xs
xsm
sm
md
lg

“นางแบบมือตัวท็อป” ของเหล่าซุป'ตาร์ กวาดมาแล้วกว่า 400 ชิ้นใน 7 ปี!! [มีคลิป]

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แทนมาหมดแล้ว “ญาญ่า-เบลล่า-ชมพู่” ขึ้น Billboard ก็ทำมาแล้ว เจาะลึกเจ้าของตัวแทนมือสวย อาชีพนางแบบ ที่ไม่ได้ใช้หน้าตา แต่ใช้ “มือ” ถ่ายทอดอารมณ์ผ่านงานถ่ายโฆษณา และ สแตนด์อินในละคร ให้กับซุป’ตาร์ทั่วฟ้าเมืองไทย ผลงานการันตีกว่า 400 ผลงาน





นางแบบที่ไม่ได้ใช้หน้าตา แต่ใช้ “มือ”

“บางทีคนก็ไม่รู้ ยังมีคอมเมนต์เลยว่าแบบ เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าใช้มือคนอื่นแทนมือดารา”

“ส้มโอ-ชนาภรณ์ มหจิตรสัตยา” นางแบบมือ หรือ Hand Talent ผู้อยู่เบื้องหลัง ตัวแทนมือสวย ของบรรดาเหล่าซุป’ตาร์ทั่วฟ้าเมืองไทย

“นางแบบมือ” หรือ “Hand Talent” นางแบบที่ไม่ได้ใช้หน้าตา แต่ใช้ “มือ” ในการถ่ายทอดอารมณ์ ผลักให้สินค้าโดดเด่น ซึ่งเป็นอาชีพที่มีความต้องการในวงการโฆษณาสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง อาหาร เครื่องประดับ และสินค้าแฟชั่น

แม้จะเป็นคนที่มือสวย และได้รับคำชื่นชมมาตั้งแต่เด็ก แต่ในตอนนั้น เธอก็ยังไม่รู้ว่า จะเอามือสวยๆ นี้ ไปใช้ประโยชน์ยังไงได้บ้าง แต่ตอนเด็กๆ เธอก็มีความฝันว่าอยากเข้าวงการ ก็พยายามฝึกฝนตัวเองมาตลอด

เธอเริ่มเล่าถึงจุดเริ่มต้นอาชีพนี้ให้ฟังว่า เริ่มขึ้นในช่วงที่เธอกำลังเรียนอยู่ ปี 3 เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ด้วยการเป็น Extra เดินผ่านตามฉากต่างๆ หลังจากคลุกคลีกในวงการ Extra (นักแสดงตัวประกอบ) อยู่ไม่นาน เธอก็ก้าวเข้าสู่อาชีพนางแบบมือ ด้วยคำชวนจากรุ่นพี่ในกองถ่าย 

จนตอนนี้ได้ใช้มือของตัวเองแทนมือซุป’ตาร์เมืองไทยมาแล้วหลายต่อหลายคน และยังมีผลงานมาแล้วกว่า 400 ผลงาน ให้เราได้ชื่นชมกัน


“ตั้งแต่ตอนแรกเลย ส้มคือเริ่มจากการเป็น Extra 500-600 บาท แล้วเราก็มีโอกาสได้ไปเจอบอร์ดงานนึง ที่เขาตามหา Prelight แล้วก็ Prelight ที่เขาตามหาเนี่ย สัดส่วน แล้วก็ส่วนสูงเท่าเรา เราก็เลยส่งไป แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ทราบหรอกว่า Prelight คืออะไร เราก็เลยลองส่งไปดู

พอเราไปถึงหน้ากอง เราก็เพิ่งรู้ว่า อ๋อ..โอเค Prelight เนี่ยคือการวัดแสงแทนตัวเซเลบ หรือว่าดาราค่ะ เพื่อเวลาดาราแต่งตัวเสร็จแล้วพร้อมถ่ายเลย เขาจะไม่ได้ต้องมานั่งรอวัดแสงอีก ส่วนใหญ่เขาก็จะเลือกคนที่มีสีผิว หรือว่าส่วนสูง น้ำหนัก ใกล้เคียงกับเซเลบ หรือว่าดาราค่ะ

ผู้กำกับเขาก็จะมาบรีฟ เราก็จะ acting ตามที่เขาบอก เขาก็จะมีการบันทึก เขาจะสามารถขายเฟรม Prelight ให้ลูกค้าได้เลย โดยที่ดาราไม่ต้องมานั่งทำให้ลูกค้าดูแล้ว เพราะว่าเวลาของทุกคน 1 คิว มี 12 ชั่วโมง เราก็ต้องทำคิวให้ทัน 12 ชั่วโมง เขาก็เลยมี Prelight อีกหนึ่งตัว เพื่อมาทำให้งานเร็วขึ้น แล้วก็ทำให้พี่ๆ ดาราหรือเซเลบทำงานได้น้อยลง แบบว่าไม่ต้องเหนื่อยมาก เพราะบางทีเขามีซ็อตเยอะมาก แล้วถ้าให้เขาต้องมานั่งกับแสงตลอด เหนื่อย เราก็จะช่วยแบ่งเบาภาระเขาได้

แล้วบังเอิญว่าวันนั้น เขาไม่เตรียม Hand Talent ไป ซึ่งพี่ Prelight อีกคน คนนี้เป็นคุณแม่ของเราเลย ที่ทำให้เรามีอาชีพนี้ จนถึงทุกวันนี้ค่ะ ก็คือวันนั้นพอดีเขาไม่สะดวก เขาก็เลยบอก ลองเอาน้องไหม

ซึ่งงานนั้นก็เป็นงานแรกของเราเลย ของการทำ Hand Talent แต่เราก็ไม่รู้นะว่าทำอะไร แต่รู้แหละว่าใช้มือ เราก็ไป ไปถึงหน้างาน ไปวัดแสงเสร็จ ก็ถึงซ็อตถ่ายมือ เขาก็ให้เราจับกล่องนม กล่องนมวันนั้นน่าจะ ‘ดีน่า’

เขาจะเปลี่ยน package ใหม่ ก็นั่งทำอย่างนั้น ใช้เวลาพอสมควรเลย เพราะว่าด้วยความที่เราไม่มีประสบการณ์ ก็เลยทำให้ใช้เวลาถ่ายนาน วันนั้นก็เลยทำให้เรารู้ว่า อ๋อ..เขาต้องมีอาชีพ Hand Talent นะ เพราะว่าวันนั้น เราก็คือไปแทนมือให้ ‘ชมพู่-อารยา’กับ‘กวาง เดอะเฟส’ ค่ะ”

[เบื้องหลังการถ่ายทำ ซ้อนมือแทนดารา]




นางแบบมือ ที่เป็นตัวแทนมือสวย ให้เหล่าบรรดาซุป’ตาร์ทั่วฟ้าเมืองไทย เล่าถึงขั้นตอนในการทำงาน ของอาชีพนี้ให้ฟังว่า
“Hand Talent มันก็จะมีทั้ง TVC (Television Commercial Advertising) แล้วก็แยกไปเป็นภาพนิ่ง TVC คือโฆษณา อย่างบางทีนะคะ เราไปทำงานพวกโฆษณา ที่เป็นวิดีโอ เขาก็จะให้แทรกมือแทนมือของดารา 

สมมติถ้าเป็น action ยืน เราก็จะต้องซ่อนตัวเองให้อยู่ด้านหลังของดาราหรือเซเลบ ต้องย่อตัวเพื่อที่จะซ่อนตัวไปข้างหลัง สมมติเขาโชว์ครีม มันก็จะเป็นช็อตเล็กๆ แบบวิ หรือ 2 วิ เขาก็จะถ่ายสั้นๆ ถ้ายาวมากๆ ก็จะแบบว่าลูบไล้งานจิวเวอรี่ อยากจะโชว์จิวเวอรี่ แต่ว่าอยากได้หน้าเป็นดารา

ถ้าสมมติว่าเป็นงานพวกจิวเวอรี่ ความยาววิดีโอบางทีก็เป็นนาทีค่ะ แล้วก็ acting ไปเรื่อย สมมติอันนี้จับผม หรือว่าแบบลูบคาง ทุกครั้งที่เราทำงาน เราจะรู้สึกว่าเราจับไปเลย คือจะจับถูกหรือจะผิดก็ทำไปเลย เพราะว่ามันก็เป็นฟีลแบบใบหน้าเราอะค่ะ แต่ว่าแบบห้ามเก้ๆ กังๆ มันจะทำให้งานออกมาช้าลง แต่ว่าถ้าเราแบบมั่นใจทำไปเลย สมมติสะบัดผม ลูบผม เราก็ทำไปเลยด้วยความมั่นใจ

มีการบรีฟ ถ้ามันเป็นช็อตสั้นๆ อาจจะมีซ้อมก่อนที่ถ่ายจริงบ้าง ครั้งถึงสองครั้ง บางทีก็จะมีบรีฟไปด้วย ถ่ายไปด้วยพร้อมๆ กัน”



400 กว่าผลงาน กับประสบการณ์ขึ้น Billboard

สั่งสมประสบการณ์ มีผลงานกว่า 400 ชิ้น แถมเธอยังสามารถพามือสวยๆ ของเธอ โกอินเตอร์ขึ้นป้าย Billboard ได้อีกด้วย
“ตอนนี้ประมาณ 400 ตัวบวกๆ ก็คือผลงาน 7 ปี แล้วก็ยิงยาว 4 ปีโควิด ที่เป็น Hand Talent มีทั้ง TVC หรืองานภาพนิ่งด้วย Billboard อะไรอย่างนี้ก็มี Billboard ก็จะเป็นพวกของแบรนด์แบบห้าง เขาก็จะขึ้น promote ว่ามีงานนี้อยู่นะ แต่ว่าใช้มือ”

มือของเธอ นำมาใช้ถ่ายแบบแทนมือเหล่าซุป’ตาร์เมืองไทย มาแล้วหลายต่อคน เช่น อั้ม-พัชราภา, ญาญ่า-อุรัสยา, เบลล่า-ราณี, ชมพู่-อารยา, ใหม่-ดาวิกา, ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก, วี-วิโอเลต, พีพี-กฤษฏ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานถ่ายโฆษณา และ สแตนด์อินในละครบางฉากแทนนักแสดง

“ถ้าถามว่าเราจะแทนดาราใครบ้าง ภาพนิ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นมือเราเอง มือเราไปจับกับผลิตภัณฑ์ นู่นนี่นั่น ไม่มีตัวแสดง แต่ว่าถ้าเป็น TVC โฆษณา จะเป็นเราไปแทนให้ดารา เช่น คุณใหม่-ดาวิกา, คุณญาญ่า-อุรัสยา, เบลล่า-ราณี, แล้วก็มี วี-วิโอเลต, ต้าเหนิง หรือว่าคุณใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก คุณชมพู่ หรือว่าคุณอั้ม เราก็จะมีการแทนให้ เพราะว่าเขาก็จะใช้หน้า แต่ว่าพอเวลาเป็นมือ ก็จะเป็นมือเรา

เราเคยทัชหน้าคุณญาญ่า หรือเคยเป็นมือให้คุณใบเฟิร์น หรือว่าเคยจับหน้าคุณอั้ม ซ้อนหลังคุณเบลล่า แล้วเราก็เคยไปเหมือนแบบให้ชายหนุ่มสัมผัสมือ เคยจูจุ๊บ ตอนนั้นก็คือได้เจอดาราชาย 3 ท่าน ก็มีคุณมาริโอ้ คุณนนกุล แล้วก็คุณกลัฟ-คณาวุฒิ ก็คือ 3 คนนี้เขาจะพาเราไปเดท ก็จะจับมือ มือเราเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ดู VR แต่ว่างานนี้มันน่าจะออนที่อินโดนีเซียนะคะ แต่เราก็ยังมีผลงานให้ดู”

 
 แน่นอนมีผลงานการันตีมากมายขนาดนี้ ก็ทำให้ลูกค้า หรือทีมงานที่เธอเคยร่วมงานด้วย ก็มักจะติดต่อกลับมาหาเธออยู่ตลอด เพราะด้วยฝีมือ และความเป็นมืออาชีพของเธอ

“เวลาเราถ่ายกับเบลล่า ญาญ่า อะไรอย่างเนี่ยค่ะ พวกพี่โปรดิวเซอร์ พวกพี่ผู้กำกับ หรือพี่ผู้ช่วย ทุกคนเห็นว่าเราทำได้ มีความตั้งใจในการทำงาน เขาก็จะกลับมา choose เราอีกรอบได้ profile ก็สำคัญ ถ้าเราทำให้กองถ่ายภาพนิ่งกระชับเวลา หรือถ่ายได้ไว พี่ๆ หลายคนก็จะเออ ใช้น้องส้มสิ จะได้เร็วขึ้น หรือว่าไม่มีปัญหา หรือแบบงานมันอาจจะผ่านไปได้ไว ก็คือแทบทุกครั้งที่ทำงานนะคะ ก็จะตั้งใจ ใส่ความตั้งใจลงไป หรือมีสมาธิ ใส่ใจกับมัน ทำให้ได้เป๊ะๆ ไม่หลายเทค เขาก็จะจดจำเราได้”

เธอเล่าเจาะลึก ประสบการณ์เบื้องหลังความประทับใจ ที่ได้มีโอกาสทำงานกับเหล่าคนดังอีกว่า จริงๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ และรู้สึกประทับใจ และภูมิใจในทุกผลงาน

“เราประทับใจทุกงานที่เราไปทำเลย ต่อให้จะมีเซเลบ หรือไม่มี เราดีใจทุกงานที่ไปทำเลย หรือว่างานไหนที่ได้เจอดารามากขึ้น หรือว่าได้มีการสัมผัสมือเรา เราก็จะมีความแฮปปี้ ก็กระดี้กระด๊า ตามสไตล์สาวๆ ก็อย่างถ้าแบบงานแทรกมือพี่เบลล่า แล้วก็เกาะหลัง งานนั้นก็แอบตื่นเต้นด้วย มันเป็นการ close-up ผลิตภัณฑ์มากๆ แล้วเขาก็อยากได้หน้าพี่เบลล่าอยู่ในเฟรมด้วย แต่เขาก็ใช้มือเรา



หรือถ้าอย่างพี่อั้ม เหมือนแบบตบหน้า acting เหมือนตบ แต่คือเราต้องส่งแรงเหมือนกับเราตบ แล้วมันเด้งออก งานเขาเป็นเหมือนงานในกองถ่าย ตัวแสดงหนึ่งตัวต้องทำ acting เหมือนตบหน้า แต่เราก็คือแทนมือให้เขา เหมือนกับอยากได้หน้าพี่อั้มเด้งดึ๋งด้วย แล้วก็อยากได้มือสวยด้วย แต่ก็คือไม่ได้ใช้นักแสดง ก็คือใช้เป็นมือเราแถม

หรือว่าถ้าเป็นงานพี่ญาญ่า งานนั้นก็คือชอบ เพราะว่าได้มองหน้าพี่ญาญ่า แต่ว่าเขาจะใช้คนเกาหลีที่แบบเป็นแป้งสมัยก่อน ที่เขาจะต้องใช้เหมือนลูกประคบ เหมือนเราเล่นเป็นมือของสนมแบบคนช่วยดูแล ตอนนั้นเราก็จะเห็นแบบทรวดทรงหน้าพี่ญาญ่าหมดเลย เพราะว่าเราต้องโฟกัสกับหน้าเขา ว่าเราจะต้องทัชตรงไหน หน้าเขาสวยเช้งกะเด๊ะมาก

ใช้มือทำ acting ที่มือแทน มันเป็นโฆษณาค่ะ ซึ่งเขาโฟกัสแค่หน้าแค่หน้าคุณญาญ่า แล้วก็มือเราเข้าไปแทะ แทะ แทะแป้ง แต่ซ็อตนั้นประมาณ 3 วินาที แต่คือเขาก็อยากจะให้งานผ่านไปได้ไว ก็ใช้คนที่มีหน้าที่เฉพาะทางทำเลย บางทีคนก็ไม่รู้ ยังมีคอมเมนต์เลยแบบ เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าใช้มือคนอื่นแทนมือดารา”




ค่าตัวหลักร้อย ไปจนถึงหลักแสน

สำหรับเรทราคา Hand Talent นั้น แม้จะถ่ายแค่มือ ก็ถือว่าสามารถสร้างรายได้ที่ดีอย่างมาก โดยเฉพาะงานของต่างประเทศ ที่สามารถอัพราคาขึ้นหลายเท่าตัว

และนอกจากที่เธอจะออกมาบอกถึงเรทราคาของอาชีพนางแบบมือแล้ว เธอยังบอกถึงเรทราคาค่าตัวของการเป็น Extra และ Prelight อีกด้วย

“Extra นี่โห..ค่าตัวมีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่นเลย บางทีหลักแสนยังมีเลย แต่สื่อที่เขาใช้ถ้ามันนอกเหนือจากประเทศไทย เราก็จะสามารถบวกขึ้นไปได้อีก

เรทของ Prelight อยู่ที่หลักพันค่ะ ประมาณพันอัพขึ้นไป ต่อ 12 ชั่วโมงค่ะ หนูว่าเด็กยุคสมัยอย่างเรา จะดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่ความชอบของงาน ต่อให้บางทีเรทมันไม่ดี เพราะว่าแต่ละคน เรทความพึงพอใจไม่เท่ากัน มันอยู่ที่ว่าเราชอบงานนี้ไหม ถ้าเราชอบทำ เรทเท่าไหร่มันก็ดีค่ะ อันนี้ถ้าพูดตามความเป็นจริงนะ ถ้าแบบบางคนไม่ชอบมายืนนานๆ หรือบางคนไม่ชอบค้างท่าเดิมนานๆ เขาอาจจะพูดว่าตรงนี้ไม่ดีก็ได้

แต่ว่าอย่างส้มเนี่ย ส้มรักในงานของตัวเอง ส้มยินดีที่จะยืนเพื่อให้เขาวัดแสง ยินดีที่เราจะต้องไม่ใช่คนไปออกทีวีจริงๆ เราเป็นตัวซัพพอร์ตให้เขา หรือเราไม่เคยเห็นหน้าเลย แต่ว่าเห็นแค่มืออย่างเดียว คือเราแฮปปี้กับงานมากๆ มันเลยไม่ได้มีความว่าเรทเท่าไหนถึงดี มันคือทุกงาน มีความเหมาะสม เราก็แฮปปี้แล้ว

มันแล้วแต่งานจริงๆ ค่ะ เพราะว่า Hand Talent มันไม่เท่ากัน บางงานมันก็ทำแบบเวลามันไม่ได้เยอะ มันก็จะขึ้นลงไม่เท่ากัน เลยไม่ได้เปรียบเทียบว่างานไหนดีกว่ากัน เพราะว่าแต่ละงาน มันคืองานคนละแบบ




มีต่างประเทศ ก็ซื้องานไป ก็เหมือนแบบว่าซื้อขาดเลย ใช้มือเรา แล้วก็ซื้อขาดไปออนทั่วโลก แต่คืออันนั้นโมเดลลิ่งเขาก็ติดต่อมาว่าขายขาดเลย คือแบบเขาจะไปทำอะไรกับภาพนั้นก็ได้ ก็จะใช้ในหลายประเทศ

มันมีทั้งแบบงาน สมมติว่าถ่ายไปปีนึงแล้ว เพิ่งจะรู้ว่าใช้ global เขาก็เพิ่งทักกลับมา ว่าใช้ในต่างประเทศนะ อาจจะมีการเพิ่ม budget ให้ หรือว่าบางทีเขารู้อยู่แล้วว่างานนี้มันจะออนต่างประเทศ เขาก็แบบจะมี budget เพิ่มให้เราเลย ให้มันมีความเหมาะสม กับการเอาไปใช้ออนสื่อ

คืองานไทยกับงานต่างประเทศ ก็ราคาแตกต่างกัน ถ้าถามว่างานต่างประเทศหรืองานไทยดีกว่ากัน คืองานไหนก็ได้ค่ะเพราะว่าเราทำแล้วแฮปปี้ทุกงาน ไม่ได้มีข้อเปรียบเทียบเลยว่าอยากรับงานไหนมากกว่ากัน แล้วแต่การดีล แต่ละคนก็ดีลไม่เหมือนกัน ต่างประเทศก็สูงกว่า

งานต่างประเทศมันก็จะอัพราคาเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะว่าราคาก็จะอิงกับคนต่างประเทศมากขึ้น การใช้สื่ออะไร เพราะว่ามันไม่ได้ฉายแค่ในไทยที่เดียว มันก็อาจจะไปฉายที่ต่างประเทศด้วย จำนวนคนที่ดูสื่อนี้เพิ่มมากขึ้น เราก็เลยได้ราคาที่สูงขึ้น แต่ถ้าถามว่าเราจำเป็นต้องเลือกไหมว่าเราจะทำงานไทยหรืองานต่างประเทศ ได้หมดเลยสำหรับเรา เพราะว่าเราแฮปปี้กับทุกๆ งานที่เข้ามาหาเรา ไม่ว่าจะเป็นงานไทยหรืองานต่างประเทศ คือเราดีใจหมด”


ทาครีม ใส่ถุงมือนอน เทคนิคดูแลมือสวย

หลายคนอาจจะสงสัยแล้วว่า มือสวยขนาดนี้มาตั้งแต่เด็กเลยหรือเปล่า ซึ่งเธอก็บอกว่า ใช่ สวยมาตั้งแต่เด็ก บวกกับการดูแลมือคู่นี้มาเป็นอย่างดีด้วย ด้วยการขยันทาครีมมาตั้งแต่ ป.3

“มันอาจจะอยู่ที่การดูแลค่ะ เพราะว่าไม่อยากให้ทุกคนคิดว่า เฮ้ย…มือสวย คือมือที่เรียวยาว แต่ว่าอยากให้โฟกัส acting หรือผิว ผิวเราอาจจะต้องดูแลให้ดีเพื่อง่ายต่อการรีทัชของภาพนิ่ง หรือว่าถ้า acting ดีมากๆ บางทีทำ TVC หรือว่าทำภาพนิ่ง เทคสองเทคผ่านเลย มันก็จะกระชับเวลาได้มากขึ้น

ส่วนเรื่องการดูแลมือ โดยส่วนตัวเป็นคนที่ทาครีมตั้งแต่เด็กอยู่แล้วด้วย ถ้าใครมีลูกก็ให้ทาครีมไว้ตั้งแต่ 1 ขวบ ทาไปเลย ส้มเริ่มทาจริงๆ ตั้งแต่ ป.3 แม่ก็ไม่ได้พูดนะคะว่าให้ทาครีม แต่ว่าตอนนั้นมีโอกาสได้แสดงละครเวทีของโรงเรียน แล้วเราก็แบบว่าเอ๊ะ..เราจะทำยังไงให้เราสวยขึ้น คือคิดเองนะคะ ก็เลยทาครีมทุกวัน

แต่ว่าคือหารู้ไม่ละครเวทีที่เราแสดงตัวเราอยู่แค่นี้ แล้วคือคนทั้งโรงเรียนไม่ได้โฟกัสเราอยู่แล้ว แต่เราคิดเองว่าเราจะต้องสวยและดี มันก็เลยกลายเป็นนิสัยว่าเราต้องทาครีมตลอด แล้วยิ่งมาเจอโควิดมือแห้ง เราก็จะทาครีมทุกครั้งที่มือเรารู้สึกมันไม่ลื่น ก็จะใช้ครีมตลอด

ไม่ว่าจะเป็นครีม โลชั่นกันแดด ได้หมดเลย แต่ว่ากันแดดก็คือสำคัญมากๆ สำหรับการออกจากบ้านเมืองไทยเพราะว่าแดดร้อน แล้วก็รังสียูวีอาจจะทำให้ผิวไม่ดี ขึ้นกระ ขึ้นฝ้า ก็โบกๆ ครีมเยอะๆ ค่ะ”





เธอยังช่วยแชร์เทคนิคการดูแลมือ 3 วิธีง่ายๆ สำหรับใครที่สนใจที่อยากมือสวย หรืออยากต่อยอดอาชีพนางแบบมือแบบเธอ

“ดูแลง่ายๆ เลยนะคะ 1. คือทาครีม ครีมโลชั่นต้องทาทุกวัน ทุกครั้งหลังอาบน้ำ หรือว่าทุกครั้งที่ล้างมือ ล้างจานอะไรแบบนี้ ก็คือควรทาเลย 2. ถ้าแบบถ้าเราขี้เกียจเราอาจจะไม่ได้ทากันแดดตอนอยู่บ้าน แต่ทุกครั้งที่เราออกนอกบ้านเราต้องทากันแดดค่ะ

3. เราอาจจะต้องใส่ถุงมือนอน ถุงมือผ้า cotton ธรรมดาเลยค่ะ คล้ายๆ ฟีลเหมือนมาร์กมือ แต่ว่าการที่เราใส่ทุกวัน มันทำให้ผิวเราชุ่มชื้นจริงๆ มันเป็นการดูแลระยะยาวมากกว่า พอเราใส่แล้ว มันจะสามารถทำให้มือเราชุ่มชื้น มือเราจะไม่เหี่ยวง่าย”

ข้อห้ามที่นางแบบมือคนนี้ แนะนำที่ไม่ควรทำเลยก็คือ หลีกเลี่ยงการล้างจาน ทำงานบ้าน เพราะการทำกิจกรรมเหล่านี้ อาจทำให้มือบาดเจ็บได้ ซึ่งเธอเองก็เคยมีประสบการณ์อุบัติเหตุจากการล้างจานมาแล้ว จนมือเกือบหายไม่ทันถ่ายงาน

“ถ้าสมมติว่าเราอยากให้มันอยู่กับเรานานๆ ก็จะดูแลเรื่องแดด เรื่องทาครีม บางทีเราก็จะไม่ทำงานบ้านเลย ไม่ใช่บางที ประมาณ 99% ไม่ทำเลยค่ะ ก็คือแม่จะเข้าใจ ว่ามือเราทำงาน เขาก็จะไม่ค่อยให้เราทำงานบ้านเท่าไหร่ หรือว่าถ้าแบบมาบ้านแฟน 1% เราจะล้างจานต่อหน้าแม่แฟนแค่ครั้งเดียว (หัวเราะ) แฟนก็เลยแก้ไขปัญหาด้วยกันซื้อถุงมือยางเอามาใช้ล้างในแบบกรณีจำเป็น

มันเคยมีเหตุการณ์จริงจังไม่จิงโจ้เลยค่ะ วันนั้นก็เลยตัดสินใจล้างจาน แต่ตัดสินใจก็ไม่ได้ดี เพราะว่าพอเราไม่ได้ทำเยอะๆ สรุปจานนั้นก็ลูกใหญ่ มันก็ตกใส่มือโบ๊ะ เหมือนแบบลื่นค่ะ สรุปมือเขียวอีก แต่ก็ดีมือหายทันงาน แต่ว่าทุกครั้งที่ล้างจานก็ต้องทาครีมเลยทันที เพราะว่าน้ำยาล้างจานพวกนี้ทำให้มือมันแห้งได้

ส่วนใหญ่ก็คือจะไม่ทำอะไรเลย แฟนก็เข้าใจ แม่ก็เข้าใจว่า ทำพวกนี้มันอาจจะเกิดอุบัติเหตุกับมือได้ มันไม่ใช่แค่ว่ามือเราเป็นแผลหรืออะไร ความเขียว หรือความเหี่ยวความแห้ง มันส่งผลกับงานทั้งหมด บางทีเราไปทำงานภาพนิ่ง เขาก็บอกว่า เออดีเนาะ แบบไม่ต้องรีทัชเลย มันก็ส่งผลให้งานเขาง่ายขึ้น”




แน่นอนว่าการทำงาน ก็ต้องมีการเกษียณ เช่นเดียวกับอาชีพนางแบบมือ ที่เจ้าของตัวแทนมือสวยคนนี้ เธอก็แพลนอาชีพนี้ของเธอไว้ตอนอายุประมาณ 40 ปี

“เราอาจจะกินอาชีพนี้ได้ถึงแบบ 40 ปีเลยก็ได้ ตอน 40 ปี เราอาจจะยังผิวโอเคอยู่ มาแทนเด็กอายุ 20 ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ดูแลไปเรื่อยๆ

จริงๆ ส้มมองว่า ตอนนี้วัยกลางคนตอนต้น คิดว่าอาชีพเราอาจจะอยู่ได้อีกแค่ประมาณสัก 10 ปีนิดๆ สัก 40 ปี มันน่าจะเต็ม max แล้ว เพราะว่านะตอนที่เราอายุเลข 4 เขาก็จะมีเด็กที่ตอนนี้เขาอายุเพิ่ง 15 ปี ขึ้นมาทดแทนได้ เพราะว่ามือเราก็ต้องเป็นไปตามกาลเวลา เพราะฉะนั้นเราก็ต้องดูแลมือเราให้ดี เพื่อที่จะได้มาแทนเด็กที่อายุ 20-30 ปีได้

คิดว่าวัยเกษียณของอาชีพนี้ อาจจะอยู่ที่ประมาณอายุ 40 ปี ระหว่างก่อนที่จะถึง 40 ปี เราก็จะต้องหางานที่เราทำเสริมคู่ไปด้วย เพราะว่าปัจจุบันก็รู้กันอยู่ ประเทศไทยมันต้องทำหลายอาชีพ เพื่อที่จะสร้างตัวเองขึ้นมาได้ดีที่สุด โดยที่ถ้าสร้างขึ้นมาเอง ไม่ได้มีสายซัพพอร์ตเยอะ เติบโตด้วยตัวเอง ใช้คำนี้แล้วกัน”


จุดเปลี่ยน คุณพ่อเสีย โควิดเข้าแทรก

จากชีวิตที่ยังไม่มีจุดหมาย เพราะคุณพ่อต้องมาเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน ทำให้เธอในช่วงที่กำลังเรียนอยู่ตั้งแต่แทบไม่ทัน เธอลังเลอยู่นาน ว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี

“จุดเปลี่ยนคือคุณพ่อเสีย คุณพ่อเสียมันก็เลยทำให้เราแบบอ๋องๆ อะค่ะ คิดไม่ออกว่าเราเฮ้ย..เราจะไปทำงานออฟฟิศดี หรือว่ามาทำฟรีแลนซ์ตรงนี้ดี

คุณพ่อเป็นสโตรกค่ะ 7 วัน ตอนกำลังจะเรียนจบค่ะ ฝึกงานเสร็จ ทำธีสิส มันก็เป็นช่วงคาบเกี่ยว เราโตเป็นผู้ใหญ่เลยพอดี เหมือนพอเราเดินจุดนี้มาสักพักแล้ว เออเดินต่อแล้วกัน ลองทำต่อไปเรื่อยๆ ก่อนที่คุณพ่อจะเสียกะทันหัน เขายังถามอยู่เลยว่าเฮ้ย..เห็นโทรมาหาม๊าหรอ สรุปจะไปทำอะไรนะ จะไปประกวดไทยซุปเปอร์โมเดล หรือว่าไปสมัคร GMM ตอนนั้นเราก็ยังถามพ่ออยู่เลย ปรึกษาพ่ออยู่เลย ถ้าเขารู้ว่าเราเดินมาได้ขนาดนี้เขาก็น่าจะดีใจ

ถ้าเราทำฟรีแลนซ์ มันอาจจะมีเวลาที่เราทำงาน แล้วก็ดูแลแม่ได้ด้วย เพราะว่า 30 วันเต็ม มันไม่ได้ทำ 30 วันเต็มอยู่แล้ว จุดนั้นก็เลยทำให้เรายิงยาวสายฟรีแลนซ์ แล้วก็ทำให้เรามาเป็นสาย Hand Talent ในปัจจุบัน เพราะตอนนั้นก็คิดหลายรอบมากเลยว่าเราจะไปทำออฟฟิศดีไหม แต่ออฟฟิศเนี่ย 5-6 วันต่ออาทิตย์ แล้วเอาเวลาไหนไปดูแลแม่

ตอนนั้นแม่ก็มีความบอบช้ำในหัวใจเยอะ เพราะมันกะทันหันด้วย แล้วเขาก็ติดคุณพ่อ อยู่ด้วยกันมาตลอด แค่ภาพที่เราเห็นนอนดมเสื้อผ้าพ่อร้องไห้ ก็ไม่ค่อยดีแล้ว มันก็เลยทำให้เรารู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจ แล้วก็เป็นห่วงเขามาก”


อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เพราะมีโควิดเข้ามาแทรก ทำให้เธอตัดสินใจในการเลือกอาชีพ Hand Talent เพื่อเลี้ยงดูตัวเอง

“ตอนนั้นเราก็ยังไม่รู้ว่ามีอาชีพนี้ แต่ว่าโดยส่วนตัวเป็นคนที่พูดมากอยู่แล้ว เป็นคนพูดเก่ง ก็เลยอยากทำงานในวงการบันเทิงตั้งแต่เด็กๆ แต่ว่าตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้มีโอกาส เพราะว่ามันยังไม่ได้มีสื่อออนไลน์

สิ่งที่ทำได้ก็คือ ฝึกตัวเองให้มันเข้าใกล้กับอาชีพนี้มากที่สุด เช่น เป็นนักพูดตอนเด็ก หรือพูดสุนทรพจน์ ทอล์กโชว์อะไรอย่างนี้ มันก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้เรากล้าแสดงออกในการออกทีวีมากขึ้น ไม่ต้องเก้ๆ กังๆ เพราะว่าถ้าเราออกเวทีเยอะๆ คนมันก็จับจ้องเราตลอดทุกวันนี้ เราก็เลยชอบที่จะพรีเซนต์ทุกๆ อย่าง เรากล้าพูด มันก็เลยจะง่ายต่ออาชีพนี้มากๆ

ตอนแรกที่เรียนประชาสัมพันธ์เนี่ย เราอาจจะตีความผิดด้วย เพราะว่าจริงๆ ที่อยากเข้าประชาสัมพันธ์ เราอยากเป็นนักข่าว แต่เราไม่รู้ว่าไอ้ประชาสัมพันธ์เนี่ย มันไม่ใช่นักข่าวนะ มันคืองานเกี่ยวกับเอกสารในการส่งเสริมขององค์กร แต่ว่าพอเรียนไปจริงๆ มันไม่ใช่ แต่พอเราเรียนไปแล้วเราไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่ดี เราก็เรียนไปเรื่อยๆ

จุดเปลี่ยนที่ทำให้เราตัดสินใจ ออกจาก comfort zone ของเราดีกว่าก็คือ ตอนนั้นมีโควิดด้วย แล้วมันมีงานที่ทำให้เราต้องเลือก ว่าเราจะทำงานตัวแสดงต่อไป หรือว่าเราจะ Hand Talent ดี เพราะมันมีโควิดเข้ามา เราก็เลยกลัวว่า การที่เราจะไปทำงานตัวแสดง มันจะทำให้เราเอาเชื้อมาให้คุณแม่หรือเปล่า งั้นฉันออกจาก comfort zone ตัวเองดีกว่า ฉันจะรับแค่ Hand Talent และ Prelight อย่างเดียว

เพราะว่า Hand Talent มันใส่แค่แมสอย่างเดียวได้ ไม่ต้องเห็นหน้า ไม่ต้องใช้เครื่องสำอาง มันก็เลยแบบเออความปลอดภัยในตัวเราน่าจะเยอะ เพราะว่าขนาดทุกครั้งที่เรามาทำงานช่วงโควิดค่ะ เราใส่แมสนอนกับแม่ด้วย ประมาณเกือบปี เพราะว่าเรากลัวแม่ติดมาก”


และการที่ต้องเจอกับโรคระบาดโควิด สถานการณ์ที่ยากลำบากที่ทั่วโลกต้องเผชิญ แต่อีกมุม ก็มีคนสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ได้จากวิกฤตในครั้งนี้ เช่นเดียวกับนางแบบอาชีพมือคนนี้

“มันมีทั้งคนที่รวยจากโควิดได้เลย เช่น TikToker หลายๆ คน ที่มาพัฒนาช่องตัวเอง ทำให้เติบโตได้ มันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนให้เรารู้สึกได้เลยว่า เออ..เราลองเถอะ ถ้าเราไม่ลองเราจะไม่รู้เลยว่าเราจะสามารถอยู่กินกับอาชีพ Prelight หรือ Hand Talent ได้หรือเปล่า มันก็เลยทำให้เรามีจุดเปลี่ยนว่า ยิงยาวเลยดีกว่า

แล้วก็สำหรับคนที่ตัดสินใจว่าจะออกจาก comfort zone นะคะ ถ้าเรามีความมั่นใจในตัวเองและเชื่อมั่นในตัวเอง เราจะทำได้จริงๆ แต่ว่าทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดด้วยนะคะ อาชีพที่เราไปทำใหม่ เราต้องทำมันให้ดีด้วยนะคะ ไม่ใช่ทำลวกๆ ถ้าเราทำดี มั่นใจ ตรงเวลา มันอาจจะทำให้เราก้าวหน้า”

แม้เธอจะตัดสินใจ มุ่งมั่นในอาชีพการเป็นนางแบบมือ และตัดสินใจตัดช้อยส์ ในการเป็นนักแสดง และโอกาสในการออกหน้ากล้อง แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกเสียดาย

“ไม่เสียดายเลย เพราะว่าเรามั่นใจว่าเราจะมีงานในด้านนี้ เราเลยไม่ได้เสียดายกับการที่ไม่ได้แสดงเลย Prelight หรือ Hand Talent มันก็แสดงเหมือนกัน แค่เราไม่ได้เอาตัวเราออกสู่สาธารณชน แต่ว่าคนในกองถ่ายก็จะเห็นตรงนั้น ถ้าเรายังไม่ออกจาก comfort zone ของเรา มันก็จะยังเหมือนเดิม

ตัวแสดง Extra หรือ Prelight และ Hand Talent 7-8 ปี แต่ว่า Prelight และ Hand Talent ก็คือเริ่มตอนโควิด โควิดก็เป็นจุดที่ทำให้เรายิงยาวอาชีพนี้เลย 4-5 ปี ก็เก็บๆ มา”


“ฟรีแลนซ์” วินัยทางการเงินสำคัญ

วินัยถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดการเงินของชาวฟรีแลนซ์ เช่นเดียวกับนางแบบมือคนนี้ ที่เธอเข้าใจเป็นอย่างดีในเรื่องของรายรับ-รายจ่าย ที่ไม่แน่นอน ของชาวฟรีแลนซ์ ด้วยประสบการณ์ตลอด 7 ปี ที่เธอทำอาชีพฟรีแลนซ์มา เธอจึงช่วยแนะนำสิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ สร้างวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด เพื่อให้รับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคต

“งานฟรีแลนซ์ของเรา ไม่ว่าจะ Hand Talent หรือ Prelight มันจะเป็นฟรีแลนซ์เหมือนของทุกๆ คน ก็คืองานเราไม่ได้มีทุกวัน เฉลี่ยๆ กันไป 9-20 งาน หรือแล้วแต่งาน แล้วแต่เดือน

คือเรายิงยาวฟรีแลนซ์มาตลอดเลย คือถ้าผู้ใหญ่ถามว่าฟรีแลนซ์จะเลี้ยงตัวเองได้หรอ โอเคเราหาคำตอบแล้วว่าเลี้ยงได้ โอเคเลยแล้วกัน ถือว่าดี เผื่อว่าผู้ใหญ่หลายคนอาจจะคิดว่า ลูกเราจบไปจะไปทำฟรีแลนซ์ไหวหรอ บางคนที่เขาชอบในทางนั้น แล้วเขามีความมุ่งมั่น เชื่อว่าทุกคนจะทำหน้าที่ตำแหน่งตัวเองได้ออกดีที่สุด แล้วก็ลูกค้าก็จะติดคนคนนั้นด้วย

โควิดเราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเลยนะคะ เรามีวินัยทางการเงิน ไม่ว่าจะใช้ชีวิต ทำงาน เรามีวินัยในการใช้เงินของตัวเองด้วย โควิดไม่ได้รู้สึกว่า 3 เดือนที่เขาหยุดกันไป ทำให้เราเงินน้อยลง หรือไม่มีตังค์ ไม่ใช่ เพราะว่าเราเก็บมาตั้งแต่แรกแล้ว เรามีการ play safe กับชีวิต ถ้าเราจะเจออะไรแบบนี้เราต้องไม่เดือดร้อนตัวเอง และไม่เดือดร้อนคนรอบข้างด้วย ไม่มีการหยิบยืมอะไรทั้งสิ้น เพราะว่าเรื่องเงินก็สำคัญเนอะ”


ก่อนที่เธอจะมีวินัยการเงินได้ในทุกวันนี้ เธอเคยมีเหตุการณ์ที่ทำให้เธอฉุกคิด หันมาวางแผนทางการเงินแบบจริงจัง ก็คือตอนเรียนตอนมหา’ลัย ตอนนั้นเธอยอมรับว่า ใช้เงินโดยไม่คิดถึงอนาคตเลย

“เพราะว่าเคยประสบปัญหาตอนมหา’ลัยอะค่ะ ได้เงินจากพ่อกับแม่มาเสร็จปุ๊บ เราก็เคยรับงานถ่ายแบบ สมมติว่างานนั้นได้พันนึง เราแบ่งไปกินข้าว 500 บาท เก็บอีก 500 บาท เสร็จปุ๊บพอเรามาดูตอนสิ้นอาทิตย์ อ้าวเงินไปไหนหมด ไม่ได้แล้ว เราจะมาแบบว่ากระจุ๊กกระจิ๊กเล่นๆ แบ่งไปเลย 50% กิน ไม่ได้ เพราะว่ามันจะส่งผลกระทบในอนาคต เพราะว่าเราเป็นฟรีแลนซ์ไง เราไม่ใช่เด็กออฟฟิศ พอเป็นฟรีแลนซ์เราไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้หรือวันไหนเราจะมีงานหรือเปล่า ใช่ไหมคะ

เปลี่ยนเลยค่ะเพราะว่าเราได้ปรึกษาเพื่อนสนิทเราคนนึง เขาเป็นบัญชี พอเราเรียนจบมาเราก็ทำตรงนี้ พอเรามีรายได้ เพื่อนบอกแกมีบัญชีหลายอัน แกก็แบ่งไปสิ

ปัจจุบันเลยนะคะ สมมติมี 100% ให้คุณแม่ 10% ลงทุน 5% บัตรเครดิต 15% แบ่งกับค่ารถ 5% ก็เป็น 20% เพราะว่าเราผ่อนหมดแล้ว ก็เหลือหก แล้วเราก็เก็บอีก 20% เก็บระยะยาวไม่ใช้เลย ตอนนี้ก็เหลือประมาณ 40% ที่ใช้ได้ แต่ว่าก็เท่ากลับว่าเกือบ 55% สำหรับการใช้ ที่เหลือคือให้แม่ แล้วก็เก็บ เพราะว่าค่ารถเราผ่อนหมดแล้ว แต่ว่าเราแบ่งไว้ 5% กับการที่ซ่อม เผื่อๆ ไว้เฉยๆ

ก็ต้องดูว่า มัน play safe ขนาดไหน เรื่องการเงินมันสำคัญด้วย เพราะว่าการเป็นฟรีแลนซ์ เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เราจะมีงานหรือเปล่ามัน ก็ต้องประหยัดควบคู่ด้วย

ทุกวันนี้ถ้าคนถามว่าแบบ ทำไมไม่ซื้อของแบรนด์เนม เห็นเงินในบัญชีแฮปปี้สุดแล้ว เราไม่ได้อยากตามกระแสมาก อะไรที่ชอบจริงๆ เราค่อยซื้อ เราจะไม่ได้พร่ำเพื่อ หรือทำเกินตัว เพราะว่าการที่ได้เห็นเงินในบัญชี คือแฮปปี้สุดแล้ว เหมือนเห็นกระเป๋าแบรนด์เนมอยู่ในบัญชี โอเคแล้ว ไม่ต้องให้คนอื่นเห็น เห็นคนเดียวพอ”


 ชีวิตมันสั้น ขอทำในสิ่งที่ชอบ


 

“อาจจะต้องมีความระวังในการดำเนินชีวิตมากขึ้นค่ะ เพราะบางทีการที่เราไม่อยู่ มันไม่ได้ส่งผลแค่เราคนเดียว มันส่งผลถึงคนรอบข้างและข้างหลังเราด้วย อาจจะต้องใช้ชีวิตให้ระมัดระวังมากยิ่งขึ้น 


ส่วนในเรื่องของงาน พ่อก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่า ถ้าเราทำอะไรที่เรารักมากๆ สุดท้ายมันก็น่าจะดีนะ เพราะว่าถ้าเราทำอะไรที่เราไม่ได้รัก แล้วสุดท้ายการเสียชีวิตกะทันหันมันเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะอุบัติเหตุหรือโรคภัย อันนี้คือได้บทเรียนตรงนี้


กะทันหัน ไม่มีการเตรียมตัว เลยได้ข้อคิดว่าถ้าเราทำในสิ่งที่รัก เราอาจจะไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง ว่ายังไม่ได้ทำอันนี้เลย ชีวิตมันสั้น ทำอะไรที่เราแฮปปี้มันก็น่าจะดีแล้วนะ เพราะว่าไม่รู้ว่ามันจะไม่อยู่เมื่อไหร่


เพราะทุกวันนี้ปัญหารอบข้างบ้านเมืองเรามันก็เยอะแยะไปหมดเลย ใช่ไหมคะ ถ้าใช้ชีวิตเริ่มต้นจากตัวเองได้ มันก็น่าจะดี”







ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย LIVE Style (@livestyle.official)





@livestyle.official ...แทนมาหมดแล้ว “ญาญ่า-เบลล่า-ชมพู่” เจาะลึกเจ้าของตัวแทนมือสวย อาชีพนางแบบ ที่ไม่ได้ใช้หน้าตา แต่ใช้ “มือ” ถ่ายทอดอารมณ์ผ่านงานถ่ายโฆษณา และสแตนด์อินในละคร ให้กับซุป’ตาร์ทั่วฟ้าเมืองไทย @somguii... . #LIVEstyle #LIVEstyleofficial #ข่าวTikTok #longervideos #tiktokวีดีโอยาว #มากกว่า60วิ #handtalentth #handmodel #handtalentkongsomguii #handtalentส้มโอ #นางแบบมือ #ถ่ายแบบ #นางแบบ #นิ้วสวย #มือสวย #handmodelthailand #handtalentthailand ♬ original sound - LIVE Style


สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : พัชรินทร์ ชัยสิงห์

คลิป : ชยพัทธ์ พวงพันธ์บุตร
ภาพ : พลภัทร วรรณดี
ขอบคุณภาพเพิ่มเติม : อินสตาแกรม @somguii, @handtalentth_somguii
ขอบคุณสถานที่ : ร้าน “A DaY Flavour” ในบริษัท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ย่านแจ้งวัฒนะ หลักสี่



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น