ปีก่อนเงียบเหงา แต่ปีนี้บูมแน่ “Wedding Planner” คอนเฟิร์ม “สมรสเท่าเทียม” หนุนธุรกิจให้บริการ “คู่รัก LGBTQ+” จากทั่วโลก มาปักหมุดในไทย กระตุ้นท่องเที่ยวโต “ธุรกิจงานแต่ง” เตรียมรับทรัพย์ ถ้ารองรับฐานลูกค้าต่างชาติได้ตอบโจทย์เพียงพอ
** ลูกค้ากลุ่ม LGBTQ+ “กำลังซื้อสูง” มีผลต่อธุรกิจ **
กลายเป็นปีที่ประเทศไทยคึกคัก จนท้องฟ้าเป็นสีรุ้งอย่างเป็นทางการได้แล้ว หลัง “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” เพิ่งประกาศใช้อย่างเป็นกทางการไปเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา
ผลักให้หนึ่งในธุรกิจที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้ หนีไม่พ้นสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มลูกค้า LGBTQ+ ผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะฮอตตลอดทั้งปี โดยเฉพาะ “ธุรกิจงานแต่งงาน”
เพราะนับตั้งแต่กฎหมายนี้ผ่านสภาฯ ไปตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว (2567) “กระทรวงพาณิชย์” ก็ออกมาคาดการณ์เลยว่า "สมรสเท่าเทียม" จะมีส่วนสำคัญ ในการสร้างรายได้ให้ประเทศ เพราะ กลุ่ม “LGBTQ+” คือ “กลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง”
ดังนั้น “ธุรกิจท่องเที่ยว” จึงน่าจะโตขึ้นด้วย เมื่อประเทศไทยสนับสนุน “เพศที่หลากหลาย” อย่างเป็นทางการ เพราะนักท่องเที่ยวที่เปิดกว้างย่อมตั้งหมุดหมายไว้ว่า ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งนึง
โดยเฉพาะ “ธุรกิจที่เกี่ยวกับงานแต่ง” ที่เปิดกว้างสำหรับทุกเพศ น่าจะบูมขึ้นมากๆ ทั้งสตูดิโอถ่ายภาพ, การเช่าชุดแต่งงาน, โรงแรม และการรับจัดงานแต่ง
สอดคล้องกับข้อมูลจาก “Wonders and Weddings”บริษัทให้บริการจัดงานแต่งงานของไทย ได้คาดการณ์ไว้ ตั้งแต่ปี 2567 แล้วว่า ยอดการจัดงานแต่งจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยงานแต่งของกลุ่ม LGBTQ+ จะคิดเป็น 25% ของยอดการจัดทั้งหมด
แม้แต่ รองประธานมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน อย่าง “ณชเล บุญญาภิสมภาร”ก็มองไปในทิศทางเดียวกันว่า ปีนี้ “ธุรกิจงานแต่ง” จะคึกคัก และเราอาจได้เห็นธุรกิจใหม่ๆ ที่ออกมารองรับคู่รักเพศหลากหลายมากขึ้น
“เห็นโอกาส ในการทำธุรกิจ อย่างเช่น ธุรกิจงานแต่งงาน Organizer เช่าชุด และอาจจะมีสวัสดิการใหม่ๆ ที่เราไม่เคยเห็นเลยในประเทศไทย แต่ว่ามันเกิดขึ้น หลังจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมได้ประกาศใช้”
{“ณชเล”กูรูผู้อยู่เบื้องหลัง ผลักดัน “สมรสเท่าเทียม”}
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นอีก คนที่จะช่วยวิเคราะห์มุมลึกได้ดีที่สุด คงหนีไม่พ้นเจ้าของธุรกิจรับจัดงานแต่ง อย่าง “ก้อย-น้ำทิพย์ ยอดปัญญาดี” เจ้าของบริษัท “HARMONIZE ALL YOUR WEDDING” ที่รับจัดงานแต่งทั้งคนไทยและต่างชาติ
เธอมองว่า ถ้าเทียบกับปีก่อน ถือว่าปี 67 “ธุรกิจงานแต่งทั่วโลกเงียบมาก” แต่มีแนวโน้มว่า ปี 68 นี้คนจะแต่งงานมากขึ้น
ส่วนถ้าถามว่า “สมรสเท่าเทียม” จะส่งผลให้ “คู่รัก LGBTQ+” ในไทย จัดงานแต่งเพิ่มขึ้นไหม ก็อาจจะไม่ได้มากมายขึ้นขนาดนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่า...
“ถ้าพูดถึงการแต่งงานที่เป็น celebration นะ มันก็มีมาอยู่แล้วค่ะ มีมาตั้งนานแล้ว แต่ว่ามันก็ไม่ได้ถูกกฎหมายเนอะ เราพูดถึงการเฉลิมฉลองอย่างเดียว”
การจัดงานแต่งของ คู่รัก LGBTQ+ ในไทย มีจัดงานอย่างเปิดเผยกันมาตลอด และ “เป็นที่ยอมรับมานาน” เพียงแต่ว่า ยังไม่เคยมีกฎหมายมารองรับสิทธิ์ ในการสมรสของพวกเขาเท่านั้นเอง
“เรา welcome เรายินดี อยู่แล้วอะค่ะ เราไม่ได้ปิดกั้นอะไร”
ทำให้ที่ผ่านมา งานแต่งของคู่รัก LGBTQ+ ในไทย มีการจัดกันเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้แปลกใหม่อะไรสำหรับประเทศเรา ฉะนั้น พอกฎหมายตัวนี้ประกาศใช้จริง จำนวนงานแต่งของ “คู่รักคนไทย” อาจจะเพิ่ม แต่ไม่ได้มากขนาดนั้น
ส่วนถ้าให้พูดถึง “คู่รัก LGBTQ+”ที่เดินทางมาเฉลิมฉลองที่ไทย หรือเลือกจัดงานแต่งในบ้านเรา ก็อาจจะเป็นอีกเรื่องนึง
{“ก้อย”วิเคราะห์จากมุมเจ้าของธุรกิจงานแต่ง}
** “จุดหมาย” ของ “คู่รักต่างชาติ” **
“มองว่าเป็นโอกาสของต่างประเทศที่เข้ามามากกว่า อย่างที่บอก (การจัดงานแต่งของคู่รัก LGBTQ+) มันไม่ได้แปลกใหม่ เพราะว่ามันมีอยู่แล้ว มีตั้งนานแล้ว คนก็ยอมรับกันอยู่แล้ว”
แต่สำหรับ “ต่างชาติ” พวกเขาตื่นเต้นกับ “สมรสเท่าเทียม” ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในบ้านเรา และให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งนับตั้งแต่กฎหมายนี้ผ่านสภาฯ ก็มีลูกค้าต่างประเทศติดต่อเข้ามาเยอะมาก โดยเฉพาะในประเทศที่ปิดกั้นรักหลากหลาย
“ประเทศที่เขาแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันไม่ได้ อย่างเช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน ทักพี่เข้ามาเต็มเลย”
เพราะ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” ก้าวประวัติศาสตร์ของไทยครั้งนี้ ไม่ได้อนุญาตให้เฉพาะ คู่รัก LGBTQ+ “สัญชาติไทย” หรือ “ชาวต่างชาติกับคนไทย” เท่านั้น
แต่ “คู่รัก LGBTQ+ ต่างชาติ” ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสัญชาติไทยเลย ก็สามารถบินมา “จดทะเบียนสมรส” ในไทยได้ด้วย
ทั้งยังสามารถนำไปเป็นหลักฐานยืนยัน “สถานะคู่สมรส” ที่บ้านเกิดพวกเขาได้ด้วย หากประเทศนั้นมีการรองรับ “กฎหมายสมรสเทียม” อยู่แล้ว เช่น อเมริกา เบลเยียม หรือ นิวซีแลนด์
Wedding Planner รายเดิมบอกกับเราว่า “คู่รักต่างชาติ” ที่เข้ามา ไม่ได้มาไทย เพื่อจดทะเบียนสมรสอย่างเดียว แต่พวกเขาตั้งใจจะมาจัดงานแต่งเล็กๆ ไปพร้อมกันเลย
“เวลาเขามา เขาจะต้องจดทะเบียนอย่างนี้ค่ะ เขาอาจจะต้องจัดงานเล็กๆ เพื่อให้มีภาพเอาไปยืนยัน ใช้ในเรื่องอื่นๆ ให้มันเป็นหลักฐานด้วย อันนี้พี่เข้าใจว่าอย่างนั้นนะ”
โดยปกติแล้ว งานแต่งของคู่รักต่างชาติที่จัดในไทย จะเป็นงานที่ค่อนข้างส่วนตัว มีแขกรวมทั้งงานอาจไม่เกิน 10 คน ทำให้เวลาพวกเขาบินมาจดทะเบียนที่ไทย จึงเลือกบินมายกเซ็ต พร้อมกันทั้งหมดเลยทั้งทีม
นี่คือภาพของ “ธุรกิจงานแต่ง” ในปีนี้ ที่ถึงแม้ “สมรสเท่าเทียม” อาจไม่ได้ทำให้คู่รัก LGBTQ+ ไทย จัดงานแต่งเพิ่มขึ้นมากนัก แต่กลับเป็นไปในเชิงบวก กระตุ้นเศรษฐกิจจาก “คู่รักต่างชาติ” ที่เข้ามามากกว่า
“ถ้าสำหรับพี่ พี่ก็เป็น Wedding Planner ที่ทำให้กับลูกค้าไทยและต่างชาติเนอะ พี่ว่าโอกาสจากต่างชาติมา มันจะเยอะมากขึ้น”
บวกกับประเทศไทย ก่อนจะมีสมรสเท่าเทียมก็เป็น “Destination Wedding” ของ “เอเชีย” ที่ทั่วโลกหมายตา อยากมาจัดงานแต่งที่นี่อยู่แล้ว
แถมตอนนี้เรายังเป็น “ประเทศแรก” ใน “อาเซียน” อีกที่มีกฎหมายตัวนี้อีก เลยไม่แปลกที่ “ไทย” จะกลายเป็น จุดหมายของคู่รัก LGBTQ+ ต่างแดน ที่จะบินมาจดทะเบียน และแต่งงานกันในไทยแลนด์มากขึ้น
...อีกมุมที่น่าภูมิใจ #สมรสเท่าเทียม💍🏳️🌈 ในบ้านเรา ...
.
กูรูคอนเฟิร์ม “ธุรกิจงานแต่ง” เตรียมรับทรัพย์ เพราะก้าวประวัติศาสตร์ไทยครั้งนี้ อนุญาตให้ทุกสัญชาติมา “จดทะเบียน”
.
แถมนำกลับไปเป็นหลักฐานยืนยัน “สถานะคู่สมรส” ที่บ้านเกิดได้ด้วย...
.
อ่านเต็มๆ>> https://t.co/kJE8cETHV2
.… pic.twitter.com/A0kOGPAhWf— LIVE Style (@livestyletweet) January 23, 2025
@livestyle.official ...“ธุรกิจงานแต่ง” เตรียมรับทรัพย์ เพราะ #สมรสเท่าเทียม ก้าวประวัติศาสตร์ไทยครั้งนี้ อนุญาตให้ทุกสัญชาติ บินมา “จดทะเบียน” ในไทย แถมนำกลับไปเป็นหลักฐานยืนยัน “สถานะคู่สมรส” ที่บ้านเกิดพวกเค้าได้ด้วย... . “กระทรวงพาณิชย์” คาด มีส่วนสำคัญสร้างรายได้ให้ประเทศ เพราะ “LGBTQ+” คือ “กลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง” . #LIVEstyle #LIVEstyleofficial #ข่าวTikTok #สมรสเท่าเทียม🏳️🌈 #LoveWins #MarriageEquality #แต่งงาน #SME #SMEs #ธุรกิจ ♬ original sound - LIVE Style
สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : Facebook “Harmonize all your wedding Professional Wedding Planner”, ซีรีส์แซฟฟิกเรื่อง “ใจซ่อนรัก”, “ทฤษฎีสีชมพู” “Pluto นิทาน ดวงดาว ความรัก”, “แค่อยากบอกรัก” และซีรีส์วายเรื่อง “นิ่งเฮีย 2 You”, “รุ้งสีเทา”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **