xs
xsm
sm
md
lg

ไลฟ์เปลี่ยนชีวิต!! "นางฟ้ากู่เจิง" อุดช่องโหว่ "พิการทางสายตา" สู่ "ศิลปินที่น่าจับตามอง"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นี่คือเสียงจาก "นักดนตรีพิณจีนกู่เจิงผู้พิการทางสายตา" ที่ยืนยันว่า "TikTok LIVE" ไม่เพียงช่วยสร้างอาชีพแต่ยังสร้างคอมมูนิตี้ที่อบอุ่น เป็น "พื้นที่ปลอดภัย" ให้กลุ่มเปราะบางในสังคม


** สร้างโอกาส จากการถูกปฏิเสธ **
เทคโนโลยีเปิดโอกาสให้ทุกคนสร้างอาชีพได้อย่างเท่าเทียมมากขึ้น “กำลังคน” ที่เคยถูกมองข้ามในสังคมกำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า ‘ความบกพร่องทางร่างกาย’ ไม่ใช่ข้อจำกัดในการสร้างคุณค่าและรายได้

การเกิดอาชีพ “นักไลฟ์ครีเอเตอร์” ซึ่งเป็นผลพวงจากการการเติบโตของเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมความบันเทิง


เปิดพื้นที่ให้คนทุกกลุ่มทุกวัยได้แสดงศักยภาพ โอกาสที่ทุกคนมองหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนที่เปราะบางของสังคม ที่สามารถเป็นกำลังสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่น่าจับตา

"แอนนี่-อธิษฐ์รดา จันทร์ชูวณิชกุล" คือบุคคลที่ผ่านหลักสูตรการศึกษาภาคปกติจนจบมหาวิทยาลัย เธอคือคนที่เคยทำงานพีอาร์ในองค์กรชื่อดังของประเทศ

เธอคือแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอคือนักดนตรีกู่เจิง พิณจีน 21 สาย และเธอคือผู้พิการทางสายตาตั้งแต่เด็ก

อาการสายตาเลือนลาง จากโรคจอประสาทตาเสื่อม ที่มีทีท่าว่าจะแย่ลงเรื่อยๆ ตามกาลเวลา และยังไม่มีวิธีการรักษาในทางการแพทย์ ทำให้หลายครั้งเธอถูกสังคมปฏิเสธ

การตามหาอาชีพ และสถานที่ทำงานที่รองรับ กลายเป็นเรื่องยาก แม้เธอจะเก๋าเกมในลีลาการเล่นดนตรี ที่น้อยคนจะเล่นเป็นในตลาด

จนวันหนึ่งที่เธอได้ก้าวสู่ TikTok LIVE และตัดสินใจลองก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการไลฟ์ จึงทำให้เกิดอาชีพใหม่คือ ‘ไลฟ์ครีเอเตอร์’ ชีวิตใหม่ของเธอ จึงเริ่มตั้งแต่ตอนนั้น



** "ไลฟ์แจ้งเกิด" เปิดโอกาสเท่าเทียมให้ "นักดนตรีไทย" **


ช่วงโควิด-19 พา ทุกวงการเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน ไม่เว้นแม้แต่วงการดนตรีและคอนเสิร์ต การ on-stage แบบออนไลน์ กลายเป็นภาพที่คุ้นชินสำหรับทุกคน

นักดนตรีหลายๆ คนเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของตัวเอง มาจัดแสดงแบบออนไลน์เต็มดัว เพราะช่วยเซฟทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายจากการเดินทาง

ไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็นการแจ้งเกิดของนักดนตรี หรือศิลปินหน้าใหม่บนแพลตฟอร์มในช่วงหลายปีที่ผ่านมา "แอนนี่" คือหนึ่งในนั้น เธอคือนักดนตรีเล่นพิณจีนผู้พิการทางสายตา ฉายา "เสียงสวรรค์ มองไม่เห็น แต่เล่นด้วยหัวใจ"

เธอคืออีกหนึ่งนักดนตรีที่เติบโตจากแรงสนับสนุนบนโลกออนไลน์ โดยมองว่าการเป็นไลฟ์ครีเอเตอร์ทำให้อาชีพเธอมั่นคงขึ้น สำคัญที่สุดคือเรื่อง "อาชีพ" เพราะนั่นจะหมายถึงความสามารถในการพึ่งพาตนเอง

การมาของเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มที่รองรับการไลฟ์ ช่วยสร้างโอกาสที่ “เท่ากัน” ในกรอบการทำงานโดยที่เธอยังสามารถอยู่ในเซฟโซนของตัวเองได้

"ไม่ใช่พื้นที่สาธารณะทุกจุด ที่จะตอบโจทย์การเดินทางของพวกเรา พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเราที่สุด คือที่ที่คุ้นเคย ก็คือที่บ้าน

เมื่อเราเข้าถึงและสามารถใช้งานเทคโนโลยีได้ พวกเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคนที่น่าสงสาร หรือรอรับการบริจาค

มันคือการเอาความสามารถเข้าแลก พวกเราก็ไลฟ์ได้เหมือนดีเจทุกคน เรามาสร้างช่องที่ให้ความสุขและพลังงานที่ดีเท่าๆ กัน

การรับงานอีเวนต์ก็สำคัญ และการไลฟ์บน TikTok ก็มาเสริมงานอีเวนต์ได้ เมื่อเทรนด์ออนไลน์กำลังมา การไลฟ์ก็เป็นสิ่งที่ทำควบคู่กันไปได้"




** เรียนรู้ "โปรแกรมอ่านจอ" ปรับตัวไลฟ์ในฐานะ "ศิลปิน" **


ภาพลักษณ์ที่ดูขัดแย้งกับคำอธิบายตัวเองในช่อง “เราเป็นนักดนตรีผู้พิการ”ทำให้ผู้ชมหน้าใหม่หลายคนที่ผ่านเข้ามาดูเกิดความสงสัยว่า แอนนี่มองไม่เห็นจริงไหม และมีวิธีจัดการการไลฟ์อย่างไร?

ตั้งแต่เธอตัดสินใจเริ่มรับงานเล่นดนตรีกู่เจิงตามอีเวนต์ต่าง ๆ ทำให้ต้องเริ่มหาวิธีสื่อสารกับผู้ร่วมงาน และสิ่งที่ใช้ในการทำงานเป็นหลัก รวมถึงตัวช่วยในการเรียนรู้ TikTok คือโปรแกรมอ่านหน้าจอ

แต่ก็ไม่ง่ายเลยโดยเฉพาะปีแรก ๆ เพราะบน TikTok ต้องการการพูดคุยโต้ตอบระหว่างครีเอเตอร์กับคนดู

“คนดูบางรายที่ไม่ทราบว่ามองไม่เห็น ก็จะไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ตอบ หรือไม่อ่านคอมเมนต์ ซึ่งก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ช่องไม่ปัง

แต่โชคดีที่ในที่สุด ก็เริ่มมีคนดูที่เข้าใจ คนดูเข้ามาช่วยตอบคำถาม พูดคุยกัน ช่วยกันทำให้ช่องเป็นคอมมูนิตี้ ทำให้การไลฟ์ง่ายขึ้น

เช่น เมื่อมีการส่งสติ๊กเกอร์ ส่งคอมเมนต์เข้ามา คนดูก็จะช่วยอ่านและตอบแทน ชวนคุยให้ทุกคนอยู่ด้วยกันตลอดไลฟ์

ประสบการณ์การชนจอ หรือ PK (Play Killer) ก็เช่นกัน ผู้ชมก็ช่วยกันจนทำสำเร็จ ตั้งแต่นัดกับศิลปินช่องอื่น พยายามช่วยสอน ไกด์ขั้นตอนการชนจอ อยู่ด้วยกันจน battle จบ ทำให้แอนนี่เปิดใจแนะนำตัว และเล่นกับช่องอื่นมากขึ้น"

การไลฟ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมกิจกรรม PK ทำให้ชื่อช่องแอนนี่ (TikTok @annieguzhengangel) เป็นที่รู้จักบนช่องไลฟ์มากขึ้น

“แม้แต่เวลาไปอีเวนต์ แอนนี่ก็ขึ้นไลฟ์จากบนเวที คนดูอยู่เป็นเพื่อนตลอดการไลฟ์ ทำให้รู้สึกอบอุ่น รู้สึกดี คนดูก็ได้รอยยิ้ม ได้พลังบวกกลับไป

ที่มากไปกว่านั้น คนทั่วไปเข้าใจคนที่มองไม่เห็น แบบไม่ต้องดราม่า และเปิดโลกว่าคนมองไม่เห็นทำอะไรได้บ้าง


** จุดแข็ง "LIVE Stage" ยกระดับประสบการณ์ "ศิลปิน+แฟนด้อม" **


เสน่ห์อย่างหนึ่งที่มักจะขาดหายไป เมื่อเป็นออนไลน์คือ สัมผัสทั้ง 5 รูป รส กลิ่น เสียง และการแชร์บรรยากาศร่วมกัน ระหว่างศิลปินและผู้ชม

TikTok จึงออกแบบให้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ส่งเสริมให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ และการโต้ตอบกันบนแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น

1.การชนจอ (Play killer)
หรือการ battle ระหว่างครีเอเตอร์ ช่วยขยายฐานแฟนคลับระหว่างกัน โดยระยะหลัง แอนนี่เคลียร์คิวให้ทีม TikTok จัดรอบ battle ร่วมสนุก แลกเปลี่ยนท่วงทำนองดนตรีกับไลฟ์ครีเอเตอร์คนอื่นๆ

2.ฟีเจอร์ใส่ซาวด์ เพิ่มอรรถรสให้ผู้ชม
เพราะ LIVE Creator ยุคนี้ต้องมีสกิลดีเจในตัว นอกจากการชงมุกตลกเล่นกับผู้ชมแล้ว เสียงซาวด์เอฟเฟกต์ที่ระบบเตรียมไว้ให้ สามารถ boost energy ในไลฟ์ให้สนุกสนานยิ่งขึ้น

3.สติ๊กเกอร์ = รายได้+ความชอบ
อย่างที่รู้กันในวงการไลฟ์ว่า สติ๊กเกอร์ถือว่ามีค่าและมูลค่ามาก ไม่เพียงรายได้จากสติ๊กเกอร์เลเวลต่างๆ ยังเป็นการตอบรับความรักของแฟนๆ ที่มีต่อศิลปินคนนั้นๆ ด้วย

4.การขยายจำนวนผู้ชมทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ด้วยความเป็นแพลตฟอร์มระดับสากล feed จึงช่วยดึงผู้ชมจากทั่วโลกมาสู่ครีเอเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรม "TikTok LIVE Community Fest" การแข่งขันไลฟ์ระดับโลก

ยกระดับความบันเทิงแบบไลฟ์สตรีมมิ่งสู่จุดสูงสุด ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว ด้วยการเปิดพื้นที่บนแพลตฟอร์ม สำหรับไลฟ์ครีเอเตอร์จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อคอนเนกชั่นและเฟ้นหาสุดยอด Live Artist และตำแหน่ง TikTok LIVE Icon ระดับโลก





** มองไม่เห็น แต่มี "ทริคไลฟ์จับใจ" **


“เราไม่มีทางรู้วิธีไลฟ์ จนกว่าจะเริ่มขึ้นไลฟ์” แอนนี่กล่าวจากบทเรียนชีวิตของเธอ ในวันที่ไร้คู่มือการไลฟ์ฉบับคนที่มองไม่เห็น

Learning by Doing จึงเป็น choice เดียวของเธอในเวลานั้น โดยมีเทคนิคดังนี้

1.แนะนำช่องให้ได้ทันทีที่ผู้ชมเห็น
ธรรมชาติของบรรยากาศช่วงไลฟ์ คนจะวิ่งเข้า-ออก เปลี่ยนช่องทันทีที่คอนเทนต์ หรือช่องไม่ใช่สไตล์ที่สนใจ ฉะนั้น จึงต้องออกแบบหน้าตาช่อง ให้รู้จักเราได้ทันทีที่คนเข้ามาเห็น และเข้าใจว่าช่องนี้เกี่ยวกับอะไร เราเป็นใคร ทำอะไรอยู่

วิธีการหนึ่งที่แอนนี่ใช้คือ การปักหมุด Top comment ไว้แนะนำตัว ที่ช่องแอนนี่คอมเมนต์บนสุดจะใส่ข้อความไว้ว่า “เราเป็นนักดนตรีผู้พิการ” เพื่อ set ความคาดหวังของคนดูไว้ตั้งแต่แรก

เพราะการโต้ตอบหรืออ่านคอมเมนต์ จะไม่รวดเร็วเหมือนช่องอื่นๆ รวมถึงการตั้งชื่อไลฟ์ให้ชัดเจนก็สำคัญ

2.เข้าใจ nature ของผู้ชมบน TikTok
คนดู TikTok ต้องการความเอาใจใส่ การโต้ตอบ พูดคุยระหว่างนักไลฟ์กับผู้ชม ทำให้คะแนนในช่องดีขึ้น เธอจึงใช้โปรแกรมช่วยอ่านหน้าจอ ร่วมกับบลูทูธคีย์บอร์ดของเธอในการอ่านคอมเมนต์

เรียนรู้ความต้องการจากผู้ชม ฝึกการเอ็นเตอร์เทน เพื่อหาวิธีให้คนตามดูในไลฟ์นานๆ โดยช่องของเธอจะมีทั้งเล่นเพลง ตามที่ขอสลับกับเล่าเรื่องราว

นับว่าเป็นโชคดีของเธอที่แฟนๆ ทุกคนช่วยกันอ่าน ช่วยกันตอบ ช่วยกันคุย ช่วยกันเป็นแอดมินคอยอธิบายคนที่เข้ามาใหม่ และช่วยรันไลฟ์ไปจนจบกับเธอ

“การไลฟ์ก็เหมือนกับการสร้างคอมมูนิตี้ เราเป็นทีมเดียวกัน เป็นเจ้าของช่องร่วมกันที่ดูแลกันและกัน”

3.เข้าใจจริตของแพลตฟอร์ม
“TikTok ชอบความสม่ำเสมอ คนดูในช่องก็เช่นกัน เมื่อตัดสินใจว่าจะไลฟ์จริงจัง แอนนี่จึงมาจัดตารางขึ้นไลฟ์ที่แน่นอนตั้งแต่ 3 ทุ่ม – เที่ยงคืนของทุกวัน เพื่อรักษาฐานแฟนคลับช่อง

และบางวันก็ไลฟ์ 2 ครั้ง เพิ่มช่วงกลางวันเพื่อขยายฐานคนดู และดึงกลุ่มคนดูดังกล่าวเข้ามา ที่ไลฟ์ในเวลาปกติ”

นอกจากนี้ระบบยังเอื้อให้ผู้ชม สามารถติดตามครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบได้แบบเรียลไทม์ โดยการตั้ง alert ทุกครั้งที่ครีเอเตอร์คนโปรดขึ้นไลฟ์

รวมถึงทักษะเอนเตอร์เทนต์บนไลฟ์ ก็สำคัญสำหรับผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย การใช้เอฟเฟกต์ กดสร้างเสียง หรือรีแอคชันต่างๆ เพื่อสร้างเอเนอร์จีกันภายในช่อง


4.รู้ความต้องการของผู้ชม และใช้ความสามารถของตนให้เป็นประโยชน์มากที่สุด
“นอกจากสกิลการพูดคุยกับผู้ชมแล้ว ในส่วนของการแสดง แอนนี่ก็เล่นเพลงสดตามผู้ชมขอได้เลย ถ้าเป็นเพลงที่แอนนี่รู้จัก

แต่ถ้าเป็นเพลงที่แอนนี่ไม่รู้จัก ก็เปิดฟังในไลฟ์แล้วเล่นเลย หรือเล่นเพลงที่ใกล้เคียง เพื่อทำให้ผู้ชมแฮปปี้อยู่กับเราตลอดการไลฟ์

เราต้องรู้จักผู้ชมของเราว่า ชอบอะไร ชอบแบบไหน แล้วดูว่าเราใช้ความสามารถของเรา serve ความต้องการของพวกเค้าได้มากน้อยแค่ไหน

แอนนี่ก็จะพยายามให้ผู้ชมของแอนนี่ มีความสุขมากที่สุดในทุกๆ วัน”

5.จัดฉากในไลฟ์ ให้ได้ใจคนดูช่อง
"เสียงดนตรีไม่สามารถหยุดให้คนดูอยู่กับเราไปได้ตลอด การให้ความสำคัญกับองค์ประกอบอื่นๆ ก็สำคัญเช่นกัน แสง ไฟ ซาวด์ดนตรี และฉากก็สามารถสร้างเสน่ห์ให้ไลฟ์ได้เช่นกัน

คนดูของแอนนี่ช่วยกันแนะนำ ช่วยกันจัดฉากกับแอนนี่ เวลา 1 ชั่วโมงในไลฟ์ กับการช่วยกันจัดฉากของพวกเรา ยิ่งสร้างความเป็นกลุ่มก้อนของพวกเราเข้าไว้ด้วยกัน"

6.รู้ความชอบของคนดูจาก Data หลังบ้าน
“ทุกครั้งที่จบไลฟ์ แอนนี่จะดู flow ของผู้ชมที่เข้า-ออก จาก Dashboard เราจะรู้ค่าเฉลี่ยของตัวเองว่า ปกติตัวเลขจะประมาณไหน

ถ้าเริ่มต่ำกว่าเกณฑ์ ก็จะเริ่มหาว่าปัญหาเกิดจากอะไร เช่น อินเตอร์เน็ตไม่เสถียร, คอนเทนต์ไม่ถูกใจคนดูหรือเปล่า มันคือการศึกษาความชอบคนดูของช่อง

ช่วงหลังๆ เวลาไลฟ์ตามอีเวนต์ต่าง ๆ คนดูจะเยอะกว่ามาก คนดูที่โตไปพร้อมกับช่องเริ่มอยากดูมากกว่าแค่การแสดงดนตรี

พวกเขาอยากรู้ A Day in Life ของเรามากขึ้น เราทำสิ่งต่างๆ ยังไง อยากรู้ว่าคนข้างนอก react กับเรายังไง หรือค้นหาให้เจอว่าแนวดนตรีแบบไหนที่คนดูชอบฟัง เมื่อจับแนวทางได้ ก็จะทำไลฟ์แนวนั้นอย่างต่อเนื่อง”


** ทีมหนุนที่ Empower และพร้อมเป็น Comfort Zone ให้ **


สำหรับบทบาทครีเอเตอร์ไลฟ์กับแอนนี่นั้น ไม่ได้สวยหรูโรยด้วยกลีบกุหลาบ ปีแรกๆ ของการทำ TikTok ได้มีโอกาสเข้า TikTok LIVE Fest และเข้าไปแข่งขันบนเวทีไลฟ์

แต่ด้วยข้อจำกัดทางกายภาพ ทำให้คุณแอนนี่ตามไม่ทัน จึงถอยออกมา จนกระทั่งปี 2024 ที่อยากหวนคืนเวทีไลฟ์จริงจัง

บวกกับคำเชิญจาก TikTok ที่เห็นศักยภาพและความเชื่อมั่นต่อแอนนี่ จึงร่วมหาบาลานซ์การทำงานร่วมกัน

ทีมงานจาก TikTok ทำให้แอนนี่รู้สึกปลอดภัย เหมือนมีทีมหลังบ้านที่คอยซัพพอร์ต และช่วยเหลือในจุดที่แอนนี่ไปไม่ถึง

เช่น ช่วยเตือนเรื่องกฎกติกา (community guideline) เพราะเวลามีระบบแจ้งเตือนหน้าไลฟ์ แอนนี่จะมองไม่เห็น

รวมถึงปลดล็อคความกลัวและความกังขาที่มีต่อตัวเอง พาแอนนี่ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่สนับสนุนให้ช่องไลฟ์ของแอนนี่แข็งแรงขึ้น”



** เข้าใจ negative แต่ตอบรับด้วย positive **
ไม่มีชีวิตช่วงไหนที่ยากเท่าวัยเด็กของเธออีกแล้ว สารพัดของปัญหาทั้งความไม่เข้าใจร่างกายตัวเอง การกดดัน การบูลลี่

ความช่วยเหลือที่ไม่เคยมาถึง เพราะไม่มีใครรู้ว่าเป็นอะไร แม้แต่กับตัวเองและครอบครัวก็ตาม นั่นทำให้คุณแอนนี่ทนต่อแรงต้านที่ปะทะเข้ามาได้ดี

Negative comments คือหนึ่งในสถานการณ์ที่ครีเอเตอร์ มีโอกาสเจอขณะไลฟ์สด แอนนี่บอกว่าไม่ได้มองสิ่งนี้เป็นปัญหาหรืออุปสรรคแต่อย่างใด

ด้วยความเข้าใจโลก เข้าใจผู้คน เข้าใจจริตคนดูในช่อง ทำให้ก้าวข้ามดราม่า การตอบกลับด้วยความรุนแรง จึงไม่มีอยู่ในลิสต์ของเธอ

“เราจะตอบอย่างตรงไปตรงมาด้วยไวบ์ที่ positive สะท้อนให้ผู้ชม ณ เวลานั้นรู้ว่าเราแข็งแรง พอที่ใครจะมารังแกเราไม่ได้”

บางคนที่ใช้คอมเมนต์ที่ละลาบละล้วง เราจะเบรกด้วยความสุภาพ เพราะเราไม่อยากให้บรรยากาศช่องดราม่า

หากตอบกลับด้วยความรุนแรง บรรยากาศในห้องก็จะพัง คนที่ตั้งใจเข้ามาฟังเพลงก็อาจจะ drop off ไป
เรากับเอฟซีก็จะช่วยกันตอบอย่างสุภาพ

เวลาคนถามว่าอ่านคอมเมนต์ยังไง เราก็โชว์ให้ดูว่าเราใช้ Bluetooth keyboard กับโปรแกรมช่วยอ่าน”

นี่แหละคือสิ่งที่เราอยากสื่อสารในไลฟ์ว่า คนมองไม่เห็นทำได้ยังไง เราไม่จำเป็นต้องรำคาญ หงุดหงิด

มันไม่แปลกที่จะมีคนไม่เข้าใจ ที่ดียิ่งกว่า การไลฟ์กลายเป็นช่องทางที่ทำให้ คนรู้จักตัวตนเราและเข้าใจผู้พิการมากขึ้น”




** บ้านหลังที่ 2 ของไลฟ์ครีเอเตอร์ **


แม้จะตั้งเป้ามีผู้ติดตามหลักแสน แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือแอนนี่อยากเติบโตไปพร้อมกับช่อง และคอมมูนิตี้แฟนคลับไปเรื่อยๆ คือสิ่งที่กลายเป็นความผูกพันกันในบ้าน

“แอนนี่เรียกที่นี่ว่าบ้าน เวลาเดินทางไปไหนเราก็พยายามจะไลฟ์มากขึ้น คนเริ่มตามมาดูไลฟ์สไตล์เรามากขึ้น ทำให้เราสนิทกัน เหมือนครอบครัว เหมือนพี่น้อง

และหากเราเป็นที่รู้จักมากขึ้น เชื่อว่าโอกาสจะพาให้เราไปรู้จักกับนักไลฟ์คนอื่นๆ ใน TikTok Universe เรื่องราวของเราที่เป็นครีเอเตอร์ผู้พิการ ก็จะไปถึงคนหมู่มาก ทำให้คนเข้าใจพวกเรามากขึ้น”

“TikTok LIVE” ช่วยสร้างโอกาส เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ทั้งร่างกายและจิตใจ สร้างรายได้และสร้างคุณค่าให้ตัวเอง

“ไม่มีอะไรที่ผู้พิการต้องการมากไปกว่า ‘การพึ่งพาตัวเองได้’ อาชีพที่สร้างรายได้ ทำให้พวกเขาไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น หรือรอรับเงินบริจาค และสร้างความภูมิใจให้กับตัวเอง

และวันนี้ TikTok คือช่องทางที่สร้างโอกาสให้พวกเราเพื่อไปถึงจุดหมายเหล่านั้น

จากบทเรียนชีวิตทั้งหมดที่ผ่านมา เธอตกผลึกกับตัวเองได้ว่า จริงๆ แล้ว สิ่งจำเป็นในชีวิตทุกคนคือ “โอกาส” บางครั้งเรามีความสามารถแต่ไม่มีโอกาส เราเลยไปไม่ถึง แต่วันนี้เทคโนโลยีและโลกการไลฟ์เข้ามาเปิดประตูไปสู่โอกาสต่างๆ

“TikTok คือทางรอดของแอนนี่ และสำหรับผู้พิการที่อยากสร้างโอกาสให้ตนเอง เป็นที่ที่ปลอดภัยให้แอนนี่ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ

และในแง่ของการสร้างรายได้ที่ผู้พิการยังมีโอกาสที่จำกัด ทั้งยังเป็นช่องทางที่ทำให้แอนนี่ได้งานอีเวนต์อื่นๆ



** ยึดเป็น "อาชีพ" ไม่ด้อยค่า ไม่ยอมแพ้ **
“แอนนี่อยากสร้างคอมมูนิตี้ในช่องของแอนนี่ ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น เป็น inspiration ให้กลุ่มคนเปราะบางในสังคม

หลายๆ ครั้งแอนนี่ก็พาหลายๆ คนไปถึงโอกาส ไม่ว่าจะเป็นน้องช่อแก้ว ซึ่งเป็นดาวน์ซินโดรม ที่เปิดช่องตีขิม หรือคุณ Alienette นักร้องชาวฝรั่งเศสผู้พิการทางสายตา

ทุกวันนี้แอนนี่ยึดการไลฟ์เป็นอาชีพ แอนนี่รักทุกอย่างที่เป็นตัวเองมากๆ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำได้ขนาดนี้ และไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสดีๆ เข้ามาขนาดนี้

แอนนี่เชื่อว่า ทางข้างหน้าจะยังมีโอกาสอีกมากมายรออยู่ เพราะเรายังทำอยู่ และจะไม่หยุดเลยแม้แต่วันเดียว”

แอนนี่ทำได้ เชื่อว่าทุกคนก็ทำได้ เพียงแค่เริ่มต้น เรียนรู้ ไม่ด้อยค่าตัวเอง และไม่ยอมแพ้”



รายละเอียดเพิ่มเติม : "แอนนี่ นางฟ้ากู่เจิง" (TikTok: annieguzhengangel) และ #TikTokLIVE_TH #CelebrateLIVE #LIVEFest2024



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น