xs
xsm
sm
md
lg

สร้างเพื่อลูกจนไวรัล!! “รูปปั้นลิซ่า” จาก “3D มือเทพ” ของวงการ [มีคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



งานปั้นระดับเทพ รูปปั้น “ลิซ่า BLACKPINK” แบบ 3 มิติ สวยจึ้งสะกดตาอย่างกับตัวจริง ผลงานที่มี “ลูกสาว” เป็นแรงผลัก จากนักปั้นโมเดลมืออาชีพ เลยกลายเป็นศิลปินคิวทอง หลังเปิดตลาดไอดอล





สนอง need ลูก “อยากมี พี่ลิซ่า ที่บ้าน”

“จุดเริ่มต้นรูปปั้นลิซ่า ก็มาจากลูกสาวครับ ลูกสาวเขาชอบเต้น ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ชอบ BLACKPINK ทุกคน แต่พอเขารู้ว่าพี่ลิซ่าเป็นคนไทย เขาก็เลยชอบเป็นพิเศษ

พอเขาเห็นพี่ลิซ่าอย่างในซีนนี้ ไม่มีใครปั้นฉากนี้เลย ผมปั้นฉากนี้นอกจากน้องเขาชอบแล้ว คนไทยส่วนนึง ก็น่าจะชอบแน่นอน”

“เอ-นรายุตติ์ ดอกไม้หอม” ช่างปั้นประติมากรรม วัย 44 ปี ที่กำลังกลายเป็นไวรัลไปทั่วโซเชียลฯ หลังจากปั้นภาพผ่าน 3D แล้วได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ทำเอาคนฮือฮา แห่แชร์กันหลักหมื่นเพียงไม่กี่ชั่วโมง คนชมว่าเหมือนมาก สวยมาก จึ้งมาก และแล้ววันนี้ ก็ได้เห็นผลงานโมเดลรูปปั้นจริงออกมา ก็เรียกได้ว่าสวยไม่แพ้กันเลยทีเดียว

จุดเริ่มต้นแรงบันดาลใจรูปปั้นลิซ่าในครั้งนี้ เขาเล่าว่า มาจาก “น้องยูมิ” ลูกสาววัย 5 ขวบเหตุผลที่ปั้น เพราะลูกสาวชื่นชอบลิซ่ามาก ชอบเต้น ชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็ก จนได้มาเห็น MV LALISA ของพี่ลิซ่า ในซีนที่ใส่ชุดไทย แล้วไปสะดุดตาเข้าให้ ซึ่งซีนนี้ก็ดันไปคล้ายกับตัวเองตอนที่ใส่ชุดรำไทย ในงานโรงเรียน 

และบวกกับลูกสาวเคยเล่นแอพพลิเคชันที่สามารถโทรหา ลิซ่า BLACKPINK ได้ ก็มาพูดกับพ่อ ว่าอยากให้พี่ลิซ่ามาอยู่ที่บ้านด้วย คุณพ่อก็เลยจัดให้ลูกสาวสมใจ ด้วยการปั้นหุ่นให้แทน

ซึ่งผลงานสุดเนี้ยบนี้มาจากร้าน “RockstarStudio” ได้วาด 3D ในคอมพิวเตอร์ก่อน โดยวัสดุที่ใช้จะเป็นเรซิ่น แล้วมาทำสี









“เราก็ปั้นงานแนวนี้อยู่แล้ว ปั้นภาพเหมือนอะไรอย่างนี้ ถ้าน้องชอบ เราก็ปั้นซีนที่น้องเขาชอบเลยแล้วกัน ก็ไปหาดูในอินเทอร์เน็ต ซีนนี้ก็ไม่มีใครปั้น คนไทยเข้ากันเลยซีนนี้ แล้วผมก็ทำงานพุทธศิลป์ มันเหมาะเจาะเลย พวกพุทธศิลป์ ลวดลาย เราทำได้อยู่แล้ว

ก็เป็นแรงบันดาลใจให้น้องเลยแล้วกัน ตั้งไว้เผื่อเขาจะได้เป็นแบบพี่ลิซ่า หรืออนาคตเขาเป็นยังไงเราไม่รู้หรอก เขาอาจจะชอบอะไรก็แล้วแต่ แต่ตอนนี้เขาชอบแบบนี้ ก็เอาไว้เป็นพลังให้เขา

เขาก็ไปบอกเพื่อนที่โรงเรียนว่าพ่อปั้นพี่ลิซ่านะ ก็ตามประสาเด็ก ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรหรอกนะ มีคลิปอยู่ตอนนั้นก็ถ่ายเล่นๆ กัน อยากให้พ่อปั้น BLACKPINK ที่เขาพูดในคลิป แล้วเขาชอบ BLACKPINK ชอบลิซ่า ชอบเต้นมาก ชอบไปแอบเต้น พอปั้นอันนี้เสร็จ เพลง ROCKSTAR ก็เพิ่งออกมา”

[น้องยูมิ ลูกสาววัย 5 ขวบ ที่เป็นแรงผลักจนผลงานเป็นไวรัล]
Inbox แตก คนดังแห่จองคิว

อย่างที่บอกไปว่า ผลงานชิ้นนี้นั้นเรียกได้ว่าสวยสะดุดตาสมจริง จนคนแห่แชร์กันหลักหมื่นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ศิลปินกลายเป็นที่รู้จักและโด่งดังขึ้นมาในทันที

“โพสต์ไปก็ตกใจมากชั่วโมงนึง 300 แชร์ แล้วก็มาเป็นพัน ไม่เคยมีมาก่อน อย่างมากก็แค่ไลก์เป็นพันก็มีแต่งานอื่นๆ แต่ลิซ่าตอนนั้นแชร์เป็นหมื่นเลยครับ ผมก็งงว่าแชร์อะไรเป็นหมื่น ผมก็เห็นเพจที่เอาไปลงกัน ก็เยอะเป็นหมื่นเหมือนกัน รู้สึกตกใจมากกว่า ทำไมมันไปได้ขนาดนี้ เพราะว่ากระแสเพลง LALISA ก็ออกมานาน

เราก็ปั้น โดยที่ไม่ได้สนใจว่ามันจะมีกระแสอะไร ปั้นออกมาเฉยๆ อยากปั้นให้ลูกก็แค่นั้น ไม่ได้คิดเลย เพราะเราโพสต์มาเป็น 10 ปี แล้วติดแฮชแท็ก BLACKPINK ลิซ่า BLACKPINK แล้วก็ติดโลโก้ RockstarStudio หลังจากนั้นน้องเขาก็มาเพลง Rockstar อีก ผมก็เออ..บังเอิญมากๆ

ตอนนี้ก็มาเป็นกระแสที่เพลงเขาออกมาอีก เพลงของเขา Rockstar บางคนก็มาพิมพ์บอกว่าพี่สปอยล์ชื่อเพลงเขามาตั้งนานแล้วนะ ก็ตลกกันไปครับ

ส่วนใหญ่ผมจะโพสต์ในเฟซส่วนตัวก่อน แล้วก็จะไปโพสต์ในเพจ เพราะว่าเพจผมต่างชาติเยอะ คนไทยจะไม่ค่อยมี คนที่ซื้องานผมส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติ ถ้าในเฟซผมก็จะโพสต์เล่นบ้าง ถ้าในเพจก็จะโพสต์งานจริงจัง ทำไปก็โพสต์ไป

ผมก็มองว่ามันเป็นเรื่องใหม่ประมาณนึง ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นคนดังอะไรขนาดนั้น เพราะว่าวงการปั้นไม่ได้มาดังเหมือนณเดชน์อะไรอย่างนั้น ก็แค่คนปั้นงานประติมากรรม สำหรับผมก็เฉยๆ ก็ทำต่อไปครับ ทำให้งานมันดีต่อไป ก็สนุกไปกับมัน มีความสุขในงานที่ทำ ก็โอเคแล้ว”




ยอมรับว่าคาดหวังว่าอยากจะให้ลิซ่าได้เห็นฝีมือคนไทย แต่เขาก็บอกว่า ประเด็นหลักไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น แต่อยู่ที่อยากทำให้ลูกสาวแค่นั้นเอง

“ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเขารู้หรือยัง แต่ในความคิดผม เขาก็น่าจะเห็น เพราะว่ามันก็ไปไกลอยู่ขนาดนั้น แต่เขาอาจจะชอบพวกงานอาร์ตทอยหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ พวกลาบูบู้หรือเปล่า

ถ้าถามว่าคาดไหม มันก็คาดหวังอยู่นะ ว่าเขาได้เห็นคนไทยที่ทำงานพวกนี้ได้ มันก็จะทำให้คนหันมาเห็นว่า คนไทยสามารถทำงานพวกนี้ดีๆ ได้นะ แล้วลิซ่าเขาก็เป็นคนไทยด้วย แต่ว่าประเด็นหลักมันก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้น ประเด็นหลักมันก็จะทำให้ลูกสาวอยู่แล้ว”


พอผลงานกลายเป็นไวรัล แน่นอนสิ่งที่ตามมีก็คือคิวงานที่แน่นสุดๆ จนมีคนจองข้ามไปถึงปีหน้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งยังมีคนต่อคิวรอปั้นงานอีกเพียบ นอกจากนี้ ยังมีคนมาเสนอราคา ขอซื้อรูปปั้นลิซ่าอีกด้วย

“อย่างแรกที่ถาโถมเข้ามาคือ inbox งานเพียบเลยครับ ตอนนี้ก็ยังตอบไม่หมดเลยเยอะมาก เพราะว่าไม่กล้าตอบบางคน เขาจะจ้างงาน ผมก็ไม่มีคิวให้ เพราะตอนนี้คิวมันจะไปถึงปีหน้าเลยครับที่ผมทำอยู่ เพราะปกติงานผมมันก็เยอะอยู่แล้ว ผมทำงานให้พวกโรงงาน งานก็มีเข้ามาตลอด มันเยอะอยู่แล้ว แล้วก็พอมันดังขึ้นมา เราก็ไม่สามารถจัดคิวให้เขาได้ มันก็เลยแบบ จะตอบดี หรือไม่ตอบดี

ตอนที่มันดังคน inbox เข้ามาเยอะมาก อันที่ตอบไปแล้วให้แฟนช่วยตอบก็เยอะอยู่แล้ว ผมว่าน่าจะเป็นพันข้อความได้ครับ
รูปลิซ่าส่วนใหญ่ก็ขอซื้อกันเยอะ มีแสนห้า สองแสนห้า ห้าแสน แล้วก็ให้ใส่ตัวเลข อยากได้เท่าไหร่ ผมก็บอกว่าขายไม่ได้ครับติดลิขสิทธิ์ แล้วก็ทำให้น้องด้วย ก็ไม่ได้ขาย

ตอนนี้ก็มีงานจ้างจากคนดังด้วย เขาไม่ให้บอกครับ เขาจะให้เราบอกอีกทีตอนที่งานเสร็จแล้ว เป็นงานรูปปั้นครับ มีดารามาหลายคนครับ เป็นภาพเหมือนของเขา ปั้นจากภาพนิ่ง เขาก็จะส่งมาเลยครับ จะส่งพวก reference ที่เขาอยากได้ ท่านี้ หน้าอย่างนี้ เดี๋ยวก็น่าจะได้เห็น ให้ผมทำเสร็จก่อน ทั้งไทย ทั้งเทศครับ

มีประมาณแบบว่า ถ้าทำแล้วโอเค เรามาคุยกัน เราจะแบ่งอะไรยังไง เราจะทำขายกันดีไหม ตอนนี้ก็มีอยู่ แต่ยังไม่ได้บอกใครนะ”






ปั้น 3D ใช้วัสดุเรซิ่น

นักปั้นคนดัง เล่าถึงขั้นตอนกว่าจะได้รูปลิซ่าชิ้นนี้ออกมา ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะแต่ละขั้นตอนก็มีความยากง่ายที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะส่วนหน้า

“หลักการปั้นมันก็คล้ายๆ กับเราปั้นมือดินน้ำมัน แต่ไปปั้นบนคอมฯ ใช้ปากกาในการปั้นขึ้นมา ยืดตรงโน้นยืดตรงนี้ได้หมด หลักการมันก็เหมือนกับเราปั้นมือประมาณนั้น แต่มันก็ไม่เลอะมือ ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วย

ไม่ได้ออกแบบกับกระดาษครับ เปิด MV แล้วก็หยุดในซีนนั้น ท่านี้ผมแคปมา มันมาแค่ 2 วินาที ก็ได้ตอนที่เขาจะอ้าปาก แต่ผมมองว่ามันก็จะไม่ค่อยสวยถ้าปั้นออกมาตอนอ้าปาก ผมก็จะดัดแปลง ส่วนด้านหลังถ้าเรามาดูกันจริงๆ มันไม่ได้เหมือนเป๊ะใน MV นะ แต่เค้าโครงทุกอย่างใช่ แต่ผมเพิ่มเติมเข้าไปเยอะมากในแบบของเรา มีดอกไม้ใน MV อะไรเขาก็ไม่มีอย่างฐานด้านหลัง ด้านล่างไม่ใช่เลยครับ ไม่มี ผมก็ใส่พวกลายไทยเข้าไป

มันมองยากครับแค่เว็บเดียว ผมก็มาทำใหม่หมด อย่างด้านหลังก็ไม่ได้เป็นแบบนี้นะ ด้านหลังของเขาน่าจะเป็นหิน ไม่ได้เป็นฉลุแบบนี้ ผมก็ดีไซน์ใหม่ให้เป็นแบบนี้ ผมว่ามันน่าจะสวยกว่า สำหรับผมนะ ผมก็เลยลองทำดู แล้วมันก็ยากด้วย ก็ได้เป็นการฝึกตัวเองในการทำงานพวกนี้ไปด้วย

ตอนที่ผมทำน่าจะประมาณ 2 อาทิตย์ ปั้นหน้าเอาไป 1 อาทิตย์เลยแล้วกัน ออกแบบก็คือผมจะออกแบบในโปรแกรมปั้นเลย ปั้นหน้าก่อน ส่วนที่ยากสำหรับผมนะ ผมว่าก็คือหน้า เพราะหน้ามันสำคัญ ถ้าไม่สวยนี่ก็คือจบเลย หน้าเสร็จก็ตัวก่อน แล้วก็มาฐานทีหลังครับ ฐานสำหรับผมก็ไม่ได้ยากมาก เพราะว่าผมทำงานพวกพุทธศิลป์อยู่แล้ว อย่างพระพุทธชินราชที่ทำมันก็ยาก ยากจริงๆ


ปั้นผู้หญิงจะยากกว่าปั้นผู้ชาย เพราะว่าผู้หญิงในรูปที่เราเห็นส่วนใหญ่เขาจะแต่งหน้ากัน แต่หน้าสดเขาจะไม่ค่อยเห็น ยากมากที่จะเห็นผู้หญิงหน้าสด แล้วเราก็จะไปหารูปลิซ่าตอนที่หน้าสุด ซึ่งมันก็หายาก แล้วก็ส่วนตาน่าจะยาก เพราะว่าผมว่าหน้าสดกับตอนแต่งหน้า มันคนละอย่างกัน

การที่เราเอาภาพที่เป็นผู้หญิงแต่งหน้ามาปั้น พอให้ช่างเพนท์ทำ มันก็อาจจะไม่เหมือนก็ได้ เราก็ต้องหาภาพลิซ่าที่เป็นหน้าสดจริงๆ มาทำก่อน แล้วก็ปั้นตัวลงมาเรื่อยๆ แล้วก็ปั้นชุดไทยพวกเครื่องประดับอะไรต่างๆ แล้วก็ตามมาด้วยฐานแท่นนั้น เพราะผมคิดว่าฐานสำหรับผมมันง่ายสุดกว่าพวกส่วนตัวอนาโตมี่ หรืออะไรต่างๆ ของเขามันยากกว่า หัวเข่า ขา น่อง

มันมีส่วนที่ผมใส่ลงไป อย่างไฝ เพิ่งมาใส่ทีหลังนะ เพราะผมไม่รู้ว่าน้องเขามีไฝอยู่ที่หน้า ลูกสาวก็ไม่รู้หรอกเพราะว่าเขายังเด็ก ก็มีแฟนคลับที่ผมลงเป็นไวรัล มาบอกว่าน้องมีไฝตรงนี้นะ ผมก็ทำเพิ่มมานิดนึง อย่างเส้นเอ็น ถ้าน้องช่างเพนท์เขารู้สึกว่าตรงนี้มันมี เขาก็จะไปเพิ่มของเขาเองได้”




งานชิ้นนี้เดิมทีตั้งใจว่าจะทำด้วยตัวเองให้ลูกสาวเล็กๆ แต่ต้านกระแสแฟนๆ ลิซ่าไม่ไหว ที่อยากเห็นงานจริงว่าจะออกมาสวยขนาดไหน ศิลปินนักปั้นท่านนี้ก็เลยให้ทีมงานที่เคยทำงานร่วมกันเข้ามาช่วย ในการเพนท์สีด้วย

“ผมเป็นช่างปั้น จะมีน้องช่างเพนท์อีกคนนึง อันนี้สำคัญมากๆ เพราะว่าถ้าไม่ได้ช่างเพนท์ที่ดี งานก็ไม่ดี ช่างเพนท์เขาละเอียด อย่างผมปั้นไปดีแล้วประมาณนึง น้องเขาก็ไปรีเสิร์ชเพิ่มเติมอีก เกี่ยวกับพวกรองเท้า เขาไปหาเลยว่า พี่ลิซ่าใช้ยี่ห้อไหน ถึงขนาดนั้นเลยครับ สีอันไหน สไบแบบไหน ไปหาโทนสีมาทุกอย่าง ดูจากเบื้องหลัง ใน MV ด้วย

ตอนที่เราปั้นมันก็จะเป็นสีเทาๆ เหมือนเราปั้นดินน้ำมัน ไม่มีสี ที่เขาปั้นมือ เป็นสีน้ำมัน เป็นสีน้ำตาลอะไรประมาณนี้ แต่พอน้องเขาเอาไปลงสี เขาก็จะใส่ลงสีตามสไตล์เขา ผสมสี ลงสีของจริงเลย

ผมต้องไกด์สีให้กับช่างสี เพื่อช่างสีจะไปทำต่อว่าประมาณไหน ที่เป็นไวรัลกันคือผมไกด์ไปประมาณนึง เป็นสีทองข้างหลังก็โยนสีทองลงไป ลิซ่าผิวยังไง แต่พอไปถึงช่างสี ช่างสีก็จะไปรีเสิร์ชอีกทีนึงว่าประมาณไหน น้องเขาก็จะจัดเพิ่ม ให้มันสวยเพิ่มไปอีก”

กว่าจะได้แต่ละชิ้นมาประกอบกัน ก็ต้องปรินท์แต่ละชิ้นออกมาประกอบกันเป็นรูปร่าง เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการขนย้าย ซึ่งก็เคยมีประสบการณ์บ่อย ที่รูปปั้นต่างๆ เคยเกิดชำรุดเสียหาย

“เวลาผมปั้นออกมา ก็จะปรินท์ออกมาทีละชิ้น อันนี้มีหลายชิ้นรวมกันประกอบเอาไว้ ผมจำไม่ได้ น่าจะเป็น 10 ชิ้นครับ ก็จะง่ายสำหรับขนย้าย ไม่งั้นมันก็จะหัก น่ากลัว มันจะหักง่ายมาก”

[แยกส่วนได้ เพื่อลดความเสี่ยง เสียหายระหว่างขนส่ง]
ทำ CG ไม่ตอบโจทย์ ผันมา “ปั้น” เพราะรัก

สำหรับเส้นทางการเป็นนักปั้นของศิลปินไทยคนนี้ เขาเริ่มจากการเป็นนักดนตรีที่เล่นแนว underground มาก่อน จนผันตัวสู่การเป็นนักปั้นคิวทอง ซึ่งเขาบอกว่า ไม่ได้เรียนเกี่ยวกับด้านนี้มาก่อน แต่มาศึกษาจากอินเทอร์เน็ตด้วยตัวเอง

“ผมปั้นงานมาประมาณ 10 ปีได้แล้ว ปั้นมาก็โพสต์อยู่เรื่อยๆ ถ้าคนติดตามผมอยู่ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ก็จะเห็นว่า ผมโพสต์อยู่บ่อย งานโน้นงานนี้ ผมโพสต์มาเป็น 10 ปีแล้ว พูดมาเรื่อยๆ จนมางงกับงานนี้แหละครับ ตกใจ พอโพสต์ลงไปอะไรวะเนี่ย

ซึ่งไม่ได้เรียนด้านนี้ครับ เมื่อก่อนผมเล่นดนตรี เป็นนักดนตรี ประมาณเกือบ 20 ปีที่แล้ว ผมเล่นดนตรีมาเรื่อยๆ เล่นกับวง ก็เล่นแนว underground ใต้ดิน พวก metal หนักๆ Rockstar ที่ผมตั้งชื่อเพจของผม ใจจริงผมอยากเป็น Rockstar แต่ชีวิตเรามันก็ไม่แน่ไม่นอนใช่ไหมครับ

ตอนที่เล่นดนตรี ก็อยากทำ MV เป็นของตัวเอง มันก็ไม่มีงบที่จะทำ จุดเริ่มต้นที่ผมมาทำ 3D ก็คือไม่มีงบที่จะถ่ายทำ ผมก็เลยทำไงดี ก็เลยสร้าง 3D ขึ้นมาเป็นฉากเลยดีกว่า

อย่างวง Linkin Park ข้างหลังมันจะเป็น 3D ผมก็อยากได้แบบนั้น แล้วเราก็ไม่ได้มีงบที่ไปถ่ายทำหรูหรา ก็มีเพลงอยู่ในยูทูบเหมือนกัน ก็มีจัดเป็นภูเขาเป็น CG หมดเลยที่ผมปั้นทำขึ้นมา

แล้วก็ไปถ่าย green screen โดยที่ไปถ่ายเอง ซื้อผ้าพาหุรัดมาขึงด้านหลังกันเอง แล้วก็มาถ่ายกันเอง ยืมกล้องเพื่อนมา แล้วข้างหลังก็เป็นภูเขาหมด ตอนนั้นทำอยู่น่าจะประมาณ 3 เดือนครับ ผมทำของผมเอง ให้น้องเขามาถ่าย แล้วก็น้องอีกคนที่เป็นมือกีตาร์ตัดต่อมา มาทำ maping ข้างหลังใหม่หมดเป็นภูเขาเหมือนเมืองนอก เหมือนอเมริกาอะไรอย่างนี้ครับ

เราอยากทำ CG อยากทำ MV ให้มันสมจริง เพราะทำออกมาแล้วก็รู้สึกสนุกในการปั้นงานอะไรพวกนี้ อีกอย่างผมก็เป็นคนชอบเล่นเกม เมื่อก่อนก็เปิดร้านเกม ทำหลายอย่าง เปิดร้านเกมแล้วชอบเป็นเกมที่ภาพสวยๆ แล้วบางทีเกมสมัยก่อนภาพมันก็ไม่ค่อยสวย ก็เลยฝึกตนเองขึ้นมาเรื่อยๆ ปั้นพวกคน ก็เป็นจุดเริ่มต้นชอบงานที่มันมี detail เยอะๆ ปั้นขึ้นมาสีสวยๆ นี่คือจุดเริ่มต้นที่ผมมาทางสายปั้น”


เขาเล่าอีกว่า ก่อนที่จะมาทำงานปั้นประติมากรรม ระหว่างที่เล่านดนตรีควบคู่กันไปนั้น ก็รับงานโฆษณาฟรีแลนซ์มาก่อนด้วย

“ต้องบอกก่อนว่าก่อนที่ผมมาทำงานปั้นประติมากรรมพวกนี้ ผมทำงานโฆษณามาก่อน เป็นฟรีแลนซ์ ผมทำพวกงาน ICG อะไรพวกนี้อยู่แล้ว ก็พอรู้สึกว่า งานปั้นมันสนุกกับเรามากกว่า ก็เลยเปลี่ยนมางานปั้นเต็มตัว ตอนนั้นเป็นฟรีแลนซ์ รับงานทำคนเดียวครับ รับงานพวกช่างภาพก็ทำกันมา แล้วก็ให้ผมตัดต่อทำกราฟิกอีกทีนึง

ผมศึกษาเองหมด ไม่เคยเรียนด้านนี้เลย ที่ทำโฆษณาอะไรก็ศึกษาเองหมด ศึกษาจากยูทูบ กูเกิล ที่ทำ MV ต่างๆ ผลงานที่ผมทำ CG ไว้เล่นๆ ผมก็ไปโพสต์รับทำ motion graphic ทำ ICG แล้วก็มีคนติดต่อเข้ามา ก็ได้ทำงานแรก

motion graphic ก็เหมือนภาพ 2D เอามาทำเป็นเหมือนไตเติ้ลรายการ แต่ถ้าพวก ICG มันจะเน้นไปทาง 3D อนิเมชั่น อะไรพวกนั้นเลย

ตอนนี้ผมมาสายประติมากรรมปั้นเต็มตัวแล้ว รับงานพวกนั้นบ้าง ถ้าเกิดเป็นเพื่อนสนิทที่เคยทำกันมาก่อน แต่ตอนนี้ก็มาทำงานปั้นเต็มตัว”


และอีกหนึ่งเหตุผลที่หันมาทำงานปั้นเต็มตัว เพราะโดนผลกระทบเรื่องปัญหาสุขภาพ จากการรับงานฟรีแลนซ์โฆษณา

“อย่างงานเมืองทองที่เขาไปจัดแสดง บางทีก็ไม่ได้นอนเลย 2-3 วัน เพราะก่อนที่จะถึงงานเขาก็มีแก้นู่นแก้นี่ แก้แบบเละเทะ บางทีตาเป็นเส้นเลือดมัน เราก็เลยคิดแต่ว่ามันจะทำร้ายสุขภาพเราไปมากหรือเปล่า ผมรู้สึกว่าสุขภาพผมไม่ค่อยดีแล้ว มันเริ่มต้องไปหาหมอ งั้นเราไปทำตามที่เราชอบดีกว่า

แต่ตอนนั้นผมก็ปั้น แต่ว่ามันยังไม่ได้เงินอะไรขนาดนั้น ก็เลยยังต้องทำไปเรื่อยๆ แต่เราก็ชอบมาทางนี้มากกว่า แต่พอทำไปสักพักเริ่มมีคนมาจ้างงานปั้นมากขึ้น เขารู้สึกว่าเราเหมาะกับที่เขามาจ้าง ผมก็เลยผันตัวมาเรื่อยๆ

ฐานลูกค้าก็จะเป็นคนที่อยากทำงานพรีออเดอร์ เขาหาคนที่จะปั้นงานให้เขา เพื่อที่จะไปเปิดพรีออเดอร์ในเพจของเขา ไปทำอาร์ตทอยในเพจของเขา เขาก็มาจ้างเราปั้น แล้วเขาก็ไปผลิตเอง

เปลี่ยนมาเป็นงานปั้นเต็มตัว น่าจะประมาณ 3 ปีที่แล้วครับ ก็ลูกค้าเริ่มเยอะ จริงๆ รายได้จากการทำงานพวกนี้ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่สำหรับผม แต่มันอยู่ที่เราทำแล้วมันเหนื่อยเกินไปแล้วหรือเปล่า เรามีความสุขกับการทำตรงนี้มากกว่า ก็เลยผันตัวมาทำพวกงานปั้น ทำเพราะรู้สึกว่ามันมีความสุขกว่า สนุกกว่า”


ตอบแทนความประณีต ที่หลักหมื่น-หลักแสน

สำหรับเรทราคาในการจ้างงาน นักปั้นคนนี้เขาก็บอกเอาไว้ว่า ต้องดูรายละเอียดของแต่ละงาน เพราะแต่ละชิ้นมีราคาที่ไม่เท่ากันอยู่แล้ว ก็มีตั้งแต่หลักหมื่น ไปจนถึงหลักแสน หรือหลักพันก็มีบ้าง ถ้าเป็นชิ้นเล็กๆ

“ผมก็กำหนดปกติ ไม่ได้ว่าเป็นดาราแล้วกำหนดสูงหรืออะไร เหมือนเดิมทุกคนครับ แต่ละงานที่ลูกค้าให้มา เขาก็จะมี detail ไม่เหมือนกัน รายละเอียดของงานไม่เหมือนกัน บางคนอยากได้ฐานแบบนี้ บางทีฐานราคาแพงกว่าตัวคาแรกเตอร์ก็มี บางคนคาแรกเตอร์แพง ฐานไม่ต้องมีอะไรมากแค่นิดหน่อยก็มี

บางคาแรกเตอร์ก็มีสิ่งของต่างๆ มาเพิ่ม ก็ที่ผมทำมีหลักหมื่น หลักแสน อันนี้คือค่าปั้นนะ ยังไม่รวมค่าปรินท์แล้วก็ทำสีอีกต่างหาก

มันจะมีหลายแบบครับ ถ้าโรงงานเขามีโรงงานผลิตอยู่แล้ว เขาก็จะมาจ้างผมให้ปั้นอย่างเดียว แล้วก็ส่งไฟล์ไป เขาก็ไปขึ้นรูป 3D ไปปรินท์ออกมาเป็น 3D ไปโรงหล่อ เขาแค่ต้องการเป็นไฟล์ 3D จากผมแค่นั้นเอง

เขาก็อยากได้สีประมาณไหน เขาก็จะบอกผมมา ผมก็จะใส่สีไปประมาณนี้ แล้วก็จะมีแบบว่าถ้าทำส่วนตัวก็จบที่ผมเลย เป็นเรซิ่นก็ส่งน้องเขาทำสี ส่งน้องเขาปรินท์ เพราะเมื่อก่อนผมก็ปริ๊นเอง อย่างงานหลายๆ งาน ตอนแรกๆ ผมปรินท์เอง แต่หลังๆ ก็ไม่ไหว ส่งให้น้องเขาปรินท์ดีกว่า แล้วผมก็ปั้นอย่างเดียว


ถ้าชิ้นที่แพงที่สุดน่าจะกวนอู ก็แสนกว่าครับ ผมจำไม่ได้เพราะออกมา 2-3 ปีแล้ว มันจะมีหลายสี แต่ละสีราคาไม่เท่ากัน มันจะเป็นลิมิเต็ด ทำจำนวนจำกัดสีนี้ ตัวนี้ประมาณแสนห้า แล้วก็รู้สึกว่าจะมีอีกตัวนึงเป็นผ้าคลุมสีแดง อันนั้นจะเป็นสีพิเศษ ราคาจะแพงกว่า

อย่างที่มันแพง บางคนก็คิดว่า พอปั้นเสร็จ ลงสีในคอมเสร็จแล้วปรินท์ออกมาได้เป็นอย่างนั้นเลย ไม่ใช่ครับ เพนท์มือทุกตัว ไม่มีการที่โรงงานทำออกมาทำเป็นชิ้นเป็นสีไม่ใช่ครับ เพนท์มือทุกตัวเลยครับ นั่งเพนท์กัน อย่างรายละเอียดจุดๆ ก็มาจุดกันทุกจุด ราคามันก็เลยแพง

ตอนนั้นผมขายงานแรกเป็นงานซามูไรครับ ก็เปิดพรีออเดอร์ไป 50 ชิ้น ก็เต็มจำนวนไป ชิ้นละ 26,500 บาท เป็นฝรั่งซะส่วนใหญ่ ค่าส่งบางประเทศแพงกว่าค่างานอีก บางประเทศ 3 หมื่นค่าส่ง เขาก็เอา เขาก็ชอบ

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าเขามาชอบงานซามูไรผมตรงไหน เพราะว่าเขาก็ปั้นซามูไรกันเยอะ แต่เราก็คิดอยู่ว่ามันก็ต้องมีอะไรแหละที่เขามาชอบงานของเราอาจจะไม่เหมือนชาวบ้านเขา เพราะว่าตอนที่ผมดีไซน์งานซามูไรผมก็ไม่ได้คิดว่าจะทำซามูไรให้มันจริงจัง original”




จุดเด่นคือเน้นอารมณ์ภาพรวมที่สวย ไม่ยึดความถูกต้องที่ต้องเป๊ะตามทฤษฎี แต่จะดีไซน์ในแบบฉบับของเราเอง จึงมองว่า นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ลูกค้าถูกใจ

“ผมว่าจุดเด่นของผมคือ ผมไม่ยึดติดอะไรมากมาย ผมปั้นซามูไรผมก็แค่รู้พื้นฐานของมัน ว่าซามูไรประมาณนี้นะ ผมไม่ค่อยเป็นคนที่ชอบลงลึกไปมาก เพราะผมรู้สึกว่าถ้าผมลงลึกไปมากผมจะกลัว กลัวในการที่ไม่กล้าทำให้มันแตกต่าง
 
 อย่างบัลลังก์ลิซ่าก็ไม่ใช่แบบนี้นะ หลายๆ คนที่มาที่งานมาดูของจริง มาดูใกล้ๆ มีดอกไม้ตรงโน้นตรงนี้เพิ่มเติมไปเยอะตามที่เราจินตนาการอยากให้เป็น เรารู้สึกว่ามันสวยกว่า แต่มันดูสวยกว่าหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่รู้ แต่เรารู้สึกว่าสวยกว่า เรารู้สึกว่าไม่ต้องเหมือนขนาดนั้นก็ได้ เอาจริงๆ เพิ่มเติมเยอะกว่าในของจริงลิซ่าเยอะอยู่ครับ ด้านล่างไม่เหมือนเป๊ะ 100% เพราะว่ามันมาจากการที่ดูยากด้วย ทำแล้วมันดูสนุก ก็เพิ่มนั่นเพิ่มนี่ไปเรื่อยๆ

เราปรับให้เป็นของเรา ทุกงานผมแค่เอาเค้าโครงมา แล้วผมก็ดีไซน์เพิ่มเติมไปเกือบทุกงานที่ผมทำ ไม่เคยเบื่อ มีงานจ้าง ผมก็ทำเล่นอยู่ตลอด ว่าถ้าเกิดในช่วงเวลาว่าง ผมก็จะทำงานของตัวเองขึ้นมาตลอด คืองานมันก็จะออกมาจากใจ แล้วลูกค้าที่จะซื้อก็ซื้ออันนี้จากเรา ไม่มีใครมาบรีฟ

ผมเป็นคนชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่ตลอด คือไม่ได้ยึดว่าเราต้องเป็นแบบนี้ พัฒนาตรงนี้ให้มันดีขึ้นไปอีก ก็เลยปั้นได้หลายแนว ได้หลายอย่าง”


เติมความสนจริง ด้วยช่างเพนท์สี

อีกหนึ่งคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ กว่าจะได้งานลิซ่าได้ออกมาสวยสมจริง ก็คือช่างเพนท์สีอย่าง “ม่อน-คัมภีร์ ทัพน้อย”ที่มาช่วยเล่าประสบการณ์เบื้องหลังการเพนท์ แม้กระทั่งเส้นเลือด ก็ต้องให้สมจริง

[ม่อน-คัมภีร์ ทัพน้อย ช่างเพนท์สี]

“ได้มีโอกาสในการทำสีลิซ่า หลักๆ มี 2 คนครับ แล้วก็มีอีกคนนึงเข้ามาช่วยเป็น 3 คนครับ ส่วนที่ยากก็จะเป็นเรื่องของสีผิวของน้องครับ น้องมีสีผิวขาว เราก็จะเพนท์ให้เห็นแม้กระทั่งเส้นเลือดของน้องเลย แล้วก็งานในส่วนของบัลลังก์ก็จะมีเฉดสีทองที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องใช้วิธีการบังพ่น ส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่ยากครับ ก็มีน้องในทีมที่ช่วยกันครับ

วิธีการเพนท์หลักๆ ผมก็ดูไกด์สีอันแรกก่อนที่พี่เอครับ แล้วก็มาศึกษาเพิ่มเติมผ่าน MV น้อง แล้วก็หาข้อมูลทาง google ว่าการดีไซน์ชุดแต่ละชิ้นเป็นยังไง เอาให้มันถูกต้องที่สุดครับ

เราก็ไม่สามารถหาได้สมบูรณ์ที่สุด แต่เราก็พยายามดูที่เราหาได้ครับ ก็ดู MV ประกอบ ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ให้มันสมบูรณ์ที่สุด รีเสิร์ชหลายเว็บเปรียบเทียบกัน บางอันก็ไม่ตรงกัน เราก็ต้องเสิร์ชไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอชื่อดีไซเนอร์ที่เขาออกแบบจริงๆ แล้วก็ไปหาข้อมูลจนได้มา เราอยากได้ที่มัน original ดูสมบูรณ์ที่สุดสำหรับเรา

ธรรมชาติของคนขาว ถ้าสีผิวเขาขาวมาก จะเห็นแม้กระทั่งเส้นเลือด ดังนั้นเราก็ให้เหมือนจริงที่สุดครับ เพราะงานปั้นที่พี่เอปั้นมาก็เหมือนจริงมากๆ ยิ่งทำสีเข้าไปก็ยิ่งอยากให้สมบูรณ์ที่สุด”


ช่างเพนท์สีคนนี้ เขายังบอกถึงความยาก และความละเอียดของงานชิ้นนี้ให้ฟังอีกว่า ต้องศึกษาเรื่องอนาโตมี่ของผู้หญิงด้วย

“เริ่มจากงานสีผิวก่อนนะครับผม บางอย่างเราต้องใช้เซ้นต์ลงไปในงานด้วยครับ อย่างงานสีของมือ ในคนจริงๆ นิ้วอาจจะไม่ได้แดงมาก แต่พอเป็นงานโมเดล ก็อาจจะต้องเน้นโอเวอร์ไปนิดนึงครับ ให้ได้มีความเป็นเลือดที่ปลายนิ้วมือ ข้อศอกจะแดงๆ ถ้าดูเผินๆ คนก็จะคิดว่าเป็นสีเดียวกันหมดทั้งตัว สีเท่าๆ กัน แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ครับ มันก็จะมีสีตามรอยพับ ตามข้อของคนที่มันสมจริง 

อย่างสีเส้นเลือดผมก็จะทำข้างในออกมาก่อน อย่างเช่นสีขาวลงไปก่อน เราก็ทำเส้นเลือดเข้ามา แล้วก็ตบสีผิวเข้าไป เราจะทำจากข้างในมาข้างนอกก่อน ก็ต้องศึกษาอนาโตมี่ด้วยครับ

ยากสุดก็จะเป็นใบหน้าครับ อย่างผมไม่เคยทำสีผู้หญิง ก็จะไม่รู้ว่าการแต่งหน้าของผู้หญิงเป็นยังไง การบล็อกตา การสโม้กตา การเขียนคิ้ว ขนตา ริมฝีปากเขาเป็นยังไง จะต้องศึกษาเพิ่มเติมอย่างมากเลยครับ

ก็จะมีน้องๆ ในทีมที่เป็นผู้หญิง เขาก็จะคอยบอกว่าผู้หญิงแต่งหน้าจะเป็นยังไง การเขียนขอบตาเป็นยังไง มันก็ต้องเขียนเข้าไปในตา ก็ทำเต็มที่ของผมแล้ว ก็ได้ประมาณนี้ครับ

ผมก็รู้สึกสบายใจด้วยตรงที่คนปั้นเขาก็ไว้ใจให้เราทำ ทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นตัวเราด้วย ฟังความคิดเห็นของทางบ้านด้วย ไปด้วยกัน ไม่ได้เอาแต่เราเป็นหลักอย่างเดียว เราทำงานร่วมกันก็มีเป้าหมายเดียวกัน ให้งานมันออกมาดีที่สุด

ใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ครับ วันนึงก็ประมาณ 10 ชั่วโมงครับ มีนานที่สุดก็จะเป็นหน้านี่แหละครับ 10 ชั่วโมง มีการปรับแก้ เพราะงานสีมันไม่สามารถกดย้อนกลับงานคอมพิวเตอร์ได้ วิธีการแก้ของเราก็คือล้างอย่างเดียวเลย ล้างแล้วก็ทำใหม่ จนกว่าเราจะได้เฉดสีที่เราต้องการที่สุด

อย่างหน้าไม่ได้เชิงล้างครับ มีแต่พ่นทับไปแล้วก็ทำใหม่จนสีมันโอเคแล้ว เป็นงานเรซิ่นสามารถล้างแล้วก็ทำใหม่ได้ แต่งานชิ้นนี้โชคดีที่เราไม่ต้องล้าง เราแค่พ่นทับ”


ช่างเพนท์สีเล่าให้ฟังอีกว่า ตอนที่ติดต่อให้มาเพนท์สีรูปปั้นลิซ่า ตอนแรกยอมรับว่าก็มีตกใจเหมือนกัน เพราะไม่เคยเพนท์สีงานแนวนี้มาก่อน ซึ่งผลงานลิซ่านี้ ก็ถือเป็นงานท้าทายในฐานะช่างเพนท์เช่นกัน

“ร่วมงานกับพี่เอมา 3-4 ปีได้แล้วครับ ที่มันจูนติดกันเลยก็คือแบบว่า พี่เอมีความเป็นงานดาร์ก ผมก็ทำงานสายดาร์กเหมือนกัน ชอบอะไรเหมือนๆ กัน

พอพี่เอทักมาให้ทำงานลิซ่า ผมก็ตกใจนิดนึงครับ เพราะว่าแกก็ไม่ค่อยเห็นผมทำงานแบบผู้หญิงจ๋าอะไรอย่างนี้ ทำงานแบบสายดาร์ก เลือดสาด ต่อสู้ จนพี่เอทักผมมาว่าให้ทำลิซ่า ผมก็ลังเลนิดนึงว่าจะทำมันได้ดีไหม แต่ก็ตัดสินใจตอบตกลงแกไปว่าทำให้ได้ ก็เลยได้ทำ

เป็นการท้าทายด้วย แล้วก็เหมือนกับว่าเราคิดว่าเราน่าจะทำได้ด้วย ก็เลยเกิดเป็นงานชิ้นนี้ขึ้นมาครับ พิสูจน์ว่าเราก็ทำมันได้เหมือนกัน

ฟีดแบ็กที่ออกมาก็ถือว่าดีเลยครับ ก็มีทั้งคนที่ชมแล้วก็เห็นต่าง เราก็พยายามเข้าใจทั้งสองฝ่ายครับ ก็มีทั้งชมและติครับ บางทีก็มีข้อเปรียบเทียบครับ ตอนผมรับงานก็ทำใจไว้แล้วว่าต้องมีข้อเปรียบเทียบแน่นอน ระหว่างงาน 3D กับงานเพนท์ออกมา ว่าไม่เหมือนงาน 3D เลย ก็มีครับ

บางคนก็บอกว่าทำออกมาได้สวยมากเลย ผมก็พยายามที่จะมองข้อดีตรงนั้นด้วย มุมที่เขาติ ก็ติเพื่อก่อให้เราพัฒนาขึ้นไปอีก”


คนหาว่าเป็นงาน AI

ความตั้งใจแรก ที่อยากแค่ทำให้ลูกสาว ที่อยากมีพี่ลิซ่าไว้ที่บ้านเท่านั้น แต่พอโดนวิจารณ์ว่าเป็นงาน AI ก็เลยตัดสินใจ ปั้นงานจริงออกมาให้หลายๆ คนที่สบประมาทได้เห็น

“ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะทำจริงจังอะไรขนาดนั้น ผมกะว่าทำให้น้อง เพราะไม่ได้คิดว่ามันจะดังอะไรขนาดนี้ ก็จะทำไปเรื่อยๆ ครับ ก็จะทำเอง เครื่องปรินท์ผมก็มี

แต่พอเป็นไวรัลดังก็มีบางคนบอกว่าอันนี้มันเป็นงาน AI ก็ชี้นำไปคนอื่นด้วยว่าอันนี้ไม่ใช่ของจริง นี่มันคือ AI ก็เยอะอยู่ ก็เลยคิดว่า งั้นทำให้ดีเลยดีกว่า ก็เลยตัดสินใจคุยกับทีม ว่าทำให้สุดยอดไปเลยแล้วกัน ทำให้มันมีคุณค่าไปเลยแล้วกัน แต่จริงๆ ตั้งใจว่าจะทำคนเดียว

ตอนที่ผมปั้นออกมา ผมกะว่าผมจะปรินท์เองหรือ ไม่ให้น้องทีมงานเขาปรินท์ จะทำให้ลูกก็ไม่ได้คิดว่าจะทำดีขนาดนี้หรอกครับ ก็จะทำไปเรื่อยๆ ก็กะว่าจะทำไซต์ไม่ต้องใหญ่มาก คิดอยู่ว่าทำให้น้องได้ดูแค่ตัวเล็กๆ

แต่ผมชอบ AI นะไม่ได้แอนตี้อะไรกับ AI นะผมว่ามันเป็นสิ่งที่ดีกับการที่มาช่วยเหลือเราได้เยอะอยู่ แต่ว่าบางคนก็ไปมอง AI เป็นสิ่งอีกอย่างนึง ผมก็เลยบอกว่า งั้นทำไซต์ใหญ่ไปเลยแล้วกัน ให้ทีมช่วยแล้วกัน ให้มันออกมาดีที่สุดไปเลย เพราะบางคนก็คิดว่ามันคือ AI แต่จริงๆ มันไม่ใช่

อย่างลิซ่าที่เป็นกระแสผมเคยโพสต์ไปในเฟซบุ๊ก มันไม่ใช่งานที่ยากสุดสำหรับผมนะ มันมีงานที่ผมทำมาก่อนหน้านี้ มันยากกว่างานลิซ่าเยอะ อย่างงานพระพุทธชินราชก็ยากกว่า แต่มันก็เป็นกระแสพวกงานแมสใช่ไหมครับ แต่จริงๆ มันมีงานที่ยากกว่าแน่นอน


อย่างพระพุทธชินราชที่องค์เล็ก จะยากนิดนึง ลายยิบเลยนะครับ มีรายละเอียดทุกอย่าง อย่างท้าวเวสสุวรรณก็ยากตรงแท่น ในรายละเอียดการทำส่วนโค้ง แล้วก็จะมีพระองค์ใหญ่กว่าน้องลิซ่า ที่จะเห็น detail ชัดยิ่งขึ้นกว่านี้อีก

หน้าผากก็ยากอยู่นะครับพระพุทธชินราช บางคนคิดว่าการปั้นพระ ปั้นหน้ามันไม่ได้ยาก แต่จริงๆ มันยากครับการปั้นให้คม ปั้นให้ดูอ่อนช้อยยาก บางทีอะไรที่ดูเรียบๆ มันอาจจะยากกว่าที่มี detail เยอะก็เป็นไปได้ครับ หลายงานที่เราทำ รู้สึกว่าขยับนิดเดียว บางทีมันก็เพี้ยนไปเลย ทุกเส้นทุกลาย ต้องมานั่งทำทีละลาย


สำหรับเรื่องความยาก ง่าย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่างานชิ้นนั้นจะเล็กหรือใหญ่ แต่ความยากง่ายขึ้นอยู่กับ detail และส่วนประกอบของภาพหรือตัวคาแรกเตอร์นั้นๆ

“ต้องบอกก่อนว่างานปรินท์ 3D เราสามารถไปทำขนาดไหนก็ได้ ตอนที่ไปเพิ่มสเกลในการปรินท์ เราจะปรินท์องค์ใหญ่ขนาดไหนก็ได้ มันไม่เหมือนกับการที่เราปั้นมือสมัยก่อน งานปรินท์ 3D มันมีส่วนดีก็ตรงนี้แหละครับ ปั้นบนคอมจะไปปรินท์เล็กปรินท์ใหญ่ได้หมด มันก็เลยไม่ได้เกี่ยวกับการทำขนาดว่ามันจะยากหรือเปล่า

ผมว่างานลิซ่างานนี้ ผมนั่งทำผมแล้วคุยกับแฟนว่าเฮ้ย..ทำไมงานนี้มันสวยจังวะ เราทำงานอื่นมามันก็มีงานยากๆ หลายงานอยู่ ก็เลยพูดกับแฟนตลอดว่าปั้นลิซ่ามันก็ไม่ได้ยาก แต่ทำไมมันสวย

ก็เลยนึกว่าคนระดับโลกที่เขาดีไซน์พวกองค์ประกอบต่างๆ ในตัวงานออกมา อาจจะไม่ได้เยอะมาก แต่ว่ามันมีของมีอะไรข้างใน มันจะมีตรงนี้น้อยหน่อยก็ไม่เป็นไร องค์ประกอบโดยรวมมันเลยสวยลงตัว ทั้งที่ผมก็มองว่ามันไม่ได้ยากนะ เพราะผมก็ทำงานยากกว่านี้มาเยอะอยู่ แต่ทำไมงานนี้มันสวยจัง”


อาร์ตทอยบูม มูลค่างานปั้นก็มากขึ้น


 

 “มันเป็นผลดีสำหรับนักปั้นทุกอย่างอยู่แล้ว ถ้าตลาดอาร์ตทอยบูม หรืองานปั้นพวกนี้บูม ยิ่งถ้าอาร์ตทอยบูม คนมันก็จะหันมาสนใจงานปั้นมากขึ้น สร้างมูลค่าให้งานปั้นมากขึ้น ศิลปินก็มีรายได้มากขึ้น ผมว่ามันก็เป็นจุดที่ดีสำหรับนักปั้น หรือศิลปินที่ปั้นงานประติมากรรม คนก็หันมาทำอาร์ตทอยที่เท่กันเยอะ


อย่างคนที่ให้ผมปั้นงานอาร์ตทอย ก็จะคิดมาแล้ว ก็จะมีแบบมาแล้ว เราก็จะปั้นเลยในแบบของเขา ให้มันสวยน่ารัก ก็ว่ากันไป แต่ว่าถ้าเป็นงานของผมเองที่จะทำกับทีม ต้องระดมกันคิดว่าเราจะทำกันยังไงดี งานอาร์ตทอยมันจะเป็นงานขายไอเดียซะส่วนใหญ่ ถึงงานมันจะไม่ค่อยมีอะไร แต่ที่จริงไอเดียอยู่ในนั้นมันเยอะมาก ก็ต้องใช้เวลาในการทำ ก็จะทำในเพจ Rockstar เนี่ยแหละครับ เล่นกีตาร์ แนวอะไรสักอย่าง อะไรประมาณนี้ครับ


ส่วนใหญ่ก็ว่าจะพรีออเดอร์กัน ถ้าเกิดมีบูท เปิดบูทไปตามงานต่างๆ มันก็โอเค เหมือนที่เราเพิ่งไปเปิดบูทมาก็มีลูกค้าจีนก็มาถาม มาถามพวกงานกวนอูอะไรอย่างนี้ ก็เราไม่ได้ทำอาร์ตทอย


อย่างงานอาร์ตทอยมันยากที่จะทำให้ติดตลาดเหมือนกันนะ มันดูเหมือนง่ายนะ แต่ถ้าไอเดียมันไม่เจ๋งจริงๆ มันก็ยาก คาแรกเตอร์ของงานมันต้องชัด ขนาดผมคิดว่าผมทำพวกงานยากๆ ผมก็ยังคิดว่างานอาร์ตทอยก็ยังยากอยู่นะ แต่บางคนคิดว่างานอาร์ตทอยมันไม่ได้ยาก แต่ผมคิดว่ามันก็ไม่ได้ง่ายๆ นะ


งานคาแรกเตอร์มันขายไอเดียล้วนๆ นะ แล้วอีกอย่างทำให้งานมันดูน่ารัก ยากอยู่ ยิ่งผมมาทางสายนี้ มันจะไม่ค่อยได้เน้นความน่ารักมากสักเท่าไหร่ คือไม่ใช่คนน่ารัก ก็เลยต้องให้พวกน้องๆ ช่วยกันดู ว่าอันนี้น่ารักหรือยัง เพราะบางทีพอเราปั้นงานอาร์ตทอยไปมันก็จะไปเพิ่ม detail เยอะเกินไปมันก็จะไม่ใช่


บางคนก็บอกว่าโห..พี่ปั้นงานแบบนี้ งานอาร์ตทอยแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว สำหรับผม ผมว่ามันไม่ใช่ มันเจ๋งคนละอย่าง ยิ่งถ้าอาร์ตทอยบูม มันก็พาพวกเราบูมไปด้วย”







ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย LIVE Style (@livestyle.official)




@livestyle.official ...จาก “นักปั้นโมเดล” มืออาชีพ เลยกลายเป็น “ศิลปินคิวทอง” หลังเปิดตลาดไอดอล ผลงานที่มี “ลูกสาว” เป็นแรงผลัก @atlanticbands@lalalalisa_m... . #LIVEstyle #LIVEstyleofficial #ข่าวTikTok #longervideos😶‍🌫️ #tiktokวีดีโอยาว #มากกว่า60วิ #รูปปั้น #ลิซ่าBLACKPINK #ลิซ่า #LISA #LisaBlackpink #ปั้น3D #3D #RockstarStudio #ประติมากรรม #arttoy ♬ original sound - LIVE Style


สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : พัชรินทร์ ชัยสิงห์
ภาพ : พลภัทร วรรณดี
ขอบคุณภาพเพิ่มเติม : แฟนเพจ “RockstarStudio” เฟซบุ๊ก “Atlantic Bands”



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น