xs
xsm
sm
md
lg

ดร.ธรณ์ สวน ทรัมป์!! เลิกใช้ “หลอดกระดาษ” สู้ด้วยวิจัย ยังไง “หลอดพลาสติก” ก็แย่กว่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ช็อกโลกอยู่เหมือนกัน กับนโยบายสวนกระแสของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ล่าสุด ได้ออกคำสั่ง ล้มนโยบายรักษ์โลกแบบขั้นสุด คือสั่งให้หยุดการใช้หลอดกระดาษทั่วประเทศ ภายใน 45 วัน แล้วผลักดันให้กลับมาใช้หลอดพลาสติก ด้วยเหตุผลแค่ว่า หลอดกระดาษ ใช้งานไม่สะดวก ดูดแค่ไม่กี่นาที ก็ละลายในปากผู้บริโภคแล้ว

“ยุ่ยง่าย” จนต้อง “สั่งแบน”!!

ท่ามกลางกระแสลดโลกร้อน หาวิธีลดการใช้พลาสติกกันทั่วโลก โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหาขยะพลาสติก แต่ทรัมป์กลับไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้มาโดยตลอด มองว่านโยบายรักษ์โลก ที่พยายามผลักดันกัน ถือเป็นการยัดเยียด โดยไม่สนใจว่าผู้บริโภคชาวอเมริกาต้องการอะไร

ล่าสุด ทรัมป์ขอยื่นคำขาดชัดเจนว่า “ห้ามใช้หลอดกระดาษ ต้องใช้หลอดพลาสติกเท่านั้น ไม่ต้องทนใช้ หลอดที่ละลายในปาก แบบน่าคลื่นไส้อีกต่อไปแล้ว”



แถมยังบอกอีกว่า ฉลามในทะเลคงไม่เดือนร้อนเท่าไหร่หรอก ที่กลับมาใช้หลอดพลาสติก ทั้งที่เคยมีสถิติ จากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ที่ระบุเอาไว้ชัดเจนว่า การผลิตพลาสติก 460 ล้านเมตริกตันทุกปี ส่งผลให้มีขยะลงในมหาสมุทร และไมโครพลาสติก

โดยอาจส่งผลต่อสุขภาพของคน รวมถึงสร้างมลพิษต่อทะเล จากปัญหาขยะพลาสติก โดยเฉพาะสัตว์ทะเล หรือแม้แต่นก ที่เข้าไปติดกับขยะพลาสติกอยู่บ่อยครั้ง


เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม อย่าง “ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” บอกเลยว่ารู้สึกเป็นห่วงนโยบายนี้ เพราะที่ผ่านมาก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า การใช้หลอดพลาสติก ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะต่อทะเล ซึ่งปีนึงก็มหาศาล ไม่รู้กี่พันล้านหลอด

“หลอดกระดาษ มันอาจจะไม่ได้สะดวก อาจจะยุ่ยง่าย อย่างน้อยที่สุด มันก็ลดผลกระทบ ที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะหลอดกระดาษมันย่อยสลายได้ หลอดพลาสติกมันย่อยสลายไม่ได้ แล้วปีนึง คิดกันทั้งโลก ไม่รู้กี่หมื่นล้าน”

[ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์]
ดร.ธรณ์ย้ำว่า เฉลี่ยแล้วคนเราใช้ 4-5 หลอดต่อวัน โดยเฉพาะเมืองไทย ที่มีขยะจากหลอดจำนวนมหาศาล ซึ่งหลอดเหล่านี้ พอลงไปในทะเล มันไปทำร้ายสัตว์ได้หลายรูปแบบ มีไปเสียบจมูกเต่า สัตว์หลายตัวเผลอกินเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ พอพลาสติกเหล่านั้นเข้าไปอยู่ในท้อง ก็ไปเสียบท้อง อุดตันลำไส้ และทำให้สัตว์ตายในที่สุด

“สัตว์พวกนี้ ก็มีทั้งเต่า มีทั้งโลมา มีทั้งพยูน มีทั้งวาฬ และอื่นๆ อีกมาก เพราะฉะนั้น การเพิ่มขยะพลาสติกจำนวนมหาศาลในทะเล มันก็ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนที่สุดอยู่แล้ว

เจอทุกวัน ถ้าเรื่องเต่าเนี่ย โดยประมาณ 2-3 ตัว ต่อวันนะครับ ทั้งกิน(พลาสติก)บ้าง ติดบ้าง ในประเทศไทยก็ 900 กว่าตัวต่อปี ถ้าเกิดพูดถึงทั่วโลก ก็ไม่รู้ว่ากี่หมื่น กี่แสนตัวต่อวัน ต่อปีนะ”




ไม่มีหรอก “หลอดรักษ์โลก 100%”

เมื่อมีคนรักษ์โลก ก็ย่อมต้องมีกลุ่มคนที่ไม่แคร์เรื่องแบบนี้ และดูจะเห็นด้วย กับการกลับมาใช้หลอดพลาสติก เพราะมองแบบเดียวกับทรัมป์ ในประเด็นการใช้ประโยชน์

กูรูด้านสิ่งแวดล้อมรายเดิมมองว่า เป็นแนวความคิดที่ดูจะเห็นแก่ตัวเกินไป เพราะเอาจริงๆ หลอดกระดาษก็ไม่ได้เปื่อยเร็วขนาดนั้น

“มันไม่ได้เปื่อยภายใน 3 นาที 5 นาที ต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ถ้าเกิดว่าคนเรา คิดถึงแต่ตัวเอง ในเรื่องของความสะดวกสบายกินกาแฟไม่อร่อย หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป แล้วหลอดมันเริ่มเปื่อย กับชีวิตเต่าเนี่ย มันเป็นอะไรที่…

ถ้าเกิดคุณเชื่ออย่างนั้น เอาเป็นว่าลืมๆ ไปเถอะ เรื่องรักษ์โลก ไม่ต้องเถียงแล้ว เพราะสิ่งที่คุณรู้สึกว่า มันไม่สะดวกสบาย มันจิ๊บจ๊อยเกินไป”







ถ้าให้วิเคราะห์เจาะลึก ประเด็นหลอดที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม คนส่วนใหญ่อาจจะนึกถึงหลอดพลาสติก ว่าคือตัวร้ายอันดับหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว หลอดประเภทอื่นๆ แม้แต่หลอดกระดาษ ก็ไม่ได้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขนาดนั้น

อ้างอิงจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร “Food Additatives and Contaminants” พบว่า หลอดกระดาษเอง ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอาจจะไม่ได้รักษ์โลกอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง

เพราะในหลอดกระดาษ ประมาณ18-20แบรนด์ในท้องตลาด มี “สารเคมีอมตะ” ที่เรียกว่า “สารเพอร์-และโพลีฟลูออโรอัลคิล(Per- and Polyfluoroalkyl Substances)”หรือ “PFAS (พีเอฟเอเอส)” ที่เคลือบผิวอยู่

สารนี้ ย่อยสลายยากไม่แพ้พลาสติก คือสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายทศวรรษ แถมเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของทั้งคนและสัตว์ด้วย

จากการสุ่มตรวจสอบ พบสาร PFAS ในหลอดกระดาษมากถึง 90% พบในหลอดไม้ไผ่80%ในหลอดพลาสติก75%และหลอดแก้ว 40% ยกเว้นหลอดที่ทำจากสเตนเลส ที่ไม่พบสารเคมีชนิดนี้

ตกลงแล้ว ดูเหมือนว่าหลอดชนิดไหนๆ ก็ดูอันตรายไปหมด แล้วอย่างนี้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ควรจะใช้หลอดประเภทไหนกันแน่?




เกี่ยวกับประเด็นนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมรายเดิม ช่วยตอบข้อสงสัยนี้ไว้ให้ว่า จริงๆ แล้วไม่มีอะไรรักษ์โลก 100% แต่ถ้าเกิดเทียบผลกระทบ ยังไงสารที่เคลือบกระดาษ ก็กระทบน้อยกว่าพลาสติกอยู่แล้ว ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

“ถ้าคุณจะเอา รักษ์โลกเขียวปี๋ ก็เลิกกินให้หมดเลย เพราะฉะนั้น ถ้าผมพิจารณา ทุกอย่างมันก็ส่งผลกระทบกันทั้งนั้น
แต่ถ้าเกิดเทียบผลกระทบ ที่เกิดขึ้นจากหลอดพลาสติก มันรุนแรงมากกว่า ผลกระทบที่เกิดจากหลอดกระดาษ ส่วนสารที่เคลือบ หรืออะไรต่างๆ มันก็ไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น”


สรุปง่ายๆ คือ เราไม่สามารถที่จะทำให้มันไม่เหลือผลกระทบอะไรเลย ถ้าจะให้แนะนำคือ ไม่ใช้หลอดเลยจะดีที่สุด
หรือไม่ก็พกหลอดส่วนตัว ที่สามารถใช้ซ้ำได้ ไปใช้แทน และพอใช้พลาสติกกันน้อยลง ขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อมก็จะลดลงตามไป

“ก็ไม่ต้องใช้แก้วกระดาษ ก็กิน (ภาชนะ)กระเบื้อง กินในร้านให้หมด ไม่ต้อง To Go ทุกอย่างมัน Trade In ครับ เรื่องของสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องของการ Trade Off ทั้งนั้น คุณก็ได้อย่าง-เสียอย่าง

อย่างเราคิดว่า หลอดพลาสติก หลอดกระดาษ แก้วกระดาษ มันก็ส่งผลกระทบทั้งนั้น แต่ถ้าเกิดหลอดพลาสติก มันส่งผลกระทบมากกว่า


เพราะฉะนั้น เราก็เปลี่ยนไปใช้หลอดกระดาษ เพื่อลดผลกระทบมันลง แต่เราก็ไม่สามารถ ที่จะทำให้มันไม่มีผลกระทบเลย
ถ้าเกิดไม่อยากให้ไม่มีผลกระทบเลย ก็ไปกินที่ร้าน เอาแก้วตัวเองไป”


สกู๊ป : ทีมข่าวMGR Live
ภาพ : AFP (Jim WATSON)




** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น