xs
xsm
sm
md
lg

สิงห์อาสา จับมือ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชฯ จัดอบรมกู้ภัยหลักสูตร “แผลไฟไหม้-ไฟช็อต-สารเคมี” ยกระดับมาตรฐานทีมกู้ภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สิงห์อาสา” โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกับ สาขาวิชาศัลยศาสตร์อุบัติเหตุ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จัดโครงการอบรมหลักสูตร “แผลไฟไหม้-ไฟช็อต-สารเคมี” ปีที่ 2 ให้กับหน่วยกู้ภัยจากทั่วประเทศที่ผ่านการคัดเลือก โดยความพิเศษในปีนี้คือ การดูแลผู้ประสบเหตุแผลไฟไหม้-ไฟช็อต-สารเคมี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหาในปัจจุบัน เป็นการยกระดับการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุที่มีประสิทธิภาพ ให้แก่แกนนำอาสาสมัครกู้ภัยจากทั่วประเทศ เนื่องจากสถิติของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพบว่า อัคคีภัยเป็นสาธารณภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 การอบรมนี้จึงจัดขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้อย่างทันท่วงที โดยเน้นการปฐมพยาบาลผู้ป่วยไฟไหม้ บาดแผลจากสารเคมีอย่างถูกวิธี รวมทั้ง การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและการส่งต่อผู้ป่วยอย่างปลอดภัย เพราะการเตรียมพร้อมคือกุญแจสำคัญในการช่วยชีวิต ลดการสูญเสียเพิ่มทางรอดแก่ผู้ประสบเหตุ และผู้เข้าช่วยเหลืออย่างทีมกู้ภัยก็ปลอดภัยด้วย ถือเป็นหลักสูตรที่กู้ภัยทุกคนควรมาอบรมเพื่อเพิ่มทักษะให้ตนเอง

ศาสตราจารย์นายแพทย์ พรพรหม เมืองแมน หน่วยศัลยศาสตร์อุบัติเหตุ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล อธิบายว่า “สถานการณ์ฉุกเฉินมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เทคโนโลยีในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้อาสาสมัครกู้ภัยมีความรู้และทักษะที่ทันสมัย สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ ได้นำสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงมาถอดเป็นบทเรียนให้ทีมอาสาสมัครกู้ภัยได้เรียนรู้ ซึ่งจะทบทวนตั้งแต่พื้นฐานการดูแลผู้ป่วยไฟไหม้เบื้องต้นและผู้ป่วยไฟไหม้จากสารเคมี รวมไปถึงกรณีพบผู้ประสบเหตุถูกไฟช็อตในน้ำ ซึ่งสถานการณ์ผู้ถูกไฟฟ้าดูดในน้ำเป็นเหตุฉุกเฉินที่ต้องรีบให้ความช่วยเหลืออย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากทั้งไฟฟ้าและน้ำล้วนเป็นอันตรายต่อชีวิต ดังนั้นก่อนเข้าไปช่วยเหลือ อาสาสมัครกู้ภัยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองเป็นอันดับแรก การฝึกอบรมในครั้งนี้นอกจากเนื้อหาเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลแล้ว ยังจะมีการฝึกภาคปฏิบัติด้านการระดมความคิด ฝึกวางแผน ออกแบบการวางแผนเป็นกลุ่มภายใต้สถานการณ์จำลอง เพื่อพัฒนาทักษะการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในสถานการณ์จริง ซึ่งการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในผู้ป่วยไฟไหม้อย่างถูกต้องจะช่วยลดระยะเวลารักษาตัวในหอผู้ป่วยวิกฤต ลดภาวะทุพพลภาพและอัตราการตายได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

คุณรวินทร์ ชมพูนุชธานินทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มประชาสัมพันธ์ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า “ทีมอาสาสมัครกู้ภัยถือเป็นด่านหน้าที่สามารถเข้าถึงผู้ประสบเหตุได้รวดเร็วที่สุด โดย สิงห์อาสา และสาขาวิชาศัลยศาสตร์อุบัติเหตุฯ ได้ร่วมกันออกแบบหลักสูตรให้เป็นบทเรียนที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง และการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นอาสาสมัครกู้ภัยที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การฝึกซ้อมร่วมกันช่วยให้ทีมทำงานประสานกันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องช่วยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด การฝึกอบรมจึงไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาทักษะ แต่ยังเป็นการสร้างความพร้อมและความมั่นใจให้อาสาสมัครทุกคน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตัวกู้ภัยเองก็ปลอดภัยสูงสุด"

ทั้งนี้ สิงห์อาสายังสานต่อภารกิจพัฒนาทักษะอาสาสมัครกู้ภัยและกู้ชีพอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับหน่วยงานชั้นนำหลากหลายแห่ง อาทิ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (หน่วยซีล), ศูนย์กู้ชีพนเรนทร โรงพยาบาลราชวิถี และผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลื้อยคลาน เพื่อจัดหลักสูตรเฉพาะทาง อาทิ หลักสูตรกู้ภัยทางน้ำ, หลักสูตรกู้ชีพอุบัติภัย และหลักสูตรอสรพิษวิทยา ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง ทั้งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ การให้การปฐมพยาบาลขั้นสูง และการจัดการกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์มีพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนและสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ประสบเหตุและลดผลกระทบด้านสุขภาพในระยะยาว














กำลังโหลดความคิดเห็น