมาย **
การซื้อ-ชายอวัยวะคนในตลาดมืดเหล่านี้ “ดร.ตฤณห์” วิเคราะห์เอาไว้ว่า มีทั้งรูปแบบคือ “เต็มใจขายด้วยตัวเอง” ไปจนถึงขึ้น “การลักพาตัวไปชำแหละ” คือวางยาสลบ แล้วตัดอวัยวะออกไป
รายงานของ “สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC)” ระบุไว้ว่า นอกจาก “การเสนอเงินซื้อ” และ “การขโมย” แล้ว ขบวนการค้าอวัยวะพวกนี้ ยังมีอีกหลายวิธีเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนสำคัญไปขาย
อย่าง “การบังคับให้แต่งงาน เพื่อบริจาคอวัยวะ” เพราะการเป็นคู่สมรส จะสามารถบริจาคอวัยวะได้อย่างถูกกฎหมายในบางประเทศ หรือแม้แต่ “บังคับด้วยกำลัง” โดยเหยื่อต้องแลกอวัยวะกับเสรีภาพ หรือปลดหนี้ที่ตัวเองก่อไว้
และเมื่อขบวนการพวกนี้ได้อวัยวะมาแล้ว ก็จะเอาไป “ฟอกขาว” อีกหลายขั้นตอน เพื่อให้อวัยวะที่ได้มา กลายเป็นอวัยวะที่ถูกบริจาค แบบ “ถูกกฎหมาย 100%”
ที่ตลกร้ายคือสามารถฟอกขาวสะอาดถึงขั้นที่ว่า เอาค่าใช้จ่ายในการปลูกถ่าย ไปเบิกกับบริษัทประกันสุขภาพได้เลยทีเดียว
ถึงแม้ทุกวันนี้จะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยกวับ “ตลาดการค้าอวัยวะเถื่อนในไทย” ว่าใหญ่ขนาดไหน เพราะยังถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐไทย แต่ยังมีแหล่งใหญ่ที่สุดและอยู่ใกล้เราที่สุด นั่นก็คือ “ฟิลิปปินส์”
“มีมากด้วยครับฟิลิปปินส์เนี่ย เยอะเลย ความเป็นได้ก็สูง ที่ในไทยก็จะมีเช่นกัน”
เอาเข้าจริง เพื่อนบ้านมี “ขบวนการค้าอวัยวะ” รายรอบขนาดนี้ ทั้ง “พม่า” และ “กัมพูชา” ก็มีการซื้อ-ชายอวัยวะผ่านนายหน้า
แต่ไม่ได้ผ่าตัดตรงนั้น แล้วเอาอวัยวะไปส่งให้คนซื้อ คือนายหน้าจะเดินเรื่องทำเอกสาร หาสถานพยาบาล แล้วพา “คนขาย” กับ “ผู้ซื้อ” ไปปลูกถ่ายที่นั่น อย่างเคสที่เดินทางไปผ่าตัดกันใน “อินเดีย” หรือ “ไทย” เองก็มี
เพราะเมื่อปี 2557 ก็มีข่าวรายงานว่า จับกุมชายชาวกัมพูชา พร้อมกับนายหน้า 2 คน แอบเข้ามาในไทย และใช้ “โรงพยาบาลหรูกลางกรุงเทพฯ” เป็นสถานที่ผ่าตัดซื้อ-ขายไต
เมื่อมีกระแสเรื่องนี้ผุดขึ้นมาอีกครั้งช่วงนี้ จึงกลายเป็นคลื่นความกังวลถาโถมเข้ามาถูกใหม่ว่า “ไทย” อาจจะกลายเป็น “ตลาดแห่งใหม่” ของวงการ “ลักลอบขายอวัยวะข้ามชาติ” หรือเปล่า?
ขณะที่ทุกวันนี้ ตลาดค้าอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของโลก คือ“จีน”และรองลงมาเป็น“อินเดีย”
ยิ่งชี้ให้เห็นว่า “ขบวนการค้าอวัยวะเถื่อน” อยู่รายล้อมประเทศไทย ทำให้คำว่า “ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน” จากเจ้าหน้าที่รัฐในบ้านเรา อาจตีความว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่ขบวนพวกนี้จะเข้ามาในไทยแล้ว
“จริงๆ มันเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่จะต้องให้ความตระหนักรู้เรื่องนี้นะ มันอาจจะใหม่มากสำหรับประเทศไทยครับ อาจจะไม่รู้ว่ามันมีอยู่ แต่มันมีอยู่จริง และอันตรายด้วย”
สกู๊ป : ทีมข่าวMGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **