มองเห็น “โอกาส” จากธุรกิจที่คนมองข้าม ใช้เวลาว่างจากการเป็น “ครูดนตรี” ลองผิดลองถูก “ทำโกศ” แม้ไม่มีพื้นฐาน จนพัฒนาเป็นช่างมืออาชีพ สร้างกำไรงาม ลูกค้าการันตีเอกลักษณ์ผลงาน “สวยสะดุดตา คุ้มเกินราคา” ขยายเส้นทางทำกิน สอนชาวบ้านฟรี แบ่งปันรายได้ หวังช่วยสืบสานงานฝีมือ
ความชอบชัด ตั้งแต่ “เล่นเผาศพ”
“จุดเริ่มต้นของการเป็นช่างทำโกศ ก็คือสมัยตอนเป็นเด็ก ประมาณ 9-10 ขวบ ชอบเล่นเผาศพ ก็คือมีการเอาพวกไม้เล็กมาเรียง เพื่อจำลองการเผาศพ จุดไฟเผาจริงเลยครับ ตอนนั้นก็เล่นตามประสาเด็ก ก็เจอผู้เฒ่าผู้แก่ด่าไปหลายรอบเหมือนกัน
แต่พอมาจนถึงทุกวันนี้ เอ๊ะ..เรามีความชอบทางด้านนี้ สามารถทำงานทางด้านนี้ได้ อาจจะเป็นเพราะตอนเด็ก เราชอบเล่นอะไรพวกนี้หรือเปล่า”
“ครูเจมส์-อนุวิทย์ เทียมกระโทก” คุณครูวัย 31 ปี โรงเรียนบ้านมาบกราด ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
ครูดนตรี ผู้หลงใหลงานสร้างโกศ ที่ใช้เวลาว่างเว้นจากการสอนนักเรียน หันมาเป็นช่างทำโกศบรรจุอัฐิขาย จนเป็นรายได้เสริมสร้างกำไรงาม
ทั้งที่เขาไม่เคยมีพื้นฐานในงานด้านนี้มาก่อนเลย เพราะมีดีกรีจบครุศาสตรบัณฑิต สาขาดนตรีไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา แต่อาศัยความชอบ ศึกษาด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูก จนกลายมาเป็นโกศบรรจุอัฐิสีทองอร่าม ที่มีลวดลายตระการตา สะดุดตาลูกค้า จนได้รับเสียงชื่นชมจากปากต่อปาก
ย้อนกลับไป จากการเล่นพิเรนทร์เผาศพ สมัยเด็กในวันนั้น จนมาต่อยอดเป็นอีกหนึ่งอาชีพ ที่เขาเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่า จะสามารถทำได้
“พอโตขึ้น ได้มีโอกาสเรียนด้านดนตรีไทย พอเล่นดนตรีไทยเป็นปุ๊บ ก็เลยได้ไปออกงาน รับงาน โดยเฉพาะที่เป็นงานศพ งานอวมงคล พอไปออกงานบรรเลงดนตรีไทยปุ๊บ ก็จะไปเห็นโกศใบนึง ที่เขาตั้งอยู่ในงานศพ มันจะเป็นโกศที่เห็นแล้วสะดุดตา ก็คือมีการปิดทอง ประดับเพชร มันทำให้รู้สึกสะดุดตา มันรู้สึกตื่นเต้น เห็นแล้วมันสวย เราอยากลองทำบ้างครับ
ก็เลยเอ๊ะ..ทำไมโกศใบนี้มันมีความสวย ทำไมมันถึงมีรูปร่างแบบนี้ มันมีการทำยังไง ถึงได้ออกมาสวยงามขนาดนี้ ก็เลยเริ่มมีจุดสนใจแล้วว่า เออ..อยากลองทำบ้าง ก็เลยศึกษา ลองศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล ตั้งแต่ตอนนั้นมาเลยครับ”
หลังจากวันนั้น เขาก็กลับมาศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นจากตำรา จากอินเทอร์เน็ต จนใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปีเต็ม ลองผิดลองถูก กว่าจะทำโกศออกมาได้ 1 ใบ
“พยายามหาข้อมูลให้ได้เยอะที่สุด เริ่มลงมือทำก็คือ เริ่มหาต้นแบบ พอได้ต้นแบบปุ๊บ งานต่อไปที่ยากก็คือ หาแม่พิมพ์ ชุดแม่พิมพ์ลายไทย ที่จะใช้ประดับลวดลายลงบนตัวโกศ ให้มันสวยงาม ให้มันลงตัวที่สุดครับ”
ตอนแรกที่ทำ ครูเจมส์บอกว่า ไม่ได้คิดว่าจะทำขาย แค่อยากลองทำดูขึ้นมาสักชิ้น หลังจากที่เห็นโกศใบนั้นในงานที่ไปเล่นดนตรี เขาอาศัยความชอบ ความรักในงานศิลปะ ที่แม้ไม่เคยมีพื้นฐานทางด้านนี้แม้แต่น้อย ก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง จนทำออกมาได้สำเร็จ และต่อยอดจนมาเป็นอาชีพเสริม
“ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะวางขาย ก็คืออยากลองทำมาสักชิ้น ว่ามันจะสามารถทำได้ไหม ทีนี้ก็พอดีเรามีพื้นฐานเกี่ยวกับงานลงรักปิดทอง ของเครื่องดนตรีไทยด้วยเนอะ พอดีเป็นนักดนตรีไทย ก็จะมีการซ่อมเครื่องดนตรีไทยด้วย เวลามันมีการชำรุดเสียหาย ก็ต้องใช้ทองคำเปลว ทองคำแผ่นมาปิดซ่อม เพื่อให้มันมีความสวยงาม
งานโกศจะคล้ายๆ กัน ก็คือปิดทองเหมือนกันครับ ก็มีพื้นฐานตรงนี้ด้วย ก็ลองศึกษาเพิ่มเติม หาความรู้มาเรื่อยๆ ก็มีการลองผิดลองถูก แรกๆ ลองผิดลองถูกนะครับ การหล่อชิ้นงานก็มีเสียหายบ้าง ก็ทิ้งไปเหมือนกัน กว่าจะได้ชิ้นงานที่สมบูรณ์ แล้วก็สวยงามในปัจจุบัน
จริงๆ คือ รักงานดนตรีไทยมากกว่า แต่พอมาลองทำงานศิลป์ มันก็ไปด้วยกันได้ทั้งคู่นะครับ งั้นอันนี้ก็เป็นอาชีพเสริมไปแล้วกัน”
พอหลังจากทำออกมาได้สำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว ปรากฏว่าสวยเกินคาด จากนั้น ก็เลยลองโพสต์โชว์ผลงานในเฟซบุ๊กส่วนตัว ปรากฏว่ามีคนแนะนำ ให้ลองทำขายดู นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้น ที่ครูเจมส์ เริ่มสร้างเพจ เพื่อให้คนที่สนใจ เข้ามาซื้อ-ขาย
“พอเริ่มทำได้ปุ๊บปรากฏว่างานที่ทำออกมา มันสวยงามเกินคาด ก็ไม่คิดว่าจะสามารถทำได้ขนาดนี้ ก็เลยลองโพสต์ลงโซเชียลฯ ก็มีคนติดต่อสอบถามมาว่า เออ..ลองขาย ลองสร้างเพจดูสิ ว่ามันจะขายได้ไหม ก็เลยตัดสินใจสร้างเพจขึ้นมา พอโพสต์ลงเพจปุ๊บ ปรากฏว่า เริ่มมีลูกค้าทักเข้ามาสอบถาม ว่าราคาเท่าไหร่”
ลองผิดลองถูก ล้มเหลวมากว่า 1 ปี
สั่งสมประสบการณ์มา 5 ปี จนมาเป็นช่างทำโกศ ผู้เชี่ยวชาญ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ลองผิดลองถูก ล้มเหลวมานักต่อนัก กว่าจะได้โกศแต่ละใบออกมา ซึ่งเขาบอกว่า ชิ้นแรก เป็นอะไรที่ยากที่สุดแล้ว
“ชิ้นแรกยากที่สุดเลย หลังจากชิ้นแรกปุ๊บ ก็คือทุกชิ้นคือง่ายหมด ก็คือที่มันยากตรงที่เลือกลายเนี่ยแหละครับ ว่าจะเอาลายไหนลงตรงไหน เพราะว่าเราไม่มีพื้นฐานในเรื่องของการแกะลายไทยเลย ก็คือลองผิดลองถูก
ความยากอันที่สองก็คือการหล่อ พอได้ต้นแบบปุ๊บ ทำบล็อกซิลิโคนที่จะหล่อเป็นเรซิ่นออกมาได้หลายๆ อัน จะหล่อยังไงให้มันสมบูรณ์ที่สุด บางครั้งพอหล่อไปปุ๊บ มันเกิดฟองอากาศ แล้วด้านในมันไม่เต็ม พอแกะออกจากแม่พิมพ์ มันก็จะทำให้งานไม่สมบูรณ์ ก็ต้องทิ้ง เปลืองค่าใช้จ่าย เปลืองงบประมาณ ในการซื้อเรซิ่นอีก อันนี้ก็คือความยากของชิ้นงาน ก็คือชิ้นแรกที่จะสร้างออกมา
ก็ต้องรื้อออกใหม่ทั้งหมด ทำใหม่เลยครับผม ก็คือพยายาม ตอนแรกๆ เลยคือเราไม่มีแผ่นลายไทย ที่มันตรงกับตัวโกศ ของเรา เพราะว่าลายแผ่นแม่พิมพ์แผ่นนึง ที่เราสั่งมา ราคาจะค่อนข้างสูง
ยิ่งแต่ถ้าเป็นแม่พิมพ์สบู่ ถ้าสั่งแกะลาย ก็หลักหมื่นขึ้นไป แต่ว่าถ้าเป็นงานเรซิ่นที่เขาหล่อขาย ตามเพจทั่วไป ที่เขาทำเครื่องศิราภรณ์ มันก็จะอยู่ที่ประมาณ 4-5 ร้อยบาท ตอนนั้นก็จะราคาค่อนข้างสูงเหมือนกัน เพราะว่าบรรจุเป็นครูใหม่ๆ เราก็ยังไม่ค่อยมีเงินเยอะ แม่พิมพ์เราก็มีจำกัด มีประมาณ 3-4 แผ่น ที่สร้างชิ้นงานชิ้นแรก ก็ใช้เวลานานมาก กว่าจะเสร็จนะครับ เป็นปีๆ”
หลังจากเรียนรู้ข้อผิดพลาดจากชิ้นแรก ชิ้นต่อไปในการสร้างสรรค์ผลงาน ก็ออกมาดีทุกชิ้น และแทบจะไม่มีข้อผิดพลาดอีกเลย
จากโกศที่มีรูปแบบเดียว เขาก็เริ่มมีการพัฒนา ให้มีรูปแบบหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทรงกลม ทรง 8 เหลี่ยม จนลูกค้าเริ่มติดต่อเข้ามาซื้อเยอะมากขึ้น
จากความสำเร็จในชิ้นแรก ที่เกิดจากการลองผิดลองถูกมาด้วยตัวเองมานานกว่า 1 ปี ซึ่งครูเจมส์บอกว่า ส่วนใหญ่ศึกษาด้วยตัวเองทั้งหมด แต่จะมีสอบถามความรู้เรื่องเทคนิคการปิดทอง จากผู้เชี่ยวชาญ ที่เป็นช่างในสายงานที่ใกล้ๆ เคียงกันบ้าง เช่น ช่างเกี่ยวกับงานเครื่องประดับศิราภรณ์ ที่รายละเอียดงาน อาจจะมีความคล้ายๆ กันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นครูพักลักจำ ศึกษาด้วยตัวเอง
ส่วนเรื่องการโพสต์ขายก็เช่นกัน ลองผิดลองถูกศึกษาด้วยตัวเองใน YouTube ทั้งการยิงแอด การสร้างยอดขาย การโพสต์ต่างๆ
“ปีแรกก็คือศึกษาอย่างจริงจังก่อนว่า มันจะเป็นรูปแบบไหน ลองผิดลองถูกมาเป็นปีๆ หลังจากปีแรกปุ๊บ เริ่มมีจริงจังมากขึ้น มีการลงทุน มีการซื้อเครื่องไม้เครื่องมือ ให้หลากหลายเยอะขึ้น เพื่อที่จะสามารถสร้างชิ้นงานให้ได้จำนวนเยอะๆ”
สำหรับขั้นตอนในการสร้างสรรค์ผลงานโกศ เขาเล่าว่า มีการใช้เรซิ่น มาหล่อขึ้นแบบ ใช้ทองวิทยาศาสตร์และทองคำเปลวมาลงรักปิดทอง และประดับด้วยเครื่องประดับเพิ่มความระยิบระยับ จนออกมาเป็นผลงานที่สวยงามอย่างที่เห็น
“ขั้นตอนการทำ อันแรกเราต้องหารูปทรงก่อน เราจะสร้างรูปทรงไหน ถ้าเป็นรูปทรงกลม ก็คือสร้างหุ่นไม้ขึ้นมาก่อน พอได้หุ่นตามรูปทรงที่เราต้องการ ขั้นตอนต่อไปก็คือการติดลายลงบนตัวโกศ เลือกลายที่มันสอดรับ ที่มันลงตัวที่สุด ติดลงไปแล้วมันดูสวยงาม
พอติดลายเสร็จ เราก็จะมาถอดบล็อก ทำบล็อกแม่พิมพ์ บล็อกซิลิโคน พอได้แม่พิมพ์บล็อกซิลิโคนเสร็จแล้วเนี่ย เราก็จะมาหล่อชิ้นงาน เราใช้หล่อเรซิ่น พอเราเอาเรซิ่นออกมาปุ๊บ ก็เก็บตกชิ้นงาน เสร็จก็มาทำสี มีการลงสีรองพื้น
พอลงสีรองพื้นเสร็จเรียบร้อย เราก็จะมาสู่ขั้นตอนการลงรักปิดทอง ก็จะมีทั้งทองคำที่เป็นทองคำวิทยาศาสตร์ ทองคำเปลวแท้ พอปิดทองเสร็จปุ๊บ เราก็จะมาประดับตกแต่งด้วยการฝังเพชร ประดับเพชร ประดับคริสตัล
เพชรก็จะมีหลายเกรด เกรดที่เป็นธรรมดา เกรดทั่วไป หรือเป็นเกรดดีเลย อันนี้ก็แล้วแต่ลูกค้าที่จะสั่งมา ว่าต้องการเกรดไหน จะเป็นทองวิทยาศาสตร์ หรือทองแท้ ถ้าทำเป็นทองคำวิทยาศาสตร์ก็จะราคาไม่สูงมาก หรือถ้าเป็นงานทองแท้ ใช้เป็นเกรดดีเลย ราคาค่อนข้างสูง”
[หล่อด้วยเรซิ่น ก่อนลงสีประดับตกแต่ง]
โดยแต่ละชิ้นงาน จะใช้เวลาผลิตสินค้าประมาณ 3 วัน แต่จะไปใช้เวลานานหน่อย ในการสร้างตัวแม่แบบ แม่พิมพ์ หรือตัวบล็อก
“ชิ้นนึงทุกวันนี้ไม่เกิน 3 วันเสร็จ ก็คือเรามีบล็อกแล้ว เราหล่อชิ้นงาน ก็ใช้เวลาไม่นาน ที่นานคือเราใช้เวลาในการสร้างงานต้นแบบชิ้นแรก อันนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน ประมาณ 15-30 วัน งานต้นแบบ ก็อยู่ที่ถ้ามีเวลาว่าง มีเวลานั่งทำก็เสร็จเร็วนะครับ ถ้าได้ต้นแบบแล้ว งานที่หล่อก็จะไม่นาน ประมาณ 3 วัน ก็สามารถโพสต์ขายได้เลยครับ”
จุดขาย “สวยสะดุดตา เกินราคา”
สิ่งที่ทำให้ร้านขายโกศร้านนี้แตกต่างจากที่อื่น จนมีคนทักเข้ามาซื้ออย่างไม่ขาดสาย ช่างผู้สร้างสรรค์ผลงานบอกว่า มีเอกลักษณ์ที่มองแว็บแรกเลย คือต้องสวยสะดุดตา และเป็นงานเรซิ่น ที่ราคาจับต้อง
“ความแตกต่างของงานที่ผมทำ ที่สร้างสรรค์ขึ้นมา อันแรกเลยก็คือในเรื่องของราคาก่อน ก็คือราคาจะไม่ให้มันสูงมาก ราคาที่ทุกคนจับต้องได้ ซึ่งแตกต่างจากงานที่เขาขายตามร้านใหญ่ๆ ที่อยู่ในกรุงเทพฯ อันนั้นราคาก็จะค่อนข้างสูง
แล้วงานเขา น่าจะเป็นการจ้างโรงงานหล่อ จ้างหลายขั้นตอนด้วยครับ ของผมคือจะทำเองทั้งหมดเลยนะครับ ทุกกระบวนการเลย มันก็จะประหยัดในเรื่องของต้นทุนในการสร้างชิ้นงาน ราคาชิ้นงานของเราก็จะไม่แพงมาก อันนี้คืออันแรก
อันที่สองก็คือรูปร่าง รูปทรงของเราก็จะไม่เหมือนกับของร้านอื่นๆ แล้วก็ความแตกต่างอันที่ลูกค้าเห็นปุ๊บ เกิดความสะดุดตา เห็นแล้วสวย เห็นแล้วประทับใจ มีความประณีต ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อเลย”
แม้จะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับงานความอัปมงคล หรืออวมงคล แต่ช่างทำโกศเอง ก็ว่ามองอีกมุมว่า เป็นงานศิลปะที่ทรงคุณค่า เป็นงานหัตถศิลป์ไทยที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์มาก
ความสวยสะดุดตาตรงนี้แหละ ที่ทำได้รับเสียงชื่นชมจากลูกค้าเข้ามาอยู่บ่อยๆ ว่านอกจากความสวยงามแล้ว ราคายังคุ้มค่าเกินราคาอีกด้วย
“feedback จากลูกค้า ก็มีการชื่นชม มีการทักมาหา หลังจากรับสินค้า ว่าสวยมากก็มี มีทักมาบอกว่า สวยเกินราคา ก็ทำให้เรารู้สึกดีใจ แล้วก็ภูมิใจมาก เราเห็นลูกค้าที่เขาซื้อไป แล้วเขามีความสุข ที่เอาไปบรรจุอัฐิของคนที่เขารัก เราก็รู้สึกดีใจด้วยรู้สึกภูมิใจในงานของเรา ที่สามารถสร้างความสุขให้ลูกค้าได้ครับ”
นอกจากนี้ เขายังเล่าถึงความภูมิใจในชิ้นงาน ที่ได้รับเสียงชื่นชมจากลูกค้าอีกว่า เป็นโกศที่ลูกค้าสั่งเข้ามาให้ทำ โดยที่มีรายละเอียดจะค่อนข้างเยอะ ซึ่งชิ้นนั้นจะพิเศษคือ มีการเสริมตัวดอกไม้เข้าไปในตัวโกศ ทำให้สวยงามยิ่งขึ้น จนลูกค้าเกิดความประทับใจ
“ความพิเศษของงานชิ้นนั้น จะอยู่ที่มีการเสริม เสริมตัวดอกไม้ใส่เข้าไป ซึ่งรุ่นก่อนหน้านี้ที่ทำแรกๆ ก็จะไม่ได้เสริมเข้าไป แต่ว่าพอลองเสริมเข้าไปดู มันมีความลงตัว มีความสวย ทำให้งานเรามีความพิเศษขึ้น มีความสวยงามยิ่งขึ้น นี่คือความภูมิใจของเรา ที่สามารถทำแล้ว มีความสวยงาม แล้วก็ประทับใจลูกค้าครับ
ชิ้นนั้นเฉพาะตัวโกศ จะอยู่ที่ราคา 4,900 บาทครับ เป็นงานทองวิทยาศาสตร์ครับ ใช้เวลาทำ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 4 วันครับผม ก็คือรวมขั้นตอนกันหล่อ การทำสี แล้วก็ปิดทอง ประดับเพชร”
ส่วนแนวคิดในการตกแต่งลวดลาย ที่ทำให้สวยงาม สะดุดตา จนลูกค้าที่เห็นแล้ว ต้องทักมาเข้าติดต่อสอบถามซื้อ ช่างทำโกศคนนี้ เขาบอกว่า ทางร้านจะมีลวดลายสวยๆ ให้เลือกอยู่แล้ว
“อันนี้อยู่ที่ความต้องการของลูกค้าด้วยครับ ว่าจะอยากได้ทองคำวิทยาศาสตร์ ทองคำแท้ ถ้าเป็นทองคำแท้ เราก็จะเลือกทองเกรดดีไป ใช้เกรดพรีเมี่ยมเลยครับ พูดง่ายๆ แล้วก็เลือกใช้เพชรที่เกรดเอ มันจะมีความแตกต่าง อย่างเช่นตัวของพรีเมี่ยมของลายโกศเรา ก็คือใช้เพชรแบบเยอะๆ ไปเลย พอเจอไฟเจอแสง มันก็จะมีความระยิบระยับ มีความแตกต่างจากร้านอื่นแน่นอนครับ ก็คือความแตกต่างของที่ผมทำ
ปกติโกศมันก็จะเป็นทรงแบบนี้แหละครับ ทรงกลม ทรงเหลี่ยม แต่ว่ามันอยู่ที่รายละเอียดของตัวงาน ที่อยู่บนชิ้นงาน ตัวที่ทำให้แตกต่าง ลวดลายที่เราตกแต่งลงไป
ส่วนใหญ่ลวดลายเราจะมีตายตัวเป็นของเราเลยครับ หลักๆ ก็คือเราจะส่งแบบไปให้เขาดูก่อน จะถามลูกค้า ว่าจะเอาทองแท้ หรือว่าทองวิทยาศาสตร์ ถ้าเป็นทองวิทยาศาสตร์ ถ้าลูกค้าพอใจ เขาก็แจ้งรูปมาเอาชิ้นนี้ 1 ใบ เก็บปลายทางหรือโอน ก็ส่งให้เลย”
จาก “ห้องดนตรี” สู่ “บ้านทำโกศ”
เขาเล่าว่า ไม่อยากใช้เวลาว่างให้เปล่าประโยชน์ จึงใช้เวลาว่างเว้นจากงานโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นงานสอน หรืองานเอกสารต่างๆ รวมไปถึงเสาร์-อาทิตย์ที่ว่าง หันมาเป็นช่างทำโกศแบบจริงจัง จนสร้างรายได้เสริมกำไรงาม
“ช่วงเวลาว่างในการทำ ก็จะเป็นช่วงที่ว่างจริงๆ หลังจากเลิกเรียนแล้ว แล้วก็ช่วงเสาร์-อาทิตย์ ที่ว่างเว้นจากงานโรงเรียนงานเอกสาร ของทางโรงเรียนแล้ว แล้วก็ช่วงปิดเทอม ช่วงปิดเทอม ก็จะมีเวลาเยอะหน่อย
ช่วงเวลาในการทำโกศของผม ก็จะเป็นอาศัยช่วงหลังเลิกเรียน ที่เสร็จงานภารกิจ งานเอกสารของโรงเรียนแล้ว แล้วก็ช่วงเสาร์-อาทิตย์ ที่ไม่ได้ไปไหน เวลาว่างก็จะมาทำ แล้วก็เป็นช่วงที่ปิดเทอม ก็จะมีเวลาค่อนข้างเยอะ อันนี้ก็จะเป็นช่วงเวลาที่ว่างมากๆ ก็ทำยาวเลยช่วงปิดเทอม
ตามจริงถ้ารายได้หลักก็ของการอาชีพเป็นครูก็เยอะ ก็คือมันจะเพิ่มไปเรื่อยๆ แต่ว่าผมไม่ได้มองเรื่องเกี่ยวกับรายได้ ผมมองในเรื่องความชอบส่วนตัวมากกว่า ทำแล้วมันมีความสุขครับ ผมไม่รู้ว่าจะปล่อยเวลาว่างให้มันเสียประโยชน์ไปทำไม คือหางานที่มันสามารถสร้างรายได้เสริม แล้วก็เป็นการอนุรักษ์ความเป็นไทยไว้ด้วย แล้วก็มีการต่อยอด แล้วก็มีการเผยแพร่ สอนความรู้ให้กับเด็กและเยาวชนด้วย อันนี้เป็นเรื่องที่ผมมองมากกว่าเรื่องรายได้”
ส่วนเรื่องรายได้ที่เข้ามานั้น เขาบอกว่า ยอดสั่งซื้อต่อเดือนที่เข้ามา ช่วงพีคสุดๆ ก็ขายได้เกือบเดือนละ 20 ใบ ซึ่งรายได้แต่ละเดือนก็ไม่แน่นอน แต่ว่าในแต่ละเดือน ก็มีเข้ามาอยู่เรื่อยๆ
“ช่วงแรกๆนะครับที่ทำยอดขายได้ค่อนข้างเยอะ ตอนนั้นน่าจะเกือบ 20 ใบต่อเดือนได้ ตอนนั้นคือสามารถยิงแอดไปกลุ่มเป้าหมายได้กว้างมาก หลังๆ เหมือนเฟซบุ๊กมันจะปิดกั้น เหมือนกลุ่มเป้าหมาย มันจะทำให้ยอดขายมันค่อนข้างที่จะไม่เยอะเท่าตอนแรกครับผม แต่ว่าก็ได้เรื่อยๆ คือมันไม่แน่นอนครับ บางเดือนก็ 1-2 ชิ้นก็มี
รายได้งามครับผม ก็ถือว่ารายได้ค่อนข้างดีเลย รายได้เสริมต่อเดือน เฉลี่ยก็อยู่ที่ 10,000 บาท ถึง 25,000 บาท ครับผม คร่าวๆ ถ้าคิดว่าจะทำเป็นอาชีพหลักสามารถทำได้เลย เป็นอาชีพที่คนทำน้อย ไม่ค่อยมีคนทำ เนื่องจากเป็นงานที่ใช้สำหรับอวมงคล คนก็ไม่ค่อยนิยมทำกัน
ถ้าสามารถทำเป็นอาชีพเสริมสามารถทำได้เลย เพราะรายได้ค่อนข้างดีกำไรก็ดี แต่ว่าทุกขั้นตอนต้องมีความอดทน มีความละเอียด มันต้องใช้ขั้นตอนในการทำค่อนข้างเยอะครับ ต้องมีความละเอียด ความประณีต”
ราคาโกศในท้องตลาด ช่างทำโกศคนนี้ เขาก็บอกว่า มีตั้งแต่ราคาต่ำ ไปจนถึงราคาสูงๆ หลักแสนเลยก็มีเหมือนกัน ทั้งนี้ ก็อยู่ที่วัสดุในการสร้างสรรค์ ถ้าจะเป็นงานไม้สัก ราคาก็จะสตาร์ทที่ 3-4 หมื่น ยิ่งถ้าเพิ่มรายละเอียดขึ้นไปเยอะๆ ใช้เพชรที่ดีๆ มีเสริมลายเข้าไปด้วย เติมสีสันเข้าไป ก็ราคาสูงขึ้นไป
ทางร้านเอง ก็มีขายราคาตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งโกศที่ขายดีที่สุด ก็จะเป็นสีทอง และทางร้านนี้เอง ก็จะเน้นทำเป็นสีทองเช่นกัน
“จากชิ้นแรกที่โพสต์ไป ตอนแรกๆ ก็ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากครับผม พอเริ่มมีการโพสต์ มีการส่งสินค้าออนไลน์ เวลาส่งสินค้า ผมก็จะโพสต์ว่า ส่งปลายทางจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ ก็จะเริ่มมีคนแชร์ แล้วก็มีคนติดตามเพิ่มมากขึ้น หลังๆ ก็ขายได้เรื่อยๆ ครับ เดือนนึงก็หลายใบครับผม มีการสั่งเข้ามาเรื่อยๆ ครับ
เริ่มต้นโกศชิ้นนึง ราคาต่ำสุดตอนนี้ อยู่ที่ 2,500 บาท เกรดพรีเมี่ยม ราคาอยู่ที่ 25,000 บาท เกรดที่เป็นเกรดงานทองแท้ ก็ฝังเพชรเกรด A อยู่ที่ขนาดด้วย ใช่ครับ แล้วก็อยู่ที่ความยากง่ายของงานด้วยครับ รายละเอียดของงาน ก็จะไม่เยอะเท่างานราคาสูง
เป็นโกศสีทองเนี่ยแหละครับ ที่ขายดีในปัจจุบัน เคยเห็นร้านอื่นที่ทำสีอื่น แต่ว่าที่ร้านยังไม่ได้ทำครับผม เพราะว่าลูกค้าส่วนใหญ่คือชอบสีนี้ครับ ไม่เคยเจอลูกค้าที่ถามว่า ทำสีขาวบ้างไหม สีอื่นบ้างไหม อันนี้ยังไม่เจอ เราทำสีทอง ตอบโจทย์ลูกค้ามากกว่าครับ”
ล้างความเชื่อ “ธุรกิจอวมงคล”
เป็นที่รู้กันว่าโกศ เป็นชิ้นงานที่จะใช้ในงานอวมงคลอย่างงานศพเท่านั้น ทำให้หลายคนเชื่อว่าการทำชิ้นงานประเภทนี้ อาจนำสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิต ทำให้มีเสียงค้านเข้ามาอย่างหนาหู ว่าไม่ควรทำอาชีพนี้ เพราะกลัวว่า คนทำอาจจะได้รับแต่สิ่งไม่ได้ในชีวิต
แต่ส่วนตัวเขากลับไม่ได้สนใจในคำพูดเหล่านั้น กลับมองเพียงว่า “งานโกศ” ถือเป็นงานศิลปะแขนงหนึ่ง ที่ต้องมีใจรัก ต้องใช้ฝีมือ และต้องมีความอดทนสูงมาก ถึงจะสามารถทำงานพวกนี้ได้
“ความเชื่อโบราณ แถวๆ บ้านผมเนี่ย ถ้าทำอะไรเกี่ยวกับงานอวมงคล หรือเป็นงานศพ เป็นดอกไม้จันทน์ พวงหรีด ทำหีบศพ ชาวบ้านเขาจะมองทันทีว่ามันเป็นของที่ไม่ดี เป็นอวมงคล ทำปุ๊บ ผู้เฒ่าผู้แก่ก็จะเริ่มติ ว่ามันไม่สมควรที่จะเอามาทำนะ อาจจะมีคนตายในบ้านได้ อาจจะเกิดความอัปมงคลได้ ถึงแก่ชีวิต ชีวิตทุกวันนี้คลุกคลีอยู่กับโกศทุกวันเลย ไม่มีเรื่องอาถรรพ์พวกนี้ครับ ไม่เคยเจอครับ
ตอนแรกๆ ก็รู้สึกตกใจเหมือนกันครับ กลัวเหมือนกันว่ามันจะทำให้ชีวิตเราอายุสั้นไหม หรือว่าคนในครอบครัวเราจะมีการเสียชีวิตไหม หรือว่าเป็นอะไรไหม แต่พอหลังๆ มา เราเริ่มไม่สนแล้ว เริ่มทำไป แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร ก็คือไม่สนใจคำพูดคนเฒ่าคนแก่สักเท่าไหร่ ก็คือเริ่มทำเลย
แต่สำหรับผมคิดว่า มันเป็นงานศิลปะ งานหัตถศิลป์ไทยที่ทรงคุณค่า มันมีการใส่รายละเอียดเรื่องความเป็นไทยลงไป ในชิ้นงาน คนทำน้อยด้วย ถ้าเป็นโกศทั่วไป ที่ขายตามร้านสังฆภัณฑ์ทั่วไป จะเป็นโกศงานพลาสติก งานทองเหลือง อันนั้นก็จะเป็นที่ผลิตในโรงงาน แต่ว่าของเราเป็นงาน handmade ทุกชิ้นเลย ทุกชิ้นทำด้วยมือ ไม่ได้มีสั่งจากโรงงาน”
ที่สำคัญเลย ครอบครัวเขาก็ไม่เห็นด้วย กับการที่เป็นครูอยู่ดีๆ แล้วหันมาทำอีกอาชีพ คือการเป็นช่างทำโกศ ทั้งยังมีเสียงตำหนิจากพ่อแม่ด้วย แต่พอทำไปได้สักพัก เขาก็เริ่มทำให้เห็น ว่ามันสามารถสร้างรายได้เข้ามาจริงๆ พ่อแม่ก็เริ่มเปิดใจยอมรับในสิ่งที่ลูกชายทำ
“ตอนแรกคุณพ่อคุณแม่ ก็ไม่เห็นด้วย จะทำทำไม มันจะขายได้หรือเปล่า ทำไปก็ไม่มีคนมาซื้อ ไม่ต้องทำหรอก ก็คือความเชื่อโบราณตามที่ผมเล่าไปตอนแรกนั่นแหละ ก็คือไม่อยากให้ทำมันเป็นอาชีพที่เกี่ยวกับความตาย ท่านกลัวว่ามันจะไม่ดีต่อชีวิตอะไรสักอย่าง
แต่หลังๆ พอทำแล้วปุ๊บ เออ..มันมีผลตอบรับดี มันสามารถขายได้จริง แล้วก็รายได้ส่วนหนึ่งก็ส่งไปดูแลท่าน ท่านก็โอเค ทำเลย ท่านก็บอกให้ทำต่อไปได้เลย อันนั้นอาจจะเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ว่าเรา เออ..สามารถทำได้จริง แล้วก็สามารถขายได้นั่นแหละ คือจุดเปลี่ยนความคิดท่าน
แรกๆ ผมไม่กล้าเอากลับไปทำที่บ้าน หลังๆ ช่วงปิดเทอม ถ้ามีโอกาสได้กลับบ้าน ก็จะขนโกศไปด้วย ไปนั่งทำในบ้านเลย ต่อหน้าท่านเลย”
จากตอนแรกที่ห้ามไม่ให้ทำ กลายเป็นว่าตอนนี้ ได้รับเสียงชื่นชม และคำที่คอยให้กำลังใจจากพ่อแม่อยู่เป็นประจำ
“ท่านก็ชื่นชม ที่สามารถสร้างรายได้ แล้วก็คือเงินส่วนนึง ก็ส่งไปให้ ก็ได้รับคำชื่นชมมา ว่าเก่งนะ ก็รู้สึกภูมิใจตรงนี้ครับผม”
ถูกมองข้าม เพราะความตาย
ธุรกิจหลังความตาย อย่างเช่นการทำโกศ อาจไม่ใช่อาชีพที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน แต่ก็เป็นธุรกิจที่จำเป็นที่ต้องมีเช่นกัน นอกจากใจรักในงานนี้แล้ว เขายังมองว่า ตลาดนี้ มีการแข่งขันน้อย เนื่องจากหาคนทำงานฝีมือชนิดนี้ได้ยาก จึงทำให้มองเป็นโอกาส และช่องทางในการทำรายได้จากชิ้นงานได้มากขึ้น
“มันเป็นสิ่งที่ใช้สำหรับประกอบพิธีในงานศพด้วย มันจำเป็นต้องใช้ด้วย เพราะว่าพอมีคนตายปุ๊บ เขาอาจจะต้องถามหาแล้ว ว่ามีโกศบรรจุอัฐิหรือยัง ซื้อโกศหรือยัง ซื้อไปใส่อัฐิไว้ที่บ้าน หรือไปใส่ที่วัด อะไรอย่างนี้ครับ คนก็จะต้องถามหาแล้ว ว่ามีโกศหรือยัง ผมก็มองตรงนี้ด้วยว่ามันจะต้องใช้ในระยะยาว
อนาคตเกี่ยวกับธุรกิจนี้ ผมคิดว่า มันยังไปได้อีกไกลครับ สามารถต่อยอดได้อีกเยอะเลย ซึ่งยิ่งเป็นงานศิลปะด้วย งานพุทธศิลป์พวกนี้ด้วย สามารถต่อยอดได้เยอะนะครับ
สิ่งที่มองเห็นแรกๆ มันไม่ค่อยมีคนทำ แล้วก็งานที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไป มันไม่ใช่งานที่มันเป็นงาน handmade แบบนี้ เป็นงานทั่วไปที่ไม่ได้มีรายละเอียด ก็คือมันเป็นงานเรียบๆ ทั่วไป แต่งานที่ผมทำ เป็นการสร้างสรรค์ผลงาน ที่ค่อนข้างยาก หาคนทำได้ยาก แล้วก็คนทำน้อยครับ”
นอกจากมองเห็นโอกาสตรงนี้แล้ว ในอนาคต เขายังอยากต่อยอดทำงานเกี่ยวกับงานพุทธศิลป์ด้านอื่นๆ อีก และยังมีความคิดว่า นอกจากขายออนไลน์แล้ว อนาคตอาจจะเปิดเป็นหน้าร้านด้วย
“นอกจากโกศ ตอนนี้ที่คิดวางแผนไว้ เป็นงานพุทธศิลป์ชิ้นอื่นๆ ก็จะเป็นผอบเจดีย์ เป็นฐานวางพระพุทธรูป อาจจะเป็นพวกแจกัน พาน พวกนี้ครับผมที่วางแผนไว้ครับ
อนาคตก็อยากมีเป็นหน้าร้าน มีความใฝ่ฝันอยู่ครับ อยากมีเปิดเป็นหน้าร้านด้วย แล้วก็ขายควบคู่กับออนไลน์ด้วย การขายออนไลน์ตอนนี้ก็ถือว่าโอเคอยู่ครับ ขายได้เรื่อยๆ
ผมคิดว่าออนไลน์น่าจะขายได้ดีกว่าหน้าร้านด้วยซ้ำ เพราะเราสามารถโพสต์ปุ๊บ คนก็จะสามารถเห็นได้ทันทีเลยนะครับ ไม่ต้องเดินทางมาเลือกซื้อถึงหน้าร้าน อาจจะทั่วถึงมากกว่า”
สอนฟรีด้วยใจ สืบสานศิลป์ไทย
นอกจากสร้างรายได้เสริมให้กับตัวเองแล้ว ครูเจมส์ยังแบ่งปันรายได้ ด้วยการจ้างเหล่าบรรดาลูกศิษย์ที่อยากมีรายได้เสริมระหว่างเรียน
พร้อมกับแบ่งปันความรู้ เปิดสอนฟรี สืบสานงานฝีมือให้กับเด็ก เยาวชน และชาวบ้าน ในละแวกนั้น หรือใครที่สนใจ เพื่อให้มีอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ก็สามารถเข้ามาเรียนรู้กับครูเจมส์ได้
“แรกๆ คือผมทำคนเดียวทั้งหมด แต่ว่าหลังๆ จะเริ่มปล่อยแล้ว เริ่มมีการให้เยาวชนให้ศิษย์เก่าเข้ามาเรียนรู้ เพื่อที่จะได้เป็นรายได้เสริม ช่วงหลังเลิกเรียน หรือว่าเสาร์-อาทิตย์
เวลาเอาชิ้นงานไปทำที่บ้าน เราก็จะหาเด็กๆ แถวบ้าน มาช่วยติดเพชร เพราะว่าโกศใบนึง มันติดเพชรค่อนข้างเยอะ หลายเม็ด แล้วก็ให้ใช้เวลาติดประมาณครึ่งชั่วโมงใบนึง ก็คือถ้ามีลูกค้าสั่งมาเยอะ เราก็จะเอากลับไปบ้าน แล้วก็เกณฑ์เด็กๆ ที่อยู่แถวบ้าน มาช่วยกันทำงานติดเพชรครับ เด็กๆ ก็มีรายได้ด้วย
จ้างนักเรียนด้วย คือให้มาทำที่โรงเรียนนี่แหละ คือทำที่บ้านพักครู ก็คือเราจะมีหน้าที่คอยชี้แนะ ยืนดูอยู่ห่างๆ ว่าทำตรงนี้ ทำแบบนี้ ก็คือสอนไปด้วย พอหลังจากที่สอนไประยะนึง ก็สามารถปล่อยให้เขาหล่อชิ้นงาน สร้างชิ้นงานได้เองเลย เราก็มีหน้าที่ตรวจรายละเอียดของชิ้นงานว่ามันสมบูรณ์ไหม ถ้ามันไม่สมบูรณ์ ก็เก็บรายละเอียดครับ ทุกวันนี้ก็คือ มีลูกศิษย์เข้ามาทำด้วยประมาณ 10 คนครับ เข้ามาเรียนรู้งาน
ก็มีการสอนให้เยาวชนในหมู่บ้าน บางคนเขาอยู่บ้านเฉยๆ เขาอยากมีรายได้เสริม เขาก็เข้ามาติดต่อสอบถาม ว่าครูมีอะไรให้หนูทำไหม พอดีว่าง ไม่มีงานทำผม ก็แบ่งงานให้ไป เขาก็มาเรียนรู้งาน ถึงเวลาปุ๊บ ก็นัดหมายให้เอางานมาส่ง
แล้วก็มีคนเขาติดต่อเข้ามา สนใจที่จะเรียนรู้ ก็สามารถติดต่อเข้ามาได้เลย ตอนนี้คือยังไม่ได้เปิดสอนอย่างเป็นทางการนะครับ แต่ถ้าใครอยากเข้ามาเรียนรู้ ก็มาเรียนรู้ได้เลย ยังไม่มีค่าใช้จ่ายครับ มาเรียนรู้ขั้นตอนการทำ ขั้นตอนการหล่อ ว่ามันหล่อยังไง สร้างชิ้นงานขึ้นมายังไง อันนี้ยินดีสอนให้ฟรีครับ”
นอกจากสอนให้ฟรีแล้ว อนาคตครูเจมส์ยังบอกอีกว่า อาจจะมีการต่อยอด เปิดคอร์สสอน แบบคิดค่าใช้จ่าย ให้คนที่อยากลงเรียน และทำอาชีพนี้แบบจริงจัง
“ในอนาคตก็คิดว่า อาจจะเปิดคอร์สสอน ให้เยาวชน หรือว่าคนที่สนใจเข้ามาเรียนกับผม ก็มีวางแผนไว้เหมือนกันครับ แต่ว่าอาจจะนานสักหน่อย ตอนนี้ก็คือเตรียมความพร้อมในหลายๆ เรื่อง ให้มันมีความพร้อมเยอะกว่านี้ก่อนครับ
สำหรับคนที่มีความสนใจ อยากเข้ามาศึกษา เรียนรู้ในเรื่องของงานทำโกศ อันแรกเลยต้องมีใจรักก่อน ใจรักเกี่ยวกับงานศิลปะ งานแขนงนี้ก่อน อันที่สองคือต้องมีความอดทน งานศิลป์พวกนี้ต้องใช้ความอดทนค่อนข้างสูง ซึ่งถ้าไม่มีใจรักไม่มีความอดทน ก็จะไม่สามารถทำงานแขนงนี้ได้ เพราะว่างานต้องใช้สมาธิค่อนข้างสูงครับ
ก็อยากจะให้อนุรักษ์ร่วมกัน เนื่องจากมันเป็นศิลปะของชาติไทย ซึ่งมีคุณค่ามาก คือมันไม่ค่อยมีคนทำครับ คนทำน้อย ก็อยากให้สืบสานอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไปครับ”
ดูโพสต์นี้บน Instagram
@livestyle.official ความชอบฉายชัด มาตั้งแต่ชอบ "เล่นเผาศพ" @jamesanuwit "รายได้งามครับ ต่อเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000-25,000 บาท ทำเป็นอาชีพหลักได้เลย"... . #LIVEstyle #LIVEstyleofficial #ข่าวTikTok #โกศ #โกศอัฐิ #โกศเรซิ่น #โกศโบราณ #โกศไม้สัก #ธุรกิจ #SMEs #อายุน้อยร้อยล้าน #ชี้ช่องรวย #เถ้าแก่น้อย #ลายไทย ♬ original sound - LIVE Style
สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : พัชรินทร์ ชัยสิงห์
คลิป : ชยพัทธ์ พวงพันธ์บุตร
ขอบคุณภาพ : Facebook “โกศเรซิ่น โกศไม้สัก ปิดทองลงยาประดับเพชร ปลีก - ส่ง”, “James Anuwit”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **