5.19 ล้านล้านบาท คือมูลค่าความสูญเสียที่ถูกประเมินไว้คร่าวๆ จาก “ไฟป่าครั้งที่เลวร้ายที่สุด” ของลอสแอนเจลิส ประชาชนนับพันคน ต้องกลายเป็น “คนไร้บ้าน” และนี่คือความจริงอีกมุม จากอดีตนักร้อง-นักแสดงชื่อดังแห่งยุค 90's อย่าง “บุ๋ม-ตรีรัก”
15 นาที บ้านพันกว่าล้านวอด
สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก สำหรับไฟป่า ที่เรียกได้ว่า เป็นภัยธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ของลอสแอนเจลิส ประเทศอเมริกาเลยก็ว่าได้
จนถึงตอนนี้ ไฟป่าเผาทำลายพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 100,000 ไร่ บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 12,000 แห่งได้รับความเสียหาย และประชาชนมากกว่า 180,000 คน อยู่ภายใต้คำสั่งของการอพยพหนีตายกันจ้าละหวั่น
สำหรับบริเวณที่เกิดไฟป่า หลักๆ คือ 1.Palisades Fire บริเวณชายฝั่งแปซิฟิก 2.Eaton Fire บริเวณเมือง Altadena 3.Hurst Fire บริเวณเมือง Sylmar 4.Woodley Fire ใกล้เมือง Van Nuys
ต้องใช้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนับพันคน อพยพประชาชนนับแสนออกจากพื้นที่ ถึงขั้นที่แคนาดาต้องส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยเสริมกำลังด้วย
ไฟป่าในครั้งนี้ ได้ทิ้งร่องรอยความเสียหายอย่างมหาศาล ทั้งต่อสิ่งแวดล้อม บ้านเรือน และชีวิตผู้คน มียอดผู้เสียชีวิต อย่างน้อย 24 ราย บ้านนับพันหลังถูกเผาวอดในกองเพลิง โดยเฉพาะย่าน Malibu และ Hollywood Hills ที่เสียหายอย่างหนัก
บ้านราคากว่าร้อยล้านหลายหลัง ของเหล่าคนดังฮอลลีวูด เช่น อดัม โบรดี และ เลห์ตัน มีสเตอร์, ริคกี เลค, คาเมรอน มาธีสัน, ปารีส ฮิลตัน, ไดแอน วาร์เรน, บิลลี คริสตัล, แอนนา ฟาร์ริส, เจนนิเฟอร์ เกรย์, เดนิส ครอสบี, สเปนเซอร์ แพรตต์ และ ไฮดี มอนแท็ก และ แมนดี้ มัวร์ ต้องถูกเซ่นไฟป่าด้วยเช่นกัน
หรือจะเป็นชุมชนไทยในสหรัฐฯ บางส่วน ก็ต้องเสียบ้านให้กับไฟป่า ส่วนประชาชนนับพันคน ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน สัตว์น้อยใหญ่ ก็พากันหนีตายเอาตัวรอด
รวมไปถึงบ้านของคนไทยในต่างแดนจำนวนไม่น้อย ก็ถูกไฟกลืนกินวอดไปทั้งหลัง หนึ่งในนั้นคือบ้านพักสุดหรูพันกว่าล้าน ของ “ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก”เจ้าของตำแหน่งนางสาวไทย พ.ศ. 2531 และนางงามจักรวาล หรือมิสยูนิเวิร์ส ปี 1988 ซึ่งบ้านหลังนี้อยู่ในเมืองมาลิบู อยู่ใกล้กับร้านอาหารเก่าแก่ชื่อดัง “ชลดา” (Cholada Thai Cuisine)ที่ถูกไฟเผาวอดเช่นเดียวกัน
[ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์]
[บ้านพักสุดหรูของ ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์]
ล่าสุด นางงามผู้ใจบุญคนนี้ก็ได้ออกมาโพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพยืนกอดกับครอบครัว ท่ามกลางบ้านอันเป็นที่รักที่ถูกเผามอดไหม้ พร้อมกับบอกว่า บ้านหลังนี้มีความทรงจำอันล้ำค่ามากมาย ลูกๆ ของเธอ เกิดและเติบโตที่นี่ แต่ตอนนี้กลายเป็นเพียงเถ้าถ่าน ทุกอย่างถูกลบไปหมด ทั้งข้าวของ รูปถ่าย และของที่ระลึกทั้งหมด
อีกหนึ่งคนบันเทิงไทย ที่ต้องรีบอพยพเป็นการด่วน คืออดีตนักร้อง-นักแสดงชื่อดังแห่งยุค 90's วัย 59 ปี อย่าง “บุ๋ม-ตรีรัก รักการดี” ที่เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ว่า เธอก็เกือบจะเสียคอนโด ที่อยู่มานานกว่า 20 ปี
โชคดีที่คอนโดของเธอ ตั้งอยู่ในแถบ “Camino Palmero” ซึ่งยังไม่ได้รับความเสียหาย แต่ถือเป็นพื้นที่เฝ้าระวังอยู่ แม้ตอนนี้จะอนุญาตให้เข้าไปบ้านได้แล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังกลัวอยู่ เพราะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการอพยพจากไฟป่า ที่จะโหมลามมาหาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะหลายจุด ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดับลง จนเธอต้องหนีออกมาขอพักอาศัยอยู่บ้านเพื่อน นอกเขตอันตรายในตอนนี้
[คอนโดบุ๋ม ย่าน Camino Palmero ที่เกือบโดนไฟไหม้]
เธอเล่าว่า นี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิต ที่ทำเอาจิตตกอยู่เหมือนกัน จริงๆ แล้วเมื่อก่อนเธอไปเรียน และทำงานอยู่ที่นั่นหลายปี แต่พอช่วงหลัง ก็มีไปๆ มาๆ ระหว่างไทย และบ้านที่เมืองนอก
“มันไม่ดีเลย มันแย่มาก มันเศร้ามาก จิตตกมาก ขนาดเรายังไม่โดน แค่เกือบโดน แต่ทุกวันต้องดูข่าวมาตลอด 7 วัน เพราะเราก็ต้องดูสถานการณ์ เพราะมันเกิดขึ้นเร็วจริงๆ ขนาดของบ้านพี่ตอนนั้น เกิดเหตุ 15-20 นาที ลูกใหญ่แล้ว ไปกี่เอเคอร์แล้วอะ มันเกิดขึ้นเร็วมาก กระแสลมแรงนะคะ
มันน่ากลัวมากนะคะ ที่นี่ไฟไหม้ทุกปีอยู่แล้ว บ้านส่วนใหญ่จะเป็นในป่าในเขา ที่มีต้นไม้เยอะๆ แห้งๆ แต่นี่อยู่ดีๆ เข้ามาในเมือง ผู้คนอาศัย มันเป็นอะไรที่ช็อกค่ะ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้มาก่อน สำหรับแคลิฟอร์เนียนะ มันน่าตกใจ แล้วเขาก็ปิดถนน
คือพี่ทำอะไรไม่ได้ พี่ก็เลยเครียด เอกสารสำคัญคือพาสปอร์ต จะกลับเมืองไทยยังไง สิ้นเดือนนี้พี่ต้องกลับ ทุกอย่าง กระเป๋าเดินทางจากเมืองไทย พี่ก็ไม่มี คือมาบ้านเพื่อน พี่มีแค่ชุดนอน
มีสัญญาณให้เตือนอพยพ เมเนเจอร์โทรมาให้ย้ายออกจากตัวตึกทุกห้อง เพื่อนๆ ก็โทรถามกัน เพราะแต่ละคนก็อยู่ใกล้กันหมด คือมีโอกาสโดนกันหมด แล้วเราก็อยู่แถว Hollywood”
โชคดีที่ตอนไฟเข้ามาใกล้บ้าน เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้น เธอกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้านเพื่อน ซึ่งห่างจากบ้านเธอเกือบ 2 ชั่วโมง จนตอนนี้ไฟโซนนั้นเริ่มสงบ เธอก็สามารถเข้าไปเอาของสิ่งจำเป็น เพื่อเตรียมกลับไทยสิ้นเดือนนี้
สัญญาณเตือน!! แต่ก็เอาไม่อยู่
แน่นอนว่า มีสัญญาณเตือนจากแอปพลิเคชัน Watch Duty ให้ประชาชนที่คอยติดตามข่าวสารเป็นอย่างดี ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีการเตือนไต่ละระดับไปเริ่มจาก Red Flag ก่อน ซึ่งสัญญาณนี้เปรียบเหมือนสัญญาณให้เฝ้าระวัง จากนั้นก็จะเตือนเป็น level ตั้งแต่ level 1 ไป level 2 ไปจนถึง level 3 ที่ต้องเตรียมอพยพแล้ว
แต่จริงๆ อดีตนักร้อง-นักแสดงคนนี้ เธอบอกว่า แค่เตือนด้วยสัญญาณ Red Flag ส่วนใหญ่คนก็เตรียมอพยพ ออกจากพื้นที่นั้นกันแล้ว
“คือเขาจะมี level ของความน่ากลัว ช่วงนี้สีเหลือง สีส้ม สีแดง เขาจะส่งมาตลอดเลยว่า สมมติจุดนี้ level ไหนแล้ว เพราะฉะนั้น เราต้องเช็กเองด้วย ถ้า level 3 เขาจะเขียนเลยว่าคือ go ให้ไป คือให้ออกจากพื้นที่นี้”
แม้จะทำประกันอัคคีภัย ถ้าเกิดเหตุขึ้นจริงๆ ก็ยังไม่รู้ว่าจะครอบคลุมได้มากขนาดไหน แล้วเทียบกับบ้านที่อาจจะไม่ได้มีประกันเหล่านี้รองรับไว้ นั่นก็หมายความว่า พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างมหาศาล
“ต่อให้บ้านพี่มีประกัน SOA (Society of Actuaries) ต่อให้เราซื้อประกันภายในห้องของเราเองอีกต่างหาก แต่มันไม่มีทางหรอกที่เขาจะ cover ได้ 100% เพราะบางทีเรามีสิ่งของอะไรที่มันเป็นมูลค่าทางจิตใจ
แล้วกว่าเราจะสร้างบ้านขึ้นมาใหม่ อย่างพี่อยู่คอนโด 150 ห้อง เป็นคอนโดเก่า 50-60 ปี คิดดูกว่าเขาจะสร้าง แล้วในสถานการณ์แบบนี้ บ้านเรือนกี่แสนหลัง ที่ต้องการบริษัทมาสร้างบ้านใหม่ กี่หมู่บ้าน เราต้องรอคิวอีกเมื่อไหร่ หรือต้องรอคิวจากเอกสารประกัน เคสแต่ละเคสกว่าจะอนุมัติ ตัวเราจะอยู่ไหน
ถ้าบางครอบครัวเขามี พ่อแม่ลูก ปู่ย่าตายายล่ะ เขาจะอยู่ไหน กว่าจะสร้างบ้าน กว่าจะขอประกัน แล้วถ้าเกิดบางคนเขาไม่ได้ประกันบ้านไว้ เขาศูนย์เลยนะคะ”
ไขข้อสงสัย ทำไม? เพลิงไหม้เร็ว
จริงๆ แล้ว ไฟฟ่าในลอสแอนเจลิสนั้น เกิดขึ้นทุกปี จนคนแถบนั้นเรียกว่าเป็น “ฤดูไฟป่า” (Wildfire Season) เพราะอากาศในรัฐนี้ ทั้งร้อนและแห้ง นั่นก็เลยกลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี แถมที่นี่มีลมประจำถิ่น ชื่อลม “ซานตาแอนนา” (Santa Anna) ที่เป็นตัวช่วยโหมเพลิงเข้าไปอีก
อดีตนักร้อง-นักแสดง รายเดิม บอกอีกว่า แม้ที่นี่จะมีฤดูไฟป่าก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ฤดูหนาวแบบนี้ นี่ถือเป็นไฟป่าครั้งใหญ่ และเลวร้ายที่สุด ตั้งแต่ที่เธอมาอยู่ที่นี่ 20 กว่าปี ซึ่งเธอมองว่า ตัวแปรสำคัญ คือกระแสลมที่แรงมากๆ ทำให้ไฟลาม จนต้องสูญเสียมากมายขนาดนี้
“summer ไม่ใช่หน้านี้ค่ะ คือปกติหน้านี้เกิดน้อยมาก เพราะมันเป็นหน้า winter มันมีความชื้น มันช่วยให้ต้นไม้ไม่ค่อยแห้ง คือมีความชื้นในตัวเองใช่ไหมคะ ส่วนใหญ่ที่เกิดจริงๆ เวลาอากาศร้อน แล้วต้นไม้แห้ง มีการเสียดสี มีลมพายุแรง
คือบ้านเราลมพายุไม่แรงเท่าที่นี่ ที่นี่เขาอาจจะกว้างใหญ่ มีภูเขาเยอะ มีทะเลทราย เพราะฉะนั้น อากาศที่นี่ มันเกิดไฟได้ง่าย และภูเขาเยอะมาก เพราะฉะนั้น เวลามันไหม้ที ก็ไหม้จากภูเขา ส่วนใหญ่บ้านบนเขาจะโดน แต่ไม่ใช่ในเมืองแบบนี้
พี่อยู่ที่นี่มา 20 กว่าปี เหตุการณ์ใหญ่ที่สุด ชนิดที่เรียกว่า พวกเขาไม่มีประสบการณ์กันเลย ไม่ใช่ว่าทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือผู้เกี่ยวข้อง จะไม่พยายามช่วยเหลือกันนะคะ แต่ตัวแปรสำคัญคือกระแสลมแรง มันแรงๆ จริงๆ ค่ะ ทำให้ช่วงที่ไฟไหม้ มันเร็วขึ้น
บ้านพี่ไกลจากตรงนั้นตั้ง 2 ชั่วโมง อยู่ดีๆ สะเก็ดไฟ โผล่มาบ้านพี่ได้ยังไง คิดเอาเองแล้วกัน มันพัดมาไกลนะคะ อยู่ดีๆ มาหล่นตุ๊บภูเขา Hollywood Hills ใกล้บ้านพี่ได้ยังไง เกิดขึ้นมา 20 กว่าจุดแล้วนะคะ น่ากลัวไหม แค่ 7 วัน แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ทีมงานดีมาก ดับเร็วมากจุดใหม่ๆ”
จริงๆ 80% ของไฟป่านั้น เกิดจากการกระทำของมนุษย์ จงใจวางเพลิงก็เคยมี หรือจะเป็นการทิ้งก้นบุหรี่ ตั้งแคมป์ เหล่านี้ก็ทำให้จุดชนวนไฟป่าได้ง่ายแล้ว แต่อีกสาเหตุที่เกิดบ่อยก็คือ ไฟฟ้าลัดวงจร แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ ยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่
เธอก็กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ได้ยินมาเหมือนว่า บางจุดอาจเป็นฝีมือมนุษย์ แต่สิ่งที่ซ้ำเติมเหตุการณ์นี้ ที่ยิ่งทำให้เศร้ากว่าเดิมคือ มีโจรฉวยโอกาส เข้าไปขโมยสิ่งของ จากบ้านที่ต้องอพยพไปอยู่ที่อื่น
“ได้ข่าวเหมือนกันนะคะ ว่าบางจุดเป็นฝีมือมนุษย์ แต่พูดตามตรงเลยว่า ณ เวลานี้ เขายังไม่เคาะ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือทุกฝ่าย สนใจแต่ว่าดับไฟค่ะ เดี๋ยวคงค่อยมาหาสาเหตุทีหลัง ช่วยเหลือประชาชนก่อน
แต่สงสารที่ว่าเราอพยพมาแล้ว บ้านเราโดนขโมยเข้า ซึ่งอันนี้ซ้ำเติมกันมากเกินไป แต่เราก็มาคิดอีกอย่างนึงว่า ไม่แน่ เขาก็อาจจะมีความจำเป็น ก็เลยใช้โอกาสนี้ เข้าไปขโมยของคนอื่น มาเพื่อครอบครัวตัวเองก็ได้ อันนี้เราคิดได้หลากหลายแง่ แต่ไม่ควรจะทำ เพราะทุกคนก็เดือดร้อนกันถ้วนหน้า เราควรจะเป็นที่พึ่งตัวเราเองให้ได้ต่างหาก”
ส่วนที่ทำให้เพลิงไหม้เร็ว เธอบอกอีกว่า ส่วนนึงน่าเกิดจากวัสดุและโครงสร้างในการสร้างบ้านของที่นี่ ที่อาจจะไม่สามารถสร้างปูนแข็งๆ เหมือนบ้านเราได้ โครงสร้างภายในอาจจะต้องกลวงๆ เพื่อป้องกันการแตกร้าว จากแผ่นดินไหว
“ทำไมบ้านเมืองที่นี่กำแพงมันเปราะ บอบบางนัก เพราะที่นี่มี earthquake หรือ แผ่นดินไหว เพราะฉะนั้น เขาไม่สามารถสร้างปูนแข็งโป๊ก เหมือนบ้านเราได้ ต้องให้ตรงกลางกลวง มันมีแค่โฟมอยู่ เพราะฉะนั้น ที่เขาจะต้องทำแบบนี้ เวลาแผ่นดินไหวจะได้ไม่ร้าว ไม่แตกหัก จนพังออกมา ให้เสียหายกว่าเดิม”
ดังนั้น บ้านบางหลัง ที่ไม่โดนเผาวอดเหมือนกับคนอื่นๆ ทั้งที่คนอื่นๆ ในแถบนั้น โดนกันหมด เธอก็มองว่า น่าจะเป็นเพียงความโชคดี ที่สะเก็ดไฟ ปลิวไปไม่โดนแค่นั้นเอง
ร่วมบริจาค “คนไร้บ้าน” นับแสน
มีการคาดการณ์ว่า มูลค่าความเสียหายเมื่อรวมทั้งค่าประกัน และความสูญเสียทางเศรษฐกิจ อาจสูงถึง 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.19 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว ทั้งนี้ ผู้ว่าการแคลิฟอร์เนีย ก็ได้มีการยื่นสภาแห่งรัฐ ขออนุมัติงบกว่า 86,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูแอลเอแล้วเบื้องต้น
อย่างที่บอกไปว่า เหตุการณ์นี้เกิดการสูญเสียมหาศาล ที่น่าเศร้าสุดๆ เลยก็คือ ประชาชนจากคนที่เคยอยู่ดีมีสุด มีบ้านอยู่อาศัย ที่ใช้พักพิงมาตลอด แต่ตอนนี้นับพันคน ต้องกลายเป็นคนไร้บ้านไปแล้ว
เช่นเดียวกับที่เธอก็รู้สึกเสียใจกับคนเหล่านั้นเป็นอย่างมาก เธอบอกว่าขนาดเธอเองไม่ได้เสียบ้านไป เพียงแต่เกือบเสียไปเท่านั้น ยังจิตตกขนาดนี้ แล้วคนที่ต้องสูญเสียไปเลย คนเหล่านั้นจะทุกข์ทรมานใจมากแค่ไหน
“ขนาดพี่เจอแค่นี้ พี่ยังจิตตกเลย พี่ยังวูบเลย แล้วพวกเขาล่ะคะ เขาร้องไห้ เขาไม่เหลืออะไรเลย บางครอบครัว สมาชิกในครอบครัวหนีมาไม่ทัน ก็เหมือนตอนที่เกิดที่บ้านเรา สึนามิ สถานการณ์ยิ่งใหญ่ เลวร้ายที่สุดเหมือนกัน
เราทำได้อย่างเดียวนะคะถ้าเรามีกำลัง เราก็ช่วยโดเนท อย่างพี่อย่างนี้ กับน้องๆ ก็นัดกันแล้วว่า เดี๋ยวเราจะช่วยโดเนทกัน หลังจากนี้ 3 เดือน หรือ 6 เดือน จำนวนคนที่นึกถึงจะน้อยลงมามาก เพราะฉะนั้น เราช่วยตอนนั้นก็ยังไม่สาย แต่ขอให้เรามีจิตที่อยากจะช่วยเหลือเขา เพื่อเป็นบุญกุศลให้กับตัวเราด้วย”
เธอช่วยประเมินสถานการณ์ในครั้งนี้อีกว่า คนเหล่านี้ ต้องการความช่วยตลอดทั้งปีเลย เพราะกว่าจะฟื้นฟูทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาได้ น่าจะเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร
“เขาต้องการความช่วยเหลืออีกตลอดทั้งปีเลยค่ะ อย่างต่ำเป็นปีค่ะ เพราะกว่าเขาจะสร้างบ้านขึ้นมาใหม่ ณ เวลานี้เขาจะอยู่ตรงไหน จำได้มั้ยคะ ตอนช่วงโควิด ที่ต้องอยู่กันเป็นเตียงๆ เป็นกลุ่มๆ กระจายเหมือนโรงเรือน เขาจะอยู่อย่างนั้นได้ทั้งปีเหรอคะ มันเป็นไปไม่ได้ ใจเขาใจเรา”
บางครอบครัวที่ไม่มีบ้านเพื่อน หรือบ้านญาติๆ ให้อพยพไปอยู่ด้วย ก็ต้องจ่ายเงินนอนโรงแรม แม้จะมีโค้ดพิเศษจากรัฐบาลช่วยเหลือประชาชนที่อพยพ ทางโรงแรมจะคิดค่าเช่าในราคาพิเศษให้ อย่างไรก็ถาม ถึงจะคิดราคาพิเศษให้ ก็ยังไม่รู้ว่าแต่ละโรงแรม จะลดราคาให้มากน้อยเพียงใด และก็ต้องยอมรับด้วยว่า ราคาโรงแรมที่นั่นก็ค่อนข้างสูง
“บางคนไม่มี (เงิน-ญาติ) ก็ต้องไปอยู่ในเขตที่เขามีให้ผู้ประสบภัย แต่บางคนพอจะมีกำลัง เขาก็ไปอยู่โรงแรมอย่างนี้เป็นต้น แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง มันคือการสูญเสียโดยใช่เหตุ เราอยู่ของเราดีๆ ไม่มีหนี้ไม่มีสิน อยู่ดีๆ ก็ต้องมานั่งจ่ายค่าโรงแรม ถึงแม้จะยังไม่โดนไฟไหม้ ที่นี่โรงแรมแพงจะตายต่อคืน มันคือค่าใช้จ่าย เดือดร้อนไปหมด”
อีกหนึ่งคนไทย ที่เรียกได้ว่าตอนนี้แทบจะเป็นคนไร้บ้านแล้วเช่นกัน คือ “ติ๋ง-ทิพาพร จันทราทิพย์” นักกิจกรรมช่วยเหลือชุมชนไทยใน Altadena
เพื่อนของเธอช่วแชร์เรื่องราวสุดเศร้า ผ่านเฟซบุ๊ก “Veen Thoop” เอาไว้ว่า ตอนนี้เจ้าตัวไม่มีกระทั่งเสื้อผ้า หรือของใช้ในชีวิตประจำวัน
ทำได้แค่พยายามค่อยๆ คลายความช็อกให้ตัวเองอยู่ บวกกับข่มตานอนให้หลับ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ราบไปกับพิษไฟจนหมดสิ้นเพียงชั่วพริบตา
เพื่อนๆ ในไทย จึงขอระดุมเพื่อให้เธอสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้โดยเร็วที่สุด แต่เนื่องจากนักช่วยเหลือสังคมคนนี้ ไปใช้ชีวิตอยู่แอลเอกว่า 30 ปีแล้ว จึงไม่มีบัญชีประเทศไทยเลย
ทางเพื่อนๆ จึงตกลงมอบหมายให้ “นรรณ วงศ์พัวพันธุ์” เป็นผู้รวบรวมเพื่อจะโอนไปให้โดยตรงเพื่อควาสะดวกรวดเร็ว ถ้าใครสนใจจะร่วมบริจาค ก็สามารถโอนไปได้ที่ ธ.กรุงเทพ 1270577651 หรือ พร้อมเพย์ 083-130-1231 ซึ่งจะเปิดรับบริจาคในวันที่ 10 ม.ค. - 17 ม.ค. แล้ววันที่ 18 ม.ค. นี้ ก็จะโอนรอบแรก ไปให้เจ้าตัวโดยตรง
[ร่วมบริจาคช่วยเหลือ ติ๋ง-ทิพาพร]
นอกจากนี้ ทางองค์กรกาชาด ก็ได้เปิดรับบริจาคเงินจากทั่วโลก ผ่านเพจ “American Red Cross”เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟป่าครั้งนี้ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ที่ปลอดภัย รวมไปถึงรัฐบาลท้องถิ่นและองค์กรไม่แสวงหากำไรต่างๆ ก็ได้ระดมกำลังเพื่อสนับสนุนผู้ได้รับผลกระทบในด้านอาหาร น้ำดื่ม และการฟื้นฟูจิตใจด้วย
เช่นเดียวกับสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครลอสแอนเจลิส ก็ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงได้ออกประกาศเตือนคนไทย และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในการช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายที่เกิดกับที่พักอาศัย หรือร้านอาหาร ก็ได้เตรียมความช่วยเหลือคนไทยแล้ว โดยสามารถติดต่อศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินได้ที่ เบอร์โทร 323-962-9574 และหมายเลขฉุกเฉิน 323-580-4222 ตลอด 24 ชั่วโมง
อีกหนึ่งความใจบุญ ศิลปินระดับโลกอย่าง “บียอนเซ่” (Beyoncé)ก็ได้แสดงน้ำใจยิ่งใหญ่ ด้วยการบริจาคเงินจำนวน 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 80 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัย ที่สูญเสียบ้านจากเหตุไฟป่าครั้งนี้ด้วย
บทเรียนวัยกำลังซื้อบ้าน อยู่ตรงไหนให้ปลอดภัย
ไฟป่าครั้งนี้ ถือว่าสะท้อนให้เห็นชัด ถึงบทเรียนผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ทำให้ภัยธรรมชาติทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และไม่ได้สร้างความสูญเสียทางกายภาพอย่างเดียว ยังทิ้งผลกระทบทางจิตใจให้กับประชาชนอย่างมาก
บุ๋มสะท้อนจากประสบการณ์ตรง เกี่ยวกับบทเรียนใหญ่ในครั้งนี้ว่า คนเมืองนี้ชอบอยู่บ้านบนเขากัน เพราะวิวสวย จึงอาจเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับกันให้ได้ กับภัยธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้
ไม่ต่างจากคนที่เลือกซื้อบ้านติดทะเล ที่อาจต้องเสี่ยงกับอุทกภัยอย่างสึนามิ ดังนั้น หลายคนที่อยู่ในวัยกำลังซื้อบ้าน อาจต้องหันมาคิดทบทวนกันให้ดี
“ในเมื่อเกิดเหตุการณ์คราวนี้แล้ว ก็เป็นบทเรียนให้เรา ที่เราต้องคิดแล้วว่า ใครที่อยู่ในช่วงวัยที่จะซื้อบ้าน หรือครึ่งชีวิตหลังเนี่ย คุณจะอยู่ตรงไหนให้ปลอดภัย
ยังไงก็ต้องคิดแหละว่า ถ้าเผื่อบ้านอยู่บนเขา แล้วจะเกิดไฟไหม้แบบนี้ สิ่งที่เราสะสมมา ถ้าอย่างพี่ฐานะปานกลาง สะสมมาตั้งแต่วัยรุ่น ทำงานสะสมเงิน จนมาถึง 59 ปีแล้วเนี่ย แล้วถ้ามันสูญในวัยนี้ ใครจะช่วยเหลือพี่ ไม่มี
เพราะฉะนั้น คราวนี้ก็น่าจะเป็นบทเรียนกับเด็กยุคหลาน ยุคลูก ดูเอาเองแล้วกัน การที่เราจะมีบ้านอยู่บนเขา หรือติดทะเล ธรรมชาตินี่ลงโทษมากๆ เลย แล้วถ้าเผื่อเรามีเงินแค่นี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ใครจะช่วยเหลือคุณได้ เงินคุณจะเหลือ 0 บาท
แล้วระหว่างนี้ 1 ปีกว่าจะสร้างบ้านใหม่ เราจะไปอยู่ที่ไหน ใครจะมาจ่ายเงิน รัฐบาลช่วย ช่วยแค่ไหน ไม่มีใครรู้ แล้วอีกหน่อย เดี๋ยวข่าวก็เงียบไป อันนี้ต้องขอพูดกันตามหลักความเป็นจริงแล้วกันนะคะ ต้องคิดให้หนัก”
ขณะเดียวกัน ก็มีประกาศการเตือนภัยเรื่องสุขภาพ เนื่องจากหมอกควันพิษที่เป็นผลจากการดับไฟป่า นี่ก็เป็นเสียงยืนยันจากอดีตนักแสดงรายเดิม ที่เป็นคนในพื้นที่ ก็บอกว่า ผลกระทบนี้ ทำให้เธอแสบตา คอแห้ง มีอาการไอ
“คุณหมอจากโรงพยาบาล Kaiser เขาออกมาพูดเหมือนกันว่า ในแต่ละวันมันจะมีการสะสมในอากาศ อย่างพี่แค่ออกไปแถววัดไทย ไปไหว้พระขอพร ตาพี่แห้ง รู้สึกระคายเคือง น้ำมูกไหลแบบใสๆ แสบตา คอแห้ง มีอาการไอเลย ควันแย่มาก
คุณหมอก็เลยบอกว่า ออกไปนอกบ้าน ให้ใส่แมสก์ดีที่สุด แล้วอย่าเปิดหน้าต่าง เพราะมันจะเข้ามาในบ้าน มีผลมาก อาจจะทำให้เกิดเป็นมะเร็งปอด เพราะเราสูดเข้าไปแบบไม่รู้ตัว แล้วมันเยอะมาก
เพื่อนๆ เขาออกจากนอกบ้าน ขนาดแค่ไปทำสวนหลังบ้าน เขาใส่แมสก์เลย ขนาดที่นี่ไม่โดน แต่รถพี่ขาวเลยนะ ฝุ่นละอองจากควันที่ไฟไหม้อะค่ะ รถพี่นี่แบบเคอะเลย แล้วพี่มองไปรถอื่นๆ เวลาเราจอดรถนะคะ เป็นเหมือนกันหมดเลย ไม่มีอะไรดีเลย บอกตรงๆ เกิดเหตุการณ์คราวนี้”
ท้ายนี้ อดีตนักร้อง- นักแสดง วัย 59 ปี เธอยังฝากขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ ให้กับคนที่ต้องประสบภัยกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายในครั้งนี้ โดยเฉพาะพี่น้องคนไทยที่อยู่ที่นั่น ขอให้รีบเข้มแข็งเร็วๆ เชื่อว่าทุกปัญหามีทางออก
“ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะสำหรับผู้ประสบภัยที่ผ่านมา ขอเป็นกำลังใจให้ ขอให้คุณเข้มแข็ง มีสตินะคะ บริหารจัดการว่าจะทำยังไงต่อไป อย่าเศร้าจนขาดสติ อย่าเพิ่งคิดทำร้ายตัวเองว่าไม่เหลืออะไรแล้ว เรายังมีชีวิตอยู่ มันยังมีทางออกค่ะ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยทุกครอบครัวเลย
แล้วก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ทหาร ตำรวจ ที่มาช่วยเหลือตอนนี้ แต่ทุกๆ ฝ่ายและทุกๆ เจ้าของกิจการ บริษัทที่มาโดเนทช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าอาหาร หรือสัตว์เลี้ยง อาหารสัตว์เลี้ยงด้วย คือทุกฝ่ายเลยที่เราเห็นจากข่าว ต้องขอขอบคุณมากๆ ในน้ำใจ ที่ช่วยเหลือกันตรงนี้ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองทุกคนค่ะ”
สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพเพิ่มเติม : Facebook “Trerak Rakkandee” Instagram @boomtrerak, @bui.simon
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **